ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0367
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0369

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0368


ตอนที่ 368 : อักขระตะวันเก้าสมบูรณ์

ฉินหยุน เจียงจื้อหู่ และคณะกำลังบินกว่าครึ่งวันอยู่บนเรือความเร็วสูง พวกเขากำลังอยู่ท่ามกลางทะเลทรายร้อนแรง

ทะเลทรายแห่งนี้เต็มไปด้วยทราย มองไปทางไหนก็มีแต่ทราย พายุทรายก็คล้ายจะมีให้เห็นบ่อยครั้ง

ในทะเลทรายเช่นนี้ ย่อมเต็มไปด้วยสัตว์ที่แข็งแกร่งนานาชนิด

ทะเลทรายกว้างใหญ่ ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการข้ามผ่าน

เรือลำน้อยกำลังบินอยู่เหนือทะเลทราย มันหาได้รับผลกระทบจากพายุทรายแต่อย่างใดไม่ ยิ่งเวลาผ่านไป ก็ยิ่งมีนกยักษ์หรือสัตว์อื่นให้เห็นระหว่างทาง

โชคดีที่ออร่าของขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำภายในเรือกล้าแกร่ง ทำให้สัตว์เหล่านั้นไม่คิดเข้ามาใกล้

“เรือนี้คืออุปกรณ์ลึกล้ำระดับราชัน ข้าลงแรงไปมากกว่าจะได้รับมันมา ในที่สุดวันนี้ค่อยมีโอกาสได้ใช้งาน!” เว่ยจงเจิ้งฝืนยิ้มออก อาการบาดเจ็บของเขาค่อนข้างร้ายแรง ไม่มีทางที่จะรักษาหายได้ในระยะเวลาอันสั้น

ผู้อาวุโสที่ยืนด้านนอกเรือตะโกนขึ้น “เกือบจะถึงประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์แล้ว!”

ฉินหยุนและเจียงจื้อหู่เร่งรีบออกไปดาดฟ้าเรือ เพื่อรับชมเรื่องราวที่ภายนอก

ในทะเลทรายสีทองไร้สิ้นสุด มีเสาสีทองขนาดใหญ่เก้าต้นที่หนากว่าร้อยเมตร พวกมันก่อเป็นรูปวงกลมยืนหยัดสูงกว่าพันเมตรอยู่กลางทะเลทรายแห่งนี้

ที่ความสูงกว่าพันเมตรของตัวเสาทองคำทั้งเก้าต้น มันมีพื้นที่ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ รัศมีกว้างถึงหลายพันเมตร

พื้นที่ดังกล่าวถูกล้อมเอาไว้โดยเสาทั้งเก้าต้น โดยมีมันอยู่ตรงกลางเปรียบดั่งชั้นลอย มองจากระยะไกล ภาพที่เห็นก็ชวนทำให้ต้องทึ่ง!

ฉินหยุนก่อนหน้านี้นึกว่าประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ จะตั้งอยู่บนภูเขาและเป็นเมืองขนาดยักษ์ ผู้ใดจะคิดกัน ว่ามันจะตั้งอยู่ตรงกลางของเสาทั้งเก้าต้นเช่นนี้?

“เสายักษ์ทั้งเก้าต้น เป็นอาคมเก้าสมบูรณ์ พวกมันทำหน้าที่ดูดกลืนพลังวิญญาณเก้าตะวัน! มันเป็นปราการที่สามารถต้านรับการโจมตีอันทรงพลัง ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ที่อยู่ภายในจึงปลอดภัยอย่างยิ่ง! เมืองขนาดเล็กที่ตั้งเสมือนชั้นลอยตรงกลางนั้น ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมาไม่เคยผ่านการสึกกร่อนใด!”

ผู้อาวุโสที่สองยืดอกกล่าวภูมิใจ “กระทั่งราชันยุทธ์ ก็ไม่อาจทำลายค่ายอาคมเก้าสมบูรณ์ บรรดาสำนักระดับราชันทั้งหมดคิดอยากเรียนรู้ค่ายอาคมนี้ แต่หลายปีผ่านพ้น หาได้มีผู้ใดสามารถทำได้!”

ขณะเรือเข้าไปใกล้ ฉินหยุนได้เห็นเสายักษ์ทองคำที่เกินจะบรรยาย ที่ตัวเสา มันประกอบด้วยการแกะสลักแปลกประหลาดมากมายมหาศาล นอกจากนี้ มันยังซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง!

ฉินหยุนรับชมคล้ายโดนดึงดูด

จากประตูจารึก เขาได้รับอักขระดวงดาวและอักขระจันทรามาจำนวนหนึ่ง อักขระเหล่านั้นมีความซับซ้อนอย่างยิ่ง

กระนั้น สิ่งที่แกะสลักบนเสาอาคมเก้าสมบูรณ์ มันซับซ้อนยิ่งกว่าอักขระดวงดาวและอักขระจันทรา

“หรือจะเป็นอักขระตะวัน?” ฉินหยุนสูดลมหายใจเข้าลึกอุทานออก

“ถูกต้องแล้ว!” ผู้อาวุโสที่สองเผยความประหลาดใจ “เสี่ยวหยุน ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะรู้เรื่องวิถีจารึกแห่งเต๋าด้วย หาได้ยากนัก!”

ฉินหยุนมีอักขระดวงดาวและจันทรา ทว่าไม่มีอักขระตะวัน

“ผู้อาวุโสที่สอง ในประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ มีอาจารย์จารึกอยู่มากมายหรือขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

“ไม่มาก มีเพียงข้า!” ผู้อาวุโสที่สองถอนหายใจ “เดิมมีอาจารย์จารึกอีกสองท่าน ทว่าพวกเขาถูกสังหารไปแล้ว ข้าละสงสัยนักว่าผู้ใดบังอาจสังหารพวกเขา!”

สำนักระดับลึกล้ำ มีอาจารย์จารึกเพียงผู้เดียว นี่ออกจะน้อยจนเกินไปแล้ว

“ผู้อาวุโสที่สอง ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ของเรา มีผังจารึกตะวันที่ผ่านการสืบทอดหรือขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถามขณะมองที่เสาต้นยักษ์

ผู้อาวุโสที่สองส่ายศีรษะ “หากประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ของพวกเรา มีผังจารึกตะวันที่ผ่านการสืบทอด ย่อมต้องมีอาจารย์จารึกมากมายคิดมาพึ่งพิง! แต่ข้าได้ยินว่า เมื่อนานมาแล้วมันเคยมีอยู่ แต่ภายหลังได้สูญหายไป!”

เรือเคลื่อนผ่านเสาทองคำขนาดใหญ่ ยิ่งเข้ามาใกล้ผังจารึก มันยิ่งทำให้ตื่นตะลึง!

“อักขระตะวันช่างลึกล้ำนัก!” ฉินหยุนพบว่า มันเป็นเรื่องยากจินตนาการ ว่าต้องใช้อาจารย์จารึกระดับสูงเพียงใดจึงสามารถแกะสลักพวกมันขึ้นได้

“ข้าเป็นเพียงอาจารย์จารึกระดับวิญญาณขั้นกลางเท่านั้น หากคิดแกะสลักอักขระตะวัน เช่นนั้นก็ต้องเป็นอาจารย์จารึกระดับลึกล้ำขั้นสูงเป็นอย่างน้อย!” ใบหน้าของผู้อาวุโสที่สองเปี่ยมด้วยความคะนึงขณะมองที่เสาทองคำ

ฉินหยุนตอนนี้เป็นอาจารย์จารึกระดับสูง และตอนนี้เขาก็พร้อมที่จะเป็นอาจารย์จารึกระดับวิญญาณแล้ว ทว่าก็จำเป็นต้องผ่านการขัดเกลาอุปกรณ์วิญญาณชั้นเลิศให้ได้เสียก่อน

ฉินหยุนไม่ทราบว่าตอนนี้ตนอยู่ขั้นย่อยใดของระดับอาจารย์จารึก เขาจำเป็นต้องไปยังตำหนักจารึกเทวะ เพื่อทำการทดสอบพิสูจน์เสียก่อน

หลังจากเรือเล็กผ่านเข้ามา มันค่อยลอยไปยังพื้นขนาดใหญ่ ที่เรียกว่าเพียงพอให้รองรับเมืองขนาดเล็กได้

ตอนนี้มีศิษย์หลายคนด้านล่าง ต่างเงยหน้าขึ้นมองด้านบน

ผู้อาวุโสที่สองกล่าว “แม้ที่นี่ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็มีศิษย์เพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น! น่าเสียดาย ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ของพวกเรากำลังเสื่อมถอย สงสัยนักว่าพวกเราจะมีโอกาสได้ฟื้นคืนความยิ่งใหญ่หรือไม่”

ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ในอดีต เป็นหนึ่งในตัวตนอันยิ่งใหญ่และรุ่งโรจน์ ทว่าตอนนี้กำลังเสื่อมถอย

เจียงจื้อหู่เอ่ยถาม “ผู้อาวุโสที่สอง เหตุใดประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์จึงเสื่อมถอย? พวกท่านดีเพียงนี้ สมควรรับสมัครศิษย์ที่ดีได้ไม่น้อยเลยด้วยซ้ำ!”

“ย้อนกลับไป ศิษย์พี่ทั้งห้าคนของพวกเราที่อยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำเสียชีวิตกันคนแล้วคนเล่า! หลังจากความตายของอาจารย์จารึกระดับลึกล้ำ ศิษย์ที่ยอดเยี่ยมขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณหลายคน รวมถึงขอบเขตวรยุทธ์เต๋า พวกเขาต่างตายกันไปคนแล้วคนเล่า” เมื่อผู้อาวุโสที่สองเอ่ยถึงเรื่องนี้ สีหน้าของเขาเปี่ยมด้วยความโศกและโกรธแค้น ดวงตานี้เผยออกซึ่งความหวาดกลัว

ตอนนี้เอง ผู้อาวุโสใหญ่ก้าวเดินออกมา ใบหน้าผอมบางของเขาเปี่ยมด้วยความเหนื่อยล้า เขาเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูงสุด ดังนั้นจึงรับหน้าที่คงสภาพอาการบาดเจ็บแก่เว่ยจงเจิ้งตลอดการเดินทาง

ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวขึ้น “ในช่วงหลายร้อยปีมานี้ ราวกับประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ของพวกเราถูกสาป ศิษย์และผู้อาวุโสหลายคนที่ออกเดินทางไปล้วนตายจาก! เรื่องนี้เป็นผลให้ผู้คนไม่คิดอยากเข้าร่วมประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ ในช่วงสองร้อยปีมานี้ สถานการณ์ค่อยดูดีขึ้นบ้าง ตอนนี้ยังไม่มีศิษย์ใดถูกสังหาร!”

ฉินหยุนคิ้วขมวด “ผู้อาวุโสใหญ่ เรื่องนี้สมควรมีเบื้องลึกเบื้องหลัง ไม่มีเบาะแสเลยหรือขอรับ?”

ผู้อาวุโสใหญ่ และผู้อาวุโสที่สองต่างมองกันเองและพยักหน้า

ผู้อาวุโสที่สองกล่าว “ศิษย์พี่ของพวกเราพบเจอบางอย่างเข้า ตอนที่พวกเขากลับมาล้วนถูกพิษร้าย จากนั้นจึงเสียชีวิตไปโดยทิ้งเบาะแสหนึ่งเอาไว้!”

“ทว่า เบาะแสที่พวกเขาได้รับมา เป็นจ้าวสำนักผนึกมันเอาไว้! มีแต่จ้าวสำนักที่ทราบว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!”

เช่นนั้นเบาะแสต้องชัดเจน และต้องเป็นอะไรที่สำคัญอย่างยิ่ง!

ฉินหยุนมองลงไปที่ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ อาคารสิ่งปลูกสร้างเรียบง่ายหาได้มีการตกแต่งใด ส่วนใหญ่สร้างขึ้นจากไม้ หิน และเหล็ก มีตำหนักใหญ่และหออยู่หลายแห่ง กระนั้นพวกมันว่างเปล่าและถูกทิ้งร้าง

ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ที่กว้างใหญ่แห่งนี้ กลับมีคนเพียงไม่กี่ร้อย นับว่าน่าเวทนาจนเกินไปแล้ว

กระทั่งสำนักระดับวิญญาณ ก็ยังมีคนจำนวนหลักหมื่น

ทว่าประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ก็รักษาสถานการณ์เอาไว้มาได้หลายปี อาคารโบราณหลายแห่งหาได้เสียหายแต่อย่างใดไม่

เรือลำน้อยกำลังบินมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ที่อยู่ตรงกลางของประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ จากนั้นค่อยลงจอดที่ลานกว้างของคฤหาสน์

“ผู้อาวุโสที่สอง ข้าฝากเรื่องเสี่ยวหยุนกับอาหู่ให้เจ้าแล้ว พวกเราจะรับมือกับอาการของจ้าวสำนักก่อน!” ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว

ผู้อาวุโสที่สองเป็นอาจารย์จารึกเพียงหนึ่งเดียวของที่นี่ ตอนนี้ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ และขุนเขาลึกล้ำดาบ ได้บ่มเพาะความเกลียดชังต่อกันเรียบร้อย เขาต้องไปตั้งระวังป้องกันขุนเขาลึกล้ำดาบให้พร้อมทุกเมื่อ โดยเฉพาะกับการคุ้มกันค่ายอาคมใหญ่

เจียงจื้อหู่โดนพิษก่อนหน้านี้ ดังนั้นเขาจึงเร่งรีบเข้าห้องไปฟื้นตัว

ทางด้านฉินหยุน เขายังมีเรี่ยวแรงล้นเหลือ

ระหว่างทาง เขาได้ใช้โทเทมต้นไม้ดูดกลืนพลังวิญญาณเก้าตะวัน ดังนั้นสภาพจึงเต็มร้อย

ที่ลานกว้าง ฉินหยุนสามารถมองเห็นเสาทองคำทั้งเก้าต้นที่ล้อมประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์เอาไว้

ค่ายอาคมเก้าสมบูรณ์ ได้ดูดกลืนพลังวิญญาณเก้าตะวันปริมาณมหาศาล ดังนั้นแล้วพลังงานเก้าตะวันที่นี่จึงล้นเหลือ

“ผู้อาวุโสที่สอง โดยรวมแล้วประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ของพวกเราเป็นอย่างไรขอรับ?” ฉินหยุนติดตามผู้อาวุโสที่สองออกจากคฤหาสน์ มุ่งหน้าไปตามทางเดินสายยาว

ระหว่างทางทั้งสองฟากข้าง มีสวนดอกไม้ที่เต็มไปด้วยดอกบัว แม้ว่าประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางทะเลทรายแห้งแล้ง กระนั้นภายในกลับงดงามและสมบูรณ์

ผู้อาวุโสที่สองเอ่ยออกอย่างกระดากใจ “ผู้อาวุโสทั้งสี่ของพวกเรา อยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ จ้าวสำนักอยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับสูงสุด มีศิษย์ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าห้าสิบคน ส่วนที่เหลืออยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์!”

พละกำลังโดยรวมของประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ แท้จริงแล้วอยู่ในสภาพย่ำแย่เกินกว่าจะเป็นสำนักระดับลึกล้ำ

“ผู้อาวุโสที่สองขอรับ พวกท่านใจใหญ่ยิ่งนัก ถึงกับนำขุมกำลังแข็งแกร่งที่สุดของสำนัก ออกสู่ภายนอกพร้อมกันเช่นนี้!” ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะยิ้ม

ผู้อาวุโสที่สองตอบกลับ “เพราะไม่มีทางเลือก ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ของพวกเราเข้าร่วมการแข่งขันเสวียนหยิง แต่พวกเราไม่เคยได้รับศิษย์ใดกลับมาเลย ดังนั้นพวกเราจึงพร้อมใจกันออกไป ให้ผู้ฝึกตนรุ่นใหม่ได้เห็นถึงความจริงใจของพวกเรา!”

ประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์กว้างขวาง มีบ้านหลายหลังถูกปล่อยว่าง กระทั่งศิษย์ขอบเขตกายวรยุทธ์ ยังมีบ้านหลังน้อยเป็นของตนเองกันที่นี่

ด้วยคนจำนวนน้อยนิดในสำนัก หมายความถึงทรัพยากรค่อนข้างย่ำแย่แล้ว

“พวกเราจะพยายามพัฒนาให้ดีกว่านี้! ไม่นานก่อนหน้านี้ พวกเราเพิ่งพบเหมืองเหรียญม่วงในทะเลทราย เมื่อจ้าวสำนักพร้อม พวกเราก็พร้อมที่จะไปขุดมันออกมากักตุน!” ผู้อาวุโสที่สองกล่าว

ฉินหยุนหาได้ถามไม่ แต่ก็ทราบว่าประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์จนกระทั่งถึงตอนนี้ ไม่มีเหมืองทรัพยากรเป็นของตนเองแม้เพียงหนึ่ง

เหตุผลว่าทำไมประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ดำเนินมาได้อย่างต่อเนื่อง ก็เพราะการคงอยู่ของค่ายอาคมเก้าสมบูรณ์

“เสี่ยวหยุน ข้าจะให้ศิษย์คนหนึ่งช่วยพาเจ้ารับชมให้ทั่ว จะได้คุ้นชินกับที่นี่ เพราะตอนนี้ข้าต้องไปรับหน้าที่คุ้มกันค่ายอาคมใหญ่!” ผู้อาวุโสที่สองกล่าว

เขานำฉินหยุนไปยังสวนสมุนไพร

สวนสมุนไพรแห่งนี้พื้นที่หลายสิบไร่ ประกอบด้วยสมุนไพรวิญญาณนานาชนิดถูกปลูกเอาไว้

ที่ตรงกลางของสวนสมุนไพร มีอาคารโบราณทองแดงตั้งอยู่ สูงราวสองชั้นเห็นจะได้

ผู้อาวุโสที่สองเดินไปหยุดตรงหน้าอาคารโบราณและตะโกน “แม่หญิงเถื่อน เจ้าทำอะไรอยู่? ออกมาสักประเดี๋ยว มีศิษย์ใหม่เพิ่งเข้ามา เขาหล่อมากเลยนะแม่สาวน้อย!”

“ข้ายุ่งและหาได้สนใจไม่ ไปถามศิษย์พี่ผู้อื่นให้ช่วยเขาแทนก็แล้วกัน!” เสียงเบาตอบกลับมาจากภายในแทบทันที

เป็นเพราะเสียงมาจากภายในผนังทองแดง ทั้งยังค่อนข้างเบา จึงทำให้ได้ยินไม่ค่อยชัดเจนนัก

ผู้อาวุโสที่สองเผยสีหน้าเก้กังไปวูบก่อนจะตะโกนต่อ “แม่หญิงเถื่อน ข้าขอแนะนำเขาให้เจ้าได้รู้จัก! เขาค่อนข้างเหนือล้ำนัก ได้รับอันดับหนึ่งในการแข่งขันเสวียนหยิง ทั้งยังสร้างอักขระชีวิตตัวที่สองเรียบร้อยแล้วด้วย”

ฉินหยุนสะท้าน เขาไม่คิดว่าทันทีที่เข้าประตูลึกล้ำเก้าสมบูรณ์ จะได้รับการแนะนำกับหญิงสาวผู้หนึ่งเช่นนี้ ชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่คิดให้เขาไปไหนแล้ว

“ในใจข้ามีคนของตัวเองอยู่แล้ว!” เสียงของคนที่ถูกเรียกเป็นหญิงเถื่อนดังตอบกลับมา

ผู้อาวุโสที่สองถอนหายใจขณะมองที่ฉินหยุน เขาผายมือกว้างและยิ้มอย่างขัดเขิน “เสี่ยวหยุน เดี๋ยวข้าให้ศิษย์คนอื่นมารับตัวเจ้าแทนแล้วกัน!”

“ผู้อาวุโสที่สอง ท่านอย่าได้ห่วงเรื่องข้าแล้ว ข้าเดินสำรวจด้วยตัวเองได้!” ฉินหยุนยิ้มตอบ

ขณะกล่าวคำจบ ประตูทองแดงพลันเปิดพรวด

หญิงงามผมสั้นประบ่าผู้หนึ่ง สวมใส่ชุดรัดรูปสีแดงงดงาม ยืนหยัดตรงหน้าประตู มองฉินหยุนด้วยความประหลาดใจอย่างถึงที่สุด!

ฉินหยุนสวมใส่ชุดสีดำหยาบกร้าน เส้นผมค่อนข้างยุ่งเหยิง ทั้งยังมีหนวดเคราขึ้นเล็กน้อย ทำให้ดูเหมือนผู้ฝึกตนพเนจรผู้หนึ่ง

กระนั้น หญิงสาวก็ตระหนักได้ดีว่าเป็นฉินหยุน นางตะโกนร้องออก “พี่หยุน!”

“หยานหยิง?” ฉินหยุนมึนงง

เมื่อยืนยันได้ว่าเป็นฉินหยุน หยวนหยานหยิงกลายเป็นยินดีและตื่นเต้น นางเร่งรีบเข้ามาคว้าฉินหยุนก่อนจะกอดไว้แน่น

ผู้อาวุโสที่สองเผยดวงตาเบิกกว้าง ใบหน้าอ้วนท้วนนั้นกลับกลายเป็นตกตะลึง!

เขาไม่คิดว่าฉินหยุนและหยวนหยานหยิงจะมีสัมพันธ์อันดีต่อกันถึงเพียงนี้อยู่ก่อนแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด