ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0372 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0374 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0373 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 373 : กระบี่จันทร์ลี้ลับ

หงเมิ่งจูพลันนึกอะไรขึ้นได้ จึงเอ่ยถามเสียงเบา “เจ้าคือเชี่ยวเย่ว์เหม่ยหรือ? เย่ว์ฉาเป็นเจ้าลงมือจนมันพิการ?”

บุตรชายแห่งราชันยุทธ์ เย่ว์ฉาผู้นั้นถึงขั้นโดนกระทำให้พิการ กระทั่งเป็นองค์หญิงเช่นหงเมิ่งจู ก็ยังไม่กล้าก่อการถึงเพียงนั้น

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะ “เป็นเช่นนั้น ไอ้สารเลวนั่นเกือบถูกข้าสังหารได้อยู่แล้วเชียว!”

หงเมิ่งจูหลังเรียกสติกลับคืนมาได้ นางเร่งรีบเข้ามาปิดปากเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอาไว้ “เด็กน้อยเอ๋ย อย่าได้พูดมากแล้ว หากผู้อื่นทราบว่าเป็นเจ้า เรื่องราวก็เลวร้ายแล้ว!”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยดิ้นพยายามผลักหงเมิ่งจูออก นางแค่นเสียงเบา “ก็แค่ทำขยะชิ้นหนึ่งพิการไปจะเป็นไร? มันโฉดชั่วนัก สังหารผู้คนเล่นเป็นปศุสัตว์!”

หงเมิ่งจูหันมองรอบ “หยุดพูดเรื่องนี้เสีย ในภายหน้า เจ้าควรเก็บงำตัวตนให้ดีกว่านี้ ไม่เช่นนั้นคงมีอายุไม่ถึงยี่สิบแล้ว!”

ฉินหยุนคว้าข้อมือเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอาไว้ ส่ายหน้าให้นางเป็นการบ่งบอก

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวกระซิบ “เหตุใดจึงใจดีกับข้าเสียเล่า?”

“เฮอะ องค์หญิงผู้นี้เป็นคนใจบุญอยู่แล้ว” จากนั้น นางจึงเดินไปที่ประตู คิดออกจากตำหนักจารึกเทวะ

ขณะนางคิดจากไป ชายชราพลันตะโกนขึ้น “องค์หญิงเมิ่งจู ที่ชั้นสองตอนนี้มีอาจารย์จารึกกลุ่มหนึ่งอยู่ขอรับ”

ได้ยินดังนี้ หงเมิ่งจูเผยสีหน้ายินดีกล่าวคำ “วิเศษ! ข้าจะไปเดี๋ยวนี้!”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพอได้ยินดังนี้ นางเร่งรีบดึงฉินหยุนเข้ามากล่าวกระซิบ “องค์หญิงหมูฝันเฟื่อง พาพวกเราไปด้วยแล้ว พวกเราจะได้สนุกกันต่ออีกหน่อย!”

*ผู้แปล : ชื่อของเมิ่งจู ความหมายคือ ฝันร้าย แต่พ้องเสียงกับคำที่มีความหมายว่า หมูฝันเฟื่อง ด้วยนิสัยซุกซนของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย นางจึงกล่าวออกเช่นนี้*

“เด็กน้อยผู้นี้ อย่าได้ตั้งชื่อเล่นผู้อื่นส่งเดช!” หงเมิ่งจูพอได้ยิน นางถึงกับเผยคามโกรธออกขณะเข้าไปหยิกแก้มเชี่ยวเย่ว์เหม่ยคราหนึ่ง

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเร่งรีบคว้าข้อมือหงเมิ่งจูเอาไว้ “รีบพาพวกเราขึ้นไปเร็ว พวกเราจะได้หาอะไรกินด้วยเลย!”

หงเมิ่งจูมองทางผู้อาวุโสของตำหนักจารึกเทวะ อีกฝ่ายพยักหน้ารับ “องค์หญิงเมิ่งจู ท่านสามารถพาผู้ติดตามขึ้นไปด้วยได้ เรื่องนี้ไม่เป็นไรนักหากไม่มีการก่อเรื่องอันใดขึ้น!”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยใบหน้าหนายิ่งนัก นางคว้าแขนหงเมิ่งจูเอาไว้ ไม่คิดปล่อยให้นางสลัดหลุดหลบหนี

หงเมิ่งจูไร้ทางเลือก มีแต่ต้องนำฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยติดตามไปด้วย

“พี่สาวหมูฝันเฟื่อง เหตุใดท่านคิดหาอาจารย์จารึก? ไม่ใช่ว่าราชวงศ์ท่านก็มีหรือ?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอ่ยถามขณะเดินตามหลังหงเมิ่งจู

“นามข้าคือหงเมิ่งจู!” องค์หญิงลำดับที่เก้า ผู้ซึ่งโดนเรียกด้วยชื่อหยาบคาย ต้องกัดฟันตอบกลับอย่างเกรี้ยวกราด

ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกขณะรับชมจากด้านหลัง

หงเมิ่งจูเดินขึ้นบันไดไปขณะกล่าวตอบ “ข้าเพิ่งได้รับอุปกรณ์ลึกล้ำมา กระนั้นผังจารึกลึกล้ำภายในได้รับความเสียหาย จึงคิดสอบถามอาจารย์จารึกให้ช่วยเหลือซ่อมแซม! อาจารย์จารึกทุกท่านของพระราชวังหลวงยุทธ์หงล้วนบอกว่าไม่มีเวลา ดังนั้นข้าจึงได้แต่สอบถามผู้อื่นแล้ว!”

“พี่สาวหมูฝันเฟื่องช่างยอดเยี่ยมนัก อายุเพียงสามสิบ กลับมีอุปกรณ์ลึกล้ำไว้ครอบครองแล้ว! เมื่อใดข้าจะมีบ้างกันนะ?” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงเจือปนความอิจฉา

หงเมิ่งจูคล้ายอับจนหนทางบอกต่อเชี่ยวเย่ว์เหม่ยให้เปลี่ยนคำเรียก ได้แต่จำยอมรับความไป นางแค่นเสียง “ข้าถึงขั้นขายแทบทุกสิ่งอย่างเพื่อได้รับมันมา แต่แล้วกลับเป็นอุปกรณ์ลึกล้ำที่เสียหาย! นับตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ ข้าเสียไปหลายสิบล้านเหรียญม่วงแล้ว! หากเจ้าคิดอยากได้อุปกรณ์ลึกล้ำ รอจนกว่าพี่ชายเจ้าจะเป็นอาจารย์จารึกที่มือถึงก็แล้วกัน!”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเม้มริมฝีปาก นางกล้าบอกว่าฉินหยุนมีหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรในครอบครอง มันเป็นถึงอุปกรณ์เต๋า กระนั้นก็ไม่คิดพูดออกไป

ที่ชั้นสอง ประกอบด้วยหลายห้อง และโถงประชุมขนาดใหญ่

ชายชรานำหงเมิ่งจูและคณะไปยังโถงที่กว้างเป็นพิเศษ

ผู้คนส่วนใหญ่ที่นี่ล้วนอาวุโส พวกเขาที่นี่กำลังนำอุปกรณ์วิญญาณที่ขัดเกลาด้วยตนเองออกมา แลกเปลี่ยนและชี้แนะกับผู้อื่น

เมื่อหงเมิ่งจูและคณะมาถึง ผู้อาวุโสที่นี่ล้วนเผยความตื่นตกใจ

กระนั้น พวกเขาก็พบอย่างรวดเร็ว ว่านี่เป็นองค์หญิงลำดับที่เก้าแห่งยุทธ์หง หงเมิ่งจู!

“ยินดีที่ได้พบผู้อาวุโส” หงเมิ่งจูกล่าวทักทายอย่างมีมารยาทต่ออาจารย์จารึกเหล่านี้

อาจารย์จารึกที่นี่ ล้วนเป็นอาจารย์จารึกระดับวิญญาณหรือไม่ก็ลึกล้ำ พวกเขาล้วนเป็นผู้มีพื้นฐานสูงส่ง ดังนั้นจึงเพียงพยักหน้ารับเล็กน้อยเท่านั้น

แม้หงเมิ่งจูมีตำแหน่งเป็นองค์หญิงลำดับที่เก้า กระนั้นในสายตาของอาจารย์จารึกเหล่านี้ เพียงมองว่านางยังไม่ถึงขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ พวกเขาย่อมไม่คาดหวังที่จะตีสนิทกับนางแต่อย่างใด

“องค์หญิงเมิ่งจูมีเรื่องอันใดหรือ? โปรดรีบบอกต่อพวกเราโดยเร็ว อย่าได้รบกวนเวลาพวกเรามากนัก!” ชายชรายิ้มและกล่าวคล้ายหาได้แยแสไม่

“หากท่านต้องการให้พวกเราขัดเกลาอุปกรณ์ลึกล้ำ ต้องขอบอกกล่าวว่า รายการที่พวกเรามีอยู่ในมือตอนนี้ ยาวเหยียดนับสิบปี! ดังนั้นหากท่านต้องการรอเพื่อให้พวกเราขัดเกลาอุปกรณ์ลึกล้ำ เช่นนั้นก็ต้องรอจนอีกนานเลยทีเดียว”

“องค์หญิงเมิ่งจู หรือท่านคิดอยากให้ข้ารับท่านเป็นศิษย์หรือ?”

ฉินหยุนปรายสายตามองหงเมิ่งจู เขาได้เห็นนางกำหมัดขาวนวลเอาไว้แน่น เป็นนางมีโทสะต่อคำพูดเหล่านี้มากล้นนัก

หงเมิ่งจูยังไม่ได้ตอบกลับอันใด เพียงแต่นำกระบี่โค้งสีแดงเล่มหนึ่งออกมา!

กระบี่โค้งสีแดงเล่มนี้ ดูไปคล้ายจันทร์เสี้ยวกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน

“นี่คืออุปกรณ์ลึกล้ำยุคแรกเริ่มที่ข้าเพิ่งได้รับเมื่อไม่นานมานี้ นามของมันคือกระบี่จันทร์ลี้ลับ แต่ด้วยเพราะความจริงที่ว่าผังจารึกภายในเกิดความเสียหาย ทำให้ไม่อาจใช้งานได้ดังปกติ ดังนั้นจึงคิดขอสอบถามต่ออาจารย์ทั้งหลาย ว่าจะสามารถช่วยข้าซ่อมแซมกระบี่จันทร์ลี้ลับนี้ได้หรือไม่! หากพวกท่านสามารถซ่อมแซมได้สำเร็จ ข้าย่อมมีรางวัลใหญ่ต่อพวกท่านแล้ว” หงเมิ่งจูส่งกระบี่จันทร์ลี้ลับในมือออกไป

เพียงมอง ฉินหยุนก็บอกได้แล้วว่ามีผังจารึกหลายอย่างบนพื้นผิว ทั้งยังมีอักขระจันทราโบราณ!

อุปกรณ์ลึกล้ำที่มีผังจารึกจันทรา ตัวตนต้องนับว่าทรงพลังเหนือผู้อื่น!

อาจารย์จารึกหลายคนเข้ามามุงดูและขมวดคิ้ว

พลังพิจารณาอยู่พักหนึ่ง พวกเขากล่าวขึ้น “องค์หญิงเมิ่งจู กระบี่ของท่านนี้ได้รับความเสียหาย พวกเราไม่มั่นใจว่าสามารถซ่อมแซมได้ นอกจากนี้ หากคิดลองยังต้องใช้เวลามหาศาล อาจถึงหลักปีเลยด้วยซ้ำ!”

“หากพวกเราไม่อาจซ่อมแซม เช่นนั้นจะเป็นการเสียเวลาโดยเปล่า และหากท่านไม่จ่ายต่อพวกเรา ยิ่งจะเป็นการเสียเปรียบอย่างมหาศาล!”

“ขอแนะนำให้ท่านเชื้อเชิญผู้อื่นมาซ่อมจะดีกว่า!”

อาจารย์จารึกในชุดขาว ส่งกระบี่กลับคืนแก่หงเมิ่งจู

นางกัดริมฝีปาก ลังเลอยู่ครู่หนึ่งค่อยกล่าวออก “พวกท่านล้วนลองดูได้ หากไม่อาจซ่อมแซมได้สำเร็จ ข้าก็ยังยินดีจ่ายสองแสนเหรียญม่วงเป็นการตอบแทน!”

คณะอาจารย์จารึกหันมองหน้ากันเองเมื่อได้ยินเช่นนี้

ชายชราในชุดขาวตอบรับ “เรื่องนี้... อุปกรณ์ลึกล้ำของท่านเสียหายมากเกินไป ดังนั้นจึงต้องใช้พวกเราห้าคนเพื่อพยายามซ่อมแซม หากพวกเราทำพลาด ถึงเวลานั้น ท่านจะยังมอบสองแสนเหรียญม่วงให้แก่พวกเราแต่ละคนหรือ?”

หงเมิ่งจูมองที่กระบี่จันทร์ลี้ลับสีแดงในมือ นางพยักหน้า เป็นการบ่งบอกว่านางรักกระบี่เล่มนี้ไม่ใช่น้อย เพราะนางต้องทุ่มเทอย่างมหาศาลกว่าจะได้รับมันมา

“เช่นนั้นก็ตกลง!” ชายชราในชุดขาวหัวเราะคิกคัก

โดยทันที หงเมิ่งจูส่งกระบี่จันทร์ลี้ลับในมือออกไป แต่แล้วทันใดนี้ เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกลับก้าวเข้ามา คว้ามันคืนกลับ

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว “พี่สาวหมูฝันเฟื่อง ท่านช่างเป็นหมูตัวจริงเสียงจริง! ตาเฒ่าพวกนี้เพียงโป้ปดต่อท่าน คิดใช้โอกาสนี้ฉ้อฉลเอาเหรียญม่วง!”

พอได้ยินดังนี้ อาจารย์จารึกวิญญาณหลายสิบคนพลันเกรี้ยวกราด

“เด็กน้อย เจ้าทราบหรือไม่ว่าพูดอันใดออกมา?”

“เจ้ากล้าสงสัยพวกเราอาจารย์จารึกลึกล้ำและวิญญาณงั้นหรือ!”

“เด็กน้อย ภายหน้าอย่าได้คาดหวังว่าพวกเราจะขัดเกลาอันใดให้แก่เจ้า!”

หงเมิ่งจูกายแข็งทื่อ ก่อนหน้านี้ นางเพิ่งออกปากต่อเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ว่าอย่าได้ก่อปัญหา

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยแค่นเสียงเบา “ตาเฒ่าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เห็นอยู่ว่าพวกท่านคิดรับกระบี่เล่มนี้ วางมันทิ้งไว้สักปีหนึ่ง จากนั้นค่อยส่งกลับคืนสภาพเดิมพร้อมรับเหรียญม่วงอย่างสุขสบาย!”

“พวกท่านล้วนไม่อาจซ่อมแซมกระบี่เล่มนี้ กระนั้นกลับไม่กล้าพูดต่อหน้าผู้คน นอกจากนี้แล้ว ยังคิดวางแผนตบทรัพย์เหรียญม่วงจากพี่สาวหมูฝันเฟื่อง ช่างเป็นกลุ่มตาเฒ่าจอมลวงโลกยิ่งนัก!”

หงเมิ่งจูพอได้พิจารณาตามให้ดี กลับรู้สึกว่านี่เป็นไปได้ กระนั้นนางก็ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไร

ชายชราในชุดขาวกราดเกรี้ยวขึ้นมา “เด็กน้อย เจ้ากำลังกล่าววาจาไร้สาระ! พวกเราบอกแต่แรกแล้ว ว่าไม่มั่นใจที่จะซ่อมแซมมัน เป็นพวกเราคิดลองดู!”

“พวกเราเป็นเพียงอาจารย์จารึกลึกล้ำระดับกลาง กระทั่งว่าระดับสูงกว่านี้ พวกเราก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะสามารถซ่อมแซมมันได้อย่างมั่นใจ!”

“พวกเราล้วนเป็นอาจารย์จารึกลึกล้ำ กับแค่เหรียญม่วงเล็กน้อย ยังจะคิดกล้าโป้ปดต่อนางหรือ?”

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยตั้งแต่เกิดมา นางเป็นคนตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง ปากนั้นเร่งรีบกล่าวตอบโต้ “เป็นพวกท่านโลภต่างหาก เห็นโอกาสให้ฉกฉวยได้เงิน ก็ย่อมต้องคิดรับไว้!”

อาจารย์จารึกเหล่านี้ แทบอดไม่อยู่ที่จะเข้ามาตบปากเชี่ยวเย่ว์เหม่ยจนตายตก

กระนั้น ที่นี่คือตำหนักจารึกเทวะ หากสังหารผู้อื่น ต่อให้เป็นเด็กสาวโง่เขลาผู้หนึ่ง มันก็หาได้มีอันใดดีต่อพวกเขาไม่

อาจารย์จารึกวิญญาณผู้ที่กราดเกรี้ยวที่สุด ชี้หน้าที่เชี่ยวเย่ว์เหม่ยอย่างไม่สนท่าทีอีกต่อไป

“เด็กน้อย จงไปให้พ้นเสีย เจ้ากล้าดีอย่างไรหาเรื่องพวกเราอาจารย์จารึกลึกล้ำ!”

“พวกเราอาจารย์จารึกลึกล้ำ สามารถสร้างอุปกรณ์ลึกล้ำ มูลค่านับล้านเหรียญม่วง ยังจำเป็นหรือที่จะต้องคดโกงเงินแค่สองแสนเหรียญม่วง?”

“อุปกรณ์ลึกล้ำที่ได้รับความเสียหายหนัก ย่อมเป็นเรื่องยากหากคิดซ่อมแซม เรื่องนี้หาได้มีอันใดผิดปกติไม่!”

“เด็กน้อยที่หาได้ทราบเรื่องราวของอุปกรณ์ลึกล้ำ กลับฝีปากกล้าเอ่ยวาจาไร้สาระออกมา!”

ฉินหยุนพอได้เห็นเชี่ยวเย่ว์เหม่ยโดนรุม เขาเริ่มแสดงความไม่พอใจออกปาก ริมฝีปากเอ่ยคำออกโดยทันที “ทุกท่านล้วนเป็นอาจารย์จารึก พวกท่านย่อมทราบว่าผังจารึกบนตัวกระบี่จันทร์ลี้ลับเสียหายอย่างหนัก!”

“พวกท่านหากไม่มีเส้นมืดที่ชัดเจนตรงตาม ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อม แต่แล้วเหตุใดบอกเพียงว่าไม่มั่นใจ?”

เสียงนี้ทำเอาผู้คนในห้องโถงกลายเป็นเงียบงัน!

ด้วยการมองเพียงชั่ววูบ ฉินหยุนกลับสามารถบอกได้ ว่ากระบี่จันทร์ลี้ลับได้รับความเสียหายที่เส้นมืดอย่างหนัก กล่าวได้ว่าแทบไม่มีทางซ่อมแซมกลับคืน

กระนั้นแล้ว อาจารย์จารึกลึกล้ำเหล่านี้ กลับวางท่า ไม่กล่าววาจาตามตรง ว่าพวกตนไม่อาจซ่อมแซมมัน

ทางหนึ่ง พวกเขาไม่อยากให้หงเมิ่งจูดูแคลนพวกเรา และอีกทางหนึ่ง ก็เป็นดังที่เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว เป็นพวกเขาคิดอยากฉวยโอกาส

หงเมิ่งจูมองที่ฉินหยุนด้วยความประหลาดใจ ด้วยมือไม่เคยสัมผัสกระบี่ของนาง แต่เขากลับทราบได้ถึงเพียงนี้

นางตอนนี้จึงได้เข้าใจ ว่าเหตุใดอาจารย์จารึกที่พระราชวังหลวง จึงกล่าวว่าไม่มีเวลาช่วยนางซ่อมแซมกระบี่จันทร์ลี้ลับ

ได้เห็นอาจารย์จารึกตรงหน้ากล่าวอันใดต่อไม่ถูก เชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงหัวเราะลั่น “พี่ชายพูดได้ถูกต้องแล้ว เหตุใดพวกท่านไม่ตอบโต้อันใดเลยเล่า? เพราะแท้จริงก็โป้ปดแต่วางท่า!”

“เจ้าหนู เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง! ตัวกระบี่เสียหายหนักมาก ภายใต้สถานการณ์ปกติ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อมแซม!” ชายชราในชุดขาวกล่าวคำ “กระนั้น หากพวกเรามีอักขระลึกล้ำในครอบครองที่ตรงกัน มันก็ยังพอเป็นไปได้!”

ผู้อื่นล้วนพยักหน้าเป็นการเห็นด้วย

“เจ้าหนู เจ้าก็แค่เด็กอวดรู้! พวกเราเชี่ยวชาญอักขระลึกล้ำจำนวนมากมาย หากพวกมันตรงกัน นำมาประสานติดต่อกันเป็นผังจารึก การซ่อมแซมย่อมเป็นไปได้!” ชายชรากล่าวเหยียดหยัน “อย่าได้วางตัวอวดรู้ ความรู้เท่าหางอึ่งเช่นเจ้า มีหรือเทียบเท่าอาจารย์จารึกลึกล้ำเช่นข้า!”

“ความเสียหายบนตัวกระบี่จันทร์ลี้ลับ ทั้งหมดเกิดขึ้นที่อักขระจันทรา พวกมันเป็นอักขระจันทราโบราณ! พวกท่านมีไว้ในครอบครองหรือ?” คำกล่าวของฉินหยุน ทำเอาทั้งห้องโถงกว้างเงียบงันอีกครั้ง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด