ตอนที่แล้วบทที่ 72: ชีวิตที่เหลือเชื่อ เริ่มต้นแล้ว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 74: ปีสาม!

บทที่ 73: บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดิน


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

บทที่ 73: บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดิน

วันเวลาผ่านไปรวดเร็วราวกับกระพริบตา โม่ฝานได้ใช้เวลาช่วงมัธยมอย่างคุ้มค่าที่สุด เขาได้ฝึกฝนอย่างหนักและได้มีประสบการณ์ออกล่ากับทีมหน่วยล่าล้างเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เขามีความสุขอย่างมาก

เพียงเวลาแค่อึดใจ โม่ฝานได้สังหารอสูรเวทไปแล้วกว่าสิบห้าตัว ซึ่งในสายตาของเหล่าผู้พิทักษ์ของสมาคมนักฆ่านั้นเห็นพ้องต้องกันว่าเขานั้นเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ด้านการต่อสู้อย่างมาก

ภายในโรงเรียน การสอบวัดระดับเวทมนตร์ในปีสุดท้าย เหตุการณ์นี้จะเป็นสิ่งชี้วัดว่าเด็กนักเรียนจะได้ก้าวเข้าสู่ประตูมังกรหรือไม่

“ช่วงเวลาที่ปลอดภัยของแกกำลังจะหมดลงแล้วนะโม่ฝาน…” จ้าวคุณซานพูดกับโม่ฝานด้วยใบหน้าที่เย้ยหยัน

เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว แน่นอนว่าการประลองเวทนั้นจะต้องถูกจัดขึ้น ความปลอดภัยที่โรงเรียนได้คุ้มครองเขาอยู่จะจบลงเพียงเท่านี้ ระยะเวลาเริ่มใกล้เข้ามาทีละน้อย

โม่ฝานนั้นรำคาญจ้าวคุณซานอย่างช่วยไม่ได้ แต่แน่นอนว่าเขารู้ว่ามู่โจวอวิ๋นนั้นขี้โกง ซึ่งเขาจัดการประลองเวทขึ้นก่อนที่จะสอบหนึ่งวัน!

ซึ่งหมายความว่าถ้าหากโม่ฝานพลาดเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยในการประลองครั้งนี้ มันจะต้องส่งผลต่อการสอบครั้งสุดท้ายของเข้า

“พี่ฝาน ฉันได้ยินเพื่อนบ้านของเราพูดถึงมู่โจวอวิ๋นน่ะ เขาจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้กับหยู่อั๋นที่อายุครบสิบแปดปี ซึ่งเมืองบ่อของเราน่ะให้ความสำคัญกับงานนี้อย่างมาก อีกอย่างตระกูลมู่นั้นเป็นตระกูลเก่าแก่และทรงอิทธิพล พวกเขาจะต้องจัดงานเลี้ยงครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่แน่ๆ” จางหู่กล่าวออกมา

“อืม ฉันรู้แล้ว… พวกมันก็คงจะเชิญแขกที่มีตำแหน่งใหญ่โตและร่ำรวยมากๆมาสินะ บุคคลสำคัญภายในเมืองบ่อทั้งหมดล้วนแต่ต้องได้รับเชิญ เหล่าครอบครัวที่มีสถานะล้วนแต่สนุกสนานกับสิ่งไร้สาระพวกนี้จริงๆ” โม่ฝานตอบกลับอย่างเหนื่อยหน่าย

“แต่มันส่งผลเสียกับพี่นะ ดูก็รู้ว่าไอ้แก่นั่นมันต้องการจะโกง เขาใช้จ่ายมากมายเพื่อให้หยู่อั๋นพัฒนาอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าพี่ฝานจะเป็นอันดับหนึ่งของโรงเรียนมัธยมเทียนหลาน ถ้าหากว่าต้องพ่ายแพ้ต่อหน้าทุกคน นั่นแปลว่าพวกมันจะได้รับอำนาจและชื่อเสียงไปอย่างล้นหลาม อีกทั้งอาจกล่าวได้ว่านักเรียนอันดับหนึ่งของโรงเรียนเวทมนตร์ชื่อดังไม่สามารถเอาชนะเด็กที่ถูกเลี้ยงดูโดยตระกูลใหญ่ได้ หากเป็นเช่นนั้นอาจารย์ใหญ่ของเราจะต้องสูญเสียใบหน้าอย่างมากแน่ๆ”

อาจารย์ใหญ่ซูนั้นเป็นบุคคลสำคัญของโรงเรียนมัธยมเวทมนตร์เทียนหลาน เขาและมู่โจวอวิ๋นนั้นเรียกได้ว่าเป็นคู่ปรับกันมาเนิ่นนาน ทั้งสองล้วนแต่เป็นตำนานของเมืองบ่อ

ซึ่งอาจารย์ใหญ่ซูนั้นเต็มไปด้วยศักดิ์ศรีและความหนักแน่น สุดท้ายแล้วเขานั้นได้รับความไว้วางใจจากพลเมืองอย่างมาก นักเวทระดับรากหญ้าส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่ประสบความสำเร็จได้ด้วยความช่วยเหลือของเขา อาจารย์ใหญ่ซูนั้นใช้โรงเรียนเวทมนตร์แห่งนี้เพื่อปลุกปั้นนักเวทมากมายหลายคนที่ไร้พื้นฐานและยากจน

สำหรับมู่โจวอวิ๋นนั้นเป็นอาวุโสของตระกูลใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขานั้นมีวิธีการฝึกศิษย์ของตนเองอยู่แล้ว เขาปั้นให้เด็กมากมายเก่งกาจและดำรงตำแหน่งขุนนางในเมืองแห่งนี้อย่างเต็มไปด้วยอำนาจ

ในทุกๆปีนักเวทระดับรากหญ้าและนักเวทของตระกูลใหญ่จะมีการประลองกันเสมอ ซึ่งถ้าหากว่ามู่โจวอวิ๋นเห็นนักเรียนคนไหนที่โดดเด่นมากเกินไปภายในโรงเรียนมัธยมเทียนหลาน เขาจะรีบกำจัดทิ้งในทันที ซึ่งนี่เป็นที่มาของทั้งสองที่เขม่นกันมาอย่างยาวนานเพราะขัดผลประโยชน์กันและกัน

เติ้งข่ายและอาจารย์ใหญ่ซูนั้นยืนอยู่ฝั่งของโรงเรียน เช่นนี้เมื่อโม่ฝานก่นด่ามู่โจวอวิ๋นจึงทำให้ทั้งสองต้องเข้ามาห้ามปรามไม่เช่นนั้นจะเป็นการรังแกมือใหม่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้เห็นด้วยนักเรื่องการประลองที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้

นักเรียนที่สามารถสอบได้สามเอสในการสอบประจำปีน่ะหรือ… โรงเรียนจะต้องมองเขาเป็นสมบัติอย่างแน่นอน แล้วจะยอมให้ไอ้บัดซบมู่โจวอวิ๋นจัดการเขาตั้งแต่ยังเป็นต้นอ่อนได้อย่างไร?

อีกทั้งหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่โม่ฝานได้สังหารอสูรเวทอัญเชิญได้ ทั้งอาจารย์ใหญ่ซูและเติ้งข่ายต่างก็ยิ่งหลงใหลในตัวของเขาอย่างมาก ทั้งคู่มองโม่ฝานเป็นสมบัติที่พวกเขาตามหามาเนิ่นนาน

ส่วนตัวโม่ฝานนั้นก็ไม่เคยรับรู้เลยว่าอาจารย์ใหญ่ซูและเติ้งข่ายนั้นให้ความใส่ใจกับเขาเสมอมา ทั้งสองนั้นให้คนเฝ้าคอยติดตามและเฝ้าดูการพัฒนาของเขาอยู่อย่างต่อเนื่อง

แต่อย่างไรก็ตาม โรงเรียนก็คือโรงเรียน พวกเขาไม่สามารถเห็นแก่ตัวและมอบอุปกรณ์ให้โม่ฝานตลอดเวลาได้ ทั้งสองไม่สามารถทำดั่งเช่นตระกูลใหญ่ที่สามารถเลือกศิษย์รักศิษย์ชังได้เช่นนั้น!

——

ในตอนนี้ใกล้ที่จะถึงวันเวลาของหยู่อั๋นแล้ว อาจารย์ใหญ่ซูและเติ้งข่ายไม่สามารถกักเก็บความอึดอัดเหล่านี้ได้อีกต่อไป ทั้งสองรีบเรียกตัวของโม่ฝานให้เข้าพบทันที

โม่ฝานเคยเจอกับเติ้งข่ายมาก่อน เขาเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืนเพื่อช่วยเหลือเขาในก่อนหน้านี้ ตำแหน่งของเขาคือหัวหน้าของสมาคมนักฆ่า ซึ่งเขานั้นแข็งแกร่งกว่านักเวทระดับมัชฌิมหยางซัวเห่อคนนั้นเสียอีก!

ส่วนอาจารย์ใหญ่ซูนั้นโม่ฝานเคยเจอเมื่อครั้งที่ปฐมนิเทศน์วันแรกของการเรียน อาวุโสเก่าแก่คนนี้เต็มไปด้วยออร่าของความหนักแน่นและมั่นคง สถานะของเขานั้นทรงเกียรติอย่างยิ่ง เขาคือคนที่ได้เข้าไปนั่งในหัวใจของนักเรียนและผู้ปกครองทั้งหลาย อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรร้ายแรง แน่นอนว่าเขาจะต้องก้าวขาออกมารับผิดชอบทุกสิ่งอย่างสุภาพบุรุษ

“โม่ฝาน พวกเราทั้งสองมีเรื่องที่ต้องพูดคุยกับเธออย่างจริงจัง” เติ้งข่ายเปิดหัวข้อการสนทนาอย่างรวดเร็ว

โม่ฝานยืนตรงหน้าพร้อมกับตั้งใจฟังสิ่งที่พวกเขาจะพูด

“ความจริงก็คือในทุกครั้งที่นักเรียนของโรงเรียนเทียนหลานและศิษย์ของตระกูลมู่ได้มีการตอบโต้กัน ในปีที่ผ่านมาเรามักจะเลือกนักเรียนที่โดดเด่นที่สุดและมีความแข็งแร่งมากที่สุดเพื่อที่จะไปต่อสู้กับศิษย์ของตระกูลมู่… ในตอนแรกพวกเราตั้งความหวังไว้กับฉือจ้าวติงเพราะว่าเขานั้นเป็นนักเวทธาตุสายฟ้าที่หาได้ยากและเขามีโอกาสสูงมากที่จะชนะ แต่ทว่าการสอบของเธอนั้นก็ทำได้ยอดเยี่ยมมากในทุกครั้งและมันมากพอที่จะไปยั่วยุตระกูลใหญ่ ในตอนนี้พวกเราไม่ต้องการให้มู่โจวอวิ๋นทำให้ชีวิตของเธอต้องลำบาก เช่นนี้พวกเราจึงคิดอยากจะแนะนำเกี่ยวกับการต่อสู้ให้กับเธอสักหน่อยน่ะ” เติ้งข่ายกล่าวอย่างจริงจังกับโม่ฝาน

“ผมรู้… โอ้ไม่สิ ผมจะพูดว่าต้องขอบคุณอาวุโสทั้งสองที่ช่วยพาผมออกจากสถานการณ์ที่น่าอับอายเช่นนั้น” โม่ฝานกล่าว

“ความจริงแล้วพวกเรานั้นได้ชะลอเวลาให้กับเธอมาแล้วสองปี การเติบโตของเธอนั้นถูกบันทึกไว้เสมอมา แต่เธอก็ยังมีค่าใช้จ่ายสำหรับการหยาบคายกับผู้ใหญ่ในครั้งนั้น” เติ้งข่ายนั้นส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้เมื่อกล่าวจบ

เติ้งข่ายนั้นได้รับข้อมูลบางอย่างไว้ในมือแล้ว หยู่อั๋นนั้นฝึกฝนไปอย่างก้าวกระโดดในสองปีที่ผ่านมา นอกจากนี้เขายังได้ฝึกฝนการต่อสู้จริงกับครอบครัวอีกด้วย แม้ว่าโม่ฝานจะฉลาดมากแต่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยู่อั๋นอยู่ดี ทุกคนนั้นคิดเพียงว่าเขานั้นแค่โชคดีที่สังหารอสูรเวทอัญเชิญได้

อาจารย์ใหญ่ถอนหายใจออกมา “โม่ฝาน พวกเรารู้ดีว่าบางทีสวรรค์ก็ไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไหร่ สวรรค์ลำเอียงมอบสิทธิ์พิเศษให้กับใครบางคนตั้งแต่แรกเกิด แต่กับบางคนนั้นว่างเปล่า แต่อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะต้องไปวิ่งตำหนิพระเจ้าหรือใครก็ตาม แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าต้อยต่ำกว่าคนพวกนั้นก็อย่าได้กล่าวโทษใคร แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากทำตัวเช่นนั้นก็ตาม ถ้าหากสามารถกล่าวเช่นนั้นออกมาได้แสดงว่าเธอได้ยืนอยู่ตรงขอบเหว แม้ว่าเธอจะโกรธหรือเกลียดเขามากเพียงใด แต่หากรู้ว่าตนเองไม่สามารถต่อสู้กับพลังของพวกเขาได้ การกลืนกินความโกรธลงไปย่อมดีกว่าแน่นอน” อาจารย์ใหญ่ซูกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงใจและอบอุ่น

อาจารย์ใหญ่ซูนั่นเป็นอาจารย์มาหลายสิบปี ซึ่งแน่นอนว่าเขาได้พบเจอกับนักเรียนที่หยิ่งผยองมาอย่างนับไม่ถ้วน บางคนได้กลายเป็นนักเวทที่เต็มไปด้วยผู้คนเคารพนับถือ แต่บางคนก็ไม่อาจเงยหน้ามองท้องฟ้าได้อีกเลย

ความสามารถนั้นเป็นสิ่งสำคัญ การฝึกฝนก็สำคัญเช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการตระหนักรู้ถึงสถานการณ์ อย่าได้ทำในสิ่งที่ไม่จำเป็นเพราะโรงเรียนสามารถคุ้มครองได้เพียงสามปีเท่านั้น หลังจากที่ออกไปสู่โลกภายนอกแล้ว นั่นแหละคือโลกที่แท้จริง!

“ขอขอบคุณอาวุโสที่แนะนำ ในตอนนั้นผมวู่วามเกินไปจริงๆ” โม่ฝานพยักหน้ารับ

“อ่า เหตุผลที่เราเรียกเธอมาที่นี่ในวันนี้นั้นไม่ใช่เพราะต้องการอบรมเรื่องเก่าหรอกนะ… พวกเราล้วนแต่มีความหวังอย่างมากว่าเธอจะชนะการต่อสู้ในครั้งนี้ ซึ่งรางวัลของผู้ชนะในครั้งนี้คือการได้ฝึกฝนที่บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินของเมืองบ่อ!” อาจารย์ใหญ่ซูกล่าวออกมาชัดๆ

“บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินงั้นเหรอครับ?” โม่ฝานดวงตาเป็นประกายขึ้นมาเมื่อได้ยินประโยคนั้น

••••••••••••••••••••

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด