ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0380 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0382 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0381 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 381 : รองเท้ากำราบมังกร

เฟิงหงหลันกล่าวขอบคุณฉินหยุนจากใจ นางยิ้มหวานรับและกล่าวคำ “นายน้อยฉินโปรดรับไว้! เช่นนี้ท่านจะได้ไม่ต้องไปซื้อหาจากผู้อื่นอีก! จ้าวสำนักประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์จะได้อาการดีขึ้นโดยเร็ว”

ฉินหยุนคิดอยากรับเอาไว้ กระนั้นเขาก็ไม่ใช่ผู้ที่เห็นแก่ตัว เหตุผลที่เขาช่วยเหลือเฟิงหงหลัน ก็เพราะนางช่วยเหลือเขาเอาไว้จากเหตุการณ์ก่อนหน้า นางหาได้ติดค้างเขาแต่อย่างใด

ตอนนี้ หากเฟิงหงหลันมอบหญ้าลึกล้ำเยือกแข็งม่วงแก่เขา เท่ากับนางต้องแบกรับความเสี่ยงมหาศาลไว้กับตัว อย่างไรแล้ว ขุนเขาลึกล้ำดาบ ย่อมต้องตระหนักและรับรู้ถึงสิ่งที่หายไปอย่างประจวบเหมาะ หากพวกมันทราบเมื่อใด เมื่อนั้นจะถึงคราวที่โทสะของพวกมัน จะถูกระบายใส่เฟิงหงหลัน

ฉินหยุนส่ายศีรษะ “อย่าได้ อาการบาดเจ็บจ้าวสำนักของพวกเราคงที่แล้ว ยังมีเวลาให้ข้ามากพอค้นหาหญ้าลึกล้ำเยือกแข็งม่วงจากทางอื่น!”

“ท่ามกลางสำนักใหญ่ หญิงสาวเช่นเจ้าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเติบโตได้ระดับนี้ ข้าไม่คิดอยากให้เจ้าต้องแปดเปื้อนเพราะเรื่องนี้!”

“หาได้เป็นไรไม่!” เฟิงหงหลันเผยรอยยิ้มกระจ่างชัด “ข้าเข้าใจเป็นอย่างดี บางครั้ง ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง บางทีก็ไม่ควรคิดอันใดให้มากความ ไม่เช่นนั้นหากมัวแต่คิด จะคบหามิตรสหายสักคนได้เช่นไรกัน!”

ฉินหยุนหัวเราะ “เจ้าเสี่ยงชีวิตตนเองช่วยเหลือข้าและเมิ่งจู เพียงเท่านั้นก็นับได้ว่าเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกันแล้ว! เจ้าอย่าได้มอบหญ้าลึกล้ำเยือกแข็งม่วงแก่ข้าจะดีที่สุด ด้วยเมิ่งจูช่วยเหลือ พวกเราจะหามันได้เอง!”

ขณะนี้เอง เฟิงหงหลันคว้ามือฉินหยุนเอาไว้ ยัดเยียดหญ้าลึกล้ำเยือกแข็งม่วงในมือ จากนั้นนางจึงกุมมือเอาไว้แน่น

ฉินหยุนรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นจากเฟิงหงหลัน รวมถึงมืออ่อนนุ่มที่เกาะกุมมือของเขาเอาไว้ มันทำให้เขาได้ทราบถึงเจตนาดีที่นางมอบให้

“ท่านเป็นบุรุษ อย่าได้มากความแล้ว หากภายหน้ามีอันใดเกิดขึ้น เช่นนั้นก็ให้เป็นเรื่องของภายหน้า!” เฟิงหงหลันยิ้มหวานหยด รอยยิ้มของนางที่เผยออก เป็นสิ่งที่เผยออกจากก้นบึ้งหัวใจ

“ย่อมได้! เช่นนั้นนี่คือห้าล้านเหรียญม่วง เจ้ารับไว้ด้วย!” ฉินหยุนนำบัตรผลึกออกมาและยิ้มรับ

เฟิงหงหลันไม่มีทางเลือก ได้แต่จำยอมรับห้าล้านเหรียญม่วงจากฉินหยุน นี่ถือเป็นเงินก้อนใหญ่สำหรับนาง

“พี่หยุน ท่านจะกลับประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์เลยหรือไม่?” เฟิงหงหลันเอ่ยถาม นางขณะนี้สวมใส่ชุดสีดำรัดรูป ทำเอาเผยส่วนโค้งเว้าของร่างกายชัดเจน

ขณะยิ้มอ่อนโยนให้ รูปลักษณ์ที่นางเผยขณะนี้นับว่างามงด

ฉินหยุนพยักหน้า “ข้าคิดกลับประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์โดยเร็วว แต่ก็ยังต้องกลับเมืองลึกล้ำหยกเสียก่อน เพื่อบอกต่อผู้จัดการว่าไม่ต้องหาหญ้าลึกล้ำเยือกแข็งม่วงแก่ข้าแล้ว”

“ถัดจากนี้ข้าคงกลับไปพบผู้อาวุโส ด้วยเรื่องราวครั้งใหญ่เกิดขึ้นในเทือกเขาหยกโบราณ เขาคงเป็นห่วงไม่ใช่น้อยแล้ว” เฟิงหงหลันยิ้มอ่อนส่งมาให้ “พี่หยุน ข้ายินดีนักที่ได้เป็นสหายกับท่าน พวกเราตอนนี้นับเป็นสหายที่เสี่ยงชีวิตมาด้วยกัน!”

“ข้าเป็นสหายที่นำแต่โชคร้ายมาเสียกระมัง!” ฉินหยุนต่อว่าตนเองพลางหัวเราะ “ตอนนี้ข้าเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของขุนเขาลึกล้ำดาบ เป็นสหายกับข้ามีแต่จะส่งผลเสีย!”

เฟิงหงหลันยิ้มบาง “พี่หยุนอย่าได้กล่าวเช่นนั้น! พูดตามตรง ด้วยพื้นฐานจากความจริงที่ท่านกล้าต่อต้านสำนักอันชั่วช้านั่น หลายคนก็ประทับใจในตัวท่านมากล้นแล้ว!”

“ศิษย์รุ่นเยาว์หลายคน ยามเผชิญหน้าขั้วอำนาจใหญ่ดังเช่นขุนเขาลึกล้ำดาบ พวกเขาได้แต่ก้มหน้ายอมรับการกลั่นแกล้งเสมอมา! บางครั้ง พวกมันรังแกพวกเราโดยที่ได้แต่จำยอม กระทั่งบอกต่อเรื่องราวยังไม่กล้า!”

ฉินหยุนส่ายศีรษะและยิ้มตอบ “หงหลัน ขุนเขาลึกล้ำเซียนเสียงของเจ้า มีศิษย์นามว่าเชี่ยวเสวียนฉินหรือไม่?”

เฟิงหงหลันเร่งรีบพยักหน้า “ท่านรู้จักนางหรือ? นางเพิ่งเข้าร่วมขุนเขาลึกล้ำเซียนเสียงเมื่อไม่นานมานี้ กล่าวได้ว่าเป็นศิษย์น้องของข้า นางพยายามอย่างหนักไม่ใช่น้อย ปกติจะเป็นคนเงียบงันเก็บตัว จึงไม่ค่อยทราบเรื่องราวอันใดของนางมากนัก!”

“ช่วยข้าส่งมอบยันต์เหล่านี้แก่นาง บอกนางว่า ข้าฉินหยุนขอมอบให้แก่นาง!” ฉินหยุนนำเอายันต์สะกดกายออกมาจำนวนหนึ่งและส่งให้ “เมื่อคิดมอบแก่นาง ช่วยตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีผู้อื่นอยู่ใกล้เคียง เรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับ นางเป็นสหายที่ดีต่อข้าผู้หนึ่ง!”

“โอ...” เฟิงหงหลันพยักหน้ารับจริงจัง จากนั้นจึงหัวเราะ “ข้าไม่คิดเลยว่าท่ามกลางมิตรสหายของพี่หยุน จะมีโฉมงามมากมายเพียงนี้! แต่ก็ถือว่าไม่แปลก พี่หยุนทั้งกล้าหาญ ทั้งยังแข็งแกร่งจนน่าทึ่ง!”

ฉินหยุนยิ้มเขินอายรับคำ “หงหลัน เร่งรีบกลับไปพบผู้อาวุโสของเจ้าได้แล้ว ตัวเจ้าจะได้ปลอดภัยด้วย!”

“ทราบแล้ว ไว้พบกันใหม่! ท่านเองก็ระวังตัวด้วย!” เฟิงหงหลันล่ำลาฉินหยุน ก่อนบินออกพ้นจากป่าไป

ฉินหยุนพบว่าเรื่องราวค่อนข้างแปลก เฟิงหงหลันคล้ายสามารถปลดปล่อยและควบคุมกลิ่นหอมจากกายได้ตามต้องการ ตอนนี้เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นบางเบาที่หลงเหลือ

เขาสวมใส่หน้ากากและคิดพักผ่อนอยู่แถวนี้สักพักหนึ่ง

ฟ้ามืด เขาจึงใช้พลังเงา หายตัวกลมกลืนกับความมืด มุ่งหน้ากลับไปยังภูเขาสีดำ

เป็นเขาเกิดความสงสัยต่อภูเขาสีดำลูกนั้น จึงตัดสินใจคิดกลับไปดูอีกครั้งหนึ่ง!

หลังวิ่งมากว่าสามชั่วยาม เขาค่อยสัมผัสได้ถึงออร่าของกลุ่มคนที่อยู่ในภูเขาใกล้เคียง

“เป็นราชันเหยี่ยวน้อยและพรรคพวกของมัน!” ฝีเท้าของเขาหยุดชะงัก หลบซ่อนตัวเองในต้นไม้ใหญ่บนภูเขา

เป็นเพราะเขาใช้พลังเงาแต่แรก ดังนั้นจึงสามารถเก็บงำตัวตนได้เป็นอย่างดี

เขาค่อยเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ จึงได้ยินเสียงของเย่ว์อี้และคณะ ทั้งยังได้เห็น ว่าพวกมันกำลังล้อมรอบโลงศพหยกเอาไว้

“ก่อนหน้านี้เมิ่งจูบอกเอาไว้ ว่าเจ้าพวกนี้ได้โลงศพหยกมา และภายในมีร่างคนตายอยู่!” ฉินหยุนครุ่นคิดกับตนเอง

ราชันเหยี่ยวน้อย ทันใดนี้เอามือตบเข้าที่ฝาโลงศพหยก ตะโกนกล่าวคำอย่างกราดเกรี้ยว “ตาแก่บัดซบด้านในโลงนี่ หาได้มีสมบัติอันใดอื่นติดโลงมาไม่!”

เย่ว์อี้สบถ “นางสารเลวเมิ่งจูนั่น ได้ผลึกแก้วหยกอักขระชีวิตระดับที่สิบน้ำหนักหลายร้อยจินไปครอง! นั่นเป็นสิ่งที่จะทำให้ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณสามารถเลื่อนสู่ระดับที่เก้าได้!”

“ที่น่าโมโหยิ่งกว่า กระทั่งพวกเรามีเปรียบด้านจำนวน ก็ยังจัดการนางและผู้ติดตามไม่ได้! พวกเรามีขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่ห้า ระดับที่สองและสามอีกหลายคน แต่แล้วกว่าครึ่งกลับเสียชีวิต!”

หู่เฮ่าจวินเอ่ยคำ “เหตุใดหยิบยกมาพูดตอนนี้? เป็นเรื่องดีที่หงเมิ่งจูตายไปแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเราได้ตกอยู่ในปัญหาใหญ่แน่!”

“แต่พวกเราเสียไปมากทว่าไม่ได้อะไรคืนมา! จะให้บอกว่าแค่โชคร้ายหรือยังไง!” ราชันเหยี่ยวน้อยเตะเข้าใส่ที่โลงศพหยกกราดเกรี้ยว “สารเลวนัก ไอ้แก่นี่หาได้มีอันใดดีไม่!”

“กลับไปเมืองลึกล้ำหยกกันก่อนดีกว่า ไปเล่นพนันให้หายอยาก!”

“ไป ต้องลงเงินให้หนักบ้างเสียแล้ว!”

กล่าวจบเช่นนี้ กลุ่มคนจึงจากไป ทิ้งไว้ซึ่งโลงศพหยก

ฉินหยุนรอคอยครึ่งชั่วยาม จึงค่อยก้าวเดินออกไป เปิดฝาโลงศพออก จึงได้เห็นชายชราในชุดขาว

ชายชรานอนอย่างสงบอยู่ด้านใน ร่างกายถูกผนึกเอาไว้ภายในผลึกแก้วโปร่งแสง

“ชายชราผู้นี้ตายแล้ว?” ฉินหยุนมองที่ผิวหนังของชายชรา ไม่คล้ายว่าจะเป็นคนตายแม้สักนิด

ชายชราเพียงมีรอยเหี่ยวย่นที่หางตา เส้นผมเป็นสีขาว ผิวหนังกลับมีสภาพดีเยี่ยม ไม่ต่างอะไรกับคนหนุ่มผู้หนึ่ง จากที่เห็น คล้ายกับหลับไปก็เท่านั้นเอง

ฉินหยุนสัมผัสผลึกแก้ว รับรู้ได้ถึงความเย็นตอบสนองกลับมา!

“เป็นการเยือกแข็ง!” เขารู้สึกได้ว่าผลึกแก้วพวกนี้มีความพิเศษ ดังนั้นจึงพิจารณามันอย่างถี่ถ้วน ทว่ากลับไม่พบอันใด

เขาจึงได้แต่ปิดฝาโลงศพ เก็บมันเอาไว้ในมิติเก็บของ แล้วค่อยเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังภูเขาสีดำ

ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ฉินหยุนกำลังลอยกลางอากาศ มองต่ำลงไปยังแอ่งหินหลอมเหลวสีแดงฉาน “เทือกเขาแห่งนี้มันอะไรกันแน่? เหตุใดจึงซุกซ่อนหลายสิ่งอย่างเอาไว้ได้ถึงเพียงนี้กัน?”

ยอดเขาสีดำ ปกคลุมด้วยขี้เถ้าภูเขาไฟ ทั้งยังเกิดเป็นเมฆหนาด้านบน ปลดปล่อยสายฟ้าแปลบปลาบหลากสีสันออกมาไม่หยุด

หินหนืดใต้พื้นดิน ยังคงปะทุออกจากปากปล่องภูเขาไฟอย่างต่อเนื่อง ทำให้คลื่นความร้อนเผาไหม้รุนแรงกระจายทั่ว

ภายในพื้นที่บริเวณนี้ ฉินหยุนพบว่าไม่มีอื่นใดหลงเหลืออยู่อีก

ผ่านไปครึ่งวัน เขาค่อยหาที่หลบซ่อนในป่าเพื่อพักผ่อน จากนั้นจึงนำเอารองเท้าสีเงินคู่หนึ่งที่ได้รับออกมา

“หยดเลือดลงไปแล้วลองดูดีกว่า!” เขาหยดเลือดลงไปที่ตัวรองเท้า มันทอแสงวูบออก พร้อมทั้งยังรับรู้ได้ถึงการเชื่อมต่อกับมัน

“รองเท้ากำราบมังกร!” เขาได้รับทราบข้อมูลของรองเท้าคู่นี้จากภายในจิตใจ

“สงสัยนักว่าเป็นอุปกรณ์ระดับใดกัน!”

หลังสวมใส่เรียบร้อย ฉินหยุนค่อยใส่พลังภายในเข้าไป เพียงก้าวเดียว มันทำเขาข้ามผ่านไปได้นับกิโลเมตร!

“ของที่วิเศษ!” เขาอุทานชื่นชมอย่างยินดี จากนั้นจึงใช้กำลังภายในผ่านก้าวดาราเร้นลับ

วูบ!

เขาวิ่งได้รวดเร็วกว่าเมื่อครู่นี้อีก!

“ใช้พลังเล็กน้อยแต่ผลลัพธ์ดีเยี่ยม อย่างน้อย ก็เป็นของสำคัญในห้วงเวลาวิกฤต!” ฉินหยุนตระหนักได้ว่า หากตนสวมใส่รองเท้านี้ในการศึก เขาจะสามารถปลดปล่อยการระเบิดพลังเท้าได้อย่างมหาศาล

ด้วยการได้รับรองเท้ากำราบมังกรไว้ในครอบครอง ทำเขายินดีไม่ใช่น้อย อย่างน้อยครั้งนี้เดินทางมาก็ไม่สูญเปล่า

หลังเดินทางอยู่ครึ่งค่อนวัน เขาค่อยกลับมาถึงเมืองลึกล้ำหยก และมุ่งตรงกลับไปยังตำหนักจารึกเทวะ

ฉินหยุนเมื่อถึงตำหนักจารึกเทวะ ก็แจ้งฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้ส่งคนไปแจ้งต่อมู่เฟิง

มู่เฟิงพอได้ยินว่าเขากลับมาแล้ว อีกฝ่ายเร่งร้อนมาหา

“ผู้จัดการ ข้าไม่ต้องการหญ้าลึกล้ำเยือกแข็งม่วงแล้วขอรับ!” ฉินหยุนเผยรอยยิ้มกว้าง

“เจ้า!! เจ้าสังหารองค์หญิงลำดับที่เก้าหรือ?” มู่เฟิงเผยใบหน้าดำมืดเอ่ยถาม

“จะเป็นไปได้อย่างไร? นางยังมีชีวิตอยู่!” ฉินหยุนขมวดคิ้ว “ผู้ใดกล่าวหาว่าข้าสังหารเมิ่งจู?”

“เป็นราชันเหยี่ยวน้อยและพรรคพวก กล่าวว่าหงเมิ่งจูถูกบุคคลนาม ‘พี่หยุน’ ที่อยู่ข้างกายนางสังหาร! จ้าวเมืองลึกล้ำหยกตอนนี้ใกล้มาถึงแล้ว ข้าได้แจ้งเรื่องต่อเขาไปแล้วด้วย!” มู่เฟิงยิ้มขณะกล่าวคำ “ไว้เจ้าอธิบายกับเขาเองแล้วกัน!”

ฉินหยุนกลายเป็นมีโทสะ เขาไม่คิดว่าเย่ว์อี้และคณะ จะพลิกกระดานกลับกลายเป็นกล่าวอ้าง ว่าเขาคือผู้สังหารหงเมิ่งจู!

หงเมิ่งจูเป็นท่านยายของนางพาตัวไป ผู้ใดจะทราบว่าตอนนี้นางอยู่ที่ใด

เขาจึงไม่กล่าวคำใดตอบ

ไม่นานนัก ชายชราร่างสูงใหญ่ปรากฏขึ้นในห้องโถงหน้าของตำหนักจารึกเทวะ

“เจ้าคือฉินหยุน?” ชายชราเมื่อได้เห็นฉินหยุน เขาเอ่ยถามเสียงเย็น

ชายชราผู้นี้คือจ้าวเมืองลึกล้ำหยก ซ่งจินตง อีกฝ่ายสวมใส่ชุดเกราะสีดำ ท่วงท่าการยืนงดงามแม้ชราภาพ ทั้งหมดนี้คล้ายเตรียมเปิดศึกมาแต่แรก

“จ้าวเมืองซ่ง เขาไม่ได้สังหารองค์หญิงลำดับที่เก้า!” มู่เฟิงเชื่อคำกล่าวของฉินหยุน

ทว่าซ่งจินตงหาได้เชื่อไม่ เขาก้าวเดินออกมา คว้าฉินหยุนขึ้น ก่อนเดินออกจากห้องโถงไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงทะยานผ่านอากาศ มุ่งหน้าสู่คฤหาสน์จ้าวเมืองที่อยู่ใจกลางเมืองแห่งนี้

มู่เฟิงสบถอยู่พัก จากนั้นค่อยเรียกกระเรียนวิญญาณไล่ตามไป

ที่คฤหาสน์จ้าวเมือง มีลานฝึกฝนยุทธ์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ปกติเอาไว้ใช้ฝึกซ้อมกำลังพล

ที่นี่ เต็มไปด้วยกำลังพลขอบเขตวรยุทธ์เต๋าและวรยุทธ์วิญญาณ ที่สังกัดเมืองลึกล้ำหยก

นอกจากนายทหารระดับสูง ยังมีเย่ว์อี้ ราชันเหยี่ยวน้อย หู่เฮ่าจวิน รวมถึงศิษย์อีกหลายคนจากสำนักมีชื่อเสียง

ฉินหยุนที่โดนซ่งจินตงจับตัวมา ขว้างโยนร่างลงที่ตรงกลางลานฝึกฝน

“ราชันเหยี่ยวน้อย จงมาที่นี่ พิจารณาให้ดี ว่านี่คือบุคคลที่สังหารเมิ่งจูหรือไม่?” ซ่งจินตงเอ่ยคำเย็นเยือก

“นี่... ตอนนั้น พี่หยุนผู้นั้นสวมใส่หน้ากาก ดังนั้นพวกเราจึงไม่อาจทราบว่าเป็นเขาหรือไม่!” ราชันเหยี่ยวน้อยมองฉินหยุนทั้งที่คิ้วขมวด

เย่ว์อี้และคณะเกิดความเป็นกังวลเกาะกุมหัวใจ เพราะพวกเขามั่นใจยิ่งนัก ว่าหงเมิ่งจูและพี่หยุนตายไปเรียบร้อยแล้ว!

มู่เฟิงขี่กระเรียนวิญญาณตามมาถึง ที่มุมขอบของลานฝึกฝน เขาเร่งรีบร่อนลงจอด

“จ้าวเมืองซ่ง ข้ารับประกันว่าเขาคือพี่หยุนผู้นั้น ทั้งยังมีความสัมพันธ์อันดีกับองค์หญิงลำดับที่เก้า เขานับว่าเป็นสหายที่ดีผู้หนึ่ง!” มู่เฟิงขณะนี้ยังมีรอยยิ้มยามพูดกล่าวออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด