ตอนที่แล้วGE330 หมื่นคนไม่อาจทัดเทียม [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE332 ท่านจะไปไหนไม่ได้ [ฟรี]

GE331 โลหิต 18 หยด [ฟรี]


หนิงฝานสังหารหมาป่าโลหิตไป 5 ตัว ทาสและมังกรทมิฬเข้าช่วยฝั่งของลู่เจี่ยเฟินสังหารหมาป่าอสูรและกลืนกินดวงจิตของพวกมัน

ขณะที่หมาป่าอีก 8 ตัวที่ให้เหล่าสตรีและนายกองรับมือ พวกมันก็ค่อยๆทยอยตายไปทีละตัว

หนิงฝานยืนขวางหน้าทางเข้าสู่ส่วนลึกของภูเขา หากหมาป่าตัวใดมุ่งมา พวกมันจะถูกสังหารในพริบตา

เมื่อฝั่งของหนิงฝานสังหารหมาป่าจนหมด เขานำคนของตนทั้งหมดขึ้นรถเพลิงทองคำ มุ่งหน้าเข้าสู่ส่วนลึกของภูเขาโดยไม่รอพวกลู่เจี่ยเฟิน

“แย่แล้ว แบบนี้กุญแจได้กลายเป็นของลู่เป่ยแน่!”

เมื่อลู่เจี่ยเฟิน ซูฉวน และสองชายชราแห่งนิกายปีศาจขาวเห็นหนิงฝานมุ่งเข้าสู่ส่วนลึกของภูเขา สีหน้าพวกมันแปรเปลี่ยนเย็นชา

แม้ฝั่งของพวกมันจะยังเหลือกองทัพหมาป่าอีกเป็นจำนวนมากรุมล้อม แต่พวกมันไม่สนใจ เร่งมุ่งหน้าติดตามรถเพลิงทองคำ ทิ้งให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มของนิกายปีศาจขาว และผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณของซูฉวนรับมือ

“บ้าเอ้ย!” หลินซูจ้องมองด้วยความอิจฉา

มันไม่แข็งแกร่งพอที่จะฝ่าวงล้อมออกไป มันทำได้เพียงมองสองชายชราที่จากไป

ลึกเข้าไปในภูเขามีหุบเขาขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ใจกลางนั้นมีไข่อสูรขนาดยักษ์ตั้งอยู่ เพียงแต่ทางเข้าไปยังที่แห่งนั้นกลับแคบมาก กว้างเพียง 3 จ้างซึ่งเล็กกว่าขนาดของรถเพลิงทอง ดังนั้น รถเพลิงทองคำที่ฝืนวิ่งผ่าน จึงได้สร้างรอยขีดให้กับผนังทางมากมาย

ผ่านไปหลายชั่วยาม เส้นทางที่กว้างเพียง 3 จ้างกลับเหลือเพียงครึ่งจ้าง ยามนี้ รถเพลิงทองคำไม่สามารถไปต่อได้อีก ทุกคนที่อยู่บนรถจึงต้องทะยานไปด้วยตนเอง

หลังจากเดินทางต่อไม่นาน ก็เห็นแสงสีปลายทาง

เมื่อพ้นเส้นทาง ทั้งหมดเห็นไข่อสูรสีขาวกระจ่าง สูงใหญ่นับหมื่นจ้าง ไข่ใบนั้นแท้จริงไม่ใช่ไข่ แต่เป็นผลึกน้ำแข็ง

ภายในผลึกน้ำแข็ง มีหมาป่าร่างสูงใหญ่กว่า 5 พันจ้างขดตัวอยู่ มันกำลังหลับไหล ลมหายใจสงบต่อเนื่อง

“นั่นหน่ะเหรอจ้าวดาราหมาป่าโปย...” ซีหลานป้องปากด้วยความตกตะลึง

แม้นางจะเป็นอสูรเหมือนกัน แต่ประสบการณ์ของนางไม่มากนัก นี่จึงเป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นอสูรที่หลับไหลด้วยตาของตน นางตื่นเต้นที่ได้เห็น และอยากเข้าไปดูใกล้ๆ

“เด็กโง่… เบาๆหน่อย ถ้าเกิดมันได้ยินและตื่นขึ้นมา มันคงกินเจ้าได้ในพริบตาเลย!” วู่หยานลูบศีรษะซีหลานพลางยิ้ม

ไม่แปลกที่ซีหลานจะตื่นเต้น เพราะการที่อสูรจะหลับไหลเช่นนี้ได้นั้น ต้องใช้วิชาโบราณของเผ่าพันธุ์อสูร สร้างสถานที่ผนึกตนเอง แม้เวลาผันผ่านนับร้อยล้านปี พวกมันก็จะยังไม่ตาย... การผนึกที่ว่านั้นถูกเรียกขานว่าไข่อสูร

ลู่หวู่ ลู่ตู้เฉิน และอสูรบางตนเองก็มีชีวิตมานับหลายล้านปี เพราะทั้งหมดเคยผนึกตนเองและหลับไหลเช่นนี้

เพียงการหลับไหลเองก็ยังมีข้อเสียใหญ่หลวง นั่นคือจะไม่สามารถยกระดับพลังได้ ไม่ปลอดภัยกับชีวิตเมื่อศัตรูภายนอกหวังปองร้าย และที่สำคัญ ไม่สามารถกำหนดเวลาตื่นได้

แต่จ้าวดาราหมาป่าโหยที่หลับไหลนั้น หลับไหลด้วยวิธีการพิเศษ การหลับไหลของมันไม่ใช่การผนึกตนเองโดยสมบูรณ์ มันสามารถแก่ ตาย และยกระดับพลังได้แม้จะยังอยู่ในไข่ แต่การที่มันจะตื่นขึ้นเองนั้นยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่

ยามนี้หนิงฝานเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้ซีหลาน เพราะเป็นครั้งแรกของเขาเช่นกันที่ได้เห็น ตั้งยามที่เขาเป็นเด็ก เขาเคยได้ยินเรื่องเล่าที่เป็นตำนานมากมาย เช่นยักษ์ที่หลับไหลอยู่ภายในไข่มาเนิ่นนาน เมื่อมันตื่นขึ้น มันก็ให้กำเนิดจักรวาลอันไพศาล

อีกเรื่องคือภูติที่ถือกำเนิดจากก้อนทราย มีชีวิตและอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์

เรื่องเล่าทั้งหมดเป็นเรื่องที่สนุกสนานน่าฟังในคราวนั้น แต่เมื่อตนเองกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ ยิ่งระดับพลังสูงส่ง กลับยิ่งพบเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์มากมาย เช่นเรื่องที่มีอสูรหลับไหลอยู่ในไข่!

“หมาป่าโลหิตเหล่านั้นได้รับพลังจากจ้าวหมาป่า ทำให้พวกมันแข็งแกร่งกว่าหมาป่าทั่วไป ที่สำคัญ พวกมันยังสามารถปลุกจ้าวหมาป่าได้… แต่น่าเสียดายที่พวกมันตายไปแล้ว ไม่ว่าพวกเราจะจู่โจมมันยังไง มันก็ไม่ตื่น… นี่คือความเสี่ยงในการหลับไหล… ในอดีตอสูรในแดนสวรรค์จำนวนมากเลือกที่จะหลับไหลเพื่อให้ตนได้ข้ามไปอยู่ในยุคสมัยใหม่ แต่ในระหว่างนั้น พวกมันก็ถูกสังหารตายไปไม่น้อยเช่นกัน”

ลู่ตู้เฉินถอนหายใจ นอกจากชายชรา และหนิงฝานแล้ว ไม่มีผู้ใดรู้ว่าลู่หวู่ตายแล้ว

นายกองอสูรจากเผ่าอื่นๆที่มาล้วนไม่ได้ตั้งใจจะปลุกให้ลู่หวู่ตื่นเหมือนอย่างที่เคยกล่าว พวกมันมาเพื่อหวังสังหาร!

“งั้นจะรออะไรอยู่! ทำลายมันเลย สังหารมันให้ตาย!”

นายกองเผ่าวายุและอัสนีกล่าวด้วยความตื่นเต้น

การที่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงไหนนั้น นับเป็นเรื่องที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นถือเป็นเกียรติและความภาคภูมิ

แต่ทันทีที่ทั้งสองกล่าวจบ เงาร่างของคนสี่คนได้ปรากฏตัว ลู่เจี่ยเฟิน ซูฉวน และสองชายชรามาถึงแล้ว

ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญที่มา ซูฉวนเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด ดังนั้น มันย่อมสู้กับขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงไม่ได้

“ฮ่าฮ่า… นายกองเป่ย รถเพลิงทองคำของท่านนี่เร็วจริงๆ พวกข้าตามแทบไม่ทัน” ลู่เจี่ยเฟินและคนอื่นๆไล่ตามมาด้วยความเร็วสูงสุด แต่ยังแทบตามหนิงฝานไม่ทัน

ที่ร่างของจ้าวหมาป่าสมควรมีกุญแจของวังดารา

“พวกมันตามมาเร็วมาก! ก่อนจะสังหารจ้าวหมาป่า สมควรจัดการพวกมันทั้ง 4 ก่อน!” เยว่หลิงคงกล่าว นางไม่ชอบที่จะแบ่งปันสิ่งที่ควรเป็นของตนกับใคร

คำกล่าวของนางทำให้สีหน้าทั้ง 4 แปรเปลี่ยนใหญ่หลวง บรรยากาศรอบข้างมืดมน ลู่เจี่ยเฟินหันมองเยว่หลิงคง นางดูราวกับเด็กสาว แต่กลับดูกล้าหาญกระทั่งกล่าวว่าจะสังหารพวกมัน

นางเป็นสตรีที่มีนิสัยโหดเหี้ยม

หนิงฝานยกมือเพื่อปรามนาง เขาคว้าข้อมือของนางไว้พลางกล่าว “เยว่เอ๋อร์...”

“ข้าแค่อยากช่วยเจ้าชิงกุญแจก็เท่านั้น.... เจ้าจะทำยังไงก็เรื่องของเจ้า!” นางเบือนหน้าหนีด้วยความไม่พอใจพลางสะบัดมือจากหนิงฝาน

เพียงแต่หลังจากหนิงฝานยกระดับพลัง ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นมาก จนนางไม่อาจสะบัดมือหลุดได้

“เด็กโง่… เจ้าคิดว่าจะทำลายไข่นั่นได้ง่ายๆเหรอ ลำพังข้าไม่อาจทำลายได้… ต้องอาศัยคนอื่นๆร่วมมือ ไว้หลังจากสังหารจ้าวอสูรสำเร็จค่อยว่ากันอีกที!”

คำกล่าวของหนิงฝานทำให้บรรยากาศดีขึ้น

ที่เขาไม่อยากต่อสู้ เพราะกุญแจไม่ได้อยู่กับจ้าวหมาป่า

แต่สำหรับพวกลู่เจี่ยเฟินแล้ว หนิงฝานเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงสำหรับพวกมัน

แต่นอกจากหนิงฝานจะเป็นศัตรูแล้ว สองชายชราก็เป็นภัยคุกคามกับมันเช่นเดียวกัน

หากสังหารจ้าวหมาป่าได้ หนิงฝานก็ไม่จำเป็นต้องสู้กับพวกมัน เขาแค่ปลีกตัวไปจากพวกมัน มุ่งไปสู่ใจกลางของวังดาราและไขประตูเข้าไป

“ไข่ของจ้าวหมาป่าไม่ธรรมดา มันใช้ประโยชน์กับความเย็นที่รุนแรงของที่นี่เพื่อเสริมพลัง จนมันอาจต้านทานการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นกลางได้… ถ้าจะจู่โจมคงทำได้เพียงร่วมมือ” ซูฉวนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

“ดี! งั้นข้าจะนับถึง 3 จากนั้นให้จู่โจมเต็มกำลังพร้อมๆกันเพื่อทำลายเปลือกไข่!”

ลู่เจี่ยเฟินหันมอง ซูฉวนพยักหน้า หนิงฝานพยักหน้า สองชายชรามองหน้ากันพลางพยักหน้า

เมื่อตกลงกันได้แล้ว ทั้งหมดเริ่มโคจรปราณเพื่อเตรียมใช้วิชา บรรยากาศโดยรอบแปรปรวน อุณภูมิพุ่งสูงขึ้นในฉับพลันจนทำให่เกิดลมพายุที่รุนแรง

หนิงฝานนำกระบี่มังกรโลหิตออกมา แววตาปรากฏเจตนาสังหาร ปลายกระบี่ปรากฏเส้นใยกระบี่เบาบางพลิ้วไหว

“หนึ่ง...”

“สอง...”

“สาม!”

เมื่อลู่เจี่ยเฟินนับสาม ทุกคนทุ่มจู่โจมเต็มกำลังเข้าใส่ไข่ขนาดยักษ์!

เพียงแต่สองชายชราแห่งนิกายปีศาจขาวกลับไม่จู่โจม!

ทุกการจู่โจมผสาน กระแทกใส่เปลือกไข่อย่างหนักหน่วยจนเกิดรอยร้าว โลหิตสีทองสาดกระเซ็นออกมาจากรอยแยก

ในขณะที่หนิงฝานลงกระบี่ เขาไม่ได้ละความสนใจไปจากสองชายชราแม้แต้น้อย เพราะในขณะที่ทุกคนทุ่มกำลังจู่โจม ดวงตาของสองชายชราปรากฏเจตนาสังหาร

พวกมันนำแผ่นยันต์ออกมา เมื่อแผ่นยันต์ถูกกระตุ้น พวกมันแปรเปลี่ยนเป็นสายลมเย็นเฉียบพัดพาเข้าใส่ทุกคนที่อยู่ที่นี่

“ฮ่าฮ่า! ได้เวลาที่พวกเจ้าต้องตายแล้ว เดี๋ยวพวกข้าหาทางทำลายไข่ต่อเอง พวกเจ้าไม่ต้องกังวล!”

ทุกคนที่ทุ่มกำลังจู่โจมไข่อสูรล้วนพลังลดไปกว่าครึ่ง แม้ทั้งหมดจะไม่ได้ประมาท แต่คาดไม่ถึงว่าสองชายชราจะกล้าลงมือจริง

ลู่เจี่ยเฟินและซูฉวนถูกสายลมกระแทกไปไกล มุมปากปรากฏคราบโลหิต แต่ไม่ได้บาดเจ็บมากนัก

“บัดซบ! พวกเจ้ากล้าหักหลัง!”

“ฮ่าฮ่า! หักหลังแล้วเจ้าจะทำไม! ลงมือ!”

ทันทีที่พวกมันกล่าวว่าลงมือ พายุน้ำแข็งทวีความรุนแรง หากขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้นไม่ระวัง อาจถูกลมพายุฉีกกระชากร่างได้ง่ายๆ

เมื่อลมพายุกันทุกคนให้ออกห่าง สองชายชราเร่งเข้าประชิดไข่และทำท่าจะเก็บไข่เข้ากระเป๋า

ลมพายุที่รุนแรงเปรียบได้กับกำแพงพลัง ที่อย่างน้อยก็ต้านไม่ให้คนอื่นๆเข้ามาได้ในระยะเวลาธูปไหม้หมดดอก ด้วยเวลานานเช่นนั้น พวกมันสามารถนำไข่และหนีไปจากที่นี่ได้

เหล่านายกองอสูรจ้องมองสองชายชราด้วยความโกรธแค้น แต่ในชั่วขณะนั้น เปลวเพลิงสีดำทมิฬลุกโหม ก่อตัวเป็นม่านพลังปกคลุมท้องนภา ป้องกันเหล่าสตรีและเหล่านายกองอสูรให้พ้นจากอานุภาพของลมพายุที่รุนแรง

ในขณะเดียวกัน มังกรทมิฬ 5 ตัวผุดร่างออกจากม่านเพลิง มุ่งเข้าจู่โจมพายุจนได้รับความเสียหายใหญ่หลวง

เมื่อลมพายุอ่อนกำลัง หนิงฝานทะยานขึ้นสูงท้องนภา ใต้เท้าปรากฏมังกรทมิฬพาเขามุ่งฝ่าเข้าไปในพายุ เมื่อพ้นจากพายุ หนิงฝานปรากฏเหนือไข่ พลางแทรกตัวลงไปในรอยแยกแล้วดูดซับเอาโลหิตของจ้าวหมาป่าขึ้นมาจนหมด

ในบรรดาโลหิตของมัน มีโลหิตสีทองที่เหมือนกับโลหิตที่เขาได้จากแดนหนึ่ง อัดแน่นไปด้วยปราณอสูรจำนวนมหาศาล

โลหิตสีทองเหล่านี้เป็นของลู่หวู่ จ้าวดาราหมาป่าโหยได้ดูดซับไป แต่ตอนนี้มันกลายเป็นของหนิงฝานทั้งหมด!

ในระหว่างที่เหตุการณ์ปั่นป่วนชุลมุนนั้น ไม่มีใครสังเกตุเห็นว่าหนิงฝานแอบชิงเอาโลหิตของจ้าวหมาป่าออกมาจากร่างจนหมด เมื่อสกัดเอาแต่โลหิตสองทองเขาได้โลหิตมากถึง 18 หยด!

แต่น่าเสียดายที่คนอื่นๆไม่มีทางรู้ อีกไม่นานจ้าวหมาป่าจะต้องตาย และพวกมันจะไม่มีใครได้สิ่งใดไป

ในเมื่อมันไม่มีกุญแจ ในเมื่อมันไร้ซึ่งโลหิตอันล้ำค่า จ้าวหมาป่าในยามนี้จึงไร้ค่า!

ในเมื่อพวกมันอยากหาเรื่องกันนัก ก็ปล่อยให้พวกมันทำกันไป!

“ทำลาย!”

[ ** ประกาศ หนิงฝาน มีเว็บส่วนตัวแล้วครับ https://laosoofung.com/

มีการขายเหมือนที่นี่ แต่ราคาถูกกว่าเพียงตอนละ 1.5 บาท หากสนใจเชิญได้ที่เว็บ https://laosoofung.com/

หรือแฟนเพจ "ผู้ใหญ่บ้านเล่าสู่ฟัง" ข้างล่างครับ

https://www.facebook.com/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87-652249328481825/ **]

หนิงฝานที่ยืนอยู่ด้านบนไข่ ชกหมัดเข้าใส่ไข่เต็มกำลัง

*เปรี๊ยะ!*

รอยแตกกระจายไปทั่วไข่ แรงกระแทกจากหมักตรงดิ่งเข้าใส่ดวงจิตของจ้าวหมาป่าจนแตกเป็นเสี่ยงๆ

แรงกระแทกจากหมัดยังได้แพร่ไปยังสองชายชราที่กำลังพยายามเก็บไข่ ทำให้กระดูกบริเวณหัวไหล่ของพวกมันหักและกระอักโลหิต แต่ถึงอย่างนั้น พวกมันยังฝืนเก็บไข่เข้ากระเป๋าจนสำเร็จ

“เด็กน้อย ครั้งหน้าที่เจอกันจะเป็นวันตายของเจ้า! หนีเร็ว!”

พวกมันจ้องมองหนิงฝานและรู้ว่าไม่ควรสู้กับหนิงฝานในยามนี้ ดังนั้น พวกมันจึงเลือกที่จะหนี

พวกมันเร่งทะยานออกจากลมพายุพลางนำเปลือกไข่บางส่วนที่หลุดร่อนขึ้นมาเป็นโล่คุ้มกัน

“สารเลว พวกเจ้ากล้าหัก ไอ้พวกเลวทรามต่ำช้า!”

“ฮ่าฮ่า! กุญแจวังดาราเป็นของข้าแล้ว พวกเจ้าเลิกล้มความตั้งใจซะเถอะ!”

เมื่อสองชายชราทะยานออกจากพายุ ลู่เจี่ยเฟินและซูฉวนเร่งทะยานตามพวกมันไปติด

เยว่หลิงคงและเป่ยเหยาหวังจะตามพวกมันไป แต่หนิงฝานกลับห้ามพวกนางไว้

“ไม่ต้องตามพวกมันไปหรอก”

“ทำไม! พวกมันได้กุญแจวังดาราไปแล้วนะ...”

“ไม่หรอก… พวกมันไม่ได้อะไรไปทั้งนั้น!”

หนิงฝานยิ้ม เขาจ้องมองเหล่าสตรีของตนก่อนกล่าวกับพวกนางด้วยสัมผัสเทพ

“กุญแจอยู่กับข้ามาตั้งแต่ต้นแล้ว...”

นอกจากศพนางสวรรค์ที่ไม่สนใจเรื่องราวแล้ว สตรีคนอื่นๆตกตะลึง

“ปะ… เป็นไปได้ยังไง ข้าไม่เข้าใจ!” ซีหลานสงสัยเป็นอย่างมาก หากกุญแจอยู่กับหนิงฝานตั้งแต่ต้น ทำไมเขาต้องมาสังหารจ้าวหมาป่า

“ไว้ข้าจะอธิบายทีหลัง แต่ที่ข้าทำแบบนี้ก็เพื่อดึงความสนใจของพวกมัน เมื่อพวกมันทั้งหมดจากไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องเข้าสู่วังสวรรค์...”

หนิงฝานกล่าวกับเหล่าสตรีของตนอย่างลับๆ

ลู่ตู้เฉินเองก็ทราบเรื่องราว เพราะชายชรามอบกุญแจให้หนิงฝานกับมือ

ส่วนนายกองคนอื่นๆ พวกมันไม่จำเป็นต้องรู้

“ผู้อาวุโสลู่ ข้าจะทำตามที่ได้ตกลงกับท่านไว้… ตอนนี้พวกท่านสมควรกลับแดนสองก่อน ข้าสังหรณ์ใจว่าอีกไม่นานที่นี่จะเกิดเรื่องราวร้ายแรงขึ้น” หนิงฝานขมวดคิ้วพลางกล่าว

“ขอบคุณที่เจ้าเติมเต็มคำสัญญาที่ให้ไว้กับข้า… ต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ!”

แววตาชายชราพร่ามัว ชายชราทั้งตื่นเต้น ตื้นตันกับสิ่งที่หนิงฝานทำ ความปรารถนาที่เฝ้ารอมานาน ในที่สุดหนิงฝานก็เติมเต็มมัน ได้แก้แค้นแทนลู่หวู่... ชายชราจะไม่มีวันลืมนาม ‘ลู่เป่ย’ ไปตลอดชีวิต

นายกองทั้ง 7 คนที่เหลือมองหน้ากันด้วยความผิดหวัง

“เห้อ… สิ้นสุดแล้วสินะ… จบสิ้นแล้ว… สมควรได้เวลากลับกันแล้ว...”

พวกมันไม่รู้ว่าหนิงฝานมีกุญแจอยู่กับตัว ดังนั้นยามนี้ พวกมันจึงป้องมือให้แล้วทยอยจากไป

พวกมันเหนื่อยยากลำบาก แต่สุดท้ายผู้ที่ได้ผลประโยชน์กับเป็นคนของนิกายปีศาจขาว

แต่หากคิดในอีกมุม สถานะการณ์ของพวกมันนับว่าดีขึ้นมา หากหนิงฝานไม่ปรากฏตัว พวกมันอาจตายกันหมดแล้วก็ได้

ก่อนที่เหล่านายกองจะไปหมด หนิงฝานรั้งนายกองอสูรไว้ 4 คนเพื่อประทับตราวิญญาณเป็นทาสตน

“เห้อ ข้าเสียใจกับท่านด้วย พวกมันไร้ยางอาย ชิงกุญแจวังดาราไปได้… แต่ก็ช่างมันเถอะ...”

นายกองเผ่าวายุและอัสนีกล่าวปลอบหนิงฝาน ก่อนจะนำแผ่นข่ายอาคมออกมาแล้วกลับสู่แดนสอง

ในเมื่อกุญแจตกอยู่ในมือของผู้อื่นแล้ว หากพวกมันยังรั้งอยู่ต่อก็มีแต่จะยิ่งอันตราย

“เช่นนั้นก็ถึงคราวที่พวกข้าต้องไปบ้างแล้ว...” นายกองที่เหลือป้องมือให้หนิงฝานแล้วจากไป

ยามนี้เหลือเพียงลู่ตู้เฉินที่ยังรั้งอยู่ ชายชรามองหนิงฝานด้วยรอยยิ้มที่ภาคภูมิ ป้องมือให้ก่อนจะจากไปเช่นเดียวกัน

“ลู่เป่ย… จงอย่างประมาท… หากเจ้ามีเวลาก็กลับมาหาว่านเอ๋อร์บ้างนะ...”

“ข้ารับปาก!” หนิงฝานป้องมือให้ชายชรา

ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ มีพบ… มีพราก… มีจากกันเป็นเรื่องธรรมดา

หนิงฝานเก็บทาสทั้งหมดของตนไป เหลือไว้เพียงมังกรทมิฬข้างกาย จากนั้นนำเหล่าสตรีขึ้นรถเพลิงทองและมุ่งหน้าไปยังอีกด้านของภูเขา

“ถ้ากุญแจอยู่กับเจ้าจริง ทำไมเจ้าไม่รีบบอกข้า!” เป่ยเหยากล่าวด้วยน้ำเสียงราวกับตำหนิที่คนรักทำให้นางไม่พอใจ

“ถ้าข้าบอกท่านไป… ข้าคงไม่รู้ว่าท่านอยากจะช่วยข้าชิงกุญแจมาด้วยใจ… ถ้าข้าได้ดาราจักรพรรดิ ข้าจะถ่ายทอดวิชาดาราทมิฬให้ท่าน จะได้นำไปช่วยน้องสาวท่านได้”

“นี่… ขอบคุณ...” นางถอนหายใจและไม่กล้ากล่าวสิ่งใดต่อ

“ข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับเจ้า...” นางกล่าวในใจ

เมื่อมุ่งหน้าไปยังอีกฝั่งของภูขายักษ์ หนิงฝานได้พบเส้นทางที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง แต่เมื่อรถเพลิงทองคำเข้าไปใกล้ น้ำแข็งเหล่านั้นกลับเปิดทางให้

ไกลออกไปปรากฏประตูที่เปล่งแสงสีทองอร่าม เมื่อมุ่งผ่านประตู ทั้งหมดก็ถูกย้ายไปยังที่ถัดไป

แต่ในขณะนั้น เป่ยเหยา วู่หยาน และซีหลานกลับรู้สึกเศร้า เพราะใกล้จะถึงเวลาที่พวกนางต้องแยกจากหนิงฝานแล้ว

หากลู่เป่ยได้ครอบครองดาราจักรพรรดิ ก็คงถึงเวลาที่ต้องแยกจาก… เราจะมีโอกาสพบกันอีกหรือเปล่า?

นั่นคือคำถามที่อยู่ในใจของพวกนาง แต่ไม่มีใครกล้าถาม

อีกด้าน สองชายชราที่นำไข่จ้าวหมาป่ากลับไปนั้น ไม่ทราบว่าตนเองได้ของไร้ค่าไป เดิมทีหนิงฝานจะสังหารพวกมันเลยยังได้ แต่ที่เขาไม่ทำ เพราะต้องการใช้ประโยชน์ ให้พวกมันเป็นตัวล่อซูฉวนและลู่เจี่ยเฟิน

นั่นทำให้หนิงฝานมีเวลาเข้าสู่วังดารา และกลายเป็นผู้ครอบครองดาราจักรพรรดิ

“คาดไม่ถึงว่าลู่เป่ยจะไม่ทรยศ...” ผู้ที่ลู่เจี่ยเฟินเป็นกังวลมากที่สุดคือหนิงฝาน แม้จะกล่าวว่าทุ่มจู่โจมเต็มกำลัง แต่มันก็ไม่ละความสนใจจากหนิงฝานแม้แต่น้อย เพราะหนิงฝานนับเป็นตัวอันตรายที่สุด

“แต่ไอ้พวกที่ทรยศกลับเป็นนิกายปีศาจขาวที่ข้าเป็นคนนำมา ต่อให้สองเฒ่านั่นหนีไปได้ แต่หลินซูไม่มีทางรอดมือข้าแน่!” ลู่เจี่ยเฟินโกรธแค้น

“ข้าก็คิดเหมือนท่าน… แต่ข้าสงสัยว่าทำไมลู่เป่ยถึงไม่ไล่ล่าสองเฒ่านั่น… นี่ไม่ใช่วิสัยของลู่เป่ย… หรือเพราะมันไม่ต้องการดาราจักรพรรดิ แต่ก็ช่างเถอะ...” ไม่ว่าซูฉวนจะฉลาดขนาดไหน แต่มันก็ยังเดาการกระทำของหนิงฝานไม่ออก

ภายในขอบเขตของภูเขายักษ์ หลินซูและผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณของซูฉวนต่อสู้กับเหล่าหมาป่าจำนวนมาก ยามนี้กองทัพหมาป่าถูกสังหารทั้งหมด คนของซูฉวนอยู่ครบ แต่ฝั่งของหลินซูกลับเหลือผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มเพียงไม่กี่คน

“หลินซู! พวกข้าได้กุญแจมาแล้ว หนีเร็ว!” สองชายชราที่กลับมาถึงเร่งตะโกนบอกหลินซู

“ซัวเก๋อ! สังหารคนของนิกายปีศาจขาวให้หมด!” ซูฉวนที่ไล่ตามมาออกคำสั่งกับคนของตน

สีหน้าซัวเก๋อแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง มันคาดไม่ถึงว่านิกายปีศาจจะได้ครองกุญแจไม่ใช่ลู่เป่ย

“ฆ่ามัน!” ลู่เจี่ยเฟินนำกระจกม่วงออกมาพรางเข้าขวางสองชายชราด้วยความเร็วที่เหนือกว่า ซูฉวนอาศัยจังหวะนั้นโบกพัดในมือ เพลิงสีทองรุนแรงปรากฏ สีหน้าสองชายชราแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง พวกมันรู้ดีว่า หากไม่ทุ่มเต็มกำลัง พวกมันคงไม่อาจเอาาชนะซูฉวนและลู่เจี่ยเฟินไป

“ฮึ่ม! คิดจะเป็นศัตรูกับนิกายปีศาจขาวของข้า รนหาที่ตาย!”

“นิกายปีศาจขาวแล้วยังไง! พวกเจ้าเป็นมนุษย์ พวกข้าเป็นอสูร พวกเราเป็นศัตรูกันตั้งแต่แรก ส่งไข่จ้าวหมาป่ามาซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิต!” ลู่เจี่ยเฟินกล่าวด้วยโทสะ

“พวกเจ้าไม่มีทางสมหวังหรอก!” สองชายชรากล่าวด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ก่อนที่การต่อสู้ที่รุนแรงจะเกิดขึ้น

แต่ในขณะเดียวกันนั้น กลับไม่มีผู้ใดสังเกตุเห็นการมาถึงของบุรุษสวมหมวก มันหยุดยืนบนยอดเขา จ้องมองการต่อสู้ด้วยสายตาเย็นชา

“เผ่าอสูร… นิกายปีศาจขาว...”

แต่เมื่อมันได้ยินคำว่ากุญแจจากสองชายชรา มันกลับยิ้ม

“กุญแจวังดารา! ถ้าข้าได้มันมา ก็เท่ากับข้าได้ดาราจักรพรรดิ! นางไม่รอดมือข้าแน่!”

บุรุษผู้นั้นยิ้มอย่างเย็นชาก่อนจะยกเท้ากระทืบลงที่ยอดเขาอย่างแรง!

มิติรอบข้ากว่าแสนลี้แตกเป็นเสี่ยง ผู้ที่กำลังต่อสู้กันตกตะลึง!

“ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง! ทำไมที่นี่ถึงมีผู้เชี่ยวชาญระดับนั้นได้!”

“กระทืบเท้าครั้งเดียวทำลายมิติโดยรอบทั้งหมด บางทีอาจไม่ได้อยู่ในขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง… อาจบรรลุขั้นสูงแล้วก็ได้!”

แต่ในชั่วพริบตานั้น กลับมีเสียงของคนผู้หนึ่งดังขึ้น

“ส่งกุญแจมาซะ แล้วข้าจะคงศพสวยๆของพวกเจ้าไว้!”

“สหายใจเย็นก่อน พวกข้าเป็นคนของนิกายปีศาจขาว...” หลินซูตกตะลึง ในสถานะการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ มันทำได้เพียงใช้ชื่อของนิกายปกป้องตน

“ใครเป็นสหายเจ้า!”

บุรุษผู้นั้นกล่าวพลางกระทืบเท้า ส่งเส้นแสงสีดำตรงเข้าฉีกร่างหลินซูในพริบตา!

สองชายชราโกรธแค้น แต่เพียงพริบตา จากโกรธแค้นได้กลายเป็นหวาดกลัว

“ส่งกุญแจมาซะ!”

สองชายชราสบตากับบุรุษผู้นั้น พวกมันรู้ทันทีว่าตนเองคงไม่มีสิทธิ์รอด...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด