AGKMW บทที่ 30: มอนสเตอร์(ฟรี)
AGKMW บทที่ 30: มอนสเตอร์
“ทุกสิ่งปกติดีไหม” อมันดาถามด้วยความกังวลอาทรอกซ์ในรถขณะที่พวกเขาขับกลับบ้าน
“ครับ มอม พวกเขาดูเป็นมิตร” อาทรอกซ์ตอบเพื่อคลายความกังวลของเธอ
“แต่ว่าลูกชาย เขาเป็นนายร้อยทหารและตอนนี้เป็นหนึ่งในบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในรัฐ” อมันดากล่าวด้วยความกังวล
“พี่ชายผมแข็งแกร่งที่สุด มอม” ไบรอันกล่าวขณะที่เขาหนุนหัวเล็กๆลงบนต้นขาข้างหนึ่งของอาทรอกซ์
เมื่อเห็นคู่แฝดของเธอนอนบนขาของพี่ชายคนโต บรูน่าก็ต้องเช่นกันและยึดครองต้นขาอีกข้างของอาทรอกซ์
อาทรอกซ์ลูบหัวสองฝาแฝดและตอบอมันดาว่า “มอม ตั้งแต่ผมไปบ้านพวกเขา ผมก็รู้สึกอยากจะประลองกับเขาเหมือนกัน ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ”
“เพราะว่าลูกเพิ่งฟื้นขึ้นจากอุบัติเหตุ ลูกแม่ แม่ไม่ต้องการให้อะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับลูกอีก” อมันดากล่าวอย่างเศร้าๆ
รู้สึกไม่ดีที่เห็นแม่เป็นอย่างนั้น อาทรอกซ์ก็ยอมแพ้และตกลง “ตกลงครับ มอมสามารถมาด้วยกันและถ้ามีอะไรเกิดขึ้น มอมก็บอกหยุด ตกลงไหม”
อมันดาดวงตาเป็นประกายตอบว่า “ตกลงลูกชาย ลูกต้องเชื่อฟังแม่”
หลังจากดินเนอร์ แอนโทนีแนะนำว่าเขาจะสอนอาทรอกซ์บทเรียนการป้องกันตัวบางอย่าง แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาต้องการจะทดสอบฝีมือโดยแอนโทนี่จะทดสอบระดับของอาทรอกซ์
อาทรอกซ์รู้จากรังสีที่เขาส่งออกมาเมื่อพวกเขามาถึง การทดสอบฝีมือนี้เป็นเพียงแค่ข้อแก้ตัว ตอนแรกอาทรอกคิดจะปฏิเสธความคิดนี้ แต่เมื่อคิดว่าเขาอาจจะได้พบกับใครสักคนซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งในผู้ฝึกวิชายุทธหรืออย่างน้อยก็รู้จัก อาทรอกซ์ยอมรับการเชื้อเชิญและจัดตารางเวลาเรียนไว้เสาร์หน้า
อมันดารู้สึกกังวลมากที่เห็นลูกเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ยืนยันอาทรอกซ์ให้เธอไปที่การทดสอบฝีมือด้วย อาทรอกซ์ไม่ต้องการให้เธอรู้เกี่ยวกับโลกของผู้ฝึกยุทธในเร็วๆ นี้ ดังนั้นเขาจะต้องหาวิธีบางอย่างในภายหน้า
มาถึงบ้านแล้วอาทรอกซ์ก็พาสองฝาแฝดที่ง่วงไปยังห้องนอน ในเมื่อพวกเขายังคงอายุน้อยอมันดาและอเล็กซ์คิดว่าเป็นการดีที่จะให้พวกเขาหลับด้วยกันเพื่อให้แต่ละคนมีเพื่อนยามค่ำคืน
เมื่ออาทรอกซ์วางบรูน่าลงบนเตียงเขาก็รู้สึกว่ามีความกลัวเล็กน้อยมาจากสายตาน้องสาวของเขา “ทุกอย่างปกติดีไหมเจ้าหญิงของพี่” อาทรอกซ์ถาม
“อยู่ที่นี่กับพวกเราได้ไหมพี่ชาย พวกเรากลัวว่าจะมีมอนสเตอร์มาเมื่อพวกเราเข้านอนสาย” บรูน่ากล่าวด้วยเสียงกลัวและกังวล
“น้องๆกลัวมอนสเตอร์มาหลอกงั้นเหรอ” อาทรอกซ์ถามพร้อมเลิกคิ้ว นับตั้งแต่เขาเริ่มฝึกวิชาด้วยดาบต้องสาป อาทรอกซ์ก็ไม่เคยกลัวอะไรอีกเลย แต่เมื่อเห็นสายตาของน้องสาวของเขาและเมื่อมองไปด้านข้างเห็นสายตาของน้องชาย อาทรอกซ์ก็อดกังวลไม่ได้
“ใช่แล้วทุกครั้งที่พวกเราได้ยินเสียงก็จะคิดว่ามันเป็นมอนสเตอร์” ไบรอันตอบด้วยความอายเล็กน้อยในเมื่อเขาถือเป็นผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่ง
“ตกลง พี่สามารถอยู่ที่นี่กับพวกเธอหรือว่าสอนความลับที่จะทำให้ไม่กลัวมอนสเตอร์อีกเลยให้พวกเธอ แบบไหนที่พวกเธอต้องการ” อาทรอกซ์ถามด้วยแผนการที่วางไว้ในใจ
“ไม่อีกเลยเหรอ เราต้องการรู้ความลับค่า พี่ชาย” บรูน่ากล่าวด้วยความตื่นเต้น
“ความลับของพี่ที่จะทำให้ไม่กลัวมอนสเตอร์ก็คือการกลายเป็นมอนสเตอร์เสียเอง” อาทรอกซ์กล่าวด้วยรอยยิ้มภูมิใจ
“พี่หมายความว่าอะไร” ไบรอันถามด้วยหน้าตาสับสน เมื่อเห็นสายตาสับสนที่น่ารักในดวงตาของเด็กๆ อาทรอกซ์ได้แต่ยับยั้งไม่บีบแก้มนุ่มของพวกเขา
“จำวิชาที่พี่สอนพวกเธอได้ไหม ถึงแม้ว่าพี่จะไม่พูดว่าพวกน้องจะสามารถแข็งแกร่งมากเมื่อฝึกวิชานั้น นี่เป็นความลับ พวกเธอจะต้องฝึกก่อนเข้านอนและยิ่งพวกเธอฝึกมากเท่าไหร่ พวกเธอก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น ถ้าพวกเธอแข็งแกร่งมากพอมอนสเตอร์ก็จะไม่ทำให้พวกเธอกลัวอีกต่อไปแต่จะเป็นพวกเธอที่ทำให้มอนสเตอร์กลัว” อาทรอกซ์พูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
ไบรอันและบรูน่าหันหน้าไปหาอีกฝ่ายและเห็นประกายในดวงตาของแต่ละฝ่าย ถ้าสิ่งที่พี่ชายพูดเป็นความจริง (ซึ่งพวกเขาไม่เคยสงสัย) พวกเขาต้องกลายเป็นคนแข็งแกร่งที่สุดและตีมอนสเตอร์อะไรก็ตามที่มายามค่ำคืน “เราจะทำ พี่ชาย ให้พวกเราได้มีความแข็งแกร่งที่สามารถตีพวกมอนสเตอร์และไม่ยอมให้พวกมันไปทำร้ายมอมมี่หรือแดดดี้” บรูน่าพูดด้วยสายตาแน่วแน่
“แน่นอน พี่ภูมิใจในตัวพวกเธอ” อาทรอกซ์กล่าวขณะที่เขายิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าและจูบหน้าผากของฝาแฝด
วันถัดมาชั้นเรียนล้วนเงียบเสียง หลังจากที่รู้ว่าเขารู้เนื้อหาทุกอย่างที่อาจารย์กำลังอธิบาย อาทรอกซ์ก็เริ่มเบื่อในชั้นเรียนและหันไปคิดเรื่องอื่น อาจารย์บางคนก็สร้างความประหลาดใจเขาด้วยการถามคำถาม แต่ก็ไม่มีคำตอบไหนที่ผิด ดังนั้นอาจารย์จึงพอใจและหันกลับไปสอน
หลังจากจบการเรียน แทนที่จะไปยังชมรมการแสดง อาทรอกซ์ก็ออกจากโรงเรียนหลังจากที่กล่าวคำอำลาแอนนี่ เมื่อมาถึงบ้านอาทรอกซ์ก็เล่นกับเด็กๆและถามคำถามที่เขาต้องการกับอมันดา “มอม ผมต้องการเรียนการเล่นเครื่องดนตรี ผมจะหาสักชิ้นได้จากที่ไหน”
ได้ยินคำถามจากลูกชาย อมันดาก็เริ่มคิดและจำได้ถึงอเล็กซ์ “พ่อของลูกมีกีตาร์ตัวหนึ่งเมื่อตอนพวกเรายังเริ่มนัดเดท แม่คิดว่ามันอยู่สักที่หนึ่งในห้องใต้ดิน มาเร็ว เราไปดูกันว่าจะเจอมันไหม” เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มขณะที่เธอตรงไปยังห้องใต้ดิน
เด็กๆต่างพากันอยากรู้ว่าอะไรอยูที่นั่นจึงไปด้วยกัน อมันดาไม่เคยอนุญาตให้พวกเขาเข้าไปในนั้นตามลำพังและเมื่ออาทรอกซ์เข้ามาเพื่อเอาอะไรบางอย่างที่พวกเขาไม่เคยเห็นดังนั้นพวกเขาจึงไปด้วย
บรูน่าถือแขนข้างหนึ่งของอาทรอกซ์ไว้ขณะที่ไบรอันถือไว้อีกข้าง เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเด็กๆ อาทรอกซ์ก็รู้สึกอยากรู้ ขณะที่พวกเขาลงบันไดเสียงบางอย่างก็ดังออกมา สำหรับอาทรอกซ์แล้วมันก็เป็นเพียงแค่เสียงของของเก่าๆ แต่เมื่อรู้สึกว่ามีมือคู่หนึ่งจับมือเขาแน่นอาทรอกซ์ก็รู้ว่าเด็กๆกลัว
ถือโอกาสที่เด็กๆได้เริ่มฝึกเคล็ดวิชาลมหายใจจักรวาลแล้ว อาทรอกซ์ก็ถ่ายเทพลังบางส่วนไปยังมือเล็กๆที่เขาถือไว้
เด็กๆที่กำลังกลัวรู้สึกถึงพลังอันอบอุ่นสุขสบายมาจากมือของพี่ชายทำให้รู้สึกปลอดภัยขึ้น ความแน่วแน่ที่พวกเขาจะต้องแข็งแกร่งเพื่อให้พี่ชายภูมิใจตอนนี้กลายเป็นความแน่วแน่ที่จะเข้มแข็งมากพอที่จะปกป้องและให้ความปลอดภัยกับคนอื่นเช่นเดียวกับที่พี่ชายกำลังทำ
ไบรอันและบรูน่ามองไปดูอีกฝ่ายชั่ววินาทีและพยักหน้าให้อีกฝ่าย ขณะเดียวกันฝาแฝดก็ปล่อยมือของอาทรอกซ์และกลายเป็นการตัดสินใจที่จะผ่านความหวาดกลัวของสถานที่นี้ด้วยความแข็งแกร่งและกล้าหาญของตัวพวกเขาเอง
เมื่อสังเกตเห็นการพัฒนาการนี้ อาทรอกซ์ก็ประหลาดใจแต่ก็ดีใจมากไปพร้อมๆกัน เขาปกป้องน้องทั้งสองก็เพราะว่าเขารู้ว่าพวกเด็กๆยังเล็กและเขาทนเห็นอีกฝ่ายทนทุกข์ไม่ได้ แต่เขารู้เป็นอย่างดีว่าการที่จะกลายเป็นผู้ฝึกวิชาที่ทรงอำนาจนั้น คนผู้นั้นจะต้องเป็นอิสระและมั่นใจในตนเอง เพื่อที่มารในใจจะได้ไม่ยึดครองร่างกายและจิตใจในเวลาที่ยากลำบากในการฝึกฝน
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วอาทรอกซ์ก็รู้ว่าช่วงการฝึกฝนคืนนั้นช่างคุ้มค่า