ตอนที่แล้วGE323 ศัตรูที่อันตราย [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE325 อำนาจ [ฟรี]

GE324 มุกวิญญาณฟ้า [ฟรี]


วู่หยานและซีหลานเก็บธุลีสมุนไพรในสวนจนหมด ธุลีสมุนไพรเหล่านี้ไร้ผลมีผลต่อราชาอสูรเพียงคนเดียว สำหรับคนอื่นแล้ว ธุลีสมุนไพรนั้นไร้ค่า

หนิงฝานไม่ได้สนใจธุลีสมุนไพร เขาสนใจบางสิ่ง

ดินของที่นี่มีชื่อเรียกว่าดินวิญญาณ เป็นดินที่ผ่านกาลเวลาเนิ่นนาน ให้กำเนิดสมุนไพรล้านปี ซึ่งนี่นับเป็นสมบัติอย่างแท้จริงในสายจาหนิงฝาน

“แสง… โขดหิน...”

ศพนางสวรรค์จับมือหนิงฝานเดินไปยังโขดหินแห่งหนึ่ง

นางอยากพาหนิงฝานมา เพราะนางรู้ว่า ที่นี่ คือสถานที่ที่นางมีความสุขที่สุด

เมื่อนางเริ่มได้สติปัญญากลับมา นางเริ่มรู้ว่า หากจะขอให้หนิงฝานต้องทำอะไร ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน ดังนั้น นางจึงจูบลงบนแก้มหนิงฝานเบาๆ

“โขดหิน...”

เมื่อสัมผัสได้ถึงรอยจูบเย็นๆจากริมฝีปากนาง หนิงฝานไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้

“เด็กโง่… ก็ได้ ข้าจะเอาโขดหินและสวนสมุนไพรไปด้วย ในอนาคต เจ้าจะได้เห็นมันทุกวัน ดีหรือเปล่า?”

“อืม… ดี...”

นางพยักหน้าด้วยความดีใจ ราวกับเด็ก 6 ขวบที่ได้ของเล่น

หรือสติปัญญาของนางจะฟื้นฟูเทียบเท่าเด็กอายุ 6 ขวบ?

“นี่หรือความรัก...” เป่ยเหยาจ้องมองหนิงฝานและศพนางสวรรค์ หากเพื่อคนที่นางรัก แม้ตายนางก็ไม่เสียใจ

หนิงฝานโคจรพลัง ดึงดูดเอาสวนสมุนไพรทั้งหมดเข้าไปไว้ในโลกเย่าหยวน

หนิงฝานไม่ได้นำแหวนออกมา เพราะหากเป่ยเหยารู้ว่าเขามีแหวนเยว่หยวน อาจกลายเป็นปัญหาร้ายแรง

แต่ในขณะที่หนิงฝานเก็บสวนสมุนไพรอยู่นั้น เป่ยเหยากลับสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่าง

“พลังนี้? เหมือนกับพลังที่เขาไว้เปิดโลกที่อยู่ภายในสมบัติ… คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีสมบัติล้ำค่าขนาดนี้อยู่ แต่ทำไม… ข้ารู้สึกคุ้นกับพลังของมันมาก”

นางจ้องมองหนิงฝานพลางพยายามสัมผัสกับพลัง แม้นางจะคิดว่าหนิงฝานมีสมบัติที่มีพื้นที่เป็นของตน แต่พลังที่สัมผัสได้กลับคล้ายแหวนเย่าหยวนมาก

“สงสัยข้าจะเข้าใจผิดไป!”

หนิงฝานระวังตัวเป็นอย่างดี เขาไม่มีทางเอาแหวนเย่าหยวนออกมาแสดงต่อหน้านางเด็ดขาด เขาไม่อยากให้นางรู้ว่าเขารู้จักกับเป่ยเซี่ยวเหมิน

แค่เพียงไม่แสดงมัน นางย่อมไม่มีทางรู้ เพราะสมบัติที่มีพื้นที่เป็นของตนนั้น มีมากมายนับไม่ถ้วน ไม่แปลกที่พวกมันจะคล้ายกัน

“จริงๆแล้วข้าก็คิดจะมอบแหวนเย่าหยวนให้เป็นของขวัญให้เจ้าเพื่อเก็บสวนสมุนไพร แต่เมื่อเจ้ามีที่เก็บเป็นของตัวเองแล้ว ก็คงไม่จำเป็น...” นางถอนหายใจเล็กน้อย

“อืม… ท่านเก็บแหวนเย่าหยวนไว้ให้คนรักเถอะ” หนิงฝานกล่าว

เขาชิงแหวนเย่าหยวนมากจากเป่ยเซี่ยนเหมินแล้ว เขาจึงปฏิเสธที่จะรับแหวนจากเป่ยเหยา

“คนรัก… ข้าไม่มีคนรักหรอก ไม่เคยมี… ในอนาคตก็คงไม่ต่างกัน” แม้แววตาของนางจะไม่สั่นไหว แต่กลับสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้า

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วยาม เส้นแสงสายหนึ่งได้มุ่งตรงมายังสวนสมุนไพร ทำความเงียบที่เคยเป็น

เส้นแสงนั้นมุ่งลงพื้นดิน ก่อนปรากฏเป็นร่างของสตรีอายุราว 8 ขวบที่น่ารัก นางคือเยว่หลิงคง

“กลับมาแล้วเหรอ? เจออะไรที่เป็นภัยหรือเปล่า? เจอทางออกจากป่าโบราณหรือเปล่า?”

“ฮึ่ม! เจ้าแตงกวา ถ้าอยากรู้ต้องเรียกข้าว่าเยว่เอ๋อร์”

นางบุ้ยปากพลางกล่าว แต่ยามนี้ ดูเหมือนแววตาที่นางมองหนิงฝานจะเปลี่ยนไป

“รอบๆนี้ไม่มีอันตรายร้ายแรง อย่างมากก็อสูรตัดวิญญาณ ลำพังข้าย่อมจัดการได้… แต่เรื่องเส้นทาง เท่าที่ข้าเห็นมีด้วยกันสามเส้นทาง แต่เส้นทางพวกนั้นมีร่องรอยการต่อสู้ หนึ่งในสามเส้นทางนั้นน่าจะเป็นเส้นทางที่คนของเผ่าอัสนีใช้หนี… เราจะไปทางไหนกันดี”

มือข้างหนึ่งของเยว่หลิงคงถือแผนที่ที่นางร่างไว้คร่าวๆ อีกมือถือลูกกลมสีฟ้าที่ช่วยไม่ให้นางตกอยู่ในมนต์ของข่ายอาคมลวงตา

ลูกกลมเม็ดนี้ให้ผลที่น่าประหลาด แม้จะอยู่ในข่ายอาคมลวงตาระดับเซียน แต่ยังช่วยลบล้างผลของข่ายอาคมได้ ลูกกลมมีชื่อว่า ‘มุกวิญญาณฟ้า’ เป็นสมบัติที่เอาไว้ป้องกันข่ายอาคมโบราณ เดิมทีเป็นของสนมอสูรจื่อ แต่หนิงฝานให้เยว่หลิงคงยืมใช้

ในขณะที่ซีหลานและวู่หยานเก็บธุลีสมุนไพร เยว่หลิงคงใช้เวลาไปกับการสำรวจโดยรอบ

“3 เส้นทาง? บางที… ถ้าไปเส้นทางเดียวกันกับคนของเผ่าอสูร น่าจะปลอดภัยมากกว่า เพราะพวกเราจัดการกับหมาป่าโหยไปแล้ว” เป่ยเหยากล่าว

“พี่เป่ยเหยาพูดมีเหตุผล!” วู่หยานกล่าว

“พี่ลู่เป่ย ไม่ว่าท่านจะเลือกทางไหน ข้าก็จะติดตามท่านไป… เพราะท่านต้องปกป้องข้า” ซีหลานกล่าว

หนิงฝานขบคิดกับคำกล่าวของเหล่าสตรี ยามนี้กุญแจสู่วังดาราอยู่กับตน หากไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่ควรประมือกับหมาป่าดาราโหย

ยามนี้เหล่าสตรียังไม่ทราบว่ากุญแจอยู่กับหนิงฝาน และไม่ทราบว่าเขาจะไปยังใจกลางของวังดาราเพื่อช่วยดวงจิตของลู่หวู่

หนิงฝานนำแผ่นหยกที่ลู่ตู้เฉินเคยให้ออกมาจากกระเป๋า เมื่อถ่ายสัมผัสเทพสำรวจภายใน เขากลับขมวดคิ้ว เพราะหากจะเข้าไปยังส่วนที่ดวงจิตของลู่หวู่อยู่ เขาอาจเลี่ยงการปะทะกับจ้าวดาราหมาป่าโหยไม่ได้

“ข้าเลือกทางนี้...”

หนิงฝานนำรถเพลิงทองคำออกมา นำเหล่าสตรีขึ้นรถและมุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่เลือก

ผ่านไปครึ่งเดือน บริเวณที่มีหิมะโปรยปราย เงาร่างของคน 9 คนมุ่งหน้า เส้นทางที่ทั้งหมดผ่านมา เต็มไปด้วยซากสัตว์อสูร

ยามนี้ทั้ง 9 แบ่งคนออกสองกลุ่ม ต่างฝ่ายต่างจ้องมองด้วยสายตาโกรธเคือง

กลุ่มคนเหล่านี้เป็นคนของแดนสอง ฝ่ายแรกมีนายกองของเผ่าอัสนี นายกองแห่งเผ่าวายุ นายกองแห่งเผ่ารอยแยกพิภพ และคนของเผ่าลั่วหยุน... ฝ่ายที่สองคือลู่เจี่ยเฟินแห่งเผ่าเพลิงและคนของมัน

“ลู่ตู้เฉิน... พวกข้าสังหารหมาป่าโหยอย่างยากลำบาก แต่กลับมีแต่เจ้าที่ได้ผลไม้แห่งเต๋าไป… ส่งมันมาให้ข้าซะ!”

ลู่เจี่ยเฟินกล่าวด้วยโทสะ เปลวเพลิงที่รุนแรงลุกโหม แผดเผาหิมะที่โปรยปรายกระทั่งละลายหายหมด

“ฮึ่ม! เจ้ามันไร้ยางอาย หมาป่าตัวนั้นไล่ล่าพวกข้าไปจึงถึงรังของพวกมัน หากไม่เพราะคนของข้ายอมแลกชีวิต พวกข้าคงไม่อาจชิงผลไม้แห่งเต๋ามาได้! เหตุใดข้าต้องให้เจ้า!”

“ใช่… ลู่เจี่ยเฟิน อย่าได้อวดดีจนเกินไป! ที่นี่ไม่ใช่เผ่าเพลิงของเจ้า ถ้าเจ้าคิดจะแตกหักกับพวกข้าเพียงแค่เพราะผลไม้แห่งเต๋านี่… ก็เตรียมตัวตายได้เลย!” นายกองเผ่าวายุกล่าว

ผู้ที่อยู่ฝ่ายเดียวกับลู่ตู้เฉินกล้าท้าทายลู่เจี่ยเฟิน แต่พวกมันไม่กล้าท้าทายหนิงฝาน ดังนั้นจึงคิดยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับเผ่าลั่วหยุน

“พวกเจ้าใจเย็นๆก่อน อย่าได้ด่วนใจร้อนไป” นายกองของเผ่าพิภพกล่าว

“อย่าคิดว่าพวกเจ้าจะทำอะไรข้าได้… เพื่อให้ได้ผลไม้แห่งเต๋านั่น เพื่อให้ข้าได้มีโอกาสบรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลง ต่อให้ข้าต้องเผยพลังที่แท้จริงข้าก็ยอม…”

แววตาลู่เจี่ยเฟินแปรเปลี่ยนโหดร้าย กลิ่นอายพลังที่แตกต่างในร่างแผ่พุ่ง เปลวเพลิงสีม่วงปรากฏ กระจายตัวและก่อตัวขึ้นใหม่ในร่างของลู่เจี่ยเฟินอีกคน

ลู่เจี่ยเฟินอยู่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูง ส่วนอีกร่างอยู่ขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง!

“กึ่งไร้ดัดแปลง! เจ้าเป็นใคร!” นายกองเผ่าอัสนีและเผ่าวายุขมวดคิ้ว เปลวเพลิงสีม่วงก่อตัวเป็นบุรุษในอาภรณ์ม่วง

“ข้าเป็นใคร? ข้าก็คือลู่เจี่ยเฟินอีกคน… ผู้นำวังผนึกอสูรแห่งทะเลส่วนใน ถ้าพวกเจ้ายอมส่งผลไม้แห่งเต๋ามาและยอมให้ข้าประทับตราวิญญาณ ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า!”

ลู่เจี่ยเฟินในอาภรณ์ม่วงเย้ยหยัน

ลู่ตู้เฉินที่บาดเจ็บจ้องมองลู่เจี่ยเฟินทั้งสองคนไม่วางตา ไม่นานชายชราก็กล่าวขึ้น

“ข้าเข้าใจแล้ว… ลู่เจี่ยเฟินตัวจริงคือเจ้า ส่วนลู่เจี่ยเฟินแห่งเผ่าเพลิงคืออีกร่างของเจ้า… แต่น่าแปลกที่เจ้าออกไปจากแดนสองได้ จนได้ขึ้นเป็นผู้นำของวังผนึกอสูร”

“ความลับของเจ้าคือวิชากลืนศพ” ลู่จู้เฉินกล่าว วิชากลืนศพคือการใช้ศพอสูรเปลี่ยนให้กลายเป็นอีกร่างของตน หรืออาจใช้เพื่อดูดกลืนศพยกระดับพลัง

แม้วิชานี้จะเป็นวิชาอสูรโบราณที่หาได้ทั่วไป แต่ก็มีน้อยคนที่จะฝึกฝนเพราะมีนอันตรายมาก ผู้ที่พลาดย่อมหมายถึงความตาย! แต่ลู่เจี่ยเฟินกลับฝึกวิชาได้สำเร็จ

มันทิ้งอีกร่างไว้ที่แดนสอง หากอีกร่างของมันบรรลุขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง มันจะนำอีกร่างเข้ามาดูดกลืนพลัง จนทำให้ร่างจริงของมันบรรลุไร้ดัดแปลง!

“ลู่ตู้เฉิน… ข้าจะนับถึง 3 ถ้าเจ้าไม่ยอมส่งผลไม้แห่งเต๋ามา ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด!”

แววตาลู่เจี่ยเฟินแปรเปลี่ยนเย็นชา แรงกดดันในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงเข้ากดดันทุกคน

“หนึ่ง!”

“สอง!”

ลู่ตู้เฉินและคนอื่นๆโกรธเคืองเป็นอย่างมาก

แต่ถึงอย่างนั้น พวกตนคงทำได้เพียงส่งผลไม้แห่งเต๋าให้ และยอมให้อีกฝ่ายประทับตราวิญญาณ เพราะไม่มีผู้ใดต่อกรกับขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงได้

“ไม่ต้องนับแล้ว… ข้าจะมอบให้” ลู่ตู้เฉินถอนหายใจ พลางเดินเข้าหาอีกฝ่ายเพื่อมอบผลไม้แห่งเต๋าให้

แต่ชั่วพริบตานั้น เสียงของคนผู้หนึ่งก็ดังสะท้อนมาพร้อมกับเส้นแสงสีทอง

“มีข้าอยู่ ใครกล้าล่วงเกินคนของเผ่าลั่วหยุน!”

รถเพลิงทองคำปรากฏเหนือท้องนภา เงาร่าง 2 สายทะยานออกมาจากรถด้วยความเร็วสูง

นอกจากลู่เจี่ยเฟินในอาภรณ์ม่วงแล้ว ไม่มีผู้ใดเห็นเงาร่างนั่นได้ชัดนัก

“เป็นไปไม่ได้!”

*ตูม!*

เงาร่างสองสายปรากฏตัวเบื้องหน้าลู่เจี่ยเฟินก่อนจะชกหมัด และตะปบกรงเล็บเข้าใส่อย่างรุนแรง

ลู่เจี่ยเฟินพยายามต้ายรับ แต่ด้วยการจู่โจมสองทาง ทำให้มันถูกซัดปลิว!

ลู่เจี่ยเฟินตะเกียกตะกายลุกยืนพลางกระอักโลหิต มันได้รับบาดเจ็บสาหัส

“มังกรทมิฬ… ทาสขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง” มันแทบไม่อยากเชื่อสายตา!...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด