ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0394 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0396 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0395 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 395 : ตำนานลูกธนูทั้งเก้า

ฉินหยุนนอนกับพื้น ยามได้เห็นเว่ยจงเจิ้งเลื่อนระดับพลัง เขายินดีอย่างล้นพ้น ความเจ็บปวดในกายขณะนี้ ถึงกับเลือนหายวับแทบหมดสิ้น

ผู้คนที่ล้อมเว่ยจงเจิ้งเอาไว้ ต่างเผยสีหน้าแปรเปลี่ยนขณะเผ่นหนีหาย!

“ตาย!”

เว่ยจงเจิ้งโบกมือขนาดใหญ่ไหววูบ ปลดปล่อยเปลวเพลิงร้อนแรงออก มันควบแน่นเกิดขึ้นเป็นแส้ยาวหลายร้อยเมตร สะบัดฟาดเข้าใส่กลุ่มผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำกว่าสิบคน และขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณอีกเกือบสามสิบคนที่คิดหลบหนี

“อ๊าก!”

บรรดาขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำและวรยุทธ์วิญญาณเหล่านั้น กรีดร้องออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างกายพวกเขาล้วนแตกออกเป็นเสี่ยงเพราะแส้อัคคี!

ผู้คนจับจ้องร่างศพที่สภาพชวนสังเวชกับพื้นด้วยความหวาดกลัว!

นี่คือพลังของราชันยุทธ์ ผู้ซึ่งสามารถสังหารยอดฝีมือขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณได้ในพริบตา!

ชายชุดดำสองคนที่ล้อมฉินหยุนเอาไว้ พบเห็นเรื่องราวผิดท่า ตัดสินใจยกดาบขึ้นคิดสังหารฉินหยุนให้ตายตกเสียเดี๋ยวนี้!

วูบ!

ลำแสงสีแดงร้อนแรงชวนขนลุกพุ่งเข้ามา!

เพียงพริบตา เว่ยจงเจิ้งทะยานกายนับพันเมตรถึงข้างกายฉินหยุน มือทั้งสองจับที่ศีรษะของชายชุดดำทั้งสอง ก่อนจะออกแรงดึง ฉีกกระชากหัวอีกฝ่ายออกมาทั้งเป็น!

พรึ่บ!

สายธารอัคคีไหลหลั่งเข้าสู่หัวทั้งสอง ทำเอาหัวทั้งสองในมือ ระเบิดออกเป็นก้อนเปลวเพลิงสลายเป็นธุลี!

เว่ยจงเจิ้งขณะนี้ เร่งรีบนำเอายาแก้พิษใส่ปากของฉินหยุนเป็นการเร่งด่วน

ถัดจากนั้น เขาจึงส่งพลังเข้าสู่ร่างกายฉินหยุน และเป็นชั่วขณะนี้เอง ที่เขาพบว่าในร่างของฉินหยุนมีแก่นเต๋าถึงสาม!

ขณะเว่ยจงเจิ้งแตกตื่น เขาขมวดคิ้วและเอ่ยถาม “เสี่ยวหยุน อาการบาดเจ็บเจ้าหนักหนา ผ่อนคลายร่างกาย ให้ข้าช่วยรักษา!”

ฉินหยุนเองก็ทราบ ว่าความลับเรื่องสามแก่นเต๋าถูกพบเจอโดยเว่ยจงเจิ้งแล้ว

ในเมื่อเขาเชื่อใจเว่ยจงเจิ้งถึงเพียงนี้แล้ว จึงผ่อนคลายทั้งร่าง ยอมให้เว่ยจงเจิ้งโคจรพลังช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของร่างกาย

เว่ยจงเจิ้งพอถ่ายพลังสู่ร่างของฉินหยุน เขาจึงแบกอีกฝ่ายไว้บนแผ่นหลัง ก่อนจะวิ่งออกไปไกลในพริบตา!

บนท้องฟ้าห่างไกล การต่อสู้ระหว่างเจียงต้าจูและราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์ยังคงดำเนิน

“ราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์ สุนัขจากตำหนักโทเทม! ในอดีต ตำหนักโทเทมและสำนักราชันอัคคี ได้ร่วมมือกันสังหารยอดฝีมือและศิษย์มากพรสวรรค์ของประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์! วันนี้ เจ้าต้องชดใช้หนี้นั้นด้วยชีวิต!”

เว่ยจงเจิ้งผู้ซึ่งแบกร่างฉินหยุน สะบัดแส้อัคคีในมือ เข้าไปรัดพันร่างของราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์เอาไว้!

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยเหลือ!”

พละกำลังของเจียงต้าจูทัดเทียมกับราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์ ตอนนี้ราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์โดนพันธนาการเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงเร่งรีบเข้าประชิดร่างอีกฝ่าย นำเอาโลงศพหยกออกมา ฟาดทุบเข้าใส่ที่ศีรษะของราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ทุกครั้งที่โลงศพหยกฟาดทุบลงมา พื้นดินจะสั่นสะเทือนขนาดก้อนหินบนพื้นสะท้านไปมา!

ทุกผู้คนที่รับชมเรื่องราวอยู่ไกลออกไป หัวใจล้วนเปี่ยมล้นด้วยความหวาดกลัว!

ราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์ คือตัวตนเหนือคนนับร้อยล้าน แต่แล้วบัดนี้ กลับถูกทุบตีไม่ต่างอะไรกับดอกไม้เลือดที่เจิ่งนองกับพื้นเพราะโลงศพของใครก็ไม่รู้!

“จับเป็นมัน!” ฉินหยุนที่บาดเจ็บ ฉับพลันตะโกนขึ้น

“ย่อมได้!” เจียงต้าจูเปิดฝาโลงศพ นำร่างของราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์ใส่ไว้ภายใน

“ไป!” เว่ยจงเจิ้งแบกร่างฉินหยุนไว้บนแผ่นหลัง มุ่งหน้าไปยังทางเข้าพระราชวังหลวง

ขณะเจียงต้าจูตามหลัง เขายังเป็นกังวลถึงราชันยุทธ์อีกสองคนที่ยังซ่อนตัวอยู่!

ภายในพระราชวังหลวง มีราชันยุทธ์อยู่สองคน หนึ่งคือราชันยุทธ์หงหยิง อีกหนึ่งเป็นผู้ใดไม่อาจทราบ

นับตั้งแต่เกิดเรื่องจนบัดนี้ อีกฝ่ายหาได้เข้ามาแทรกแซงเรื่องราวไม่!

กระทั่งว่าพระราชวังหลวงยุทธ์หงพังทลายแทบเป็นเศษซากปรักหักพัง ราชันยุทธ์หงหยิงก็เพียงแค่รับชมเรื่องราวจากด้านข้าง เขาเพียงลงมือก็ตอนช่วยเหลือบุตรธิดาทั้งสองของตนเอง!

ท้ายที่สุด พระราชวังที่เป็นเศษซากไปแล้ว ค่อยกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง

“งานเฉลิมฉลองจบลงแล้ว ขอให้ออกจากสถานที่ด้วย! ค่ำคืนนี้ทุกคนคงพึงพอใจแล้วใช่หรือไม่?” ราชันยุทธ์หงหยิงเผยน้ำเสียงดังให้ทุกผู้คนได้ยิน

หลายคนต่างพึงพอใจ อย่างไรแล้ว พวกเขาก็ได้เป็นประจักษ์พยานถึงเหตุการณ์ครั้งใหญ่ระดับนี้ด้วยตาตนเอง!

ทุกคนขณะนี้กำลังตื่นเต้นและหวาดเกรง ดังนั้นจึงเร่งรีบไปจากพระราชวังหลวง คิดกลับไปรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้น ให้แก่ผู้อาวุโสในกองกำลังของตนเองได้รับทราบ

ภายในพระราชวังหลวงยุทธ์หง ด้านในหอแห่งหนึ่งซึ่งยังไม่พังทลายลงมา

“เสด็จพ่อ พี่หยุนเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?” หงเมิ่งจูซึ่งนอนกับเตียงนุ่มเอ่ยถาม

“เว่ยจงเจิ้งเลื่อนระดับอย่างกะทันหัน ก้าวสู่ขอบเขตราชันยุทธ์! ราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์โดนจับตัว ฉินหยุนได้รับการช่วยเหลือ เขาไปจากนครราชันยุทธ์หงแล้ว!” หงหยิงถอนหายใจเบาออกมา “พ่อไม่คิดเลยว่าวันนี้เรื่องราวจะเป็นเช่นนี้ได้!”

ขณะนั่งกับเก้าอี้ สีหน้าของหงเหยียนค่อยดีขึ้น เขาเอ่ยปากถามออกมา “เสด็จพ่อ ในเมื่อท่านไม่ยื่นมือช่วยเหลือราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์และคณะ ตำหนักโทเทมจะกล่าวโทษหรือไม่?”

“กล่าวโทษ? ไม่ใช่พวกเราส่งบรรณาการเป็นสมบัติหายากมากมายทุกหนึ่งร้อยปีจนพวกมันพึงพอใจเสมอมาหรือไร?” หงหยิงแค่นเสียงเย็นชา

หงเมิ่งจูเผยเสียงอ่อนแรง “เสด็จพ่อ ไม่กล่าวโทษที่พวกเราช่วยเหลือฉินหยุนหรือ?”

“ย่อมไม่! เป็นคนย่อมต้องแยกแยะความผิดชอบชั่วดีและเกลียดชังออกจากกันอย่างชัดเจน!” หงหยิงหัวเราะ “พวกลูกทำได้ดี ที่มีมิตรสหายที่เหนียวแน่นเพียงนี้! หากตำหนักโทเทมไม่อาจทำลายประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ในภายหน้า ก็ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ให้ก้าวหน้าได้!”

หงเหยียนเอ่ยถาม “เสด็จพ่อ ตำหนักโทเทมเป็นผู้ลงมือสังหารคนมากมายของประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์เมื่อกาลก่อนหรือ? ที่ทำก็เพื่อไม่ให้พวกเขาได้แข็งแกร่งขึ้น?”

หงเมิ่งจูก็สงสัยต่อเรื่องนี้ขณะมองเป็นการถามต่อหงหยิง

หงหยิงพยักหน้ารับ “พวกลูกควรทราบอยู่แล้ว ว่าประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์มีเสายักษ์เก้าต้นใช่หรือไม่? พวกมันแกะสลักเอาไว้ด้วยโทเทมดวงตะวัน ตำนานกล่าวว่า พวกมันร่วงหล่นจากเก้าดวงตะวันครั้งโบราณกาล! เสาแต่ละต้น แท้จริงเป็นลูกธนู!”

“ตำนานกล่าวไว้ เมื่อครั้งบรรพกาล มันมีดวงตะวันถึงสิบดวง! หนึ่งในนั้นไม่เคยถูกพบเห็น เป็นมันหลบซ่อนในท้องฟ้า!”

“มีเพียงเก้าดวงตะวันที่สามารถมองเห็น พวกมันส่งถ่ายความร้อนแรงมหาศาลออกมา ทำเอาทุกสรรพชีวิตเบื้องล่างไม่อาจอยู่รอด ตอนนั้น เทพได้ปรากฏตัว ขัดเกลาเก้าคันธนูและลูกธนูขึ้น เป็นเขาส่งพวกมันไปยังเก้าดวงตะวัน ทำการผนึกเก้าดวงตะวันเอาไว้ ยอมให้เก้าดวงตะวันได้แต่ปล่อยพลังวิญญาณเก้าตะวันออกมาเท่านั้น!”

หงเมิ่งจูคิ้วขมวด “ไม่ใช่ว่าเก้าลูกธนูนั้นคือผนึกความร้อนของเก้าดวงตะวันหรือ? เหตุใดจึงปรากฏที่แดนยุทธ์อ้างว้าง? ตอนนี้เก้าดวงตะวันไม่ถูกผนึกโดยเก้าลูกธนู แต่กลับหาได้ร้อนแรงเช่นตำนานไม่!”

“เสด็จพ่อ ในเมื่อลูกธนูทั้งเก้าได้หลุดพ้นจากเก้าดวงตะวัน หมายความถึง คลื่นความร้อนจากเก้าดวงตะวันสมควรกลับคืนมาอีกครั้งใช่หรือไม่?”

หงหยิงส่ายศีรษะ “ครั้งพ่อยังเยาว์ เพียงได้ยินเรื่องจากผู้อาวุโส ว่ามีแดนอ้างว้างอันลึกล้ำในแดนอ้างว้างทั้งเก้า ที่แห่งนั้น ประกอบด้วยตัวตนเปรียบดั่งเทพอันทรงอำนาจมากมาย คงอยู่เพื่อเสถียรภาพของแดนอ้างว้างทั้งเก้าและดวงตะวันทั้งเก้า”

“เป็นไปได้ว่า เก้าดวงตะวันถูกควบคุมโดยเหล่าเทพในภายหลัง เทพเหล่านั้นอาจคิดว่าลูกธนูทั้งเก้าไร้ประโยชน์ ดังนั้นจึงปล่อยพวกมันร่วงหล่นสู่แดนยุทธ์อ้างว้าง!”

เขาลูบที่ศีรษะของหงเมิ่งจูและยิ้ม “ทั้งหมดนี้ก็เพียงตำนาน ไม่มีอะไรยืนยันว่าเป็นความจริง เพียงคิดว่าฟังนิทานสักเรื่องหนึ่ง! โดยสรุปแล้ว เสาทั้งเก้าของประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ มันเต็มไปด้วยโทเทมตะวันอันล้ำค่าอย่างยิ่งยวด!”

“ด้วยเหตุนี้ ตำหนักโทเทมจึงคิดอยากควบคุมประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์มาโดยตลอด เพื่อสอดแนม คว้าเอาความลับของโทเทมตะวันออกมา!”

“นี่ยังเป็นสาเหตุ ว่าทำไมประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์จะแข็งแกร่งขึ้นในภายหน้าด้วย?” หงเหยียนเอ่ยถาม

หงหยิงพยักหน้ารับ “ตราบเท่าที่มีคนสามารถควบคุมโทเทมตะวันของเสาทั้งเก้าต้น ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ ย่อมต้องกลายเป็นสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนยุทธ์อ้างว้าง!”

ภายในเรือบินทองคำของเว่ยจงเจิ้ง ฉินหยุนกำลังหลับตาฟื้นฟูอาการ

“ผู้อาวุโสเจียง ไม่ใช่ท่านบอกหรือว่าสามารถรับมือราชันยุทธ์ถึงสองคน? เหตุใดเมื่อเผชิญหน้าราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์ ท่านกลับใช้เวลาสู้ยาวนานนัก” ฉินหยุนเอ่ยถามเสียงเบา

“เป็นข้าถูกผนึกเอาไว้นานนับ จึงสูญเสียพละกำลังไปมหาสาล เพียงระยะเวลาเล็กน้อย ข้าไม่อาจฟื้นฟูความแข็งแกร่งถึงขีดสุดกลับคืนมาได้! ไม่เช่นนั้น ข้าเพียงโบกมือใส่ เจ้านั่นก็ตายตกในคราเดียวไปแล้ว!” เจียงต้าจูตอบคำ

“เหอะ! ข้าเกือบตายเพราะถูกท่านลวงหลอก!” ฉินหยุนฮึมฮัมออกมา

เว่ยจงเจิ้งหัวเราะ “เสี่ยวหยุน! คำกล่าวของผู้อาวุโสเจียงเป็นความจริง เพราะเขา... หาได้ใช่มนุษย์ แต่เป็นหุ่นเชิดที่ใกล้เคียงมนุษย์อย่างยิ่ง! หากเขาถูกผนึกเอาไว้เป็นเวลายาวนาน เช่นนั้นย่อมต้องถูกเผาผลาญพลังไปอย่างมหาศาล!”

ฉินหยุนขณะนี้เผยดวงตาเบิกกว้าง มองที่เจียงต้าจูอย่างไม่อยากเชื่อสายตา!

เขาไม่เคยคาดคิด ว่าชายชราที่โดนแช่แข็งนานนับหมื่นปี แท้จริงเป็นหุ่นเชิดมนุษย์!

นอกจากนี้ ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ หุ่นเชิดมนุษย์ผู้นี้ ถึงขั้นต่อสู้กับราชันยุทธ์ได้!

หรือก็คือ ระดับการฝึกฝนของผู้ที่ขัดเกลาเขาขึ้นมาย่อมต้องสูงล้ำ ต้องเป็นตัวตนที่เหนือกว่าราชันยุทธ์!

“ต่อให้ข้าเป็นหุ่นเชิด ก็เป็นหุ่นเชิดระดับสูงยิ่ง ข้ามีวิญญาณและความนึกคิด รวมถึงความรู้สึกและความภักดีเป็นของตนเอง ข้าทราบว่าควรตอบแทนยามได้รับการช่วยเหลือ!” เจียงต้าจูพอได้เห็นสายตาประหลาดของฉินหยุน เขาเร่งร้อนกล่าว “อย่าได้ทำเหมือนข้าเป็นหุ่นเชิด!”

ฉินหยุนลูบศีรษะขณะยิ้มเอ่ยถาม “ข้าคิดอยากผ่าร่างท่าน ศึกษาโทเทมภายในร่างกายนั้นมากกว่า...”

“อย่าได้คิด!” เจียงต้าจูเร่งรีบถอยหนีไปหลบมุม

ถัดจากนั้น ฉินหยุนจึงเล่าเรื่องราวต่อเว่ยจงเจิ้ง ว่าเขาได้รับโลงศพหยกมาได้อย่างไร

“ผู้อาวุโสเจียง ย้อนกลับไปตอนนั้น เกิดอะไรขึ้นกับท่านกันแน่?” เว่ยจงเจิ้งเอ่ยถามด้วยความสงสัย

เจียงต้าจูถอนหายใจยาว “ก็ต้องเพราะเรื่องสวนโบราณไม่ใช่หรือ? ย้อนกลับไปตอนนั้น เกิดศึกปะทะภายในรุนแรง ข้าจึงถูกส่งตัวมาจากแดนวิญญาณอ้างว้างให้จบปัญหา แต่เจ้าพวกนั้นหาได้ฟังคำชี้แนะข้า กระทั่งคิดต่อสู้กับข้า!”

“ภายหลัง ข้าไปจากสวนโบราณและออกมาอยู่ภายนอก ที่แห่งนั้นตอนนี้คือเทือกเขาโบราณหยก เป็นข้าโดนปิดล้อมเอาไว้โดยผู้แข็งแกร่งหลายต่อหลายคน จากนั้นจึงถูกจับตัว และผนึกเอาไว้ในโลงศพหยกนั่น”

“เมื่อข้าถูกผนึก ยอดฝีมือที่ทรงอำนาจจากแดนวิญญาณอ้างว้างจึงปรากฏตัว สร้างภูเขาสีดำขนาดใหญ่ขึ้น กดทับข้าและเจ้าพวกนั้นไปพร้อมกัน! พวกมันที่รุมข้าล้วนตายสิ้น ขณะที่ข้าถูกขังเอาไว้ด้านล่างภูเขาลูกนั้น!”

ฉินหยุนเอ่ยคำ “เป็นท่านถูกทิ้งเอาไว้!”

เจียงต้าจูเผยน้ำเสียงโศก “เป็นเช่นนั้น... ข้าไม่ทราบว่าตอนนี้จะกลับแดนวิญญาณอ้างว้างอย่างไร ทว่า ข้าคิดอยากกลับไปพบนายท่าน!”

เว่ยจงเจิ้งใช้มือสัมผัสที่โลงศพหยก “เสี่ยวหยุน ภายในคือราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์ หากพวกเราจับเป็นมัน สำนักราชันอัคคีย่อมต้องระเบิดโทสะออกมาแน่!”

“พามันกลับไปด้วยขอรับ อย่าได้เร่งรีบลงมือสังหาร ข้ามีความคิดใช้งานมัน!” ฉินหยุนหัวเราะคิกคักออกมา

ราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์คือราชันยุทธ์ วิญญาณยุทธ์ของเขาย่อมต้องแกร่งกล้าอย่างแน่นอน!

ฉินหยุนคิดอยากใช้เคล็ดวิชาขัดเกลาวิญญาณ แยกเอาวิญญาณยุทธ์ของราชันยุทธ์อัคคีสวรรค์ออกมา!

เจี้ยนเสวียนสื่อ คือผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับสูงสุด และตอนนั้น ฉินหยุนก็สามารถแยกวิญญาณยุทธ์อีกฝ่ายได้สำเร็จ

“ตอนนี้ข้าก้าวสู่ขอบเขตราชันยุทธ์แล้ว! ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ของพวกเรา จะได้แสดงดาบของพวกเราให้ตำหนักโทเทมได้เห็น พวกเราจะจัดการข้อพิพาทที่พวกมันสร้างขึ้นต่อพวกเราในกาลก่อน!” เว่ยจงเจิ้งเอ่ยคำอย่างกราดเกรี้ยว

เจียงต้าจูเผยน้ำเสียงกล่าวออก “ตำหนักโทเทมไม่ใช่เล็กจ้อย! เจ้าควรทราบ ว่าตำหนักโทเทมเข้าสู่แดนสัตว์อ้างว้างจากแดนอสูรอ้างว้าง และหลังจากแปรเปลี่ยนแดนสัตว์อ้างว้าง ให้กลายเป็นแดนสัตว์อสูรอ้างว้าง พวกมันค่อยส่งคนมายังแดนยุทธ์อ้างว้าง!”

“หรือก็คือ ขั้วอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดของตำหนักโทเทม ยังคงมีอยู่ที่แดนอสูรอ้างว้าง! และแดนอสูรอ้างว้าง ก็คือตัวตนที่ทรงอำนาจทัดเทียมกับแดนวิญญาณอ้างว้าง!”

“หากพวกเราสร้างเรื่องต่อตำหนักโทเทม แดนสัตว์อสูรอ้างว้าง และแดนอสูรอ้างว้าง ย่อมต้องส่งกำลังเสริมมา!”

ฉินหยุนเอ่ยคำ “ไม่ใช่ว่าแดนวิญญาณอ้างว้างต้องช่วยเหลือหรือ? หากกองกำลังจากแดนอสูรอ้างว้าง คิดขยับขยายดินแดนรุกราน แดนวิญญาณอ้างว้างท้ายที่สุดอาจกลายเป็นเบี้ยล่างแก่แดนอสูรอ้างว้างได้!”

เจียงต้าจูส่ายศีรษะ “เจ้ายังไม่ทราบ แดนวิญญาณอ้างว้าง และแดนอ้างว้างยิ่งใหญ่แห่งอื่นเหล่านั้น ไม่มีเส้นทางเชื่อมถึงกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากหากคิดเดินทางไปมา!”

“ในอดีต ดันมีเส้นทางไปกลับระหว่างแดนอสูรอ้างว้างและแดนสัตว์อ้างว้างเกิดขึ้นอย่างปุบปับ ด้วยเหตุนั้น กองกำลังจากแดนอสูรอ้างว้าง จึงเข้าโจมตีแดนสัตว์อ้างว้าง และยึดครองแดนสัตว์อ้างว้างเอาไว้ได้!”

“เป็นเพราะแดนสัตว์อ้างว้าง แดนยุทธ์อ้างว้าง และแดนปีศาจอ้างว้างไม่อาจหาทางอื่น กองกำลังของแดนอสูรอ้างว้าง จึงค่อย ๆ คืบคลานรุกรานทั้งแดนปีศาจอ้างว้างและแดนยุทธ์อ้างว้าง!”

ฉินหยุนและเว่ยจงเจิ้งขณะนี้ ตกสู่ความเงียบงันยามได้ยินคำบอกเล่าของเจียงต้าจู พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเกิดความกังวลเกาะกุมหัวใจ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด