ตอนที่แล้วโปรเพลเยอร์วัยเกษียณ (SMRiaG) บทที่ 4 เริ่มต้นการเดินทาง [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปโปรเพลเยอร์วัยเกษียณ (SMRiaG) บทที่ 6 ความลึกลับ [อ่านฟรี]

โปรเพลเยอร์วัยเกษียณ (SMRiaG) บทที่ 5 ค่าประสบการณ์ที่หายไป [อ่านฟรี]


บทที่ 5 ค่าประสบการณ์ที่หายไป

“มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ตาเฒ่า?” คนแคระคนเดิมกับที่ตั้งคำถามก่อนหน้านี้ ยังคงมีหน้าตาบูดบึ้งเช่นเดิมแต่ผสมรอยยิ้มเข้าไปบนใบหน้าด้วย

ไอเซ็นหัวเราะแก้เขินและลูบเครา “โทษที โทษที พอดีฉันมาใหม่น่ะ เมืองนี้สวยมากเลยนะ สวยจนฉันยืนเหม่อไปเลย”

คนแคระขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วทันใดนั้นไอเซ็นก็รู้สึกเสียววาบไปตามกระดูกสันหลัง เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขารู้สึกเหมือนมีบางสิ่งมองทะลุเข้ามาถึงวิญญาณของเขา ทันใดนั้นคนแคระก็ลืมตาด้วยความตกใจและอ้าปากค้าง

“อะไรเนี่ยนายแค่เลเวลหนึ่งเองเหรอ? อายุปูนนี้แล้วเนี่ยนะ? แถมมีแค่ทักษะเดียวอีกด้วย ทักษะการประเมิน อันดับศูนย์? มันเป็นไปได้ยังไงกัน?!” เขาตะโกนด้วยความไม่เชื่อและเดินไปรอบ ๆ ไอเซ็น เขาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง “นี่ตาเฒ่าบอกฉันมาว่านายเป็นใคร?” เขาตัดสินใจถามในที่สุด ยืนกอดอกขณะมองไอเซ็นด้วยความสงสัย

ไอเซ็นกลืนน้ำลายลงคอและก้มมองหัวคนแคระขณะกำลังคิดว่าควรทำอย่างไรดี ตอนนั้นเองที่เขานึกถึงคำแนะนำของเอริ “ฉันไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอกพ่อหนุ่ม ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร อย่างเดียวที่ฉันรู้เกี่ยวกับตัวเองก็คือค่าสถานะ ฉันชื่อไอเซ็น และฉันเลเวลหนึ่ง เป็นครึ่งยักษ์ครึ่งคนแคระ ไม่มีอาชีพ ตอนนี้นายก็รู้เท่าฉันละ ฮ่า ๆ” เขาหัวเราะอย่างเขิน ๆ และมองหน้าคนแคระ จู่ ๆ เขาก็ถลึงตาด้วยความประหลาดใจ

“พระเจ้าช่วย! นายเป็นครึ่งยักษ์ครึ่งคนแคระเหรอ?! ฉันตกใจกับจำนวนค่าสถานะทั้งหมดของนายซึ่งไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนเลย! ฉันคิดว่านายเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา! ไม่เคยเจอใครแบบนี้มาก่อนเลย! ฟังนะ ตาเฒ่า ฉันเห็นบางอย่างไม่ชอบมาพากล ฉันสงสัยบางอย่าง มากับฉันหน่อยไหม ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งที่อาจช่วยนายได้” คนแคระอธิบายด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ก็ยังมีรอยยิ้มที่น่าสงสัยอยู่ดีและตัดสินใจที่จะเดินไปตามถนนที่ขดเป็นก้นหอย เมื่อตัดสินใจที่จะตามคนแคระไป ไอเซ็นยักไหล่และก้าวขึ้นไปเดินข้าง ๆ คนแคระเพื่อหยุดเขาและแนะนำตัวเองอย่างเหมาะสมอีกครั้ง

เขายื่นมือออกมาเพื่อจะเขย่ามือกับคนแคระ เขาพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง “ขอบใจที่ช่วยนะพ่อหนุ่ม! ฉันชื่อไอเซ็น”

คนแคระตรงหน้าเขาหัวเราะเล็กน้อยและเขย่ามือกับไอเซ็น “ฉันชื่อเบลริม ยินดีที่ได้รู้จัก ตาเฒ่า”

เบลริมและไอเซ็นเดินต่อไปตามทางโดยไม่ได้พูดอะไรกันจนกระทั่งมาถึงหน้าร้านค้าร้านหนึ่ง ไอเซ็นมองเห็นขวดแก้วรูปแบบต่าง ๆ ผ่านทางหน้าต่าง ในขวดบรรจุของเหลวสี ๆ ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าคืออะไร ข้าง ๆ ขวดแก้วมีหนังสืออยู่สองสามเล่มแต่เขาอ่านไม่ออกเพราะมันถูกเขียนด้วยตักอักษรที่เขาจำไม่ได้ เหนือหน้าต่างขึ้นไปมีป้ายไม้ที่ถูกสลักว่า ‘สารพัดเวทมนต์’

“จะไปด้วยกันไหมตาเฒ่า? ฉันไม่มีเวลาทั้งวันนะ” เบลริมบ่นและเปิดประตูร้าน ก้าวเข้าไปในร้าน ตามมาด้วยไอเซ็นที่กำลังสงสัยอยู่ว่าสถานที่นี้คืออะไร

เบลริมมองรอบ ๆ ร้านและหลังจากไม่เห็นใครจึงเดินไปที่ประตูหลังร้าน “เฮ้ย มอร์โรม แกมีลูกค้าน่ะเจ้าบ้าเอ้ย!” เขาตะโกนเข้าไปยังความมืดมิดด้านหลังประตู และการตอบสนองเดียวที่ไอเซ็นได้ยินมาจากด้านหลัง มาพร้อมกับเสียงแก้วหล่นแตก หลังจากได้ยินเสียงนั่น เบลริมก็ถอนหายใจออกมาเสียงดังและยกมือขึ้นกุมหน้าผากพร้อมบ่นออกมา “อย่าเผลอฆ่าตัวตายเสียล่ะ!”

“โทษที โทษที ฮ่า ๆ...” ชายหนุ่มคนหนึ่งอายุราวยี่สิบปีเดินออกมาจากความมืด เขาสวมผ้าคลุมยาวถึงข้อเท้า ผมยุ่งและมีเคราสั้น ๆ ที่ดูเหมือนเพิ่งขึ้นใหม่หลังจากโกนไปเมื่อไม่กี่วันก่อน หูของเขาชี้แหลมเล็กน้อย จึงทำให้ไอเซ็นนึกถึงซีเนีย แต่เมื่อเทียบกับหูของเธอแล้ว หูของเด็กหนุ่มคนนี้ดูโค้งกว่า เขาสูงกว่าเบลริมนิดเดียว แขนขาของมอร์โรมก็ไม่ได้หนาเท่า แต่ก็ยังดูใหญ่กว่าแขนของคนปกติทั่วไป

หลังจากมอร์โรมเดินเข้ามาในห้องและยืนที่เคาน์เตอร์ เบลริมก็หันกลับมาหาไอเซ็นและกอดอก “นี่คือมอร์โรม เขาเป็นลูกครึ่งแบบนาย ครึ่งคนแคระครึ่งเอลฟ์ที่ไม่ค่อยปกตินัก เขาเป็นพวกคลั่งเวทมนต์ของเมือง เขาน่าจะช่วยอะไรนายได้บ้างนะ”

ไอเซ็นเอียงหัวด้วยความสงสัย “ช่วยฉันเรื่องอะไร?”

เบลริมถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดและส่ายหน้า “ตาเฒ่า ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกนะ แต่ดูเหมือนค่าประสบการณ์ของนายจะถูกขโมยไป ฉันก็ไม่รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนจะมีสัญญาณบอกว่าเป็นอย่างนั้นนะ บอกฉันทีว่าตอนที่นายตื่นขึ้นมาอยู่ในป่า นายไม่ได้มีทักษะอะไรติดตัวมาเลยใช่ไหม? นายได้ทักษะการประเมิณมาระหว่างทางมาเมืองใช่ไหม?”

ไอเซ็นพยักหน้าทันที และอธิบายให้เขาฟังว่าตนประเมินทุกอย่างที่เห็นระหว่างเดินทางมาที่นี่จนเลเวลทักษะสูงเช่นนั้น

หลังจากนั้นเบลริมเพียงพยักหน้าราวกับว่านี่พิสูจน์คำพูดของเขาได้ มอร์โรมคว้าแขนสั้น ๆ ของคนแคระไว้ด้วยความที่ไม่เชื่อพร้อมทั้งมองชายร่างสูงใหญ่ที่เข้ามาในร้านเขาด้วย “นายแน่ใจเหรอว่าเขาไม่ทักษะอะไรเลย?!”

เบลริมพยักหน้า “เอาหัวเป็นประกันเลยว่าค่าประสบการของตาเฒ่าเนี่ยถูกขโมยไป ฉันรู้ว่าการที่จะดึงเลเวลกับความทรงจำเขากลับมาเป็นไปได้ยาก แต่อย่างน้อยบางทีแกอาจจะดึงทักษะเขาบางส่วนกลับมาอีกครั้งได้ มอร์โรม”

มอร์โรมถอนหายใจเสียงดังขณะยืนคอตก “ฉันจะลองดู แต่มันก็ไม่ง่ายเลยนะที่จะสัมผัสวิญญาณของคน ๆ หนึ่งได้”

ไอเซ็นยืนมองด้วยความสงสัยว่าพวกเขาพูดอะไรกัน เขาไม่มีทักษะอะไรเลยตั้งแต่เริ่ม แล้วพวกเขาจะเอามันกลับมาได้อย่างไร? แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เขาจึงตัดสินใจเออออตามไปก่อน “โอ้? เรื่องแบบนั้นมันเป็นไปได้ด้วยเหรอ?”

“ก็ใช่น่ะสิตาเฒ่า! ไม่อย่างงั้นฉันจะพานายมาที่นี่ทำไม? แต่ฉันจะต้องไปละ ต้องกลับไปทำงานในเหมืองต่อ มอร์โรม ฉันฝากด้วยนะ”

“ขอบใจเบลริม ฉันจะทำให้ดีที่สุด!” มอร์โรมตอบด้วยความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมและมองไอเซ็นด้วยรอยยิ้ม เบลริมถอนหายใจพร้อมด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ก่อนจะออกจากร้าน “ก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้วล่ะเจ้าบ้า”

ไม่ช้าเมื่อประตูถูกปิดลง มอร์โรมจึงเดินเข้ามาหาไอเซ็นและเงยหน้ามองเขา แบมือและกล่าวแนะนำตัวเอง เขาเขย่ามือกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มและแนะนำตัวเขาเองเช่นกัน

“เอาล่ะ!” มอร์โรมเปล่งเสียงออกมาอย่างมีความสุขและปรบมือเข้าด้วยกัน “มาเริ่มกันเลยนะครับ! ขั้นตอนแรกรบกวนคุณช่วยถอดเสื้อออกได้ไหมครับ คุณไอเซ็น?”

“หืม? โอ้ ได้สิ ๆ” โดยไม่มีข้อกังขาใด ๆ ไอเซ็นถอดเสื้อทันทีขณะที่มอร์โรมกำลังค้นหาวัสดุบางอย่างจากด้านล่างเคาน์เตอร์และผสมมันเข้าด้วยกัน ของเหล่านั้นดูเหมือนหมึกสีดำ และสมุนไพรบางชนิดที่เขาเองก็จำไม่ได้ พร้อมด้วยแป้งสีฟ้า หลังจากผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันเป็นของเหลวชนิดหนึ่ง มอร์โรมก็มองไอเซ็น “โอ้ เอ่อ คุณเป็นมนุษย์ใช่ไหม?” เขาถามด้วยรอยยิ้มเคอะเขิน เมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ถามคำถามนี้ตั้งแต่แรก

ไอเซ็นส่ายหน้าและหัวเราะเบา ๆ “เปล่าพ่อหนุ่ม ฉันเป็นครึ่งยักษ์ครึ่งคนแคระ เบลริมบอกว่าฉันเป็นลูกครึ่งจำไม่ได้เหรอ?”

แก้มทั้งสองข้างของมอร์โรมเป็นสีชมพูและหัวเราะออกมา “ฮ่า ๆ...ขอโทษครับ...” เขาพึมพำและใส่ผลึกเล็ก ๆ สองก้อนลงไปในของเหลวและละลายหายไปในพริบตา ชายครึ่งคนแคระครึ่งเอลฟ์หันมาหาไอเซ็นและเดินไปข้างหลังเขา “มันจะรู้สึกเย็น ๆ หน่อยนะครับ ขอโทษด้วยนะครับ ฮ่า ๆ”

“ไม่เป็นไรหรอกพ่อหนุ่มฉันเอาอยู่!” ไอเซ็นหัวเราะเสียงดังและกอดอกเพื่อรอให้มอร์โรมลงมือ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็รู้สึกเย็น ๆ เมื่อหมึกสัมผัสกับแผ่นหลังของเขาผ่านพู่กัน เขาไม่ได้สนใจความรู้สึกเย็บวาบที่หลัง แต่เขาสงสัยมากกว่ามอร์โรมกำลังทำอะไร แต่ก็เขาก็เลือกที่จะรอจนเพื่อที่ชายหนุ่มคนนี้จะได้มีสมาธิ

มอร์โรมยังคงสะบัดพู่กันต่อไปอีกสิบห้านาที จากนั้นก็รออีกห้านาทีเพื่อให้มันแห้งสนิท

หลังจากนั้นเขาก็ประทับทั้งสองข้างบนสิ่งที่เขาวาด ไอเซ็นรู้สึกถึงพลังงานอุ่น ๆ เข้าสู่ร่างกาย เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน และความอบอุ่นนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งร่างกายของเขาราวกับมีใครเทน้ำร้อนราดลงไป

[ทักษะติดตัวถูกล็อคเพื่อซ่อนตัวตนของคุณในฐานะผู้เล่นคนหนึ่ง และลวงว่าค่าประสบการณ์ของคุณถูกขโมย โปรดเล่นต่อไปตามอรรถบทตามเท่าที่มันยังสำคัญอยู่ ตอนนี้คุณได้ทักษะกลับคืนมาแล้ว ขอให้สนุกกับการเล่นเกมนะคะ ไอเซ็น!

-เอริ

ปัจฉิมลิขิต : ฉันจะขอทางไปโรงแรมให้นะคะ]

[ปลดล็อคทักษะติดตัว ‘ความแข็งแกร่งของยักษ์’ สำเร็จ]

[ปลดล็อคทักษะติดตัว ‘หัตถ์คนแคระ’ สำเร็จ]

[ปลดล็อคฉายา ‘ผู้บุกเบิกแห่งศาสตร์เชิงกลไก’ สำเร็จ]

ไอเซ็นสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ การแจ้งเตือนนี้ปรากฏขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ จนมอร์โรมที่อยู่ข้างหลังเองก็ตกใจและล้มจ้ำเบ้าลงกับพื้น “โอ๊ย...คุณไอเซ็น เกิดอะไรขึ้น?” เขาถามพลางลูบก้นไปด้วย เขาถอนหายใจเมื่อเห็นวงกลมเวทมนต์ที่เขาวาดบนหลังไอเซ็นค่อย ๆ จางหายไปเป็นสัญญาณที่บอกว่าเขาทำสำเร็จ

“เอ่อ โทษทีพ่อหนุ่ม! ดูเหมือนว่าฉันจะได้ทักษะติดตัวมาสองกับฉายาอีกหนึ่งนะ เลยตกใจไปนิดหนึ่ง ฮ่า ๆ…” ไอเซ้นหัวเราะพลางเกาเคราไปด้วยและมองไปยังชายที่อยู่ด้านหลังที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเล็กน้อย “ได้กลับมาแค่ทักษะติดตัวเองเหรอครับ? เอาเถอะ ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย งั้นเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด ถ้าดูจากเผ่าพันธุ์ของคุณก็น่าจะเป็น...ความแข็งแกร่งของยักษ์กับหัตถ์คนแคระ ถูกต้องไหมครับ?” มอร์โรมหลับตาลงและกอดอก พยายามนึกชื่อทักษะติดตัวของยักษ์ที่ถูกต้อง

“ถูกต้องพ่อหนุ่ม นั่นคือสองทักษะที่ฉันเพิ่งได้มา” ไอเซ็นพยักหน้าเป็นการยืนยันและยืนขึ้น สวมเสื้อกลับดังเดิม จากนั้นก็หันไปเผชิญหน้ากับมอร์โรม “ดูเหมือนอาทิตย์จะใกล้ลับขอบฟ้าแล้วนะ ในเมืองนี่มีโรงแรมเล็ก ๆ ไหม?”

