ตอนที่แล้วบทที่ 99: เส้นทางที่ปลอดภัย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 101: พบกันอีกครั้ง

บทที่ 100: อสูรเวทระดับนักรบ


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

บทที่ 100: อสูรเวทระดับนักรบ

“ยอดเยี่ยม เหลืออีกหนึ่งกิโลเมตรพวกเราจะถึงที่หมาย” ชุ่ยมู่เชิงกล่าวออกมา

การให้โม่ฝานเป็นคนเลือกเส้นทางนั้นเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด เด็กชายคนนี้มีความสามารถและประสบการณ์มากกว่าอาจารย์ เขาใช้ผงสะกดรอยอสูรเวทเพื่อดูร่องรอยของเหล่าอสูรเวท ในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดสามารถหลบเลี่ยงและไม่มีผู้ใดเสียชีวิตเพิ่มในเขตหมิงหยวนแห่งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าจำนวนอสูรเวทภายในเขตหมิงหยวนนั้นสูงกว่าเขตอื่นอย่างมาก การเดินผ่านมาได้อย่างปลอดภัยนั้นเป็นเรื่องที่มากกว่าความโชคดี!

“ยิ่งใกล้พื้นที่ปลอดภัยมากเท่าไหร่ อสูรเวทยิ่งระดับสูงขึ้นมากเท่านั้น ทุกคนอย่าลดระดับการป้องกันนะ!” โม่ฝานเตือนทุกคนอีกครั้ง

หนึ่งกิโลเมตรสุดท้ายนี้เป็นย่านการค้าและสถานบันเทิงต่างๆ ไม่มีถนนเส้นหลักที่ชัดเจนในย่านนี้ ในแถบนี้เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยเล็กๆและค่อนข้างจะซับซ้อน สถานที่แห่งนี้นั้นเหมาะอย่างยิ่งที่จะหลบซ่อนตัวจากอสูรเวท แต่มันก็เป็นแหล่งที่อสูรเวทสามารถซุ่มโจมตีมนุษย์ได้ด้วยเช่นกัน

การเคลื่อนไหวของทั้งเก้าคนนั้นรวดเร็วอย่างมาก ซึ่งมันต่างจากกลุ่มหลักที่แม้แต่การเปลี่ยนเส้นทางยังทำได้ยากเย็นอย่างยิ่ง

“ดูเหมือนว่าด้านหน้าจะมีนักเวทกำลังต่อสู้อยู่ พวกเราควรไปร่วมกับเขาไหม?” จางหู่ถามออกมาในขณะที่เขายืนอยู่บนตึกสูง

“พวกเขากำลังยุ่งมาก อย่าไปยุ่งเลย เขาไม่มีเวลาดูแลพวกเราหรอก เดินต่อเถอะ” โม่ฝานตอบเรียบๆ

ในขณะที่จางหู่กำลังจะกระโดดลงมาจากที่สูง เขามองเห็นสิ่งประหลาดขนาดใหญ่ หมาป่าที่ดุร้ายกำลังเงยหน้าขึ้นมา กระดูกบนสันหลังของมันนั้นดูน่ากลัวอย่างมาก ฟันของมันงอกออกมานอกขากรรไกรที่น่าเกรงขามนั้น ทุกอย่างช่างดูน่าสะพรึงอย่างมาก!

ดวงตาของจางหู่เบิกโพลงทันที เขาแทบจะหยุดหายใจเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า

‘พระเจ้า มันสูงเทียบเท่ากับบังกะโลสามชั้นหรืออาจจะสูงกว่านั้นนิดน่อย… นั่นมันตัวอะไรกัน มันคืออสูรเวทจริงๆงั้นเหรอ?’

“เฮ้ จางหู่นายมัวทำอะไรอยู่ รีบๆลงมาเร็วเข้า…” หวังซานฟ่าร้องเรียกเขา

จางหู่กลับฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็ว เขาเคลื่อนไหวช้าลงพร้อมหันไปหาทุกคนและยกนิ้วขึ้นชิดปาก ชู่วววว~ ในขณะที่เขาทำท่าทางเช่นนั้น ใบหน้าที่หวาดกลัวไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย

หวังซานฟ่าเห็นเช่นนั้น เขาอ้าปากเพื่อที่จะพูดอะไรสักอย่าง โม่ฝานรีบเอามืออุดปากของไขมันบัดซบนี้ไว้อย่างรวดเร็ว

ชุ่ยมู่เชิงรู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องที่เลวร้ายขึ้นแล้ว เขารีบพาทุกคนหาที่หลบในทันที

ทั้งแปดคนวิ่งไปหลบที่ด้านหลังของกำแพงอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดล้วนแต่ไม่มีใครกล้าที่จะหายใจออกมา ความกลัวเข้าปกคลุมหัวใจของทั้งหมดอย่างสมบูรณ์

ฟู่วววว~

ลมหายใจที่เย็นวาบถูกส่งออกมาจากสถานที่ไม่ไกลนัก กระแสลมได้พัดปลิวหอบเอาลมหายใจของมันมาทำให้ฝุ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ

ตึง!

ตึง!!!

ทุกย่างก้าวของมันหนักหน่วง อาคารโดยรอบสั่นไหวอย่างแรงสั่นสะเทือนนี้ นี่แสดงถึงน้ำหนักตัวของมันที่น่าหวาดกลัว!

จางหู่นั้นหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องโถงหนึ่งที่ชั้นสามของตึก ซึ่งในตอนนี้ร่างกายของเขาแข็งทื่อเหมือนหุ่นเชิ่ด ร่างกายของเขาในตอนนี้อยู่ในระดับเดียวกันกับสายตาของหมาป่าตัวนี้ เขารู้สึกได้ว่ากระโหลกของมันมีสามตาอีกด้วย!

“บัดซบ ถ้ามันกัดลงมา ห้องเล็กๆทั้งหมดนี้ต้องถูกกลืนกินหายไปในพริบตา…”

ซึ่งโชคดีอย่างมากที่กลิ่นขยะเหม็นเน่านั้นได้กลบกลิ่นอายมนุษย์ของทุกคนเอาไว้ ไม่เช่นนั้นด้วยขนาดของอสูรเวทตัวนี้เพียงแค่มันตวัดกรงเล็บเบาๆ ทั้งหมดก็จะถูกฉีกเป็นชิ้นๆในทันที

ตึง!!!

ตึง!!

ตึง!

เสียงย่ำเท้าของมันค่อยๆห่างไกลออกไป ใบหน้าที่อึดอัดของเหล่าทีมแนวหน้านั้นค่อยๆผ่อนคลายลงอย่างช้าๆ

หัวใจของพวกเขาเต้นรัวอย่างดุเดือด ความเร็วของมันนั้นไม่อาจคลายได้เลยแม้แต่น้อย

พวกเขาไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดตัวเมื่อกี้ออกไปนานแค่ไหนแล้ว ขาของทั้งหมดไม่สามารถขยับได้ ความกลัวเกาะกินหัวใจของทุกคนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

“คะ-ใคร ใครก็ได้… บอก… ฉันที… นั่น… นั่นมันตัวอะไร!” หวังซานฟ่าถามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ขากรรไกรของเขาสั่นอย่างไม่อาจควบคุม

จางหู่ล้มตัวลงกับพื้นทันที ขาของเขาอ่อนแรงและไม่สามารถยืนหยัดได้อีกต่อไป

น่ากลัวเกินไป… บนโลกนี้มีสิ่งที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ด้วยงั้นหรือ? มันไม่เหมือนกับหนูตายักษ์และหมาป่าตาเดียวที่พวกเขาเคยพบเจอมาก่อนหน้านี้แม้แต่น้อย อสูรเวทที่ร่างกายแข็งแกร่งเช่นนั้น แน่นอนว่าคาถาเล็กๆของพวกเขาไม่อาจสร้างบาดแผลให้กับมันได้อย่างแน่นอน!

“มันคือ… มันคืออสูรเวทระดับนักรบ หมาป่าสามตาหรืออีกชื่อของมันก็คือหมาป่าหนามกระดูก! ดวงตาทั้งสามของมันสามารถมองเห็นได้ถึงสองร้อยเจ็ดสิบองศา ร่างกายของมันราวกับเหล็กกล้า หนามกระดูกของมันคมมากเช่นกัน สำหรับพวกเรานี่คืออสูรเวทที่อยู่ในฝันร้ายอย่างแท้จริง!” ชุ่ยมู่เชิงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่หดหู่อย่างถึงขีดสุด

“มันไม่ใช่สิ่งที่เราจะจัดการได้เลย…” ฉือจ้าวติงกล่าวออกมาอย่างสิ้นหวัง

“ถ้าหากว่านักเวทระดับมัชฌิมประมาทเพียงนิดเดียว พวกเขาจะถูกสังหารในเวลาเสี้ยววินาที เอาล่ะ พวกเราจะต้องทิ้งข้อความไว้ให้กับกลุ่มหลักว่ามีอสูรเวทระดับนักรบอยู่บริเวณนี้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความสูญเสียขนาดใหญ่แน่นอน” ชุ่ยมู่เชิงกล่าว

ทุกคนพยักหน้ารับ

โม่ฝานอดไม่ได้ที่จะมองไปยังศูนย์การค้าเหรียญเงิน ในตอนนี้มันถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาและหยาดฝน

ถ้าเป็นหมาป่าหนามกระดูกระดับนักรบที่น่าเกรงขามนี้ยังน่าหวาดกลัวได้ถึงขนาดนี้ แล้วอสูรเวทระดับผู้นำหมาป่าปักษาทมิฬที่กำลังนอนอยู่บนยอดตึกนั้นล่ะ?

จะต้องใช้นักเวทระดับไหนเพื่อที่จะต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตเช่นนั้นได้ล่ะ?

เมื่ออยู่ต่อหน้าอสูรเวทเหล่านั้น มนุษย์ทุกคนล้วนแต่ถูกมองว่าเป็นอาหารเท่านั้น!

——

หยาดฝนนั้นค่อยๆเบาลงเรื่อยๆ แต่ทว่าหมอกหนายังคงปกคลุมทั่วทั้งเมืองบ่ออย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

ในระยะหนึ่งกิโลเมตรห่างพื้นที่ปลอดภัยทางทิศใต้ นักเวทหญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งอยู่ท่ามกลางสายฝนพร้อมด้วยชุดเครื่องแบบสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด

ด้านหลังของเธอมีอสูรเวทสองตัวซึ่งคล้ายกับกอริล่ารูปร่างประหลาด พวกมันกำลังไล่ล่าเธออย่างดุเดือด แววตาของพวกมันแผ่กระจายจิตสังหารออกมาราวกับว่าต้องการจะฉีกร่างกายของเธอให้แหลกเป็นชิ้นๆ

“วายุหมุน!”

ความกดอากาศแปรปรวนในทันที ลมพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงพร้อมกับหมุนเอาเศษซากหินต่างๆขึ้นมาในอากาศอย่างรวดเร็ว!

ลมพายุหมุนพร้อมทวีคูณความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไซโคลนขนาดมหึมาได้ถูกสร้างขึ้น รูปร่างของมันคล้ายกับมังกรพร้อมขย้ำเหยื่อ ทั้งหมดพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างน่าเกรงขาม

รถยนต์ที่จอดอยู่บนถนนค่อยๆลอยขึ้นสู่อากาศตามแรงลม เสาไฟถูกดึงออกมาจากพื้นอย่างง่ายดาย อสูรร้ายคล้ายกอริล่าทั้งสองถูกดึงขึ้นไปบนอากาศอย่างไร้ความปราณี พวกมันคล้ายกับเศษหญ้าที่หมุนวนอยู่บนนั้นอย่างบางเบา

ตู้ม! โครม! ปัง!

รถยนต์ทั้งหมดชนกันอยู่ในอากาศ เศษเหล็กมากมายที่ลอยอยู่อัดกระแทกกับร่างกายของอสูรเวททั้งสองอย่างโหดเหี้ยม ของเหลวสีแดงฉานร่วงหล่นลงสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลก ความตายนี้ที่พวกมันไม่อาจหลีกเลี่ยง!

หลังจากที่ได้เห็นภาพเช่นนั้น หลินหยูซินเผยรอยยิ้มเหี่ยวเฉาออกมาทันที เธอจ้องมองนักเวทที่เข้ามาช่วยเหลือเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ

“คุณหยาง! ขอบคุณมาก!” หลินหยูซินกล่าวออกมาอย่างจริงใจ

“ถ้าฉันไม่ได้ตาฝาดไป นั่นเป็นอสูรมืดที่พวกกลุ่มศาสตร์มืดควบคุมอยู่เบื้องหลังสินะ” หยาวซัวเห่อกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม

“ถูกแล้ว หายนะครั้งนี้เกิดจากพวกมัน!” หลินหยูซินกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ

“ฉันก็เดาว่าอย่างนั้นเช่นกัน โชคร้าย… พวกเรานั้นไม่มีมาตราการป้องกันใดๆให้กับเมืองบ่อแห่งนี้เลย… เฮ้อ!” ใบหน้าของหยางซัวเห่อเต็มไปด้วยความโศกเศร้า การแจ้งเตือนรหัสสีแดงนี้กระทันหันเกินไป ซึ่งในตอนนี้พวกเขาไม่รู้เลยว่าสูญเสียพลเมืองไปแล้วกี่คน ใครกันที่ต้องตายเพื่อสังเวยกับเหตุการณ์เช่นนี้

“ฉันต้องพบเจอเรื่องราวเลวร้ายในขณะที่กำลังปกป้องบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าเป้าหมายของพวกมันคือน้ำพุศักดิ์สิทธิ์นั้น!” หลินหยูซินกล่าวกับเขา

“พวกเรารู้เรื่องนั้นอยู่แล้วว่าพวกมันจะค้นหาคุณแน่นอน ซึ่งในตอนนี้ฉันต้องการมั่นใจในความปลอดภัยของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ คุณไม่ได้มอบมันไปใช่ไหม?” หยางซัวเห่อกล่าว

หลินหยูซินส่ายหัวช้าๆพร้อมกล่าวต่อ “พวกมันล้อมฉันไว้ สุดท้ายแล้วหลังจากมันรู้ว่าน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้อยู่กับฉัน พวกมันโกรธมากและต้องการจะฆ่าฉันทันที แต่ฉันใช้จังหวะที่หมาป่าตาเดียวฝูงหนึ่งวิ่งมาสร้างความปั่นป่วน เช่นนี้จึงสามารหลบหนีมาได้”

“คุณฉลาดเกินไปแล้ว! ถ้าเป็นเช่นนั้น น้ำพุศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ไหนล่ะ?” หยางซัวเห่อถามต่อ

“ฉันฝากมันไว้กับนักเรียนที่กำลังฝึกฝนอยู่ในบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินในขณะนั้น ฉันรู้สึกได้ว่าการฝากไว้กับเขานั้นจะปลอดภัยกว่าถ้าหากฉันถือมันติดตัว” หลินหยูซินอธิบายออกมา

“คุณกำลังพูดถึงเด็กที่ชื่อโม่ฝานรึเปล่า ที่เขาเป็นนักเวทสองธาตุน่ะ?” หยางซัวเห่อถามออกมาด้วยความประหลาดใจ

••••••••••••••••••••

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด