ตอนที่แล้วจุติข้ามโลก Reincarnation Paradise : ตอนที่28 ทรายเหลืองและความตาย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจุติข้ามโลก Reincarnation Paradise : ตอนที่30 ไร้กฎหมาย

จุติข้ามโลก Reincarnation Paradise : ตอนที่29 คิดคิดดูแล้ว


ตอนที่29 คิดคิดดูแล้ว

ใน RP นี้ส่วนมากแล้วซูเซียวมักใช้เวลาอยู่แต่ในอาคารฝึกซ้อมและห้องส่วนตัว

เขาไม่ได้เรียกโคชิโร่มาอีกแต่ใช้งานโหมดการต่อสู้จริง

แม้ว่าเขาจะตายอยู่บ่อยครั้งแต่เขาก็ได้รับประสบการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ

ช่วงเวลาสามวันสิ้นสุดลง ซูเซียวก็ได้รับการแจ้งเตือนมาจาก RP

[ฮันเตอร์กำลังจะกลับไปสู่โลกจริง ได้โปรดจำกฎระเบียบของ RP ให้ได้]

[ห้ามเปิดเผยอะไรเลยเกี่ยวกับ RP ในโลกความเป็นจริง ถ้าหากฝ่าฝืน RP จะจัดการทิ้งทันที]

[ฮันเตอร์ไม่สามารถใช้อะไรได้เลยที่ได้รับจาก RP นอกเหนือส้ะจากค่าสเตตัสส่วนตัวและสกิลติดตัว]

[อุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่ได้รับใน RP ไม่สามารถเอาออกไปใช้ที่โลกจริงได้ และของทุกอย่างจะถูกล็อคเอาไว้จนกว่าจะกลับมายัง RP]

[การขนย้ายเริ่มต้น ปลายทาง : โลกจริง]

ความรู้สึกที่คุ้นเคยเกิดขึ้นมาอีกครั้ง ซูเซียวหมดสติไป แล้วก็ตื่นมาในตู้

อุณหภูมิภายในตู้นั้นต่ำมากและค่อนข้างแคบ มีทางเดียวที่เขาจะรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน นั่นก็คือออกไปข้างนอก

เขาใช้ขาข้างเดียวเตะตู้ทันที และด้วยความแข็งแกร่งของเขาที่เพิ่มขึ้นทำให้ประตูปลิวออกไปทันที

ตู้ที่เขาพักอยู่นั้นเหมือนกับตู้เหล็กยาวๆ

“ครึ่ม”

เสียงประตูกระแทกกับพื้นจนส่งเสียงดังไปทั่วห้องที่เงียบสงบ

ซูเซียวมองไปรอบๆ ก็รู้ทันทีเลยว่าที่เขาอยู่นั้นคือห้องเก็บศพ

เขาถูกยิงในอดีตและศพของเขาถูกเก็บไว้ที่นี่

เสียงที่ดังมากจากห้องเก็บศพทำให้คนที่อยู่แถวนั้นได้ยินทันที

พยาบาลที่ทำงานอยู่ก็ตกใจอย่างมาก

“ไม่ๆ ไม่ๆ โลกนี้ไม่มีผีจริงๆ ขอหล่ะอย่ามาหลอกกันเลย..”

พยาบาลรายนี้คิดว่ามีผีอยู่ในห้องเก็บศพ

พยาบาลคนนี้มีชื่อว่า หยีรัว ซึ่งเป็นเด็กฝึกงานมาสองเดือน

หุ่นผอมบางน่ารักของเธอเมื่อใครได้เห็นก็ต้องเอ็นดู ช่างมีสเน่ห์เหลือเกิน

“โคร่ม” เสียงดังอีกครั้งมาจากห้องเก็บศพ หยีรัวก็กรีดลั่นทันทีจนแก้วน้ำร้อนในมือตกลงทันที

และเสียงที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ก็คือเสียงที่ซูเซียวพังประตูห้องเก็บศพออกมา

เขาเดินไปตามทางแคบๆ เดินไปเรื่อยๆจนมั่นใจว่านี่น่าจะเป็นโรงพยาบาลในเมืองที่เขาอาศัยอยู่

เขาไม่รีบร้อนที่จะออกจากโรงพยาบาลนี้ เขาต้องหาดาบตระกูลของเขาให้ได้ส้ะก่อน

อะไรก็ปล่อยทิ้งไปได้หมด ยกเว้นดาบครอบครัวของเขา

ซูเซียวพยายามมองหาแต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ

เขาจึงเปิดประตูห้องที่พยาบาลอยู่และถามทันที

แต่ก่อนที่เขาจะได้ถาม พยายามก็ตกใจตัวกลิ้งลงพื้นทันที

ซูเซียวจ้องมองพยาบาลที่อยู่บนพื้น

พยาบาลเองก็จ้องมองมาด้วยความกลัวแทบอยากจะกรีดจนหมดสติ

แต่ซูเซียวก็รีบเข้าไปปิดปากพยาบาลทันที

“ห้ามร้องไม่งั้นโดนฆ่าแน่!”

หลังจากที่เขาไปยัง RP มาเขาก็มีจิตอาฆาตหนักกว่าเดิม

พยาบาลรีบพยักหน้าทันที

“สถานีตำรวจไหนส่งผมมาที่นี่?”

“ยังไม่ตายงั้นหรอ? ....” พยาบาลพูดพร้อมกับตัวสั่นไปหมด

ซูเซียวจ้องมองอย่างเย็นชา

“ตอบคำถาม!”

“อ๋อ ตงเฉิง....”

หลังจากที่ได้รับคำตอบ ซูเซียวก็ลุกขึ้นและรีบออกไปทันที ซึ่งแน่นอนว่านี่มันเมืองเกิดของเขา เขาจึงรู้จักตงเฉิง

เขาโบกแท้กซี่และรีบตรงไปยังสถานีตงเฉิงทันที

สิบนาทีหลังจากนั้นเขาก็มาถึง

เขาไม่ได้เข้าไปข้างในด้วยประตูหน้า เพราะว่าเขามีคดีฆ่า อาชญากรรมติดตัวอยู่

ซูเซียวค่อยๆย่องเข้าไปในห้องหลักฐาน หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง

เขาค้นหลักฐานทุกอย่างแต่ก็ไม่พบว่าดาบอยู่ที่นี่

ซูเซียวเริ่มจะหมดความอดทนเต็มที เขาจึงเดินออกจากห้องหลักฐานและออกไปถามตำรวจ

มันอาจจะฟังดูบ้าแต่เขาไม่ได้สนใจอะไรตำรวจพวกนี้แล้ว

ในไม่ช้า ตำรวจหนุ่มที่นั่งอยู่ก็จ้องมองซูเซียว

แต่ซูเซียวนั้นก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้ตำรวจตอบโต้ใดๆ เพราะเขาย่องไปที่ข้างหลังแล้วก็ล็อคคอ

ตำรวจหนุ่มไม่ได้มีโอกาสที่จะตอบ เขาล้มสลบลงทันที

ซูเซียวลากตำรวจหนุ่มคนนี้ออกไปข้างนอกทันที ซึ่งในเวลากลางคืนแบบนี้การเข้าออกสถานีตำรวจนั้นง่ายและสบายมาก

ณ ที่ตรอก ตำรวจหนุ่มก็ฟื้นขึ้นมา

“ถ้าไม่อยากตาย ก็ตอบคำถามมาตรงๆ!”

“คุณเป็นใคร ผมคือตำ..”

ตำรวจยังพูดไม่ทันจบ ซูเซียวก็ต่อยเข้าที่อกแล้ว

ความเจ็บปวดนี้ทำให้ตำรวจหนุ่มถึงกับทรุดตัวลงทันที

“ดาบข้าอยู่ไหน?”

“ดาบ.. ดาบอะไร แกเป็นใคร!?”

“ซูเซียว!”

ซูเซียวพูดชื่อของตัวเองตรงๆโดยไม่อำพรางใดๆ

“อ๋อแกนี่เอง ดาบของแกมีคนเอาไปแล้ว!”

“โกหก!”

ซูเซียวกำมือของตำรวจเอาไว้แล้วก็บีบ เสียงดังกร่อบๆ

“ครั้งนี้ก็มือ ครั้งต่อไปที่คอ หลังจากแกตายไปแล้ว ข้าไปถามคนอื่นก็ได้! คิดถึงครอบครัวแกดีๆนะ แต่บอกที่อยู่ของดาบมาแล้วแกจะได้กลับไปเจอหน้าครอบครัว!...”

สีหน้าของตำรวจหนุ่มคนนี้เริ่มเจื่อน “ดาบของแก ท่านผู้กำกับเอาไปแล้ว มันไม่เกี่ยวกับผมเลย!”

“ดี งั้นพาข้าไปหาผู้กำกับส้ะ!”…