มอร์โรมพยักหน้าด้วยความประหลาดใจ ไม่ทันคิดว่าจู่ ๆ เขาจะถามคำถามนี้

“ราคาต่อคือเท่าไหร่เหรอ? เอ่อ และที่นั่นมีร้านอาหารหรือบาร์ไหม?” ไอเซ็นถามเพื่อจะได้รู้ว่าค่าเงินที่เขามีนั้นมากน้อยแค่ไหน

“เอิ่ม...ห้าทองแดงต่อคืน และใช่ครับที่นั่นมีทั้งร้านอาหารและบาร์ ราคาเครื่องดื่มอยู่ที่หนึ่งทองแดง และดินเนอร์อยู่ที่สองหรือสามทองแดงครับ” มอร์โรมอธิบายอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไอเซ็นก็กอดอกและพยักหน้าราวกับเขาเพิ่งตัดสินใจบางอย่างได้ “เอาล่ะมอร์โรม! งั้นฉันจะเลี้ยงดินเนอร์นายคืนนี้! แล้วก็เครื่องดื่มด้วย!” ไอเซ็นหัวเราะดังลั่น เป็นมารยาทโดยทั่วไปที่เราจะตอบแทนใครที่เขาได้ช่วยเหลือเราไว้

“เอ่อ? แน่ใจเหรอครับ? คุณมีเงินเหรอ?” มอร์โรมถาม ไอเซ็นไม่ได้รู้สึกว่าโดนดูถูก ซึ่งไอเซ็นก็ไม่ได้คิดว่ามอร์โรมคิดกับตัวเองเช่นนั้นเพราะสังเกตจากที่เขามอง เขากลับประหลาดใจเสียมากกว่าที่เห็นชายที่สูญเสียความทรงจำเดินเตร่ไปทั่วและใช้เงินเพื่อค้างโรงแรมหนึ่งคืนแถมยังเลี้ยงดินเนอร์และเครื่องดื่มแก่เขาอีก

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกมอร์โรม! ฉันมีเงินเยอะ ฮ่า ๆ ๆ! นายปิดร้านตอนไหนล่ะ?” ไอเซ็นถามด้วยรอยยิ้มกว้างขณะตบหลังเขาเบา ๆ มอร์โรมอธิบายว่าปกติเขาจะปิดในอีกชั่วโมงข้างหน้า แต่จะเก็บร้านเร็วขึ้นเนื่องจากวันนี้ไม่ยุ่งมากเท่าไหร่

ไอเซ็นยักไหล่ และบอกมอร์โรมว่าเขาไม่รังเกียจที่จะรอ จากนั้นขณะที่มอร์โรมเดินไปหลังร้านและเริ่มทำความสะอาด ไอเซ็นจึงถือโอกาสนี้ตรวจสอบทักษะและฉายาใหม่ของเขา

[ชื่อ – ความแข็งแกร่งของยักษ์]

[อันดับ – 0] [เลเวล – 1]

[คำอธิบาย]

[ความแข็งแกร่งโดยธรรมชาติของยักษ์ เพิ่มพลังกายภาพอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปิดใช้งาน]

[อิทธิพล]

[ค่าความแข็งแกร่ง +10% เป็นเวลา 10 นาที]

[ชื่อ – หัตถ์คนแคระ]

[อันดับ – 0] [เลเวล – 1]

[คำอธิบาย]

[ความสามารถโดยธรรมชาติของมือคนแคระ มือทั้งสองข้างของคุณจะคล่องแคล่วและว่องไว้มากขึ้นเมื่อเปิดใช้งาน]

[อิทธิพล]

[ค่าความว่องไวที่มือของคุณ +20% เป็นเวลา 30 นาที]

[ฉายา – ผู้บุกเบิกแห่งศาสตร์เชิงกลไก]

[คำอธิบาย]

[เอกลักษณ์เฉพาะแค่ไอเซ็นเท่านั้น เนื่องจากเขามีความรู้มากมายเกี่ยวกับงานฝีมือที่หลากหลายซึ่งมีอิทธิพลต่อช่างฝีมือทุกคนบนโลก]

[อิทธิพล]

[เพิ่มโอกาสทองที่สูงขึ้นในด้านงานฝีมือ]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด