ตอนที่แล้วบทที่ 95: โจมตีโรงเรียน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 97: ไม่มีการแจ้งเตือน!

บทที่ 96: แนวหน้า


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

บทที่ 96: แนวหน้า

“เอาล่ะ นักเรียนทุกคน! ฟังฉันนะ เดินตามฉันมา ส่วนนักเวทธาตุลมไปสำรวจด้านหน้า!” ชุ่ยมู่เชิงตะโกนออกมา

นักเรียนที่อยู่ใกล้กับหน้าต่างรีบวิ่งไปยังทางเดินอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าตรงทางเดินกลับเต็มไปด้วยนักเรียนมากมาย ไร้ความเป็นระเบียบโดยสิ้นเชิง ทุกคนแออัดและเบียดเสียดกันเพื่อหนีเอาชีวิตรอด

เสียงร่ำไห้และกรีดร้องดังระงมไปทั่วบริเวณ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากเย็นอย่างมากในการที่จะควบคุมนักเรียนที่เสียสติเหล่านี้

โม่ฝานยืนอยู่ที่ริมทางเดิน สายตาของเขาจับจ้องไปที่สิ่งแวดล้อมเหล่านี้ด้วยแววตาที่หดหู่

พวกเขาทั้งหมดราวกับกวางป่าที่กำลังเผชิญหน้ากับหมาป่า ทั้งหมดหวาดกลัวและเริ่มเสียสติ การหลบหนีอย่างลนลานเช่นนี้จะทำให้พวกเขาทั้งหมดไม่มีโอกาสรอด! ซึ่งความจริงแล้วเพียงแค่หมาป่าตัวเดียวก็สามารถจัดการพวกเขาทั้งหมดนี้ได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องพูดถึงหมาป่าหลายสิบตัวที่กำลังกระโดดเข้ามาในเขตของโรงเรียน

ความตื่นกลัวเหล่านี้เป็นโรคติดต่อ สำหรับโม่ฝานแล้วเขาก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามเด็กเหล่านี้สามารถต่อต้านความน่ากลัวเหล่านี้ได้อย่างไรล่ะ?

นักเรียนทุกคนหวาดกลัวจนลนลานและไม่กล้าที่จะก้าวขาออกมาแต่อย่างใด ทักษะใดๆที่ได้รับมาล้วนแต่ถูกลืมและทิ้งไว้ด้านหลังจนหมดสิ้น

“อสนีบาต แส่คลั่ง!”

เสียงร่ายคาถาดังลั่นออกมาจากทางเดินด้านหลัง โม่ฝานหันหน้าไปพร้อมกับเห็นฉือจ้าวติงที่กำลังโกรธจัด เขาเงื้อสายฟ้าขึ้นมาในอากาศพร้อมกับเหวี่ยงลงไปอย่างดุเดือด

แส่สายฟ้านั้นพุ่งไปที่หมาป่าตาเดียวที่อยู่ด้านหน้า แม้ว่ามันจะไม่แม่นยำเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังมีบางส่วนที่โจมตีโดนหมาป่าตาเดียวอยู่บ้าง

สายฟ้าที่โค้งเว้าและปราดเปรียวพุ่งเข้าใส่หมาป่าตาเดียวอย่างดุร้าย ซึ่งมันสร้างความเจ็บปวดให้กับอสูรได้เพียงเล็กน้อย แต่ทว่ากล้ามเนื้อของพวกมันก็ได้รับผลกระทบจากสายฟ้าอยู่เช่นกัน กล้ามเนื้อทั้งหมดกระตุกและเริ่มกลายเป็นอัมพาต

“เหอะ แค่หมาป่าตาเดียว! ไอ้พวกขี้ขลาด ทำไมต้องเกรงกลัวมันด้วย พวกมันก็เป็นแค่สุนัขตัวหนึ่ง!” ฉือจ้าวติงกล่าวออกมาพร้อมกับมองไปที่กลุ่มเด็กนักเรียนที่ลนลานอย่างรังเกียจ

“ฉันเห็นด้วย พวกเรามีกันตั้งหลายคน ทำไมจะต้องเกรงกลัวหมาป่าตาเดียวไม่กี่ตัวด้วย?” หวังซานฟ่ากล่าวพร้อมลุกขึ้นด้วยเช่นกัน

ในขณะที่หวังซานฟ่ากล่าวออกมาเช่นกัน เมื่อเขาพูดจบก็เป็นเวลาเดียวกันที่เขาร่ายเวทคลื่นพสุธาเสร็จสิ้น

มืออวบอ้วนของเขาทุบลงบนพื้นอย่างน่าเกรงขาม คลื่นพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว มันโจมตีหมาป่าตาเดียวที่กำลังเป็นอัมพาตอย่างแม่นยำทันที

ซูมินเรียกความกล้าหาญออกมาได้ในขณะนั้น เธอรีบวิ่งไปด้านหน้าพร้อมกับร่ายเวทกำแพงไฟพร้อมลูกบอลเพลิงเพื่อโจมตีร่วมด้วย

ในขณะที่หมาป่าตาเดียวได้ล้มลง ลูกบอลเพลิงของซูมินได้พุ่งเข้าโจมตีมันอย่างแม่นยำ หมาป่าตาเดียวล้มลงโดยสมบูรณ์เมื่อถูกโจมตีจากหลายทิศทาง

ขณะที่บอลเพลิงเผาผลาญกระดูกเริ่มทำงาน หมาป่าตาเดียวร้องโหยหวนออกมาอย่างเจ็บปวด มันกลิ้งไปทั่วสนามบาสพร้อมกับกรีดร้องออกมา

ไม่นานหลังจากนั้น นักเวทอีกสองธาตุได้เริ่มรายเวทสลับกันออกมา ทั้งหมดร่วมมือกันได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้หมาป่าตาเดียวไหม้เกรียมโดยสมบูรณ์!

เมื่อได้เห็นว่าหมาป่าตาเดียวตัวหนึ่งถูกกำจัดไปอย่างรวดเร็ว โม่ฝานถอนหายใจอย่างโล่งอก สุดท้ายแล้วในโรงเรียนแห่งนี้ก็ไม่ได้มีแต่พวกขี้แพ้อย่างที่เขาคิดไว้ตอนแรก

“พวกเธอมารวมกันตรงนี้” ชุ่ยมู่เชิงตะโกนออกมา

ฉือจ้าวติง จ้าวคุณซาน มู่ไป๋ ซูมิน กลุ่มนักเรียนเหล่านี้คือผู้ที่สามารถเผชิญหน้ากับอสูรเวทได้เมื่อครั้งการสอบปฏิบัติ นับตั้งแต่วันนั้นทำให้วันนี้พวกเขาไม่ได้เกรงกลัวพวกมันเท่ากับเมื่อก่อนแล้ว

พวกเขาทั้งหมดเดินมาที่หลัง ซึ่งทั้งหมดงุนงงกับการที่ชุ่ยมู่เชิงจัดให้ทุกคนยืนตรงนี้

“ก่อนอื่นเลยฉันจะบอกว่าความจริงหน้าที่เหล่านี้ควรเป็นของอาจารย์ อย่างไรก็ตามด้วยจำนวนของหมาป่าตาเดียวที่สูงมากตอนนี้ทำให้ความสามารถในการจัดการของอาจารย์นั้นจำกัดมาก ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกอื่น เช่นนี้จึงต้องพึ่งพาความสามารถของพวกเธอทั้งหมดด้วย” ชุ่ยมู่เชิงกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่ไร้หนทาง

“อาจารย์อย่าเสียเวลามากไปกว่านี้เลย ถ้าคุณมีอะไรต้องพูด ก็จงรีบพูดมาเถอะครับ” หวังซานฟ่าอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา

“ในตอนนี้เราต้องการทีมแนวหน้า ซึ่งฉันเกรงว่าแนวหน้าส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน…”

“ซึ่งทีมแนวหน้าจะต้องแยกออกจากกลุ่มหลัก ทั้งหมดจะต้องเดินนำกลุ่มใหญ่ทั้งหมด”

“นักเรียนทั้งหมดภายในโรงเรียนของเราจะเดินตามกลุ่มแนวหน้า ซึ่งกลุ่มของพวกเธอเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในโรงเรียนของเรา ฉันเชื่อว่าพลังของพวกเธอไม่ด้อยไปกว่าอาจารย์อย่างแน่นอน ดังนั้นฉันจึงหวังว่าพวกเธอจะสามารถเป็นทีมแนวหน้าที่จะนำพากลุ่มนักเรียนของเราไปถึงพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างราบรื่น!” ชุ่ยมู่เชิงกล่าวออกมา

หลังจากที่ชุ่ยมู่เชิงกล่าวจบ นักเรียนกลุ่มนี้เงียบสงัดในทันที พวกเขารู้ตัวว่าไม่สามารถจะดำเนินการตามแผนเช่นนี้ได้เลย

ความจริงก็คือพวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องพบเจอกับอสูรเวทชนิดไหนบ้าง อีกทั้งการเป็นแนวหน้านั้นต้องแบกรับความเสี่ยงมากมาย ทั้งหมดไม่กล้าที่จะรับผิดชอบชีวิตของผู้คนมากมายขนาดนั้น

“การตัดสินใจนี้จะเป็นสิทธิ์ของพวกเธอทั้งสิ้น พวกเราจะไม่มีบังคับพวกเธอเลย ถ้าหากพวกเธอไม่เต็มใจ ฉันก็ทำได้เพียงเดินไปถามนักเรียนกลุ่มอื่น ซึ่งนั่นก็คงจะทำให้เสียเวลาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยและเพิ่มอัตราการตายของนักเรียนเรา… เช่นนี้พวกเธอควรจะตัดสินใจโดยเร็วที่สุด ถูกไหม?” ชุ่ยมู่เชิงรวบรัด

“อาจารย์ชุ่ย… ฉันจะร่วมด้วย!” ซูมินกล่าวออกมา เธอตอบรับภารกิจนี้เป็นคนแรก

“ผมด้วย” ฉือจ้าวติงรีบตอบรับในทันทีเช่นกัน

หวังซานฟ่ากับฉือจ้าวติงเป็นสหายรักกันมาเนิ่นนาน เมื่อฉือจ้าวติงตอบรับแล้ว หวังซานฟ่าทำได้เพียงเข้าร่วมด้วยใบหน้าที่เจ็บปวด…

ชุ่ยมู่เชิงพยักหน้าอย่างยินดี ด้วยนักเวทธาตุสายฟ้า ทีมแนวหน้าจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น ถ้าหากเป็นเช่นนี้ทุกคนจะสามารถไปสู่พื้นที่ปลอดภัยได้อย่างแน่นอน

“ผมเอาด้วย…”

มู่ไป๋และจ้าวคุณซานยืนมองหน้ากันอยู่ชั่วขณะพร้อมกล่าวออกมาเบาๆ

ในตอนนี้ทีมแนวหน้าเต็มไปด้วยนักเรียนชั้นเยี่ยมของโรงเรียน

จางหู่หันไปมองโม่ฝานซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะเข้าร่วมแผนการนี้ด้วยเช่นกัน

“พี่ฝาน เราจะอยู่ในกลุ่มหลักหรือว่าเข้าร่วมกับทีมแนวหน้าล่ะ?” จางหู่ถามออกมา

“เข้าร่วมกับทีมแนวหน้า” โม่ฝานตอบเรียบๆ

“ไม่ยักรู้มาก่อนว่าพี่ฝานจะมีจิตใจที่กล้าหาญเช่นนี้ ฮ่าฮ่า” จางหู่นั้นอดไม่ได้ที่จะหดหู่เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้น แต่เขาก็ยังสามารถสร้างความตลกออกมาได้บ้างจากเหตุการณ์ที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้

“การไปรวมกับกลุ่มหลักนั้นจะอันตรายยิ่งกว่า” โม่ฝานกล่าวออกมา

“ทำไม?” จางหู่ถามกลับอย่างไม่เข้าใจ

ในกลุ่มหลักนั้นมีนักเรียนกว่าเจ็ดร้อยคน ซึ่งจำนวนที่มหาศาลของพวกเขานั้นจะตกเป็นเป้าทันทีเมื่ออสูรเวทโจมตี ทั้งหมดจะไม่ตกอยู่ในอันตรายมากนักถ้าหากพวกเขาสามารถต่อสู้ได้อย่างเช่นกับนักเวทจริงๆ!

“แกก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น? เมื่อหมาป่าตาเดียวปรากฏตัวขึ้น ทุกคนล้วนแต่ลนลานและไร้สติ นั่นคือสันชาตญาณของคนอ่อนแอ พวกเขาจะถ่ายทอดความกลัวให้แก่กันอย่างไร้ขีดจำกัด มันจะแผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้าง เช่นนี้การต่อสู้จะถูกจำกัดไว้โดยบุคคลที่อ่อนแอเหล่านี้ ถ้าฉันเดาไม่ผิด หมาป่าเวทจะต้องโจมตีเข้ามาที่กลุ่มหลักแน่นอน การที่พวกเขาเดินพร้อมกันนับร้อยคนจะดึงดูดสายตาของอสูรร้ายได้อย่างรวดเร็ว อีกอย่างฉันไม่อยากจะอยู่ในกลุ่มลูกแกะขนาดใหญ่เช่นนี้ด้วย เมื่อเวลานั้นมาถึง ทั้งหมดจะไม่สามารถกำหนดความเป็นความตายของตนเองได้อย่างแน่นอน…” โม่ฝานกระซิบสิ่งที่อยู่ในใจให้จางหู่ฟัง

••••••••••••••••••••

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด