ตอนที่แล้วบทที่ 71: อุปกรณ์เวทละอองดาราวิญญาณ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 73: บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดิน

บทที่ 72: ชีวิตที่เหลือเชื่อ เริ่มต้นแล้ว!


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

บทที่ 72: ชีวิตที่เหลือเชื่อ เริ่มต้นแล้ว!

ปกติแล้วระยะเวลาที่โม่ฝานสามารถทำสมาธิได้นั้นมากกว่าคนอื่นอยู่เท่าตัว ด้วยการช่วยเหลือของอุปกรณ์เวทละอองดาราทำให้เขาสามารถเข้าสู่สมาธิได้ถึงสิบสองชั่วโมงอย่างง่ายดาย

แต่อย่างไรก็ตามบุคคลอื่นนั้นเต็มไปด้วยข้อจำกัดมากมาย แม้ว่าพวกเขาจะมีอุปกรณ์เวทละอองดาราก็ตาม มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากนักหากเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่สำหรับโม่ฝาน… ตอนนี้เขาสามารถเข้าสู่สมาธิได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง!

หลังจากที่ได้ผ่านการต่อสู้มากสักพักแล้ว โม่ฝานได้เข้าใจว่าการเข้าสู่สมาธิอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอถ้าหากต้องการที่จะเพิ่มความแข็งแกร่ง ในทางตรงกันข้ามประสบการณ์การต่อสู้นั้นเพิ่มทักษะในการเอาชีวิตรอดและฝึกการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เลวร้าย ยิ่งศัตรูมีความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ดวงดาวเวทของเขาจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

เช่นนี้ โม่ฝานจึงต้องแบ่งเวลาเพื่อที่จะทำสมาธิในทุกวันและเข้าร่วมทีมกับหน่วยล่าล้างเมืองควบคู่ไปด้วย

ถ้าหากอุปกรณ์เวทละอองดารามีความสามารถเพียงแค่ทำให้นั่งสมาธิได้ยาวนานขึ้น มันจึงจะไม่ค่อยสำคัญกับโม่ฝานมากนัก เพราะว่าเขาสามารถนั่งสมาธิได้ยาวนานกว่าคนทั่วไปมากอยู่แล้ว

แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายของเขาก็คืออุปกรณ์เวทละอองดาราที่เขาครอบครองอนุญาตให้เขาสามารถทำสมาธิได้ตลอดทั้งวันและคืน อีกทั้งยังสามารถฟื้นฟูกำลังของเขาได้อีกด้วย

เมื่อเขาไม่ได้เข้าสู่สมาธิ ดวงดาวเวทของเขาก็ยังคงเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ

และเมื่อเขาเข้าสู่สมาธิ มันจะทำให้ดวงดาวเวทของเขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าเดิม!

ตอนนี้โม่ฝานนั้นรู้สึกราวกับว่าทักษะทั้งหมดของเขากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วราวกับจรวจ!

‘เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ! ถ้าหากว่าเป็นเช่นนี้ล่ะก็… ทักษะธาตุไฟของฉันก็คงไม่สามารถเลื่อนขั้นไปสู่ระดับสามได้แน่ แต่ทว่าทักษะธาตุสายฟ้าของฉันจะต้องบรรลุได้อย่างแน่นอน! ถ้าหากฉันพยายามมากกว่านี้ บางทีฉันอาจจะเกือบจะแตะเข้าสู่นักเวทระดับมัชฌิมได้!’

เมื่อดวงดาวเวทอยู่ในระดับสาม ซึ่งนั่นจะหมายความว่าเขานั้นอยู่ไม่ไกลจากความฝันเพียงแค่เอื้อม!

โม่ฝานเริ่มค้นคว้าทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับนักเวทระดับมัชฌิมในทันที

บุคคลที่ค้นคว้ามันได้ในครั้งแรกนั้นเป็นนักเวทในตำนานซึ่งเขาเขียนเกี่ยวกับดวงดาวเวทไว้อย่างน่าสนใจ

เมื่อดวงดาวเวทของนักเวทได้เข้าสู่ระดับกลาง พวกมันทั้งหมดจะส่องประกายสุกสกาวอย่างไม่น่าเชื่อ พวกมันจะเกาะกลุ่มเป็นก้อนราวกับเมฆก้อนใหญ่ที่สว่างไสว นั่นคือสัญญาณว่านักเวทผู้นั้นได้เข้าสู่ระดับมัชฌิมแล้ว!

เนบิวล่านั่นใหญ่กว่าละอองดาราอย่างมาก ถ้าเปรียบละอองดาราเป็นเพียงฝุ่นเล็กๆในห้วงอวกาศ เนบิวล่าจะเปรียบกับหมู่เมฆที่เกิดจากละอองดารารวมตัวกันเป็นก้อน เนบิวล่าเต็มไปด้วยพลังเวทที่เพิ่มมากขึ้นหลายสิบเท่า นั่นอาจหมายความว่านักเวทระดับมัชฌิมสามารถที่จะฉีกท้องฟ้าออกเป็นสองแผ่นก็ย่อมได้!

ถ้าหากว่าสามารถเชื่อมดวงดาวเวททั้งหมดเข้าด้วยกันได้ มันจะกลายเป็นพลังเวทระดับปฐมภูมิ!

แต่เมื่อสามารถเชื่อมโยงดวงดาวเวทให้จับตัวเป็นกลุ่มก้อนเป็นเนบิวล่า นั่นหมายความว่าพลังเวทจะอยู่ในระดับมัชฌิม!

โม่ฝานจำภาพที่นักเวทระดับกลางหยางซัวเห่อในครั้งที่เขากำลังร่ายคาถาได้อย่างดี หมู่เมฆมากมายลอยอยู่ใต้เท้าและบนศีรษะของเขาอย่างสง่าผ่าเผย มันเป็นความงดงามที่เขาประทับใจมากเหลือเกิน มันแตกต่างจากการร่ายเวทหลังจากที่เชื่อมดวงดาวเวทสำเร็จอย่างมหาศาล อำนาจและความยิ่งใหญ่ของมันยังคงติดตรึงตราใจอยู่ภายในหัวใจของเขาอย่างแน่นแฟ้น

นักเวทระดับมัชฌิมธาตุน้ำสามารถสร้างคลื่นยักษ์ลูกใหญ่จนทำลายถนนทั้งเส้นได้อย่างราบคาบ อีกทั้งยังมีวายุหมุนที่รุนแรงส่งหมาป่าตาเดียวขึ้นเหนือจากพื้นดินกว่ายี่สิบเมตรได้อย่างสง่างาม ไม่ต้องพูดถึงว่าขณะนั้นพวกเขาเท่ห์มากแค่ไหน อีกทั้งระดับพลังยังแข็งแกร่งมากกว่านักเวทระดับปฐมภูมิหลายเท่า!

‘นี่แค่ธาตุลมกับธาตุน้ำรวมกันยังวิเศษมากขนาดนี้ ถ้าหากว่าฉันเข้าสู่ระดับมัชฌิมได้ล่ะก็… รอให้ฉันเข้าใจธาตุไฟและสายฟ้าของฉันก่อนเถอะ ฮ่า แล้วทำไมฉันจะต้องเกรงกลัวตระกูลมู่อีกล่ะทีนี้? ฮ่าฮ่า’

‘มาเริ่มฝึกอย่างจริงจังกันดีกว่า!’

‘ฉัน… โม่ฝาน! ชีวิตที่เหลือเชื่อของฉันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้นแหละ!’

——

ในเมืองทางเหนือมีลมหนาวหรือเรียกว่าพายุพัดอยู่ตลอดเวลา ทุกที่ที่มันพัดผ่านไปทำให้ต้นไม้ทุกต้นล้วนแต่สั่นไหวและโบกสะบัดอย่างรุนแรง

แต่ทว่าในเมืองทางใต้ ต้นไม้ทุกหนแห่งล้วนแต่ยืนหยัดอยู่ได้อย่างทนงตน พวกมันไม่เคยหวั่นไหวแม้ว่าจะมีลมพายุรุนแรงแค่ไหน ทุกหนแห่งล้วนแต่งแต้มไปด้วยความเขียวขจี มีเพียงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นที่มันจะลงมากองอยู่บนพื้น

โม่ฝานนั้นอาศัยอยู่ในเมืองบ่อ ซึ่งฤดูกาลของมันไม่ชัดเจนมากนัก ในทุกๆวันไม่สามารถเอาแน่เอานอนกับสภาพอากาศได้เลย ถ้าหากมีลมแรงสลับไปมาเช่นนี้แปลว่าพายุไต้ฝุ่นกำลังจะมา

ในช่วงฤดูที่แปรปรวณเช่นนี้ โม่ฝานและพวกพ้องล้วนแต่ขดตัวอยู่ในห้อง อาคารต่างๆล้วนแต่เต็มไปด้วยความชื้นและกลิ่นอับ บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด นักเรียนส่วนใหญ่วุ่นวายอยู่กับการสอบครั้งใหญ่ในปีหน้า

สิ่งที่คนทั่วไปยังไม่รู้ก็คือนักเวทแม้ว่าจะสามารถเรียนจบจากโรงเรียนเวทมนตร์ระดับมัธยมได้แล้ว พวกเขายังต้องดิ้นรนต่อไปเพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิม ถ้าหากไม่สามารถดิ้นรนเพื่อไปสู่ความแข็งแกร่งที่มากขึ้นได้ พวกเขาจะไม่มีวันได้ตำแหน่งที่ต้องการ ถ้าหากต้องการที่จะโดดเด่นมากกว่าพวกพ้องและอยากได้รับความเคารพจากผู้คนโดยทั่วไป นักเรียนเหล่านี้จะต้องย่างก้าวเข้าสู่มหาลัยให้ได้ การเป็นนักเวทระดับมัชฌิมนั้นจะทำให้พวกเขาดูสง่างามโดยอัตโนมัติ

นักเวทระดับมัชฌิมนั้นเป็นโอกาสเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเอง นักเรียนทุกคนล้วนให้ความสำคัญกับมันอย่างมาก!

‘พี่โม่ฝาน ฉันน่ะปลุกธาตุการรักษาขึ้นมา ถ้าหากวันใดพี่โม่ฝานได้รับบาดเจ็บสาหัส ฉันนี่แหละจะรักษาพี่เอง!’ คนพูดกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มน่ารัก

โม่ฝานรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดนั้นเล็กน้อย

‘เรื่องบ้าอะไรเนี่ย มันเรื่องอะไร!?’

“ห๊ะ? ธาตุการรักษา? ทำไมเธอถึงปลุกธาตุการรักษาขึ้นมา? พวกเราทุกคนล้วนแต่เกิดมาพร้อมกับองค์ประกอบแห่งธาตุในตนเองไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างธาตุแรกที่เธอปลุกได้ก็คือแสงนะ ใช่ไหม?” โม่ฝานโต้กลับอย่างรวดเร็ว

“อืม การตื่นของธาตุแรกในทุกคนล้วนแต่เป็นธาตุพื้นฐาน อย่างไรก็ตามฉันได้ยินมาว่าบางคนนั้นสามารถปลุกพลังเวทเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง มันมีวัสดุที่จะสามารถกระตุ้นองค์ประกอบเวทบางอย่างน่ะ” เหย่ซินเซียตอบกลับ

“หืม วัสดุสำหรับปลุกพลังเวทเหรอ? ถ้าหากฉันจะไปถึงระดับมัชฌิมได้ฉันจะต้องปลุกธาตุขึ้นมาอีกครั้ง อย่างนั้นฉันจะสามารถใช้วิธีเดียวกับเธอเพื่อปลุกธาตุขึ้นมาใหม่ได้งั้นเหรอ?” โม่ฝานนั้นกล่าวออกมาด้วยความยินดีราวกับว่าเขาได้รับรู้สิ่งใหม่เกี่ยวกับสวรรค์และโลก

“อ่า แน่นอน ถ้าพี่สามารถรวบรวมวัสดุจำเป็นได้ครบน่ะนะ”

“ซินเซีย! ฉันรักเธอจริงๆเลยเด็กน้อย เธอนี่ช่วยจัดการปัญหายากๆให้ฉันตลอดเลย!” ใบหน้าของโม่ฝานแปรเปลี่ยนจากเบื่อหน่ายกลายเป็นมีความสุขขึ้นมาในทันที

เขานั้นคิดอยู่เสมอว่าการปลุกพลังเวทนั้นเป็นสิ่งที่ถูกสุ่มขึ้นมา ถ้าหากได้รับธาตุไหนแล้วก็จำเป็นจะต้องอยู่กับมันไปชั่วชีวิต เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันมีการกระตุ้นการตื่นของธาตุเหล่านั้นด้วย ถ้าหากมีวิธีเช่นนี้ล่ะก็เมื่อเขาเข้าสู่ระดับมัชฌิมแล้ว เขาจะต้องปลุกธาตุมืดขึ้นมาให้ได้!

ในช่วงระยะเวลาสั้นๆนี้ หน้าต่างแห่งโลกเวทมนตร์สำหรับโม่ฝานได้เปิดออกบานแล้วบานเล่า ในทุกครั้งที่มันเปิดออก โม่ฝานสามารถมองเห็นอนาคตที่สดใสและน่าหลงใหลควรคู่ที่เขาจะออกเดินทาง!

อีกทั้งในตอนนี้ความคืบหน้าของธาตุสายฟ้าและธาตุไฟของเขานั้นราบรื่นอย่างมาก ความเร็วในการฝึกฝนของโม่ฝานนั้นเร็วกว่าคนอื่นมากถึงสามเท่า ในตอนนี้เขานั้นสามารถมีเวลาทำสมาธิได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถไปร่วมการต่อสู้กับหน่วยล่าล้างเมืองได้อย่างไม่ติดขัดใดๆ เรียกได้ว่าความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ทิ้งห่างเพื่อนร่วมรุ่นไปหลายขุมแล้ว!

แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะป่าวประกาศออกไป ในวันสอบครั้งสุดท้ายของชีวิตนักเรียนเวทมนตร์ระดับมัธยม ทุกคนจะต้องประหลาดใจกับความสามารถของเขาจนขากรรไกรร่วงหล่นไปกองกับพื้น!

••••••••••••••••••••

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด