ตอนที่แล้วMS บทที่ 12 หลีมู่แม่งบ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMS บทที่ 14 ทุกคนที่เข้ามา

MS บทที่ 13 ชัยชนะเหนือกลุ่มเฉินหนง


MS บทที่ 13 ชัยชนะเหนือกลุ่มเฉินหนง

“อ่า...” นางกำนัลทั้งหลายเริ่มกรีดร้องพร้อมกับรีบหาที่หลบด้วยความหวาดกลัว

ฉีกงจิ้งปาเข็มเล็กใส่พวกนาง ด้วยพิษของมันทำให้พวกเธอทั้งหลายละลายกลายเป็นน้ำสีเขียว

พวกเธอทั้งหมดตายอย่างน่าสงสารเพียงเพราะฉีกงจิ้งไม่อยากให้พวกเธอกลายเป็นนางกำนัลของหลีมู่

“ฉีกงจิ้ง เตรียมตัวตาย!”

ประตูหน้าถูกทลายลง

ท่ามกลางเศษฝุ่นที่กระจายไปทั่วจากการทำลายล้าง ร่างหนึ่งกำลังเดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยท่าทีราวกับปีศาจ

นั่นคือหลีมู่

“ฆ่าหลีมู่!”

เสียงตะโกนดังกึกก้องปลุกกำลังใจพวกเฉินหนงทั้งหมด

เหล่าสาวกทั้งหลายที่ติดอาวุธครบมือตั้งแต่ธนูไปจนถึงปืนและมีดปังตอ ต่างก็กรูเข้าไปหาเด็กหนุ่มอย่างบ้าคลั่ง

หลีมู่เตะแผ่นหินใต้เท้าของเขาพุ่งกระแทกพวกเขาด้วยแรงอันมหาศาลจนกระดูกหักไปหลายท่อน เลือดสีแดงกระจายออกมาจากปากทุกคนพร้อมกับเสียงกรีดร้องโวยวาย

นี่ขนาดยังไม่ได้ต่อสู้จริงจัง พวกสาวกก็ถูกกวาดล้างไปเกือบครึ่ง

หลีมู่นั้นไม่ชอบการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ ดังนั้นเขาจึงหาวิธีจัดการพวกมันให้เร็วที่สุด และด้วยพลังที่เขามีในร่างมันทำให้พวกศัตรูที่ใส่เกราะนั้นเมื่อเทียบกันแล้วช่างดูบอบบางไม่ต่างอะไรกับกระดาษที่ช่วยให้พวกเขาตายเร็วขึ้น

ฉีกงจิ้งเปลี่ยนสีหน้าเป็นโศกเศร้าทันทีที่เขารู้ตัวว่าไม่สามารถสู้พลังหลีมู่ได้

เขาถอยไปหยิบธนูใหญ่จากกำแพง

ธนูนั่นมีสีเงินที่ดูเหมือนว่าจะถูกร้อยขึ้นมาจากเถาวัลย์ 7 สายมัดเข้าด้วยกันช่างดูเหมือนกับงู 7 ตัวพันกันเอง มันถูกขึ้นสายด้วยเชือกรัดสีขาวนวลทำให้มันดูแปลกตาและทรงพลังกว่าธนูใดๆ

แน่นอนว่ามันต้องโคตรมีน้ำหนักที่มากด้วย

แม้แต่ผู้นำที่เก่งกาจอย่างฉีกงจิ้งก็ยังไม่อาจถือมันไว้ได้อย่างมั่นคง

“ข้าจะใช้ธนูสังหารเทพนี่ส่งเจ้าไปลงนรก!”

เขาบ่นพึมพำกับตัวเองและมองไปยังหลีมู่ที่กำลังต่อสู้อยู่ตรงกลางห้อง

ลูกธนูหัวพิเศษที่ทำจากเขี้ยวหมาป่าถูกทาบลงไปบนคันศร ฉีกงจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆประสานปราณเข้าด้วยกัน เกิดเป็นชั้นสีเขียวขึ้นที่แขนของเขา ในฐานะของปรมาจารย์ด้านการใช้ปราณร่วม เขาสามารถเร่งกำลังของตนได้ผ่านทางวิธีนี้

ฉีกงจิ้งง้างสายธนูด้วยกำลังทั้งหมดที่มีพร้อมกับเล็งไปยังหลีมู่ที่ในตอนนี้ฆ่าสาวกของเขาไปมากกว่า 2 ใน 3 แล้ว

ด้วยการฝึกพลังเชียนเถียนที่มากพอ ทำให้ประสาทสัมผัสของเขาไวจนคนปกติไม่อาจตามได้ทัน พวกสาวกถูกหักกระดูกและทำลายกล้ามเนื้อทุกส่วนหลังจากที่ถูกแตะแค่เพียงหมัดจากหลีมู่... ดูยังไงก็ 1 รุม 10 ชัดๆ

“ตายห่าไปซะ!”

ฉีกงจิ้งรอจังหวะที่สวยงามที่สุดและปล่อยมือที่ดึงสายธนูอยู่ ไม่มีแม้กระทั่งเสียงเสียดสีกับลม

ลูกศรพุ่งออกไปด้วยความรวดเร็วที่แม้แต่คนธรรมดายังไม่อาจมองตามได้ทัน

ในจังหวะเดียวกันหลีมู่ที่สัมผัสได้ถึงอันตรายก็ได้พยายามป้องกันร่างกายของตนเอง

ตู้ม!

ร่างของเด็กหนุ่มถูกศรปักเข้าที่หัวไหล่ซ้าย แรงอัดกระแทกส่งเขากระเด็นออกไปไกลและกระแทกเข้ากับกำแพงถ้ำเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น

หลีมู่ถูกตรึงอยู่บนกำแพงนั่น

โฟ่ว! โฟ่ว! โฟ่ว!

ขนนกตรงปลายศรส่งเสียงดังอย่างประหลาด

ความรู้สึกร้อนผ่าวเกิดขึ้นบนหัวไหล่ของเด็กหนุ่ม เมื่อเขาหันไปเห็นมันจากนั้นจึงอ้าปากหายใจอย่างรุนแรง เพื่อเก็บความเจ็บปวดเอาไว้ข้างในที่มันรุนแรงเสียจนเขาเกือบจะสลบไป

“ฮ่าฮ่า รีบไปฆ่ามันเร็ว!”

ฉีกงจิ้งหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

สาวกที่เหลืออยู่ราวๆ 5 ถึง 6 คนพุ่งดาบของพวกเขาไปหาหลีมู่ทันที

เด็กชายเริ่มสติขาดผึ่ง จิตใจของเขากำลังตกอยู่ในความคุ้มคลั่ง เขากระแทกขาเข้ากับกำแพงเพื่อพาตัวเองออกมาโดยที่ยังมีลูกศรนั่นปักอยู่บนหัวไหล่

ความรวดเร็วที่ดูเหมือนจะธรรมดา

แต่ทว่า!

มันเร็วเกิน! เร็วเกินไปแล้ว!

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ร่างของสาวกที่ยังเหลืออยู่อีก 5 คน พวกเขาทำได้แค่มองเป็นเงาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเข้ามาหาเขาแล้วจากนั้นร่างของพวกเขาก็แตกสลายกลายเป็นเศษเนื้อ

หลีมู่พุ่งตรงไปยังฉีกงจิ้ง

ชายวัยกลางคนหวาดกลัวมากและใช้พลังปราณดึงร่างของเขาให้ถอยไปด้านหลังพร้อมกับง้างธนูยิงกลับไป

แต่ทว่าเด็กหนุ่มกลับเตรียมตัวมาพร้อมดีกว่าคราวก่อน

ด้วยความเร็วที่เหนือมนุษย์หลีมู่หลบศรพวกนั้นกลางอากาศได้สามครั้งอย่างฉิวเฉียด ทิ้งความร้อนของการเสียดสีระหว่างอากาศกับศรีษะของเขาได้ดี

“เจ้ามันสวะแท้ๆ ใช่ไหมฉีกงจิ้ง?”

เด็กหนุ่มถามด้วยเสียงดังก้อง

ฉีกงจิ้งไม่ตอบและใช้ปราณดึงร่างของเขาให้หลบอยู่ตลอดเวลา และมือของเขาก็เรียกธนูออกมาใช้อยู่เรื่อยๆ เขาพยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้ประชิดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขารู้ดีว่าหากปะทะกันตรงๆยังไงเขาก็พ่ายแพ้

หลีมู่หยุดตัวเองลง และใช้ประสาทสัมผัสอันแหลมคมคว้าลูกศรกลางอากาศไว้ได้แล้วจากนั้น

ตู้ม!

หลีมู่ส่งพลังลงไปยังขาของเขา เกิดรอยร้าวขึ้นใต้เท้าที่เขายืนอยู่ แล้วตัวเขาก็พุ่งออกไปข้างหน้าราวกับกระสุนปืนใหญ่ใส่ฉีกงจิ้ง และกระแทกเข้าที่พุงเขาอย่างจัง

ตู้ม!

ฉีกงจิ้งกระอักเลือดออกมาจากปาก เครื่องในของเขาแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี โชคยังดีอยู่บ้างที่เขาใส่เกราะอยู่ไม่งั้นร่างของเขาน่าจะกลายเป็นชิ้นเนื้อไปแล้ว เขากระเด็นไปข้างหลังหลายเมตรก่อนที่จะกระแทกกับกำแพงถ้ำจนกลายเป็นรอยฝังลึกบนกำแพง

ชายวัยกลางคนไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป เลือดกองใหญ่ถูกพ่นออกมาจากปาก

หลีมู่ค่อยๆย่างก้าวไปหาเขาอย่างโกรธเกรี้ยว

“ฮ่า...” ฉีกงจิ้งรู้ตลอดเวาลาว่าเขาเดินเกมนี้พลาด

เขาพลาดตั้งแต่ที่อยากจะฆ่าหลีมู่ด้วยความเกลียดชัง ถ้าเขาหนีไปตั้งแต่แรกนั่นก็อาจจะทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่เขาก็ดันเห็นศักดิ์ศรีที่สำคัญกว่า ซึ่งนั่นก็นำพาเขาไปจนถึงจุดจบในชีวิตตัวเอง

“สวะอย่างเจ้าควรจะตายซักหมื่นครั้งนะ บอกข้ามาซิว่าเจ้าอยากจะตายแบบไหน?”

“แบบไหนงั้นเหรอ?” ฉีกงจิ้งรู้ดีว่าเขาไม่น่ารอดแล้ว เขามองไปที่หลีมู่แล้วหัวเราะออกมา “ข้าเห็นคนตายมานักต่อนักแล้ว ตั้งแต่ทารกไปจนถึงคนแก่... ฮ่าฮ่า ข้าฆ่าทุกคนที่เข้ามาในชีวิตข้าจนในที่สุดความตายก็เข้ามาหาข้าแล้วสินะ ในโลกที่แสนเน่าเฟะแห่งนี้ไม่ว่าใครๆก็ต้องตายลงซักวัน ไม่เว้นแม้แต่จักรพรรดิด้วยซ้ำ ข้ามีชีวิตอยู่อย่างคุ้มค่าแล้ว แล้วเจ้ากลับมาถามว่าข้าอยากจะตายแบบไหนงั้นเรอะ?”

เขายังคงหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ข้า อยาก จะ ตาย ไป พร้อม กับ เจ้า... มังกรมรกต! จงออกมา!”

สิ้นสุดคำพูด ก็เกิดเสียงดังสนั่นพร้อมกับแสงสีเขียวพุ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำ

มันเคลื่อนที่อย่างรวดเร้วและรัดร่างของหลีมู่เอาไว้ มันคืองูอนาคอนด้าขนาดใหญ่ที่มีจุดสีเขียวอยู่ตามร่างกาย หัวของมันมีรูปร่างที่ดูน่ากลัวราวกับเป็นมังกร

“บ้าจริง!”

มันรัดร่างของหลีมู่ไว้ก่อนที่เขาจะทันตอบโต้ เขาใช้แขนทั้งสองข้างจับปากทั้งบนและล่างของมันไว้เพื่อไม่ให้มันกัดเขา

ทันใดนั้นมือของเขาก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความเหน็บชาไร้เรี่ยวแรง

มีพิษงั้นเหรอ?

สีหน้าของหลีมู่เปลี่ยนไปชัดเจน

“ฮ่าฮ่า ยอมแพ้ซะเถอะ มังกรตัวนี้เป็นสายพันธ์พิเศษของเทือกเขาไถไป๋ที่สามารถกลืนกินเสือได้ทั้งตัว ข้าจ่ายไปเยอะเพื่อให้ได้ตัวมันมาแล้วเลี้ยงมันด้วยสารพัดสมุนไพรจนกลายเป็นแบบนี้ยังไงล่ะ... เจ้าไม่รอดแล้วล่ะ มันปล่อยพิษออกมารอบๆตัวตลอดเวลา ลาก่อน... แล้วเจอกันในนรก!”

ฉีกงจิ้งหัวเราะอย่างขมขื่นก่อนจะยิ้มและกระอักเอาเลือดและเครื่องในที่เหลวแหลกออกมา

ด้านหลีมู่เขาเริ่มรู้แล้วว่าพิษร้ายของมันเริ่มกัดกินเข้ามาเรื่อยๆ แขนของเขากำลังหมดแรงและจะไม่สามารถต้านทานแรงของมันไว้ได้ คมเขี้ยวของมันค่อยๆขยับเข้ามาใกล้หน้าหลีมู่ทีละน้อยๆ พร้อมด้วยกลิ่นสาบสกปรกที่ทำเอาเด็กหนุ่มแทบจะสลบ