ตอนที่แล้วCF:บทที่ 14 มหาเศรษฐี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCF:บทที่ 16 ประจันหน้า

CF:บทที่ 15 ลองถูกดูหมิ่น


CF:บทที่ 15 ลองถูกดูหมิ่น

อู๋ ฮ่าวเหรินผู้ที่เดินเข้าไปในงานมอโต้โชว์ คิดว่าการได้ซื้อรถและดูผู้หญิงนั้นมันไม่ผิด เขาเคยอิจฉาคนอื่นในคอมพิวเตอร์ แต่วันนี้เขาจะได้มีประสบการณ์ความสุขแบบนี้

“บ้าเอ๊ย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน นางแบบสวยๆล่ะ?”

อู๋ ฮ่าวเหรินพบกับความจริงอันโหดร้าย นอกจากรถทรงสวยๆแล้ว ก็มีแต่นายแบบหล่อๆเท่านั้น

ในจังหวะนี้ มีคนสองคนเดินผ่านมา หนึ่งในนั้นบอกว่า “ต่อให้รัฐบาลไม่อนุญาตให้มีนางแบบสวยๆ ก็ไม่น่าจะถึงกับต้องเชิญนายแบบมาแทนนะ บ้าจริง ฉันล่ะเกลียดคนจัดงานนี่จริงๆ”

ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะจัดการกับความไร้อารยธรรมของการใช้นางแบบรถซึ่งนำมาสู่การใช้นายแบบรถทั้งหมดในวันนี้ อู๋ ฮ่าวเหรินสับสนเล็กน้อย

ในเมื่อดูนายแบบรถไม่ได้แล้ว จึงต้องดูที่รถอย่างเดียว

ในพริบตาที่เดินเข้ามา อู๋ ฮ่าวเหรินพบรถสปอร์ตเท่ๆบนแท่นจัดแสดงตรงกลาง และมีคนจำนวนมากยืนถ่ายรูปอยู่ข้างๆ

“ปากานี่ หัวรา และรุ่นล่าสุดของมัน ใครเป็นคนจัดงานออโต้โชว์นี้กัน เขาไปเอารถสปอร์ตแพงๆแบบนี้มาได้อย่างไร”

“ก็จริง ไปถ่ายรูปมันสักหน่อยเถอะ ไม่ง่ายเลยนะที่จะได้เห็นรถแบบนี้สักครั้ง โดยเฉพาะการที่จะได้ถ่ายรูปเยอะๆในระยะใกล้แบบนี้ ถ้าซื้อมันได้นะ เอารถนี่ไปเกี้ยวสาวที่ไหนรับรองเลยว่าได้แน่นอน”

“เลิกคิดไปได้เลย นายทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ถ้าฉันจำไม่ผิดราคาของรถคันนี้คือ 29 ล้านหยวนเลยนะ นายทำงานสิบปีก็ยังจ่ายไม่ไหวหรอก”

“พอมาคิดๆดูแล้วมันก็ไม่ได้ใช้เงินจัดงานเยอะเลยนะ เหมือนกับว่าคนจัดงานนี้ทำเพียงแค่เน้นเรื่องรถโดยไม่ใช้ตัวช่วยในการดึงดูดอย่างนางแบบรถน่ะ”

อู๋ ฮ่าวเหรินยืนตะลึงอยู่กับที่ เขาคิดว่า 30 ล้านหยวนเป็นเงินมากพอจะเป็นเศรษฐีแล้ว แต่ทว่าเงินเท่านี้เขากลับซื้อได้แค่รถ

เดิมทีเขาอยากจะลองทำตัวฟุ่มเฟือยบ้าง มันคงดูดีถ้าเขาจะเป็นคนที่ถือหางตัวเอง

แต่พอคิดถึงคนในระบบซองแดงพวกนั้น พวกเขาเล่นกับรถเหาะ บางคนยังเล่นกับยานรบอวกาศที่มีอีก แค่รถสปอร์ตนั้นมันไม่แปลกอะไรเลย

ในขณะที่คิด อู๋ ฮ่าวเหรินก็มองรถสปอร์ตมูลค่า 29 ล้านอย่างกับมองกองเศษเหล็ก ไม่สนที่จะถ่ายรูปสักนิด

ยิ่งกว่านั้น รถสปอร์ตแบบนี้ไม่เหมาะกับเขาเลย พื้นที่มันเล็กเกินไปนั่งได้แค่สองคนเท่านั้น

ในงานมอโต้โชว์นี้มีคนอยู่ทุกประเภท ตัวอู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้แปลกอะไร แน่นอนว่าพนักงานขายรถพวกนั้นไม่ได้ให้ความสนใจกับเขา ส่วนมากพวกเขาจึงเมินอู๋ ฮ่าวเหรินไปแม้ว่าเขาจะยืนมองรถอยู่ก็ตาม

ทั่วมุมห้องอู๋ ฮ่าวเหรินพบว่ายังมีรถคันอื่นๆที่ราคาเป็นล้านและไม่คาดเลยว่าจะมีคนรวยมากมายในเมืองเล็กๆเช่นนี้

เขาดูรถสปอร์ตทั้งหมดและพบว่าต่อให้มีคันที่นั่งได้สี่คน แต่ที่นั่งด้านหลังก็ยังเล็กมากอยู่ดี ดังนั้นเขาจึงต้องตัดใจจากรถสปอร์ตไป

เดิมที เขาอยากจะซื้อรถสปอร์ตและสนุกไปกับความรู้สึกของคนรวย เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะต้องมารู้สึกผิดหวังแบบนี้

ในที่สุด เขาก็เล็งรถยี่ห้อ BMW 7 รถที่หรูที่สุด ซึ่งดูมีประสิทธิภาพที่ดีและเป็นรุ่นที่มีห้าที่นั่ง

อย่างกับจะทำให้เขาพูดไม่ออก นี่เขายืนอยู่ตรงที่จัดแสดงรถตั้งครึ่งวันแล้ว แต่ไม่มีใครมาเพื่อบริการเขาเลย

อู๋ ฮ่าวเหรินชินกับสถานการณ์เช่นนี้แล้ว ทำได้เพียงบริการตัวเองเท่านั้น เขาไปหยิบแผ่นข้อมูลรถที่อยู่ใกล้ๆเขาแล้วอ่านมัน

สำหรับตัวรถ ข้ามไปได้เลย แน่นอนว่าเขาไม่เข้าใจข้อมูลสำหรับมืออาชีพพวกนี้หรอก

เขาวางแผ่นข้อมูลลง และกำลังจะลองเข้าไปนั่งดูว่ามันจะนั่งได้สบายหรือไม่

“นายกำลังจะทำอะไรน่ะ”

ก่อนที่เขาจะได้เปิดประตู เขาก็ถูกหยุดไว้โดยพนักงานขายบางคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆเขาและกำลังขายรถให้ลูกค้าอยู่

“ผมจะทำอะไรหรอ? แน่นอนสิว่ากำลังจะลองนั่งรถในงานโชว์รถน่ะ!”

“จะลองอะไร? มีเงินซื้อหรอ? อย่ามาสร้างปัญหาที่นี่เลย”

ถัดจากเขามีขายหนุ่มอ้วนๆอยู่

เขาที่ช่วยคนอื่นทำธุระไปแล้ว กำลังมองดูสถานการณ์นี้ ยิ่งหลังจากที่อู๋ ฮ่าวเหรินถูกพนักงานขายดึงตัวออก เขาก็เดินเข้ามา

เมื่อได้ยินคำพูดของพนักงานขายแล้ว ไม่รู้ว่าคำมันสะกิดเส้นประสาทเขาหรืออย่างไร เขาก็กระโจนเข้ามาแล้วพูดว่า “เสี่ยว เจี่ย นายหมายความว่ายังไง? รู้ได้ยังไงว่าคนๆนั้นไม่มีปัญญาซื้อรถคันนี้น่ะ?”

หลังจากพูดแล้ว มันดูเหมือนว่าเสื้อผ้าของอู๋ ฮ่าวเหรินจะดูไม่แพงเท่ารถพวกนั้น เขาพูดต่อว่า “ต่อให้เขาจ่ายมันไม่ไหวในตอนนี้ แล้วมั่นใจได้ไงว่าเขาจะจ่ายมันไม่ไหวในอนาคต จำไว้ว่าคนที่กล้าถามทุกคนคือคนที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้าของเรา”

ชายอ้วนคนนั้นพูดเรื่องใหญ่ พนักงานขายที่ชื่อเสี่ยว เจี่ยเดินกลับมาหลังจากผ่านไปสักพัก ชี้หน้าเขาแล้วพูดว่า “เจ้าอ้วน แกเป็นแค่เด็กฝึกงาน แกไม่ต้องมาทำอะไรแถวนี้แล้ว มีธุระอะไรที่นี่?”

เมื่อชายอ้วนตัวเล็กได้ยินเช่นนี้แล้ว เขาโกรธมากและพูดอย่างฉะฉานว่า “เป็นเด็กฝึกงานแล้วมันทำไม? ก็ยังดีกว่าหมาอย่างแกล่ะกัน ต่อให้ฉันเป็นเด็กฝึกงาน ฉันก็เป็นพนักงานฝึกขายนะ หัวหน้าขอให้ฉันตามแกมาจะเป็นเดือนแล้ว แกให้ฉันทำธุระแทนทุกวัน แต่ไม่เคยจะสอนอะไรฉันเลย”

“แก!...”

“อย่าพูดเรื่องข้ออ้างที่จะไล่ฉันออกเลย ฉันเหนื่อยที่จะฟังแล้ว ยังไงก็ตาม เดือนนี้ก็ยังขายอะไรไม่ได้เลย ไม่ต้องพูดเลยว่า บริษัทก็จะไล่แกออกด้วย”

แล้วเขาก็หันมาที่อู๋ ฮ่าวเหรินและพูดว่า “พี่ชาย คิดว่าตั้งแต่ทำงานที่บริษัทนี้มา พี่เป็นลูกค้าคนแรกเลย อย่าไปสนเขา พี่อยากจะทดสอบมันใช่ไหม เอาเลย ลองให้เต็มที่ ผมมาเป็นพนักงานขายที่บริษัทนี้มาสองเดือนแล้ว ยังไม่เคยได้ลองนั่งรถหรูแบบนี้เลย จะได้ลองก็วันนี้แหละ”

อู๋ ฮ่าวเหรินถูกลากเข้ามาในรถ เขามองชายตัวอ้วนนั่งลง และไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น

ชายตัวอ้วนเห็นสายตาแปลกๆของอู๋ ฮ่าวเหรินและอธิบายว่า “พี่ชายอย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้นสิ ผมไม่ได้ทำเพราะพี่หรอก แต่ผมโดนเขาเรียกเป็นวัวเป็นควายมาตลอดช่วงเวลานี้ และผมก็ผิดหวังนิดหน่อย เขาก็พนักงานย้ายมาเหมือนกัน แต่จากสถานะของเรา ทำไมต้องดูถูกกันด้วย...”

ฟังสิ่งที่ชายตัวอ้วนบ่นแล้ว สีหน้าของอู๋ ฮ่าวเหรินก็เศร้าเล็กน้อย เขารู้ว่าชายคนนี้ก็มีประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับเขา บางทีอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าเขา ซึ่งเป็นเหตุของการระเบิดจากการถูกกดขี่

“นี่...”

“ไม่เป็นไรๆ มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นด้วย ผมจะลาออกเมื่อผมออกไป มาเร็วเข้า ในขณะที่ผมยังเป็นพนักงานของบริษัทเขาและพอมีสิทธิ์อยู่บ้าง ลองรถราคาสองล้านนี่หน่อยเป็นไง?”

ฟังสิ่งที่ชายคนนี้พูดมานาน อู๋ ฮ่าวเหรินก็พบว่าเขาไม่ได้อยากซื้อรถเพราะชอบรถ แต่เพราะชอบชายคนนี้ถึงซื้อรถ

“โชคร้ายที่รถนี่มันยอดเยี่ยมมาก ใช้งานได้ดีแล้วก็สบาย แต่มันแพงเกินไป ฮึ่ม เมื่อไหร่ที่ผมรวยนะ ผมจะซื้อมาสองคันแล้วทุบเล่นคันหนึ่งเลย!”

อู๋ ฮ่าวเหรินตบบ่าเขาแล้วพูดว่า “ขอบคุณ ผมอยากจะรู้เกี่ยวกับรถนี่แต่ไม่มีใครมาแนะนำผมเลย”

มองดูอู๋ ฮ่าวเหรินเปิดประตูแล้วลงจากรถ ชายตัวอ้วนก็เดินลงไปข้างๆ

“เอ่อ นายเดินไปตรงนั้น ไม่สนความเป็นลูกค้าฉันหน่อยหรอ?”

“พี่อยากจะดูรถอีกหรอ? ต้องหาคนอื่นแล้วล่ะ เพราะผมกำลังจะลาออกตอนนี้เลย อีกอย่างเพราะเรื่องเมื่อกี้ ต่อให้ผมอยากพาดูรถอีก คนพวกนั้นคงไม่ยอมให้เราเข้าไปแล้ว”

อู๋ ฮ่าวเหรินยิ้มอย่างลึกลับและพูดว่า “ฉันก็แค่อยากจะซื้อรถวันนี้เลย แต่ไม่อยากทำเป็นถูกบังคับให้เถียงสู้กับคนบางคนน่ะ แต่ใครมาชวนฉันสู้ล่ะก็ขอโทษด้วยถ้าฉันสู้ไม่เก่งน่ะ ไปกันเถอะ ไปทำเรื่องการซื้อขายให้ฉันที ฉันจะซื้อรถคันนี้”

ชายตัวอ้วนมองอู๋ ฮ่าวเหรินด้วยความเหลือเชื่อ ไม่คิดว่าเขาจะได้เจอเจ้าถิ่น เขาได้เห็นเสื้อผ้าของอู๋ ฮ่าวเหริน และคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้

แต่เห็นการแสดงออกที่จริงจังของอู๋ ฮ่าวเหรินแล้ว มันเหมือนว่าเขาไม่ได้พูดเล่น

“พี่ต้องการจะซื้อมันจริงๆใช่ไหม?”

“แน่นอน ฉันมามอโต้โชว์เพื่อซื้อรถนะ ยังไงก็ตาม ฉันมีความต้องการอย่างหนึ่งในการจะซื้อรถ ฉันสามารถจ่ายมันเลยก็ได้ แต่รถต้องพร้อมให้ฉันในวันพรุ่งนี้”

-----------------------