ตอนที่แล้วตอนที่ 311 เข้าสู่ขอบเขตแดนลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 313 แผนใส่ร้ายอันต่ำทราม

ตอนที่ 312 อสรพิษเปี่ยมโลหิตกุ่ยฟู่


* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *

**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**

หลงเฉินพึ่งจะเข้ามาภายในขอบเขตแดนลับนพเก้าได้ไม่นาน ก็รู้สึกถึงพลังขุมหนึ่งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนพุ่งเข้าใส่ใต้ฝ่าเท้า ดารากักวายุที่ใต้ฝ่าเท้าเขาก็ได้ทำการดูดซึมพลังสภาวะนั้นอย่างบ้าคลั่ง โดยไม่จำเป็นที่จะต้องให้เขาเริ่มทำการไหลเวียนพลังขึ้นมา

ขณะที่ดารากักวายุกำลังดูดซึมพลังสภาวะขุมนั้นอยู่ หลงเฉินก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า ดารากักวายุที่เดิมทีเป็นเพียงเม็ดเล็กๆ กำลังมีขนาดใหญ่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ภายในดารากักวายุถึงกับปราฏเป็นพื้นที่ท้องหุบเขาธาราที่กว้างใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง คล้ายกับว่าเปลี่ยนเป็นดั่งโลกใบใหม่ ที่ทั้งงดงามและแปลกประหลาด

“หรือนี่จะเป็นดาราแปรเปลี่ยนที่แท้จริงอย่างงั้นหรือ ?”

หลงเฉินจ้องมองไปที่จุดดารากักวายุที่ดูคล้ายกับโลกหล้าที่สมบูรณ์แบบแห่งหนึ่ง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความหวาดหวั่นขึ้นมาภายในจิตใจ ที่จุดดารากักวายุเขาสัมผัสได้ถึงพลังแรงกดดันอันมหาศาล ที่สามารถทำลายล้างได้แม้กระทั่งสวรรค์ บดขยี้ท้องนภา

ทว่าในขณะนี้ เขากลับทำได้เพียง ‘สัมผัส’ ถึงพลังขุมนั้นเท่านั้น ยังไม่สามารถที่จะ ‘ใช้’ พลังอันมหาศาลนั้นได้เลย แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนแตกตื่นตกใจขึ้นมาได้แล้ว

ดารากักวายุได้รับการกระตุ้นพลังอย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็ค่อยๆหยุดลงอย่างช้าๆในเวลาต่อมา ทว่าหลงเฉินก็รู้สึกได้ในทันทีว่า พลังที่ติดอยู่ตรงคอขวดได้สลายหายไปแล้ว

หยาดโลหิตที่เงียบสงบอยู่ภายในร่างกายมาอย่างยาวนาน ก็ได้เริ่มต้นทำการดูดซับพลังลมปราณจากภายนอกเข้ามาอีกครั้ง และในที่สุดครั้งนี้หลงเฉินเข้าใจขึ้นมาแล้ว

ที่ก่อนหน้านี้ เขาพบกับทางตันของการฝึกปรือ จนไม่อาจที่จะก้าวหน้าต่อไปได้ ก็เนื่องจากว่าที่โลกภายนอกมีพลังสภาวะอันเก่าแก่หลงเหลืออยู่น้อยมากนั่นเอง

“คงไม่หรอกมั้ง สภาวะจากพื้นที่เช่นนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับเคล็ดวิชากายานวดาราด้วยอย่างงั้นหรือ ? ถ้าเช่นนั้นหากออกไปจากแดนลับแล้ว มิใช่กลายเป็นว่าข้าจะไม่อาจทะลวงพลังได้ตลอดไปหรอกหรือ ?”

คิดได้เช่นนั้นหลงเฉินตกใจขึ้นมายกใหญ่ เขาสัมผัสได้ถึงหยาดโลหิตที่อยู่ภายในร่างกำลังดูดกลืนพลังจากสภาพอากาศอย่างบ้าคลั่ง เขายิ่งคิดก็ยิ่งแน่ใจว่าต้องเป็นไปตามที่ตนเองคาดเดาเอาไว้อย่างแน่นอน

“ไม่ถูกต้อง การดูดซับยังคงมีอยู่ นั่นหมายความว่า ภายในแดนลับแห่งนี้ จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเคล็ดวิชากายานวดาราอย่างแน่นอน”

เมื่อได้ลองสำรวจร่างกายของตนเองอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พบว่าในขณะนี้ เขาไม่จำเป็นต้องฝึกปรือใดๆ หยาดโลหิตภายในร่างกายก็ทำการดูดกลืนพลังอันมหาศาลจากภายนอกอย่างบ้าคลั่ง คล้ายกับสัตว์โบราณกาลที่หิวโหยไม่ได้ดื่มเลือดกินเนื้อมาหลายปีก็มิปาน

หากยังเป็นไปเช่นนี้ ด้วยระดับความเร็วเท่านี้ ไม่เกินเจ็ดวัน หลงเฉินจะต้องสามารถเข้าสู่สภาวะก่อโลหิตระดับสูงสุดได้อย่างแน่นอน จนสามารถที่จะทะลวงเพื่อเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็นได้ในที่สุดด้วย

หลงเฉินเงยหน้าขึ้นคิดใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง : ท้องฟ้าในที่แห่งนี้เป็นสีเทาเข้มคล้ายกับธาตุอากาศที่สลัว เต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศอันน่าตื่นตกใจ

หุบเขาที่ล้อมรอบอยู่รอบด้าน ศิลาประหลาดคล้ายสัตว์ป่า ต้นไม้ที่มีรากใหญ่ยักษ์ โดยส่วนมากแล้วสิ่งเหล่านี้ต่างก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ในโลกภายนอก

“เอ๊ะ โลหิตเปี่ยมดารา ?”

ทันใดนั้นสายตาของหลงเฉินก็สะดุดเข้ากับ ต้นยาสมุนไพรต้นหนึ่ง งอกอยู่ตรงหน้าผาที่อยู่เบื้องหน้า ซึ่งมองเห็นอยู่ไม่ไกลมากนัก สมุนไพรนั้นถือได้ว่าเป็นยาล้ำค่า ต้นของมันมีความสูงประมาณหนึ่งเชียะ ออกดอกเป็นสีเลือดปกคลุมอยู่เต็มต้นไปหมด

แต่ดอกไม้มีขนาดที่เล็กเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมองไปจึงดูดุจดั่งดวงดาราสีเลือดที่ปกคลุมไปทั่วทั้งผืนฟ้าก็มิปาน อีกทั้งยังมีกลิ่นอันหอมหวานแผ่ซ่านออกมา

‘โลหิตเปี่ยมดารา’ ถือได้ว่าเป็นวัตถุดิบระดับห้าที่ล้ำค่ายิ่งนัก ทั้งยังเป็นตัวยาหลักในการหลอมยาโสอถระดับห้าอีกด้วย ที่โลกภายนอกนั้นถือได้ว่าไม้ชนิดนี้ล้ำค่าอย่างถึงที่สุด

หลงเฉินพบว่าที่ด้านบนเหนือขอบผาขึ้นไปนั้น มีโลหิตเปี่ยมดารางอกเงยออกมามากมายหลายสิบต้น นี่ทำให้เขารู้สึกยินดียิ่งนัก ขอบเขตแดนลับนพเก้านี้ที่แท้ก็เป็นขุมสมบัติดีดีนี่เอง

วัตถุดิบเช่นนี้ ต่อให้ตนเองไม่ใช้ แต่หากนำไปขายก็ย่อมที่จะสามารถนำไปแลกเป็นวัตถุดิบอื่นได้มากมายมหาศาล ต่อให้อุทิศมอบให้แก่หมู่ตึก ก็ย่อมจะสามารถแลกเป็นแต้มคะแนนที่มากมายมหาศาลได้เช่นกัน ซึ่งแต้มคะแนนเหล่านั้นก็นำไปแลกเปลี่ยนเป็นวัตถุดิบอื่นได้อีกเป็นจำนวนมาก

หลงเฉินกระโดดขึ้นไปด้านบนของหน้าผานั้น แล้วใช้มือเอื้อมไปเด็ดโลหิตเปี่ยมดารา ทันใดนั้นเองขณะที่นิ้วมือกำลังจะสัมผัสโลหิตเปี่ยมดาราต้นนั้น ภายในจิตใจของหลงเฉินก็ได้ร้องเตือนขึ้นมาฉับพลัน จนเขาต้องชักมือกลับมาอย่างรวดเร็วแล้วถอยออกมาก้าวหนึ่ง

“ฟ่อ”

ประกายแสงสีทมิฬสายหนึ่ง ก็ได้พุ่งเข้ามาตรงจุดที่มือของหลงเฉินอยู่เมื่อครู่ หลงเฉินพบว่าเป็นงูน้อยตัวหนึ่ง มีขนาดเล็กเท่าตะเกียบเท่านั้น กำลังขดตัวอยู่ทางด้านข้างของโลหิตเปี่ยมดารา

บนร่างงูตัวนั้นมีลวดลายเป็นสีโลหิต แทบจะไม่แตกต่างไปจากสีของดอกโลหิตเปี่ยมดารานั้นเลย ดังนั้นเมื่องูตัวนี้อำพรางตัวเองอยู่ในต้นโลหิตเปี่ยมดารา ก็ยากที่จะสังเกตเห็น

“อสรพิษเปี่ยมโลหิตกุ่ยฟู่ ?”

หลงเฉินส่งเสียงร้องขึ้นมาอย่างตกใจ ทั้งยังได้รีบถอยไปอีกหลายก้าว ถ้าหากเป็นศิษย์คนอื่น จะต้องไม่รู้จักงูน้อยตัวนี้อย่างแน่นอน แต่ว่าหลงเฉินที่มีความทรงจำของจักรพรรดิโอสถ ทั้งเรื่องของวัตถุดิบ หรือว่าเรื่องของสัตว์มายา เขาล้วนรู้จักดีไม่ต่างอะไรไปจากลายมือของตนเอง

ทว่างูน้อยตัวนี้ แม้มิใช่สัตว์มายา แต่มันกลับมีความน่ากลัวเสียยิ่งกว่าสัตว์มายาเสียอีก นั่นเพราะร่างกายของมันไม่มีพลังแรงกดดันใดๆแผ่ออกมา จึงทำให้ผู้คนมักไม่อาจที่สัมผัสถึงการมีอยู่ของมันได้

ดูลักษณะภายนอก มันก็เพียงแต่เป็นงูน้อยปกติธรรมดาตัวหนึ่งเท่านั้น ต่อให้เป็นเด็กน้อย ก็สามารถที่จะทุบมันจนตายได้

แต่ว่าบนโลกใบนี้ถูกสร้างเอาไว้ด้วยการดำรงอยู่ที่ผู้ใดก็ไม่สามารถคาดเดาถึงได้ เช่นงูน้อยตัวนี้ที่แม้จะมีขนาดเล็กแตกลับมีพิษที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นสัตว์มายาระดับที่สี่ ก็ยังไม่อาจที่จะต้านทานพิษของมันได้

พิษของอสรพิษเปี่ยมโลหิตกุ่ยฟู่นั้น แม้จะไม่ถึงกับคร่าชีวิตได้ แต่ก็สามารถที่จะทำให้เป็นอัมพาตได้ในพริบตา จนไม่อาจจะขยับเขยื้อนร่างกายส่วนใดได้เลย แม้ว่าจะเป็นยอดฝีมือขอบเขตปรือกระดูกก็ยังไม่อาจที่จะต้านทานได้ไหว

และช่วงเวลาของการเป็นอัมพาตนั้น จะไม่ได้ยาวนานมากนัก กินเวลาไปเพียงแค่ประมาณหนึ่งนาทีเท่านั้น ดังนั้น หากนับเฉพาะอาการอัมพาต งูตัวนี้ก็ไม่ได้น่าหวาดกลัวแต่อย่างใด

แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ในยามที่เหยื่ออยู่ในสภาพอัมพาต อสรพิษเปี่ยมโลหิตกุ่ยฟู่จะเล็งเข้าไปที่บริเวณดวงตา พุ่งตรงเข้าฉกลูกตาจากนั้นก็จะใช้ปากของมันกัดกินชอนไชผ่านเข้าไปจนถึงสมอง เพื่อที่จะกัดกินมันสมองของเหยื่อเป็นอาหาร

ที่ส่วนคางของมัน มีเขี้ยวชุดหนึ่งงอกออกมา ลักษณะคล้ายกับเป็นปากขนาดเล็ก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แหลมคมมากนัก แต่ว่าก็พียงพอที่จะกัดกินลูกตาของเหยื่อได้อย่างง่ายดาย

เมื่อลองนึกถึงการตายด้วยสภาพเช่นนั้น ก็ทำให้เกิดอาการขนลุกขนพองอย่างยิ่งยวด การตายนั้นถูกแบ่งไว้อยู่หลากหลายรูปแบบ แต่ว่าการถูกอสรพิษเปี่ยมโลหิตกุ่ยฟู่ฆ่าตาย ถือได้ว่าเป็นการตายที่น่าอเนจอนาจอย่างถึงที่สุด

ดังนั้นเมื่อได้พบเจออสรพิษชนิดนี้ แม้แต่หลงเฉินก็ยังต้องหน้าเปลี่ยนสี เมื่อครู่นี้เนื่องจากตกอยู่ในความหลงระเริง จึงเกือบจะพลาดท่าเสียทีไปแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้น นี่ก็ไม่สามารถบอกว่าเป็นความผิดของหลงเฉินที่ไม่ระวังตัวได้ทั้งหมด เนื่องจากอสรพิษเปี่ยมโลหิตกุ่ยฟู่ถือได้ว่า ได้หายสาบสูญไปจากโลกภายนอกไปเนิ่นนานแล้ว จึงไม่แปลกหากจะคาดไม่ถึงว่าจะได้พบเจอ แต่เพราะที่นี่คือขอบเขตแดนลับนพเก้า ดังนั้นแล้วการปรากฏตัวของอสรพิษเปี่ยมโลหิตกุ่ยฟู่ตัวนี้ จึงสามารถนับเป็นสัญญาณเริ่มต้นในการเตือนภัยแห่งขอบเขตแดนลับนพเก้านี้ ให้แก่หลงเฉิน

ภายในขอบเขตแดนลับนพเก้านี้ ไม่ว่าอะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้ หากไม่ระวังขึ้นมาก็มีแต่ต้องตายอยู่ในที่แห่งนี้เท่านั้น

หลงเฉินล้วงเอาคีมยาวอันหนึ่งออกมา แล้วก็ใช้คีมคีบเข้าไปที่ส่วนหัวของอสรพิษเปี่ยมโลหิตกุ่ยฟู่ตัวนั้น เพื่อไม่ให้มันอ้าปากได้

อสรพิษเปี่ยมโลหิตกุ่ยฟู่นอกเสียจากมีพิษร้ายแล้ว มันก็เป็นเพียงแค่งูธรรมดาเท่านั้น ตามปกติมักอยู่ซ่อนตัวอยู่ภายในต้นโลหิตเปี่ยมดารา เพื่อหวังที่จะลอบโจมตีเหยื่อที่เข้ามาใกล้

ทว่าในตอนนี้หลงเฉินนั้นมีการระวังภัยเอาไว้อยู่แล้ว เจ้างูน้อยนั้นถึงอย่างไรก็ไม่อาจที่จะมีความเร็วเทียบเท่าหลงเฉินได้ จึงถูกหลงเฉินสยบเอาไว้ได้อย่างไม่เหนื่อยแรง

แล้วหลงเฉินก็ล้วงเอาขวดใบหนึ่งออกมา จับงูยัดเข้าไปภายในขวด ปิดผนึกปากขวดด้วยผ้า แต่ก็ไม่กล้าปิดแน่นจนเกินไป เนื่องจากเกรงว่ามันจะตายไปเพราะขาดอากาศ

ของเล่นที่น่าสนุกเช่นนี้ น่าจะมีประโยชน์อยู่ไม่น้อย อย่างไรเสียก็ไม่อาจฟุ่มเฟือยได้ ดังนั้นหากมีช่องให้กอบโกยได้ก็ต้องทำไว้ก่อน ยังดีที่ในมือของหลงเฉินมีแหวนมิติแห่งชีวิตอยู่วงหนึ่ง ที่สามารถเก็บรักษาสิ่งมีชีวิตเอาไว้ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

หลังจากที่ได้เก็บอสรพิษเปี่ยมโลหิตกุ่ยฟู่ตัวนั้นไปแล้ว หลงเฉินก็ใช้คีมสะกิดไปที่โลหิตเปี่ยมดาราอยู่หลายครั้งเบาๆ พร้อมกับใช้พลังแห่งจิตวิญญาณเข้าตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่ง เพื่อให้แน่ใจได้ว่ารอบๆต้นโลหิตเปี่ยมดารา ไม่มีอสรพิษเปี่ยมโลหิตกุ่ยฟู่อยู่อีกแล้ว จึงค่อยเข้าไปดึงต้นไม้นั้นออกมาอย่างระมัดระวัง

ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ หรือวัตถุดิบที่ยังมีชีวิต ต่างก็ถือได้ว่ามีความแข็งแกร่งทั้งด้านพลัง และสรรพคุณที่แตกต่างไปจากวัตถุดิบที่เกิดจากฤทธิ์ยาเป็นอย่างมาก

ซึ่งการทำให้คงอยู่ในสภาพเดิมให้ได้จึงมีความสำคัญ แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ยากเย็นเป็นอย่างยิ่ง อีกส่วนหนึ่งก็คือระดับความยากในการหลอมก็จะเพิ่มขึ้น ดังนั้นวัตถุดิบของการหลอมโอสถที่เก็บไว้ภายนอกแหวนมิติทั้งหมด จึงล้วนเป็นวัตถุดิบที่ธรรมดาสามัญยิ่งนัก เพราะไม่สามารถคงสภาพสดใหม่ไว้ได้

ทว่าในส่วนของวัตถุดิบที่มีค่าอย่างโลหิตเปี่ยมดารานี้ หากคิดที่จะเก็บรักษาเอาไว้ก็พอจะทำได้ อย่างไรเสียภายในแหวนมิติแห่งชีวิตก็ยังมีพื้นที่เหลืออยู่อีกไม่น้อยเลย

เมื่อมีประสบการณ์ครั้งแรกแล้ว หลงเฉินก็ได้รวบรวมสมาธิทั้งหมด ค่อยๆเก็บรวบรวมโลหิตเปี่ยมดาราเหล่านั้นต่อไป

หลงเฉินที่เก็บรวบรวมโลหิตเปี่ยมดาราด้วยกันทั้งหมดสิบเจ็ดต้นไปแล้ว ทั้งยังรวบรวมอสรพิษเปี่ยมโลหิตกุ่ยฟู่มาได้ยี่สิบกว่าตัวอีกด้วย

เขาพบว่าเด็กน้อยเหล่านี้ แม้จะมิได้ซ่อนเร้นอยู่ภายในโลหิตเปี่ยมดารา แต่ก็ซ่อนเร้นอยู่ในโพรงหญ้าอยู่ดี ทั้งยังมีที่ซ่อนอยู่ตามโขดหิน เรียกได้ว่าเจ้าเล่ห์เป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว

และในความเป็นจริงนั้นมีคำบอกกล่าวเอาไว้ว่า การระวังเสียบ้างย่อมไม่ใช่เรื่องเสียหาย จึงทำให้หลงเฉินเกิดความตื่นตัวขึ้นมา จนไม่กล้าที่จะหลงระเริงโลภมากต่อไปอีก เนื่องจากค่าตอบแทนในความอันตรายที่เกิดขึ้นนั้นเรียกได้ว่าสูงเท่าชีวิตเลยทีเดียว

จากที่หลงเฉินคาดเดาเอาไว้ เพียงแค่โลหิตเปี่ยมดาราที่อยู่ในมือเหล่านี้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นแต้มคะแนนได้หลายร้อยหมื่นแต้มแล้ว

ถึงแม้ในตอนนี้แต้มคะแนนหลายร้อยหมื่นแต้มจะไม่ได้มีผลอะไรกับเขามากนัก แต่อย่างไรเสียก็อย่าได้ลืมไปว่า เขาเพียงพึ่งเริ่มเข้ามาในขอบเขตแดนลับนพเก้าเท่านั้น ยังมีอีกหลายแห่งภายในแดนลับ ที่ยังมีสมบัติเช่นนี้ปรากฏขึ้นมาได้อีก

นี่หากว่าถึงเวลาเข้าสู่พื้นที่ใจกลางของแดนลับขึ้นมาจริงๆ เช่นนั้นวาสนาสะท้านฟ้ามากมายก็คงมีรออยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพียงแค่คิดก็ทำให้จิตใจเร่าร้อนขึ้นมาได้แล้ว

เมื่อได้ดูโดยรอบว่าไม่มีวัตถุดิบอะไรแล้ว หลงเฉินก็ได้ล้วงนำเอาหอกเหล็กเล่มหนึ่งออกมาจากภายในแหวนมิติ เพื่อใช้ต่างไม้เท้า

การปรากฏตัวของอสรพิษเปี่ยมโลหิตกุ่ยฟู่ ทำให้เขาเกิดความระมัดระวังขึ้นมาได้เป็นอย่างมาก ผู้ใดจะทราบว่าที่แห่งนี้จะไม่มีของเล่นแปลกใหม่อะไรโผล่ขึ้นมาอีก เช่นนั้นแล้วระวังเอาไว้หน่อยคงจะดีกว่า

“กร๊อบ”

ในระหว่างที่เดิน ใต้ฝ่าเท้าหลงเฉินก็ได้มีเสียงดังขึ้นมาเบาๆ เมื่อได้ก้มลงไปมอง เขาก็เห็นเป็นกระดูกชิ้นหนึ่ง คงเป็นเพราะได้ผ่านเลยกาลเวลามาอย่างเนิ่นนาน จนได้ผุพัง สลายหายไปตามสายลมไปเช่นนี้

ทว่าหากมองให้ดีๆแล้วจากรูปลักษณ์ภายนอก จะเห็นว่ามีกระดูกอยู่ท่อนหนึ่ง ที่มีบางส่วนกลายเป็นสีดำ คนผู้นี้น่าจะต้องพิษจนตายไป

หลงเฉินถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่ง ดูเหมือนว่าคนผู้นี้จะเป็นผู้ที่เข้ามาในรอบที่แล้ว หรือไม่ก็เป็นศิษย์ที่เข้ามายังแดนลับจากรอบก่อนของรอบก่อนก็เป็นได้ คาดว่าในขณะที่พึ่งจะเข้ามาก็จบสิ้นชีวิตไปแล้ว

ยังไม่ทันจะเริ่มกลับต้องมาตายไปเสียก่อน นี่มันช่างโชคร้ายเกินไปแล้ว หลงเฉินมุ่งหน้าออกเดิน ห่างไปอีกหลายสิบลี้ ก็ยังคงไม่พบเห็นเงาของผู้คนแม้แต่คนเดียว

ก่อนหน้าที่จะเข้ามา หลิงหวินจื่อได้บอกต่อพวกเขาไว้ว่า เมื่อได้เข้าสู่ขอบเขตแดนลับนพเก้าไปแล้ว ศิษย์โดยส่วนมากแล้วต่างก็จะไปปรากฏตัวอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน ดังนั้นก็มีโอกาศสูงที่ทุกคนจะได้พบเจอกัน

และทางเข้าของขอบเขตแดนลับนพเก้านั้นก็มีอยู่หลายจุดอีกด้วย สถานที่แห่งนี้ไม่แต่เพียงสามารถที่จะพบเจอกับศิษย์ของฝ่ายอธรรมได้ ทั้งยังสามารถที่จะพบเจอกับศิษย์จากฝ่ายธรรมะอื่นๆได้เช่นเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ม่อเนี่ยนได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า เขาเองก็จะเข้ามายังขอบเขตแดนลับนพเก้าเช่นเดียวกัน เพียงแต่ไม่ทราบว่าเขานั้นได้เขาจากทางเข้าใดกันแน่

หลงเฉินล้วงแผนที่แผ่นหนึ่งออกมา ซึ่งเป็นแผนที่ที่ทางหมู่ตึกแจกจ่ายให้แก่บรรดาลูกศิษย์ทุกคน

นี่ก็คือสิ่งที่ศิษย์ในแต่ละรุ่นที่เข้ามายังเขตแดนนี้ ได้ช่วยกันสร้างขึ้นมา หลังจากที่ได้ออกมาจากขอบเขตแดนลับนพเก้าไปแล้วนั่นเอง

เริ่มแรกสร้างแผนที่ ที่ศิษย์รุ่นก่อนหน้าได้รับรู้มานั้น ต่างก็เป็นเพียงแค่ส่วนน้อย ทว่าหลังจากที่ได้ผ่านมือของศิษย์แต่ละรุ่นไปมากมาย แผนที่นี้ ก็ได้ถูกขีดเขียน เปลี่ยนแปลง ประทับตรามาหลายต่อหลายปี ยิ่งนานก็ยิ่งชัดเจนแม่นยำและละเอียดถี่ถ้วนขึ้นมาจนได้

เพียงแต่ว่าก็ยังคงมีอีกหลายเขตที่ยังคงเลือนรางอยู่ หรือไม่ก็มีสถานที่บางแห่ง ถูกลงสัญลักษณ์สีแดงกำกับเอาไว้

แน่นอนว่าที่เขตที่ไม่ได้มีการบันทึกเอาไว้ หรือว่าเขตที่ถูกปล่อยว่างเอาไว้จนขาวโพลนนั้น ถือว่าเป็นอาณาเขตที่อันตราย ทั้งยังมีโอกาสตายสูงเป็นอย่างยิ่ง

หลงเฉินเมื่อได้มองดูอย่างละเอียดอยู่รอบหนึ่ง ก็เห็นว่าอาณาเขตที่เป็นสัญลักษณ์สีแดงกับที่ว่างเปล่าเหล่านั้น ถึงกับมีอยู่ถึงหลายสิบแห่งเลยทีเดียว

กล่าวกันว่าตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกเอาไว้ ขอบเขตแดนลับนพเก้าปรากฏขึ้นมาก่อนหน้านี้อยู่หลายสิบหมื่นปีมาแล้ว นับตั้งแต่เริ่มก็ได้มีการสำรวจอยู่หลายครั้งหลายครา ผู้คนจึงค่อยทราบถึงวิธีเข้าแดนลับแห่งนี้ได้

แต่ว่าต่อให้เข้าไปยังแดนลับแล้ว หลายร้อยปีที่ผ่านมานี้ ก็ถือได้ว่ามีศิษย์ที่โดดเด่นอยู่นับไม่ถ้วนที่ได้เข้าสู่แดนลับ แต่ก็ยังไม่อาจที่จะเปิดเผยเรื่องราวที่แท้จริงของแดนลับขึ้นมาได้

แต่ว่านับตั้งแต่แรกมีบุคคลผู้หนึ่งซึ่งไม่อาจทราบได้ว่าเป็นผู้ใด ทำการสลักแผ่นป้ายคำขวัญชิ้นหนึ่งขึ้น และวางไว้ใจกลางของแดนลับ ที่ด้านบนของแผ่นป้ายสลักเอาไว้ด้วยตัวอักษรในยุคเซียนโบราณเขียนเอาไว้อยู่

เมื่อได้ลองค้นคว้าจากคัมภีร์มากมายนับไม่ถ้วน เหล่าผู้คนในที่สุดก็ได้แปลตัวออกมาได้สองตัวอักษรขึ้นมาได้ว่า——นพเก้า ซึ่งในท้ายที่สุดสองคำนี้จึงถูกนำมาตั้งเป็นชื่อสถานแห่งนี้ ที่แห่งนี้จึงได้ถูกขนานนามขึ้นมาว่าขอบเขตแดนลับนพเก้าตั้งแต่นั้นมา

ทว่าเกี่ยวกับที่มาของขอบเขตแดนลับนพเก้า กลับมีแต่เพียงการคาดเดาของทุกคนเท่านั้น ไม่ได้มีหลักฐานใดๆมาสนับสนุนคำอธิบายเหล่านั้น

ดังนั้นการเปิดเผยปริศนาของขอบเขตแดนลับนพเก้า จึงกลายเป็นเรื่องที่บรรดาศิษย์ผู้มีพรสวรรค์ในแต่ละยุคสมัยชมชอบที่สุด

เพราะกล่าวกันว่า ผู้ใดสามารถที่จะเปิดเผยปริศนาของขอบเขตแดนลับนพเก้าได้ ก็จะสามารถที่จะครอบครองสมบัติไร้ขอบเขตได้ รวมไปถึงพลังวิชาอันไร้ขอบเขตอีกด้วย

ทว่าคำพูดผีสางเช่นนี้ โดยส่วนมากแล้วก็ใช้ไว้หลอกลวงพวกชอบมุทะลุเท่านั้น ผู้คนโดยส่วนมากยังคงมุ่งหน้าแสวงหาวาสนา ผู้ใดจะไปสนใจว่าเจ้าจะกำลังหลงไหลสิ่งใดอยู่กัน

หลงเฉินมุ่งหน้าเดินทางต่อไปอย่างระมัดระวัง เป้าหมายแรกของเขาก็คือการเสาะหาสถานที่ที่มีชื่อว่าสุสานโบราณเงียบสงัด

เพราะสถานที่แห่งนั้นถือเป็นสถานที่ที่อยู่ใกล้กับเขาที่สุด กล่าวกันว่าที่นั้นเป็นสุสานของเซียน ทั้งยังมีวาสนาอันยิ่งใหญ่รออยู่ด้วย

“ช่วยด้วย!”

ขณะที่หลงเฉินกำลังเดินอยู่ ทันใดนั้นก็มีสตรีผู้หนึ่ง วิ่งเข้ามาหาเขาจากทางด้านข้าง นางมีสีหน้าหวาดผวาอาภรณ์ที่สวมใส่อยู่ขาดรุ่งริ่ง

.

.

.

* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *

**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด