ตอนที่แล้วRe-new ตอนที่ 77 อาหารตุ๋น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปRe-new ตอนที่ 79 หัวหมู

Re-new ตอนที่ 78 วันเปิดร้าน


ตอนที่ 78 วันเปิดร้าน

“นั่นเสี่ยวเฉามิใช่รึ ? ป้ามิได้จำผิดคนใช่หรือไม่ ?” ป้าใหญ่ทักทายสองพี่น้องอย่างเป็นกันเองด้วยรอยยิ้ม

“ท่านป้าใหญ่ !” ฉีโตวตะโกนอย่างใจร้อน “ท่านป้าใหญ่ขอรับ พี่สามทำอาหารตุ๋นอร่อยมาก ๆ เลยขอรับ วันนี้พวกเราจะเอามาขายที่ท่าเรือ อาหารของพี่สามอร่อยมากเลยนะขอรับ ท่านป้าใหญ่ พี่ใหญ่ ลองชิมดูหรือไม่ขอรับ ?”

ป้าใหญ่ส่ายหน้า “เจ้าจะเอามาขายนี่ ป้ามิอยากกินหรอก แต่อาหารที่มีเนื้อก็ขายถูก ๆ มิได้น่ะสิ เช่นนี้อาจจะขายยากนะ...”

“ถ้าอยากสนทนากันก็ไปสนทนากันที่อื่น ! ยืนตรงนี้มันขวางหน้าร้านของข้า !” ด้านหลังของพวกเขาเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ ในเพิงที่ถูกสร้างขึ้นชั่วคราวด้านในมีโต๊ะกับเก้าอี้ที่ดูเก่า ๆ โทรม ๆ อยู่ 2 ชุด คนที่พูดแทรกขึ้นแบบคนอารมณ์ร้ายเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ตรงนั้น นางมีโหนกแก้มสูง ตัวผอม คิ้วบาง และตาตี่

“ท่านป้าเจ้าคะ ข้าจะขายอาหารแค่ 2 อย่าง มิได้จะขายแข่งกับท่านป้า ขอข้า...” เสี่ยวเฉารู้ว่าพวกคนงานที่มีเงินซื้อก๋วยเตี๋ยวย่อมไม่ขี้เหนียวขนาดจ่ายเงินสัก 1 อีแปะเพื่อลองอาหารตุ๋นเป็นแน่

“ไม่ ๆ ! ออกไป ตอนนี้เจ้าก็ขวางการขายของข้าอยู่ ! มีปัญญาชดใช้หรือไม่เล่า ?” ผู้หญิงโหนกแก้มสูงคนนั้นมองพวกเขาอย่างดูถูกด้วยหางตา สีหน้าของนางที่มองพวกเขาราวกับว่าพวกเขาเป็นขอทาน

ป้าใหญ่ดึงเสี่ยวเฉาที่กำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่างออก แล้วเอ่ยเบา ๆ ว่า “ไปกันเถอะ  ผู้หญิงคนนี้มีชื่อเสียเรื่องชอบทำตัวมีปัญหา เจ้าไปที่ซุ้มของท่านตาหลิวก็ได้ ครอบครัวของเขาก็ขายก๋วยเตี๋ยวเช่นกัน !”

ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่ พวกคนงานก็ถูกปล่อยออกมาพัก เหล่าคนงานเริ่มไหลทะลักมาทางนี้

เมื่อป้าใหญ่เห็นกลุ่มคนงานกำลังมา นางจึงรีบเอ่ยกับสองพี่น้อง “ได้เวลาขายอาหารแล้ว  พวกเจ้าต้องรีบไปเรียกลูกค้าได้แล้ว รู้ใช่หรือไม่ว่าจะต้องทำเยี่ยงไร ? ต้องให้ป้าช่วยหรือไม่ ?”

เสี่ยวเฉาส่ายหน้าและเอ่ยว่า “ท่านป้าใหญ่กลับไปขายของ ๆ ท่านป้าเถอะเจ้าค่ะ ท่านพ่อได้บอกพวกเราว่าต้องเรียกลูกค้าเยี่ยงไรก่อนมาที่นี่แล้วเจ้าค่ะ”

หลังจากป้าใหญ่จากไป สองพี่น้องก็เดินไปที่เพิงที่มีชายชราแววตาใจดีอยู่ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพว่า “ท่านตาเจ้าคะ ขอพวกเราขายอาหารข้าง ๆ ร้านของท่านตาหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ ?”

ชายชราผู้นี้คือท่านตาหลิวที่ป้าใหญ่เอ่ยถึงเมื่อครู่ เขาเป็นคนที่สนทนาด้วยได้ง่ายยิ่งนัก ตาเฒ่าหลิวรู้สึกสงสารสองพี่น้องที่ต้องมาขายของตั้งแต่อายุเท่านี้จึงตอบตกลงอย่างง่ายดาย

สองพี่น้องได้วางขายอาหารที่ข้างร้านของตาเฒ่าหลิว ฉีโตวเริ่มตะโกนขึ้นทันที “เนื้อ 1 อีแปะจ้า อาหารจานเนื้อแค่ 1 อีแปะเท่านั้น ! ขอโทษด้วยขอรับ ท่านลุงที่เตรียมอาหารมาจากบ้านสนใจซื้อเนื้อสักห่อไปลองหรือไม่ขอรับ ถ้าหากมิอร่อยพวกเรายินดีคืนเงินให้ขอรับ !”

“อะไรกัน ? มีคนขายอาหารที่มีเนื้อด้วยรึ ? ห่อละ 1 อีแปะจริงรึ ?”

“เจ้าโง่หรือเยี่ยงไรกัน ? ตอนนี้เนื้อสัตว์แพงจะตายไป ถ้าขายเนื้อเพียงแค่ 1 อีแปะจริง ๆ ก็ขาดทุนแทนที่จะได้กำไรน่ะสิ !”

“อาหารที่มีเนื้อราคา 1 อีแปะมิน่าจะพอแหย่ขี้ฟันได้...ช่างมันเถอะ พวกเราไปซื้อผักดองมากินแทนดีกว่า !”

.........

ถึงการเรียกลูกค้าของฉีโตวจะทำให้คนงานท่าเรือสนใจได้หลายคน แต่ก็ไม่มีใครคิดที่จะซื้อจริง ๆ เลยสักคน

ฉีโตวเริ่มรู้สึกกังวล เขามองไปที่พี่สาวและเอ่ยว่า “พี่สามพวกเราจะทำเยี่ยงไรดี ? อาหารตุ๋นของพวกเราอร่อยมากเลยนะ เหตุใดพวกเขาถึงมิซื้อเล่า ?”

เสี่ยวเฉาทายไว้แล้วว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์เยี่ยงนี้ขึ้น คนส่วนใหญ่ต้องการเวลาทำความคุ้นเคยกับของใหม่ ๆ นางคิดเพียงชั่วครู่แล้วจึงเปิดตะกร้าหยิบอาหารขึ้นมาแกะห่อออก นางขอยืมมีดของตาเฒ่าหลิวมาหั่นเครื่องในไก่เป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปหาชายที่กำลังกินก๋วยเตี๋ยวอยู่แล้วยิ้มให้ “ท่านลุงเจ้าคะ ลองชิมอาหารของข้าหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ มิเสียเงินหรอกเจ้าค่ะ ถ้ามิอร่อยท่านลุงก็มิได้เสียอะไรเลยนี่ใช่หรือไม่เจ้าคะ ?”

ชายผู้นั้นลังเลอยู่แวบนึงและเกือบจะรับเครื่องในไก่มาลอง ชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็ได้เอ่ยห้ามเขาไว้ “อย่า ! เฒ่าจ้าว ใครจะรู้ว่าเด็กนี่จะเป็นพวกหลอกลวงหรือไม่ ? หากกินเข้าไปแล้วนางกล่าวว่าเจ้าติดเงินนางเล่า เช่นนั้นเจ้าจะทำเยี่ยงไร ?”

เมื่อชายคนนั้นได้ยินเข้า เขาจึงดึงมือกลับทันที ฉีโตวลืมตาโตอย่างกังวลและร้อนใจ

แต่เสี่ยวเฉาใจเย็นดังเช่นแตงกวา นางยิ้มสดใสแล้วเอ่ยว่า “ท่านลุงเจ้าคะ ดูข้ากับน้องสิเจ้าคะ พวกเราตัวเล็กเท่านี้มิมีทางสู้ท่านลุงได้อยู่แล้ว จะไปหลอกท่านลุงได้เยี่ยงไรเจ้าคะ ?”

เฒ่าจ้าวลูบคางแล้วตัดสินใจว่าเด็กหญิงผู้นี้กล่าวได้ถูก ถ้าเขาบอกว่าอาหารไม่อร่อยและไม่ยอมจ่ายเงิน พวกเขาก็คงจะขายมิได้แล้ว เงินอยู่ในกระเป๋าของเขา มิมีทางที่เด็กสองคนนี้จะขโมยไปจากเขาได้หากเขามิเต็มใจ

เขารับไม้ที่เสียบตับไก่จากเสี่ยวเฉาแล้วเอาใส่ปากแล้วเคี้ยว รสชาติที่กลมกล่อมเข้มข้นของตับไก่ค่อย ๆ กระจายไปทั่วปาก ดวงตาของเขาเริ่มเป็นประกายด้วยความปลาบปลื้มในรสชาติ “อร่อย อร่อยมาก ! อร่อยเหลือเชื่อ ! แค่ 1 อีแปะใช่หรือไม่ ? เอามาให้ลุง 1 ห่อ !” เฒ่าจ้าวหยิบเงิน 1 อีแปะออกมาจากกระเป๋าโดยไม่ลังเล

เพื่อนของเขาส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “อร่อยขนาดถึงเพียงเชียวรึ ? เยี่ยงนั้น 1 อีแปะก็คงได้มิเยอะเป็นแน่ เฒ่าจ้าว...แกโดนเด็กหลอกเข้าแล้ว !”

ฉีโตวมองชายอีกคนแล้วเอ่ยว่า “ท่านพ่อของข้าสอนว่าให้ทำธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์และซื่อตรง เรามาขายอาหารเป็นคราแรก มิทำเรื่องโง่ ๆ ที่จะทำลายความไว้วางใจของลูกค้าหรอกขอรับ !”

เสี่ยวเฉาหยิบอาหารจากตะกร้ามา 1 ห่อแล้วเอ่ยว่า “ใช่แล้วเจ้าค่ะ ในอนาคตพวกเราจะขายจานเนื้อราคา 1 อีแปะต่อ และจะสับเปลี่ยนอาหารไปเรื่อย ๆ พวกเราต้องอยากรักษาชื่อเสียงไว้อยู่แล้วเจ้าค่ะ ท่านลุงจ้าวนี่คืออาหารตุ๋นของท่านลุงเจ้าค่ะ...”

รสชาติของอาหารยังค้างอยู่ในปากของเขา เฒ่าจ้าวฉีกห่อกระดาษออกอย่างใจร้อน เขาพบว่าข้าวในห่อไม่ได้มีเพียงเนื้อที่เขาลองชิมเท่านั้น แต่ยังมีเนื้อแบบอื่น ๆ อยู่อีกด้วย เนื้อทั้งหมดมากพอที่จะใส่ถ้วยเล็ก ๆ ได้ครึ่งถ้วย เขาชิมทุกอย่างอย่างละนิดละหน่อย  และพบว่าแม้เนื้อสัมผัสจะต่างกันแต่ก็ยังรสชาติอร่อยมากทุกชิ้น

“นี่เรียกว่าอาหารตุ๋นรึ ? ลุงมิเคยได้ยินมาก่อนเลย ! อร่อยมาก ทั้งอร่อยทั้งถูก ! เอามาให้ลุงอีก 1 ห่อ ลุงจะเอากลับไปให้ภรรยากับลูกที่บ้านกิน !” เฒ่าจ้าวเทเครื่องในไก่ตุ๋นที่เหลือลงไปผสมในชามก๋วยเตี๋ยว เนื้อที่เพิ่มลงไปทำให้ก๋วยเตี๋ยวที่มีรสของถั่วเข้มข้นรสชาติดีขึ้นมาทันที

“ได้เลยเจ้าค่ะ !” เสี่ยวเฉารับเงินและหยิบเอาเครื่องในไก่ตุ๋นอีกห่อส่งให้เขา นางตักเลือดไก่ใส่ลงไปในถ้วยของเฒ่าจ้าวหนึ่งช้อนแล้วเอ่ยว่า “เลือดไก่อันนี้นุ่มมากเลยนะเจ้าคะ ถ้าข้าเอาใส่ในห่อกระดาษมันจะเละ เอาใส่ในถ้วยก๋วยเตี๋ยวเลยจะดีกว่าเจ้าค่ะ”

“ไอหยา ! 1 อีแปะได้เยอะถึงเพียงนี้เลยรึ คุ้มค่ายิ่งนัก !” เฒ่าจ้าวรู้สึกเหมือนตนเองกำลังเป็นฝ่ายเอาเปรียบพวกเขา

ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ เห็นเฒ่าจ้าวชมไม่หยุดอีกทั้งยังกินเอา ๆ เงิน 1 อีแปะไม่ใช่เงินเยอะมากมายอะไรสำหรับพวกเขา ดังนั้นทุกคนจึงพากันต่อแถวซื้อมาชิมทีละคน บางคนเอาไปห่อกินกับแผ่นแป้งที่เตรียมมาจากบ้าน ขณะที่บางคนก็ใส่ลงไปในซุปผักที่ซื้อมา ส่วนบางคนก็ซื้อหมั่นโถวร้อน ๆ มากินกับอาหารตุ๋น...

หลายคนที่พบว่าอาหารอร่อยก็กลับมาซื้อรอบสอง แม้แต่เนื้อที่ถูกที่สุดในตลาดก็ราคาเกิน 10 อีแปะต่อชั่งแล้ว อย่างมากเงิน 1 อีแปะก็ให้เนื้อพวกเขาได้แค่ 2 แผ่นบาง ๆ อาหารที่เด็กหญิงคนนี้ขายไม่เพียงแต่อร่อยกว่าอาหารที่พวกเขามีที่บ้าน แต่ยังให้ในปริมาณที่เยอะอีกด้วย เป็นการซื้อที่คุ้มยิ่งนัก ! เสี่ยวเฉาขายอาหารตุ๋น 40 ห่อหมดลงอย่างรวดเร็ว นางได้เงินที่ซื้อเครื่องปรุงคืนมาแล้ว เสี่ยวเฉาจึงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก ด้านข้างนางคือคนงานไม่กี่คนที่มาช้าและกลัวว่าจะพลาดของอร่อยไป

“เสียงดังเอะอะโวยวายอันใดกัน ? หากมีคนก่อเรื่องแล้วถูกไล่ออกก็อย่าได้มากล่าวโทษข้ากันเล่า” หัวหน้าคนงานอยู่ที่เพิงขายอาหารผัดและอาหารทอดร้านเดียวในบริเวณนั้น เขาสั่งอาหารจานพิเศษมาสองสามอย่างและเทเหล้าให้กับผู้ดูแลสินค้าคนหนึ่งอย่างสุภาพ

“หัวหน้า ประเดี๋ยวข้าไปดูให้ขอรับ” หัวหน้าคนงานจะมีบ่าวรับใช้อยู่ข้าง ๆ เขา 2 คนเสมอ ชายคนนั้นวิ่งไปทางที่ผู้คนรุมล้อมกันอยู่

“ผู้ดูแลหลิว อาหารที่นี่ธรรมดาเกินไป ห่างจากที่นี่อีกหน่อยจะมีตลาดเล็ก ๆ ที่นั่นมีร้านอาหารอยู่หลายร้าน ถ้าเยี่ยงไร...” หัวหน้าคนงานมองอาหารสองสามอย่างตรงหน้าเขาแล้วรู้สึกว่าพวกมันดูน่าเวทนา เขากลัวว่าผู้ดูแลหลิวจะไม่พอใจขึ้นมาแล้วจะไม่ทำธุรกิจกับเขาอีกในอนาคต

ผู้ดูแลหลิวส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “สินค้าที่ข้าเอามาเป็นที่ต้องการเร่งด่วนในเมืองหลวง ข้าจะกินตอนไหนก็ได้ ขนถ่ายสินค้าลงให้เสร็จก่อนนั่นสำคัญกว่า แล้วค่อยเจรจาเรื่องอื่น !”

“ได้ขอรับ ได้ ! ผู้ดูแลหลิวมิต้องห่วง ข้าสัญญาว่าข้าสามารถขนสินค้าทั้งหมดลงได้ก่อนยามเว่ยแน่นอนขอรับ” หัวหน้าคนงานชูจอกเหล้าและชวนผู้ดูแลหลิวชนจอก ผู้ดูแลหลิวเป็นผู้ดูแลสินค้าให้กับพ่อค้าที่ร่ำรวยมีชื่อเสียงในเมืองหลวง ถ้าเขาดูแลผู้ดูแลหลิวเป็นอย่างดี ในอนาคตธุรกิจรายเดือนของตระกูลหลิวทั้งหมดก็จะมาหาเขาและไม่โดนคู่แข่งของเขาแย่งเอาไป

“หัวหน้าครับ มิมีผู้ใดก่อเรื่องหรอกขอรับ มีเด็กผู้หญิงขายเนื้อตุ๋นราคา 1 อีแปะ ทุกคนต่างกล่าวกันว่าอร่อยเป็นอย่างมาก ข้าก็เลยซื้อกลับมา 1 ห่อ หัวหน้ากับผู้ดูแลหลิวลองชิมดูสิขอรับ” บ่าวรับใช้ผู้นี้ฉลาดเสียทีเดียว เขาควักเงินตนเองเพื่อแสดงความเคารพต่อหัวหน้า ถ้าหากเขาดูแลหัวหน้าได้ดี ในอนาคตเขาย่อมได้ประโยชน์มากขึ้นมิใช่รึ ?

“อาหารอะไรกันราคา 1 อีแปะ ? เนื้ออะไร ? กินได้หรือไม่ก็มิอาจรู้ได้ ?” หัวหน้าคนงานบ่นพึมพำขณะที่ลองกัด อ่า ? มิเลว “ผู้ดูแลหลิว เนื้อตุ๋นนี่อร่อยมากเลยขอรับ  รสชาติดีกว่าอาหารที่ร้านอาหารในตลาดเสียอีก ลองชิมสักหน่อยหรือไม่ขอรับ ?”

ในฐานะหัวหน้าผู้ดูแลสินค้าของตระกูลพ่อค้าใหญ่ ผู้ดูแลหลิวย่อมเคยกินอาหารมาทุกประเภทแล้ว แต่เมื่อเขาหยิบเครื่องในไก่ชิ้นหนึ่งเข้าปาก สีหน้าของเขาก็อ่อนลงทันที  เขาเดินทางไปทั่วทั้งใต้หล้าซึ่งนั่นเป็นส่วนหนึ่งในหน้าที่ของเขา แต่เขาไม่เคยกินอะไรที่อร่อยถึงเพียงนี้มาก่อน

ผู้ดูแลหลิวเอ่ยว่า “เท่าที่ข้าสัมผัสได้ นี่มิใช่ทั้งเนื้อหมูเนื้อวัวหรือเนื้อแกะ เหมือนว่ามันจะมีรสชาติของไก่แต่ข้าก็มิเคยเจออาหารที่ทำเช่นนี้มาก่อน มิเลว มิเลว ! รสชาติดียิ่งนัก !”

เมื่อหัวหน้าคนงานเห็นว่าผู้ดูแลหลิวกินไปหลายคำอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนอยากจะกินอีก เขาจึงรีบสั่งบ่าวรับใช้คนนั้นว่า “เอ้อร์ซืออาหารที่ผู้ดูแลหลิวชอบหายากยิ่งนัก ไปซื้อมาอีก 2 ห่อประเดี๋ยวนี้ !”

ผู้ดูแลหลิวไม่ห้ามพวกเขาและมีสีหน้าพอใจ หัวหน้าคนงานยิ้มอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าลูกค้ารายใหญ่นี้จะตกเป็นของเขาเสียแล้ว

“หัวหน้าขอรับ ! เนื้อตุ๋น 1 อีแปะขายหมดไปแล้วขอรับ...แต่ข้าพาเด็กผู้หญิงที่ขายมันมาด้วย ในตะกร้าของนางยังมีเต้าหู้เลือดเหลืออยู่ นางอยากรู้ว่าหัวหน้าจะอยากซื้อมันหรือไม่น่ะขอรับ” เอ้อร์ซือไม่สามารถซื้อเครื่องในไก่ตุ๋นได้จึงกลับมาอย่างเสียใจ

“เต้าหู้เลือด ? ใช่เจ้าก้อนสีน้ำตาลที่อยู่ในนั้นหรือไม่ ? มิรู้เลยว่ามันเรียกว่า ‘เต้าหู้เลือด’  รสสัมผัสนุ่มกว่าเต้าหู้อีกทั้งยังอร่อยกว่าด้วย” ผู้ดูแลหลิวใช้ตะเกียบคีบเลือดไก่ตุ๋นใส่ปากด้วยความพอใจ

หัวหน้าคนงานรับรู้ได้ว่าผู้ดูแลหลิวชอบอาหารพวกนี้ เขาจึงหันไปเอ่ยกับเสี่ยวเฉาว่า  “ข้าอยากได้เต้าหู้เลือดที่เหลืออยู่ในไหนั่นทั้งหมด 10 อีแปะพอหรือไม่ ?”

เสี่ยวเฉายิ้มอย่างน่ารักแล้วส่ายหน้า “ท่านลุงหัวหน้าเจ้าคะ มันมิแพงถึงเพียงนั้นหรอกเจ้าค่ะ ข้ามีเหลืออย่างมากก็แค่ถ้วยเดียว ให้ข้าแค่ 2 อีแปะก็พอเจ้าค่ะ”

ผู้ดูแลหลิวมองมาและเอ่ยว่า “มิคิดเลยว่าของถูก ๆ เช่นนี้จะอร่อยมากถึงเพียงนี้ เต้าหู้เลือดนี่ทำจากอะไรงั้นรึ ?”

เสี่ยวเฉาคิดอยู่ชั่วครู่แล้วตอบกลับว่า “ท่านลุงผู้ดูแลกินอาหารแปลก ๆ ได้หรือไม่เจ้าคะ ?”

ผู้ดูแลหลิวหัวเราะเสียงดังแล้วเอ่ยว่า “ข้าทำธุรกิจมามาก ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา มีสิ่งใดที่ข้ามิเคยกินบ้าง ? ข้าเคยกินหนูกับงูที่ทางใต้ของมณฑลกวางตุ้ง บ่อยครั้งที่สิ่งที่ฟังดูน่ากลัวจริง ๆ แล้วก็รสชาติดี เอาล่ะแม่หนูน้อย บอกข้ามาเถิด เจ้าทำให้ตาแก่ผู้นี้กลัวมิได้หรอก !”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด