ตอนที่แล้วตอนที่ 340 นามแห่งหลงเฉิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 342 ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นขั้นที่หนึ่ง

ตอนที่ 341 สังหารสุดยอดฝีมือ


* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *

**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**

หลงเฉินใช้ทลายมารในมือฟาดฟันออกไป แหวกม่านอากาศที่กำลังสั่นไหว หมุนวนจนเกิดเงาดาบไปทั่วทั้งผืนฟ้า มองดูคล้ายดั่งคลื่นมหาสมุทรที่เชี่ยวกราด นี่ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่หลงเฉินได้ใช้พลังทั้งหมดในการต่อสู้กับศัตรู หลังจากที่ก้าวเข้ามาสู่ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นได้แล้ว

ในเมื่ออีกฝ่ายเองก็ทราบแล้วว่าเขานั้นคือหลงเฉิน การทดสอบทุกอย่างก็ไร้ความหมายแล้ว การเก็บออมพลังเอาไว้ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ หลงเฉินกระตุ้นพลังอันมหาศาลเข้าสู่กายเนื้อจนถึงขีดสุด

สุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรมผู้นั้น แตกตื่นตกใจขึ้นในทันที หลงเฉินฟาดฟันออกไปเพียงดาบเดียว ก็สามารถผนึกทั้งฟ้าดินเอาไว้ได้ เกิดเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว ดุจดั่งเกิดเป็นห้วงอวกาศเลยทีเดียว

แต่สิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดก็คือ การลงดาบครั้งนี้ของหลงเฉินแฝงเอาไว้ด้วยพลังความแน่วแน่เต็มเปี่ยม และนี่เองที่ทำให้ฟ้าดินเกิดความปั่นป่วนเปลี่ยนแปลง ทำให้ต้องยอมจำนนไปชั่วกัลปาวสาน นี่นับว่าเป็นพลังแห่งการทำลายล้างชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้นจากความแน่วแน่

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความแน่วแน่เช่นนี้ สุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรมนามว่าเยี่ยนซิงนั้น ก็รู้สึกว่าตัวเขาเองคล้ายกับกลายเป็นแมลงวันตัวหนึ่งเท่านั้น นี่แทบจะไม่ต่างอะไรไปจากการต่อกรกับพระเจ้าก็มิปาน เห็นได้ชัดว่า เขากำลังกลายเป็นสิ่งที่อ่อนแอไร้พลังอย่างถึงที่สุด

เมื่อพบเห็นหลงเฉินฟันออกมาหนึ่งดาบ คล้ายกับว่าเป็นดั่งดาบปราบสวรรค์ทลายพิภพก็มิปาน เขาถึงกับตัวแข็งค้าง ไม่อาจที่จะหลบเลี่ยงหรือปัดป้องได้ ภายในแววตาทั้งคู่ก็ได้เต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว

ผ่านไปชั่วครู่ สุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรมผู้นั้นจึงค่อยมีสติรู้ตัว และเมื่อเขาหวนคิดทบทวนตนเองก็ต้องตกใจ สุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรมเช่นเขา นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่ตัวเขาเป็นเช่นนี้ บังเกิดเป็นความรู้สึกด้านลบขึ้นมามากเพียงนี้ จนอดไม่ได้ที่จะต้องทั้งแตกตื่นทั้งเดือดดาล

“โลหิตหลอมวิญญาณ”

สุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรมผู้นั้นตะโกนดังสนั่นอย่างโกรธเกรี้ยว ทันใดนั้นหน้าอกของเขาก็แหวกออก ประกายแสงอันคมกล้าสีแดงสายหนึ่ง ก็ได้ฉีดพุ่งออกมา อาบเข้าไปยังดาบยาวในมือของเขา

“ซูม”

ดาบยาวสีเลือดในมือของเขา เมื่อได้รับการกระตุ้นจากประกายแสงสีแดงดั่งโลหิตสายนั้น ทันใดนั้นเองก็ได้สาดประกายแสงแห่งมารร้ายขึ้น ขณะเดียวกันที่แผ่นหลังของเขา ก็บังเกิดเป็นทะเลโลหิตอันอนันต์ปรากฏขึ้นมา

เมื่อทะเลโลหิตปรากฎขึ้น สุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรมผู้นั้น ทั่วทั้งร่างกายก็ได้ปะทุพลังอันมหาศาลขึ้นมา แล้วแปรเปลี่ยนจนกลายเป็นพลังที่พลุ่งพลานไปทั่วร่างกายในทันที

“ตายซะ”

ดาบยาวสีเลือด ก็ได้เข้าต้านรับทลายมารของหลงเฉิน ดาบยาวทั้งสองเล่มปะทะเข้าด้วยกันอย่างรุนแรง จนเกิดเป็นเสียงระเบิดกึกก้องดังขึ้น

“ตู้ม”

พื้นที่อันกว้างใหญ่นั้น ก็ไม่อาจที่จะทนแบกรับพลังอันมหาศาลเอาไว้ได้ ถึงกับแหลกไปในทันที แต่ว่าดาบยาวของทั้งสองคนกลับยังคงหันคมปะทะเข้ากับอีกฝ่าย ผลักดันพลังใส่กันอย่างเอาเป็นเอาตาย

สุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรมผู้นั้น ก็ได้ทอสีหน้าดุร้ายดุจดั่งภูตผี ดวงตาทั้งคู่แดงซ่าน ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจับจ้องมองไปที่หลงเฉิน

ทว่าหลงเฉินกลับยังทอสีหน้าเรียบเฉย หาได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆออกมาเลยแม้แต่น้อย ดาบยาวในมือยังคงซ้อนอยู่บนดาบยาวของอีกฝ่ายเอาไว้

“แท้จริงแล้วทุกผู้คน ต่างก็หาได้เป็นอย่างเช่นหยินหลอได้ไม่” หลงเฉินส่ายหน้าไปมา พร้อมกันนั้น แกนผลึกที่อยู่บนทลายมารก็ได้สว่างวาบขึ้นมาในพริบตา

แกนผลึกชิ้นนั้น ซึ่งเป็นถึงแกนผลึกสัตว์มายาระดับห้า ผสานกลมกลืนเข้ากับอักขระโบราณบนทลายมารไปจนสิ้น ขอเพียงมีพลังลมปราณที่เพียงพอ ก็จะสามารถที่จะกระตุ้นพลังอันมหาศาลของแกนผลึกขึ้นมาได้ ซึ่งก็เป็นการเพิ่มพูนพลังทำลายของอาวุธให้แข็งแกร่งขึ้น

ก่อนหน้าที่จะพัฒนาขึ้นไปสู่ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็น พลังลมปราณของหลงเฉินเองนั้นยังมีอยู่อย่างจำกัด จนเกิดความเสียดายที่จะใช้ออกมา เขาจึงไม่เคยได้กระตุ้นพลังอันมหาศาลจากแกนผลึกมาก่อน

เพราะเมื่อได้ใช้แกนผลึกเพื่อกระตุ้นพลังลมปราณ ก็จะสามารถที่จะชักนำพลังกายาศึกกักวายุขึ้นมาได้แล้ว ต่อให้แกนผลึกมีความแข็งแกร่งมากกว่านี้ ก็ไม่อาจที่จะเทียบกับกายาศึกกักวายุได้อยู่แล้ว

ทว่าขณะนี้หลังจากที่เลื่อนระดับพลังเข้าถึงขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นแล้ว ความจุพลังลมปราณของเขานั้นเรียกได้ว่าขยายใหญ่กว่าเดิมขึ้นมาหลายสิบเท่า เช่นนั้นแล้ว ต่อจากนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องจำกัดการใช้พลังลมปราณอีกแล้ว เขาสามารถได้ออกไปได้อย่างไม่ต้องรู้สึกเสียดายแม้แต่น้อย

“ตู้ม”

“กร๊อบ”

ทลายมารของหลงเฉินกดทับลงไปอีก สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น ก็ได้รู้สึกถึงแรงดันมหาศาลดุจดั่งภูผาลูกหนึ่งกดทับเข้ามาในทันที

อาวุธของยอดฝีมือผู้นั้นที่เดิมทีถูกหลงเฉินฟันจนเกิดรอยขึ้นมาภายในดาบเดียว ขณะนี้เมื่อหลงเฉินได้เพิ่มพลังอันมหาศาลที่น่าหวาดกลัวเข้าไปอีก ก็ไม่อาจที่จะทนทานต่อไปได้อีก แตกหักออกเป็นสองเสี่ยงไปภายในพริบตา

“พรวด”

สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น ตวัดดาบยาวที่แตกออกไปภายในพริบตา ภายใต้ความรู้สึกที่ไม่ถูกต้อง ราวกับว่าทำได้แต่เพียงถอยไปทางด้านหลังเท่านั้น ทว่าก็ยังคงถูกดาบของหลงเฉินฟันเข้ามาที่หน้าอกอยู่ดี โลหิตจำนวนมากพวยพุ่งออกมา

ถ้าหากเขาช้าไปกว่านี้อีกเพียงครึ่งก้าว ดาบยาวของหลงเฉินก็จะต้องฟันเขาจนขาดออกเป็นสองท่อนไปในทันทีอย่างแน่นอน เมื่อมองเห็นโลหิตที่ไหลรินออกมาจากหน้าอกของสุดยอดฝีมือผู้นั้นอย่างช้าๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายธรรมะหรืออธรรม ทุกผู้คนต่างก็ต้องตกอยู่ภายใต้อาการตกตะลึง

การที่เป็นถึงสุดยอดฝีมือ เมื่อต้องมาอยู่เบื้องหน้าหลงเฉิน ถึงกับไม่อาจต้านได้แม้ซักกระบวนท่าเดียว ผลลัพธ์เช่นนี้จะมีผู้ใดสามารถที่จะคาดคิดเอาไว้ได้กัน ?

สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น ที่ได้ระเบิดพลังการต่อสู้ทั้งหมดขึ้นมา ทั้งยังเป็นที่ประจักษ์เห็นเองกับตา ว่ามีพลังที่แข็งแกร่งน่าหวาดกลัวได้ถึงเพียงใด

ทว่า แม้พลังนั้นจะเรียกได้ว่าราวกับเป็นพลังที่แข็งแกร่งจนน่าหวาดกลัวจนยากที่จะอธิบายออกมาได้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหลงเฉิน จากภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏตรงหน้าชี้ชัดว่า สุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรมผู้นั้นแม้แต่ความสามารถที่จะสวนกลับก็ยังไม่มี

“ติ๋งๆ”

“ติ๋งๆ”

“ติ๋งๆ”

ภาพหยาดโลหิตที่กำลังไหลออกมาจากทรวงอกของสุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรมผู้นั้น ที่กำลังค่อยๆหยดลงพื้น สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งจิตใจของทุกผู้คน

“ซูม”

หลงเฉินสะบัดทลายมารในมือ ในใจอดไม่ได้ที่จะลอบชมเชยขึ้นมา ท่านผู้อาวุโสชางหมิงยังไงก็ยังคงเป็นท่านผู้อาวุโสชางหมิง ถึงแม้ทลายมารจะหาได้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยวัสดุที่ล้ำเลิศมากนัก ทำให้ในยามที่ต้านทานค้อนยักษ์ภายในทางเดินที่มีกับดัก จึงเกิดรอยบิ่นขึ้นมาอยู่ไม่น้อย

แต่ด้วยงานฝีมือเช่นนี้นั้น แทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในระดับสูงสุด จนทำให้อาวุธที่จะสามารถทำให้ทลายมารบิ่นได้ ต่างก็ล้วนต้องเป็นเครื่องมือปราณที่หมดจดกว่าของผู้อื่น ทั้งยังแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้าที่จะปะทะกับอาวุธโบราณจากภายในสุสานเหล่านั้น ทมายมารก็ยังไม่เคยเกิดความเสียหายมาก่อนเลยด้วยซ้ำ เช่นนี้ก็บ่งบอกได้ถึงทักษะการหลอมสร้างของซางหมิงได้แล้วว่ายอดเยี่ยมมากถึงเพียงใดแล้ว

“หนี!”

ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้นมา ก็ทำให้ทุกผู้คนตกตะลึงงุนงง พวกเขาคาดไม่ถึงแม้แต่น้อยและยังไม่เคยพบเห็นคนของระดับยอดฝีมือฝ่ายอธรรมหวาดกลัวความตายกันมาก่อน โดยเฉพาะผู้ที่จัดเป็นสุดยอดฝีมือผู้หนึ่งถึงกับเป็นคนแกนนำนำพาคนอื่นๆหลบหนีเอง

“คิดหนีงั้นหรือ ?”

บนใบหน้าหลงเฉินก็ได้ปรากฏรอยยิ้มเหี้ยมเกียมออกมา ใต้ฝ่าเท้าร้อนขึ้น ท่าร่างภูตมืดสงัดก็ได้ถูกเรียกใช้ ย่างก้าวออกไปก้าวหนึ่ง คล้ายดั่งภูตพรายก็มิปาน พริบตาเดียวก็ได้มาถึงยังเบื้องหน้าของคนผู้นั้น พร้อมทั้งฟันออกไปหนึ่งดาบ

สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน ว่าหลงเฉินจะถึงกับมีท่าร่างที่พิสดารได้ถึงเพียงนี้ เมื่อได้พบเห็นเงาของหลงเฉินขยับปรากฏขึ้นมาดุจผีสางวิญญาณก็มิปาน ก็ได้ชักพลองยาวด้ามหนึ่งออกมาอย่างเร่งร้อน

ที่ด้านบนของพลองยาวเล่มนั้นก็ได้มีรอยสลักปกคลุมเอาไว ซึ่งถือได้ว่าเป็นเครื่องมือปราณเฉกเช่นเดียวกัน แต่ทว่าในทันทีที่พลองนั้นปะทะเข้ากับทลายมารของหลงเฉิน ก็แหลกสลายไปในบัดดล

“โครม”

สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น ด้วยพลังอันมหาศาลของหลงเฉิน ก็ได้ถูกซัดจนลอยกระเด็นออกไป กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง

ในขณะที่ร่างกายของเขากำลังลอยอยู่กลางอากาศ เงาร่างของหลงเฉินก็ขยับอีกครั้ง ดุจดั่งวิญญาณก็มิปาน ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของเขา ตวัดวาดทลายมารจนกลายเป็นประกายแสงขึ้นมาเป็นสาย

“พรวด”

โลหิตมากมายสูบฉีดกระเด็นออกมา ฟุ้งกระจายไปทั่วท้องฟ้า ศีรษะมนุษย์ลูกหนึ่งก็ได้ลอยขึ้นสูง จนทำให้ทุกผู้คนรอบบริเวณส่งเสียงร้องอย่างตกใจดังออกมา สุดยอดฝีมือผู้หนึ่ง กลับต้องมาจบสิ้นไปแต่เพียงเท่านี้แล้ว

ถึงแม้ทุกคนต่างก็มองออกว่า สุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น หาใช่คู่ต่อสู้ของหลงเฉิน แต่ว่าพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่า สุดยอดฝีมือผู้หนึ่งกลับต้องมาถูกสังหารลงได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้

หากว่าเป็นสุดยอดฝีมือต่อสู้กันตามปกติ ย่อมต้องสามารถที่จะหลบหนีไปได้กันอย่างง่ายดายอยู่แล้ว แต่ว่าสุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น ถึงกับไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะหลบหนีเลยด้วยซ้ำ

“ตึง”

ศพของสุดยอดฝีมือของฝ่ายอธรรมผู้นั้น ก็ได้ล้มลงกับพื้น ภาพนั้นเสมือนเป็นการตอกย้ำเข้าไปภายในจิตใจของผู้คนอย่างรุนแรง การที่ได้เป็นประจักษ์พยานการตายของสุดยอดฝีมือผู้หนึ่งด้วยตัวเอง นี่ก็ถือได้ว่าเป็นภาพที่น่าหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว

“หนีเร็ว”

เมื่อได้พบเห็นสุดยอดฝีมือที่เป็นผู้นำของกลุ่มตายลงไปแล้ว ยอดฝีมือฝ่ายอธรรมที่เหลือ ก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมา ต่างก็ได้แยกย้ายกันมุ่งหน้าหลบหนีออกไปยังที่ห่างไกล

วิธีการหลบหนีตามปกตินั้นแน่นอนว่าย่อมต้องหนีกันในรูปแบบกระจายตัว เช่นนี้ไม่ว่าหลงเฉิจจะไล่ฆ่าใคร ต่างก็มีส่วนหนึ่งที่สามารถหลบหนีไปได้

ทว่าพวกเขากลับไม่ได้โชคดีเช่นนั้น ภายในหุบเขาแห่งนี้ พวกเขามีเส้นทางให้หลบหนีได้เพียงแค่ทางเดียว ผลสุดท้ายเมื่อหลงเฉินใช้ท่าร่างภูตมืดสงัด ไล่ตามออกไปประดุจเงามายาก็มิปาน เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ ก็สามารถไล่สังหารยอดฝีมือฝ่ายอธรรมเหล่านั้น ให้ตายไปทีละคนทีละคน จนครบ

ศิษย์ทางด้านฝ่ายธรรมะที่ชมดูการต่อสู้ ทั้งหมดต่างก็ทอดวงตาโง่งมกันขึ้นมา พวกเขาย่อมต้องเคยพบเห็นการฆ่าคนกันมาก่อน ทั้งยังเคยพบเจอมาก็ไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่ทว่าพวกเขากลับยังไม่เคยเห็นการฆ่าคนเฉกเช่นหลงเฉินมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นศิษย์สายตรงอันใด หรือว่าจะเป็นผู้อยู่เหนือขอบเขต ต่างก็ถูกฆ่าตายไปทีละคน โดยใช้เพียงดาบเดียว คล้ายกับกำลังหั่นผักหั่นปลาอยู่ก็มิปาน

ที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พวกเขาพบว่าในทุกดาบของหลงเฉิน ต่างก็หาได้มีการออกกระบวนท่าไม่ คล้ายกับเป็นเพียงการฟันออกไปด้วยท่วงท่าที่สบายที่สุดเท่านั้น

แต่ว่าศิษย์ของฝ่ายอธรรมเหล่านั้น ต่างก็ไม่อาจที่จะหลบเลี่ยงได้ มีแต่ต้องต้านทานเอาไว้ และผลลัพธ์จากการต้านทานก็คือต้องจบชีวิตลง

หลงเฉินนับตั้งแต่ต้นจนจบ คล้ายกับเป็นเทพมรณะที่มารับชีวิตไปทีละชีวิต ทำการสังหารศิษย์ฝ่ายอธรรมเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นไปอย่างง่ายดาย แทบไม่เปลืองแรงแม้แต่น้อย

ท้ายที่สุดสิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องเกิดความหวาดหวั่นขึ้นมาในจิตใจก็คือ ในยามที่หลงเฉินทำการห้ำหั่น กลับมีอารมณ์ที่มั่นคงเป็นอย่างยิ่ง คล้ายกับคนทำสวนที่ขยันหมั่นเพียรผู้หนึ่ง ที่กำลังใช้ทักษะการตัดแต่งใบไม้อย่างพิถีพิถัน

นับตั้งแต่ต้นจนจบ หลงเฉินก็ทอสีหน้าเรียบเฉยมาโดยตลอด ในสายตาของพวกเขา กลับน่ากลัวเสียยิ่งกว่าใบหน้าที่ดุร้ายของศิษย์ของฝ่ายอธรรมเสียอีก

จนเมื่อศิษย์ของฝ่ายอธรรมถูกสังหารไปจนหมดแล้ว หลงเฉินก็ได้เก็บเอาแหวนมิติในตัวของพวกเขาออกมาทีละวงจนครบ จากนั้นก็ได้จากไปจากเช่นนั้น

เมื่อมองดูเงาหลังของหลงเฉินที่ลับหายไป ทุกผู้คนต่างก็ล้มลงไปนั่งกองกับพื้น รู้สึกได้ว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีหายไปทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบ จนทำให้อาภรณ์เปียกชุ่ม

“ช่างน่าตกใจเกินไปแล้ว”

“ช่างน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว”

“ช่างอำมหิตเกินไปแล้ว”

ภายในห้วงสมองของเหล่าคนที่เห็นเหตุการณ์ ต่างก็ผุดคำพูดเหล่านี้ออกมาไม่หยุด ความอำมหิตของหลงเฉินที่พวกเขาได้ประจักษ์นั้น เรียกได้ว่าเหนือกว่าศิษย์ของฝ่ายอธรรมอยู่นับสิบเท่า

ดูเหมือนว่าความโหดร้ายของหลงเฉินถูกฝังรากลึกเอาไว้ในกระดูกของเขา และมิได้ปรากฏมาให้เห็นอย่างง่ายดาย ในขณะที่ความโหดร้ายของศิษย์ฝ่ายอธรรม กลับเป็นการกระทำอย่างโจ่งแจ้ง ก็เพื่อที่จะกระพือความหวาดระแวง จึงได้แสดงออกมาเช่นนั้น ซึ่งเป็นเพราะจำเป็นที่จะต้องโหดร้ายก็เท่านั้น

ความโหดร้ายของหลงเฉิน คล้ายกับบังเกิดขึ้นมานับตั้งแต่กำเนิด เพียงแต่ว่าในเวลาปกติเขาสามาถควบคุมเอาไว้ได้ก็เท่านั้น แต่ว่าเมื่อใดที่ระเบิดออกมา พริบตานั้นก็แทบจะกลายเป็นเทพมรณะเลยทีเดียว

“ข้าเองก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง คล้ายกับว่าคนที่มีความแข็งแกร่งเฉกเช่นหลงเฉิน มีหรือที่จะสามารถไปกระทำเรื่องอยากการไปฉุดคร่าสตรีกัน ?” แล้วก็มีคนอดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัยเช่นนี้ขึ้นมา

“พูดเป็นเล่นไป บุคคลเฉกเช่นนี้ สังหารสุดยอดฝีมือดุจสุนัขตัวหนึ่ง หากต้องการอิสตรีเช่นไร มีหรือที่จะไม่ได้ ?”

“ก็ใช่แล้ว ขอเพียงเขาเรียกร้อง ว่าตนเองต้องการสตรี ไม่ทราบว่ามีอิสตรีมากมายแค่ไหนยินยอมรอคอยที่จะร่วมหลับนอนกับเขา”

“หยกบันทึกภาพที่แพร่กระจายไปก่อนหน้านี้จะต้องมีเลศนัยอยู่อย่างแน่นอน ทั้งยังต้องมีคนจงใจที่จะวางแผนการเช่นนี้เพื่อจัดการกับหลงเฉิน” แล้วก็มีคนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เอ่ยการคาดเดาเช่นนี้ขึ้นมา

และก็มีคนลอบพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะเป็นสิ่งที่กำลังคิดอยู่ในใจเช่นกัน อย่างแรกไม่ต้องไปเอ่ยถึงรูปลักษณ์ของหลงเฉิน เพียงแค่ลักษณะนิสัยจากการต่อสู้ที่เผ็ดร้อนของเขานั้น ก็พอจะมองออกได้ว่าเขานั้นถือได้ว่าเป็นบุคคลที่หยิ่งทรนงมาแต่กำเนิดแน่ และแน่นอนว่าจะต้องไม่แยแสที่จะกระทำเรื่องเฉกเช่นนั้น

“ข้าก็เห็นเป็นเช่นนั้น ในยามที่ข้าได้เห็นภาพที่ถ่ายทอดออกมานั้น ข้าก็ทราบแล้วว่า ภาพที่บันทึกเอาไว้จะต้องมีการจงใจที่จะสร้างกลอุบายขึ้น ไม่เช่นนั้นก็คงจะไม่ถูกเผยแพร่ได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนั้น” แล้วก็มีคนลุกขึ้นมา กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความรอบรู้

“ให้ตายเถอะ การกล่าวตามผู้อื่นออกมาเช่นนี้มีผู้ใดทำไม่เป็นกันบ้าง ? ต่อให้เจ้าคิดที่จะผายลมออกมา ก็ไปผายลมต่อหน้าผู้อื่น เจ้ามากล่าวในเวลาที่คนอื่นได้กล่าวออกไปแล้ว ไม่คิดว่าทำให้รู้สึกขยะแขยงหรอกหรือ ?” แล้วก็ได้มีคนกล่าวดูถูกขึ้นมา

คนผู้รอบรู้นั้นจึงกล่าวขึ้นมาด้วยโทสะ “กล่าวตามผู้อื่นอะไรกัน ? อย่างน้อยตัวข้าเองก็คิดเอาไว้แล้วว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรที่ไม่ถูกต้อง ข้าหาได้โง่เง่าเช่นนั้นไม่ ที่คิดจะไปแส่หาเรื่องกับชาวบ้านเช่นนั้น”

พึ่งจะสิ้นเสียงคนผู้นั้น ก็ได้ยินเสียงของคนสองคนตวาดออกมาพร้อมกันด้วยความเกรี้ยวกราด “ให้ตายเถอะ เจ้าหากว่ากล้าที่จะผายลมเช่นนั้นออกมาอีก ข้าจะฆ่าเจ้าซะ”

คนทั้งสองที่กล่าวออกมา ประหนึ่งเป็นวีรชนที่ยึดหลักคุณธรรมก่อนหน้านี้ ก็คือผู้ที่หมายจะทำการผดุงคุณธรรมแทนฟ้า คิดจะลงมือต่อหลงเฉิน แต่กลับต้องมาถูกก้อนอิฐของหลงเฉินฟาดเข้าไปที่ใบหน้าอย่างผู้อยู่เหนือขอบเขตทั้งสองคนนั้นเอง

อย่างอื่นก็อย่าได้กล่าวแล้ว วาจาสุดท้ายของคนผู้นั้น เห็นได้ชัดว่าเหมือนกับด่าทอพวกเขาทางอ้อมนั่นเอง ที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะทนได้ก็คือ เจ้าหนูผู้นั้นทว่ากลับเป็นเพียงแค่ศิษย์สายตรงเท่านั้น

“จะฆ่าข้างั้นหรือ ? อย่างพวกเจ้าทั้งสองคนงั้นหรือ ? เหอะ พวกเจ้าหากว่ายังมีซักคนกล้าที่จะผายลมขึ้นมาอีกสักรอบ พวกเจ้าเชื่อหรือไม่ว่า ตอนนี้ข้าจะทำให้พวกเจ้าได้ทราบว่าบุปผาเหตุไฉนถึงได้ผลิบานได้ ?” คนผู้นั้นก็ได้จ้องมองไปที่ทั้งสองคนอย่างเย็นชา แล้ววางมาด เห็นได้ชัดว่าเขาในตอนนี้หาได้หวาดกลัวผู้อยู่เหนือขอบเขตที่ไม่ทราบว่าจะเป็นตายร้ายดีเช่นไรแล้ว

T/L : 花儿为什么这么红 บุปผาเหตุไฉนถึงได้ผลิบานได้ สำนวน ความสามารถหรือพลังของคนผู้หนึ่งมิอาจสู้ตนเองได้ ยังกลับคิดที่จะไปล้มเขาอีก

“สามหาว พลังจากต้นตระกูลแห่งธรรมชาติ”

ในขณะที่ทุกคนกำลังแยกย้ายไปตามจุดมุ่งหมายของตนเอง ทันใดนั้นก็มีศิษย์ของฝ่ายอธรรมเหล่านั้นวิ่งออกไป เพราะหมายที่จะมุ่งหน้าวิ่งเข้าไปเก็บเอาพลังจากต้นตระกูลที่กำลังค่อยๆที่จะลอยออกมาจากภายในร่างกาย ของผู้อยู่เหนือขอบเขตและสุดยอดฝีมือผู้นั้นที่ถูกหลงเฉินสังหาร ทุกคนต่างก็ได้แยกย้ายกันวิ่งตะบึงออกไปคนละด้าน เปิดศึกการแย่งชิงกันอย่างไม่ลดละ

หลังจากที่สังหารสุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรมผู้นั้นไปแล้ว หลงเฉินในที่สุดก็ยิ่งมีความเข้าใจในพลังฝีมือของตนเองขึ้นมาอีกส่วน จนทำให้เขาวางใจได้ไม่น้อย แล้วก็ได้มุ่งหน้าเดินทางเข้าไปยังส่วนลึกของหุบเขาต่อไป

.

.

.

* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *

**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด