ตอนที่แล้วMS บทที่ 15 เกือบลืมสิ่งสำคัญ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMS บทที่ 17 เปิดโปงความจริง

MS บทที่ 16 ทรยศ


MS บทที่ 16 ทรยศ

ฉีกงจิ้งนั้นได้รับการเคารพและศรัทธาจากสาวกเฉินหนงทั้งหลายดั่ง เทพเจ้า ที่สามารถตัดสินชะตาชีวิตของใครหลายๆคนได้

แต่ทว่า เทพเจ้า ของพวกเขาในตอนนี้กลายเป็นเพียงแค่เศษเนื้อบนพื้นดินไปเสียแล้ว

คนที่ฆ่าเขาก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากผู้พิพากษาวัยเยาว์คนนี้

ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ ฮวงเหว่ยก็อยากจะเลือกให้ความเคารพต่อเด็กคนนี้แทนการดูถูกเหยียดหยาม

หลีมู่กินเนื้อย่างนั่นพร้อมยิ้มให้กับฮวงเหว่ย เขาจะยอมพลาดโอกาสดีๆแบบนี้ด้อย่างไรในเมื่อสิ่งที่เขาชื่นชอบที่สุดก็คือการที่เห็นพวกที่เคยดูถูกเขาต้องมาคุกเข่าตัวสั่นเพื่ออ้อนวอนขอชีวิตจากเขาเอง

แม่งโคตรเจ๋ง!

“ใต้ ใต้ ใต้ ใต้เท้าขอรับ... ได้โปรดอภัยแก่ข้าน้อยด้วย” ชายคนนั้นพูดตะกุกตะกักด้วยความกลัวตาย

หลีมู่หัวเราะออกมาดังๆ “ฮ่าฮ่าฮ่า ว้าว ดูเจ้าสิ ความกล้าหาญและความมั่นใจที่ข้าเห็นในศาลวันนั้นมันหายไปไหนเสียแล้วล่ะ?”

“ข้าน้อยสมควรตาย ข้าน้อยสมควรตาย...” ฮวงเหว่ยก้มกราบร้องขอชีวิต

เด็กหนุ่มรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก “ใช่ ใช่ ข้าจำได้นะว่าเจ้าเคยบอกข้าว่าคำพูดของข้าในวันนั้นไม่มีหลักฐาน เอาล่ะตอนนี้ไหนเจ้าลองบอกมาซิว่าข้าพูดผิดไหม?”

“เอ่อ...” ฮวงเหว่ยไม่คิดว่าหลีมู่จะอาฆาตได้ขนาดนี้ “ข้าน้อยช่างโง่เขลาและสมควรตาย ในมณฑลนี้ไม่มีใครจะพูดความจริงได้เท่าท่านอีกแล้ว”

โชวหวูและเฉิงหลงซิงเริ่มเข้าใจแล้วว่า เรื่องสำคัญ ที่เด็กคนนี้หมายถึง ก็คือคดีร้านยานี่เอง

นี่เขาจะเคียดแค้นเกินไปไหมเนี่ย?

ทั้งสองพูดไม่ออก

แต่หลีมู่ก็ไม่ได้สนใจเสียเท่าไหร่

ยังไงเสียฮวงเหว่ยก็ได้รับบทเรียนในวันนี้แล้ว

ชายใดที่เก่งกาจแต่ไม่อาจสั่งสอนผู้คนได้ ชายผู้คนก็คงไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง

“ข้าจำได้ว่าวันนั้น เจ้าเคยถามข้าว่าร้านโอสถวิเศษนั้นสำคัญกับเมืองมากขนาดไหนใช่ไหม? วันนี้ข้าจึงมาหาคำตอบจากกลุ่มเฉินหนงด้วยตัวข้าเอง และดูเหมือนว่าฉีกงจิ้งจะไม่กล้าตอบข้าเสียเท่าไหร่ ข้าก็เลยส่งเขาลงไปนรกแล้ว ท่านฮวงล่ะ ท่านพอจะบอกข้าได้ไหม?” หลีมู่ถามโดยที่ปากยังเคี้ยวชิ้นเนื้ออยู่

“ร้านโอสถวิเศษมัน... ไร้ค่าขอรับใต้เท้า...” ฮวงเหว่ยรู้สึกผิดจนตัวตายมากๆ

เด็กหนุ่มถอนหายใจ “ถ้าเช่นนั้นแล้วเรื่องราวที่แท้จริงของนางฉางหลีเป็นอย่างไรกันเล่า?”

“เอ่อ...” ฮวงเหว่ยในตอนแรกที่จะออกโรงพูดเข้าข้างตัวเอง แต่เขาเห็นศพของฉีกงจิ้งที่แหลกละเอียดอยู่ตรงนั้นก็ทำให้เขาเริ่มพูดความจริงทันที ว่าการกระทำนั่นเป็นแค่กลลวงที่ทางร้านโอสถวิเศษใช้เพื่อโกงร้านของฉางหลีก็เท่านั้น

“ใต้เท้า ข้าจะบอกความจริงว่าข้านั้นได้กระทำความผิด ข้าน้อยสมควรตาย... แต่ได้โปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วยเถิด ข้าสาบานว่าจะกลับตัวกลับใจ” พูดจบชายคนนี้ก็ร้องไห้ออกมาอย่างน่าสมเพช

หลีมู่วางชิ้นเนื้อลง ใบหน้าของเขาดูโศกเศร้า

“กลับตัวกลับใจสร้างชีวิตใหม่? พูดน่ะมันง่ายนะสำหรับท่านฮวง แต่ถ้าเป็นนางฉางหลีกับลูกสาวล่ะ? เจ้ารู้ไหมว่าทั้งสองต้องประสบชะตากรรมอย่างไรในป่าแห่งนี้ เจ้ารู้บ้างไหม? ถ้าเจ้าทำให้ชีวิตของสองแม่ลูกนั่นกลับมาเป็นปกติดังเดิมได้ ข้าจะให้โอกาสเจ้าใหม่อีกครั้ง เอาไหม?”

ฮวงเหว่ยที่ได้ยินแบบนั้นก็ตัวสั่น เขามองไปที่หลีมู่ด้วยสายตาเคียดแค้น

“ใต้เท้า... ท่านช่างโหดร้ายยิ่ง....”

หลีมู่มองเขาด้วยชายคนนี้ด้วยรอยยิ้ม “ความโหดร้ายของข้ายังไม่ถึง 1 ใน 10 ของเจ้าด้วยซ้ำ... จำไว้ด้วยล่ะ ชาติหน้าเจ้าก็จงเป็นคนดีที่ทำความดีไม่ใช่แค่เพียงลมปาก”

ทันทีที่เด็กหนุ่มพูดจบ เขาก็กระแทกหินฝ่าเท้าของเขาทะลวงหน้าผากฮวงเหว่ยจนถึงแก่ความตาย

โชวหวูและเฉิงหลงซิงเริ่มสัมผัสได้ถึงความประหลาดของการกระทำนี้

นี่หลีมู่ตั้งใจจะเชือดไก่ให้ลิงดูอย่างนั้นหรือ?

เด็กหนุ่มหันมาพูดกับทั้งสอง “พวกเจ้าก็เห็นว่าฮวงเหว่ยทำความผิดร้ายแรงต่ออาณาจักรใช่ไหม? การที่ข้าสังหารเขานั้นก็เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่ได้ทำไปเพราะความแค้นใดๆทั้งสิ้น... ใช่ไหมล่ะ?”

อะไรของเด็กคนนี้วะ?

ทั้งๆที่เขาเรียกธุระสำคัญก็คือการพาตัวฮวงเหว่ยมายังที่นี่ เพื่อสั่งสอนและฆ่าเขาทิ้งเพื่ออะไรกัน?

โชวหวูและเฉิงหลงซิงไม่กล้าพูดอะไรขัดหลีมู่ได้หรอก

“แน่นอนขอรับใต้เท้า ท่านรับใช้ประชาชนด้วยจิตใจอันดีงาม ท่านจะกระทำไปเพราะความแค้นได้อย่างไรเล่า”

“ฮ่าฮ่า ใต้เท้า ท่านทำถูกต้องแล้ว ใครก็ตามที่ทำความชั่วร้ายแบบนี้ต้องโดนลงทัณฑ์”

ทั้งสองพยายามตามน้ำคำพูดของหลีมู่ไปก่อน

บอกตามตรงเมื่อสองชั่วโมงพวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าต้องมาพูดเอาอกเอาใจเด็กคนนี้

หลีมู่พยักหน้า “เยี่ยมมาก เอาล่ะทีนี้ก็เอาร่างของเจ้าวายร้ายคนนี้ไปแขวนไว้ตรงหน้าทางเข้าฝ่ายเฉินหนงซะ และเขียนประจานความผิดของเขาเอาไว้ให้ผู้คนไม่เอาไปทำเป็นเยี่ยงอย่าง”

ทหารทั้งหลายรับคำสั่งและลากร่างของฮวงเหว่ยไปทันที

เด็กหนุ่มครุ่นคิดและพูดขึ้น “ผู้กระทำผิดของร้านโอสถวิเศษทุกคนต้องถูกจับกุมไม่มีข้อยกเว้น จากนั้นก็สอบสวนพวกเขาสาวไส้ไปให้ถึงตัวการหลัก ใครก็ตามที่กระทำผิดกฎหมายจะต้องได้รับโทษ”

“ขอรับใต้เท้า”

เหล่าทหารตอบรับกันอย่างขันแข็ง

หลีมู่พยักหน้าพลางนึกถึงเรื่องของสองแม่ลูกคู่นั้นและได้แต่รู้สึกผิดในใจ

ถ้าหากเขาจัดการเรื่องนี้ได้รวดเร็วก็คงจะช่วยชีวิตสองแม่ลูกนั้นได้ แต่เพราะความไม่ระวังตัวรวมไปถึงความไม่เด็ดขาดของเขาทำให้ชีวิตของทั้งคู่ต้องมาจบลงในถ้ำนรกแห่งนี้

ทำไมโลกช่างโหดร้ายแบบนี้กันนะ?

ทำไมผู้คนบนโลกนี้ช่างโหดร้ายได้ขนาดนี้?

หลีมู่รู้สึกไม่สบายใจมาก ต่อให้เขาทำลายล้างกลุ่มเฉินหนงไปแล้วก็ไม่สามารถระงับความโกรธในจิตใจของเขาได้

ประเด็นหลักๆไม่ได้เกิดจากกลุ่มคนเล็กๆพวกนี้เลย แต่เป็นศัตรูที่เรียกกันว่า หัวหน้าที่แท้จริง ที่ควบคุมการกระทำเลวร้ายทั้งหมดนี้เบื้องหลังยังคงลอยนวลอยู่

ในขณะเดียวกันก็มีเสียงเดินเท้าเข้ามาในถ้ำนี้

เฟิงหยวนซิงกลับเข้ามาพร้อมกับกลุ่มคนเล็กน้อย

โชวหวูคาดหวังในตัวของชายคนนี้มาก เพราะเขาเองก็ออกคำสั่งลับๆให้ไปหาหลักฐานที่เชื่อมโยงว่าเฉิงหลงซิงมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเฉินหนง เขาจะหามันมาได้หรือไม่?

ในฐานะของข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์และภักดีต่อเขามาเนิ่นนาน แถมยังช่วยเขาแก้ไขปัญหาหลายๆอย่างอีกด้วย เขาจึงไว้ใจให้เฟิงหยวนซิงรับหน้าที่สำคัญระดับนี้

สายตาของโชวหวูแสดงถึงความอยากรู้อยากเห็นมากๆ

แต่ไม่มีใครคาดคิดถึงสิ่งที่เฟิงหยวนซิงคนนี้กำลังจะทำต่อจากนี้

เขาเดินเข้าไปคุกเข่าลงต่อหน้าหลีมู่และพูด “ใต้เท้า ข้าคือราชฑูตแห่งไถไป๋ เฟิงหยวนซิง”

เด็กหนุ่มมองไปที่เขาโดยที่ยังกินเนื้อย่างอยู่

“ใต้เท้า ข้านำทหารกวาดล้างพื้นท่รอบๆนี้และได้ช่วยเหลือชาวบ้านไปยังที่ปลอดภัยแล้ว นอกจากนี้ข้ายังจับกุมสาวกได้อีก 171 คน ได้โปรดชี้แนะด้วยว่าข้าจะต้องทำอย่างไรกับพวกเขา” ชายคนนี้ก้มหัวลงไม่สนใจสายตาของโชวหวูเลย

หลีมู่ยังเมินเขาอยู่ เขาตั้งสมาธิจดจ่อไปกับการกินตรงหน้ามากกว่า

เฟิงหยวนซิงกัดฟันแน่นและพูดในสิ่งที่เป็นการตัดสินใจของเขาเอง “ใต้เท้า ข้ามีเรื่องสำคัญที่จะต้องชี้แจงท่านด้วยขอรับ หลังจากที่กำจัดพวกสาวกที่หลงเหลืออยู่ของเฉินหนง ข้าก็ได้พบเข้ากับหลักฐานที่ช่วยยืนยันว่าท่านเฉิงหลงซิงนั้นมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเฉินหนงในการสังหารผู้บริสุทธิ์ขอรับ...”

“หุบปาก! เฟิงหยวนซิง เจ้ากล้าดียังไงถึงมาใส่ความข้า!”

“แหม ท่านเฉิงอย่าเพิ่งรีบร้อนสิ ให้ท่านเฟิงพูดให้จบก่อน ถ้าท่านไม่ผิดจริงท่านจะกลัวทำไมกันเล่า?” โชวหวูพูดด้วยสีหน้าดีใจ ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะได้เปิดโปงความชั่วร้ายของเฉิงหลงซิงเสียที

เฟิงหยวนซิงพูดต่อโดยไม่รอให้โชวหวูพูดจบ “จริงๆแล้ว ข้ายังพบว่ามีสาวกบางคนบอกว่าเป็นสายลับให้กับโชวหวูเพื่อทำการระรานโรงหมอนั้นและสังหารนายทหารฉางหลูเพื่อสร้างความเข้าใจผิดระหว่างท่านผู้พิพากษากับท่านเฉิง... และในขณะเดียวกันเขาก็พยายามจะสังหารท่านในครั้งนี้ด้วยขอรับใต้เท้า”

“หุบปาก! เฟิงหยวนซิง เจ้าพูดถึงเรื่องอะไรกัน? เจ้ามันคนเลี้ยงเสียข้าวสุกที่แว้งกัดข้างั้นรึ?” กลายเป็นโชวหวูที่ตกใจไม่แพ้กัน