ตอนที่แล้วบทที่ 60: อสนีบาต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 62: บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์

บทที่ 61: ความก้าวหน้าของธาตุสายฟ้า!


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

บทที่ 61: ความก้าวหน้าของธาตุสายฟ้า!

“ฝานโม่ ปฏิกริยาของนายรวดเร็วมากจริงๆ อีกทั้งระยะเวลาการร่ายเวทยังน่าตกใจอย่างมาก พวกเราคิดว่านายคงจะเป็นเด็กจบใหม่และต้องเสียสติทันทีเมื่อเห็นอสูรเวทตัวเป็นๆน่ะ” หลีเหวินเจี่ยนั้นเดินมาตบไหล่โม่ฝานสองสามครั้งอย่างชื่นชม

“ใช่เลย ในตอนแรกฉันคิดว่าเราคงจะต้องคอยฝึกนายไปอีกนานเป็นปีกว่าที่นายจะมีประโยชน์สำหรับทีม ใครจะคาดคิดว่าจิตวิญญาณของนายจะยอดเยี่ยมจนสามารถช่วยเหลือไฉ่ถังได้ เฮ้ ไฉ่ถัง… เธอน่ะต้องแสดงความขอบคุณเขาให้ถึงที่สุดเลยนะ เธอติดหนี้ชีวิตเขาแล้วล่ะ ฮ่าฮ่า” เฟยฉือกล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะ

นั่นเป็นเพราะโม่ฝานนั้นสมัครเข้าร่วมหน่วยล่าล้างเมืองโดยที่ไม่มีประสบการณ์ใดๆเลย เขาส่งกระดาษแนะนำตัวแบบว่างเปล่า ความจริงแล้วหน่วยล่าล้างเมืองนั้นมีเงื่อนไขการรับคนเข้าร่วมทีมอยู่นั่นก็คือจะต้องมีประสบการณ์เคยสังหารอสูรเวทมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบตัว ถ้าหากไม่ใช่เพราะโม่ฝานนั้นมีธาตุที่แตกต่างจากคนอื่น เขาจะไม่มีทางได้อยู่ในทีมที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้แน่นอน แม้แต่นักเวทธาตุไฟพวกเขาก็ไม่ต้องการ อีกทั้งหน่วยล่าล้างเมืองนั้นเป็นทีมที่จะต้องเกี่ยวพันกับเหล่าอสูรเวทที่หลบซ่อนอยู่ภายในเมือง ถ้าหากมีนักเวทภายในทีมไม่สามารถเผชิญหน้ากับอสูรเวทได้ ผลลัพธ์ของมันนั้นเกินกว่าที่พวกเขาจะรับผิดชอบได้ไหว

หน่วยล่าล้างเมืองนั้นจึงให้ความสำคัญกับนักเวทภายในทีมอย่างมาก นั่นหมายถึงชีวิตของผู้คนภายในเมืองแห่งนี้

สำหรับนักเวทสายฟ้ามือใหม่ที่ไม่รู้อะไรเลย พวกเขามีความตั้งใจที่จะฝึกฝนโม่ฝานให้ได้ภายในครึ่งหรือหนึ่งปีอย่างเต็มใจ ทุกคนล้วนแต่คิดว่าโม่ฝานนั้นจะต้องลนลานในทันทีเมื่อต้องพบกับอสูรเวทจริงๆ

แต่ความจริงแล้วเขากลับสามารถควบคุมดวงดาวได้อย่างยอดเยี่ยมและใช้เวลาร่ายคาถาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น เช่นนี้ทำให้ทุกคนในทีมจะต้องมองเขาใหม่อีกครั้ง!

โดยเฉพาะไฉ่ถัง ในตอนแรกเธอนั้นปฏิบัติกับโม่ฝานอย่างดุเดือดและไม่สุภาพกับเขาอย่างมากเพราะเขาเป็นเพียงมือใหม่เท่านั้น แต่ใครจะคาดคิดว่ามือใหม่ที่เธอดูถูกในตอนนั้นจะช่วยชีวิตเธอในครั้งนี้? หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสับสนและไม่รู้จะวางตัวเช่นไร

“อ่า เอาล่ะๆ หลีเหวินเจี่ย เฟยฉือ… ทั้งสองคนไปตรวจสอบโรงอาหาร ถ้าหากไม่มีอสูรเวทตัวอื่นๆแล้ว เราจะได้ให้ตำรวจเข้ามาเพื่อค้นหาเด็กหญิงที่หายไป” ฉือต้าฮวงออกคำสั่ง

“ตกลง!”

การค้นหานั้นจะต้องใช้คนจำนวนมาก เป้าหมายหลักของหน่วยล่าล้างเมืองนั้นคือกำจัดอันตรายออกไปให้หมด หลังจากนั้นเขาจะหมอบหมายให้เฟยฉือและหลีเหวินเจี่ยทำงานร่วมกับตำรวจเพื่อค้นหาหลินหยุนเอ๋อ

เวลานี้ผ่านมานานกว่าหนึ่งอาทิตย์ โอกาสรอดชีวิตของเด็กหญิงคนนั้นน้อยมากเหลือเกิน…

ซู่วววว~~~

ในขณะที่โม่ฝานกำลังจะเดินออกไป จี้ทมิฬของเขาสั่นไหวพร้อมกับส่งเสียงออกมาเล็กน้อย

‘มีวิญญาณเหลืออยู่งั้นเหรอ?’

โม่ฝานรู้สึกดีใจอย่างมาก เขารีบเดินไปที่ร่างของหนูตายักษ์ในทันที

แสงสีน้ำเงินเปล่งประกายออกมาจากร่างของมัน มันคล้ายกับแสงของหิ่งห้อยซึ่งมีขนาดเท่ากับเปลวเทียนเท่านั้น ราวกับมันถูกเรียกออกมา มันค่อยๆลอยอย่างช้าๆมาที่คอของโม่ฝาน

คนอื่นนั้นกำลังวุ่นวายอยู่กับสิ่งอื่นจนไม่ทันได้สังเกตเห็นฉากนี้ ตอนนี้โม่ฝานนั้นประสบความสำเร็จแล้วที่ได้กักเก็บวิญญาณบริสุทธิ์ของหนูตายักษ์นี่ไว้ในจี้ทมิฬของเขา

จี้นี้สามารถดูดซับพลังวิญญาณได้โดยอัตโนมัติ ในครั้งที่เขาได้สังหารหมาป่าเวท มันก็ได้ดูดพลังวิญญาณของหมาป่าเวทมาด้วยเช่นกัน*

*นักแปล : ดูดตอนไหนฟ่ะ จำไม่ได้!

แต่น่าเสียดายว่ามันไม่เพียงพอที่จะสามารถทำให้จี้ทมิฬนี้เติบโตขึ้นได้เลย บางทีมันอาจจะต้องใช้วิญญาณบริสุทธิ์จริงๆ ‘อ้าว แล้วการดูดซับพลังวิญญาณพวกนี้จะส่งผลอย่างไรล่ะ? อืม หลังจากที่ฉันกลับไปคงจะต้องค้นคว้าเพิ่มสักหน่อย’

นอกจากนี้วิญญาณที่บางเบาเหล่านี้นั้นมีขายในสมาคมนักฆ่า ราคาของมันอยู่ที่หนึ่งหมื่นหยวน ซึ่งถ้าหากดูดซับมันได้มากพอ มันก็จะสามารถทำให้จี้ทมิฬนี้เติบโตได้เช่นกัน ‘อ้าว แล้วถ้าเป็นอย่างนี้ หรือว่าฉันจะใช้เงินที่มีอยู่ไปซื้อจิตวิญญาณที่บางเบาพวกนี้ดีล่ะ? เพราะไม่ว่ายังไงมันก็สามารถทำให้จี้ทมิฬพัฒนาไปได้เช่นกัน ด้วยวิธีเช่นนี้ลูกบอลเพลิงของฉันจะต้องไปถึงขั้นสามได้แน่!’

‘หืม? ตอนนี้เหมือนว่าดวงดาวของธาตุสายฟ้าจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างเล็กน้อยนะ อย่าบอกนะว่า…’ ทันใดนั้นเองโม่ฝานก็รู้สึกได้ถึงการตื่นตัวของดวงดาวธาตุสายฟ้าที่กำลังตื่นเต้นกันอยู่

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มันดูเหมือนกับตอนที่ดวงดาวธาตุไฟของเขาเปลี่ยนไป ในครั้งที่ทักษะธาตุไฟของเขานั้นก้าวขึ้นสู่ระดับที่สอง เผาผลาญกระดูก!

กล่าวก็คือ… อสนีบาตของเขากำลังจะพัฒนาแล้ว!

ในอดีตที่ผ่านมาแม้ว่าเขาจะเข้าสู่สมาธิมากเท่าไหร่ ธาตุสายฟ้าก็ไม่เคยจะมีการเคลื่อนไหวใดๆ ใครจะคิดว่าการปลดปล่อยพวกมันออกไปในวันนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นนี้? โม่ฝานนั้นไม่แน่ใจว่าพวกมันเปลี่ยนไปเพราะว่าการต่อสู้ในวันนี้หรือไม่ หรือว่ามันอาจจะเป็นเพราะจิตวิญญาณบางเบาเหล่านั้น?

‘ลูกบอลเพลิงนั้นพัฒนาไปถึงขั้นเผาผลาญกระดูก แล้วธาตุสายฟ้านั้นในขั้นที่สองมันเป็นยังไงเหรอ? บ้าเอ้ย ฉันอยากจะเห็นมันเร็วๆแล้ว!’

แต่สิ่งที่โม่ฝานไม่คาดคิดก็คือเขาจะได้รับค่าตอบแทนในการเข้าร่วมทีมครั้งแรกด้วย…

โรงเรียนนั้นใช้เงินสองแสนหยวนเพื่อจ้างหน่วยล่าล้างเมืองเพื่อมาจัดการกับปัญหา โม่ฝานนั้นได้รับสิบเปอร์เซ็นจากภารกิจนี้ ซึ่งเดิมทีเขาควรจะได้รับเพียงค่าจ้างของเด็กฝึกงานเท่านั้น แต่ด้วยการแสดงความสามารถของโม่ฝานภายในวันนี้ทำให้ทั้งทีมเห็นพ้องตรงกันว่าจะแบ่งให้กับเขาอย่างเท่าเทียมทันที!

สิบเปอร์เซ็นนั้นอยู่ที่ราวๆสองหมื่นหยวน ซึ่งมันเทียบเท่ากับค่าจ้างของพ่อเขาครึ่งปี!

จริงแล้วโม่ฝานไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเงินมากนัก เขาคิดอย่างถี่ถ้วนถึงวิธีที่จะใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด พร้อมทั้งเก็บมันเข้ากระเป๋าอย่างระมัดระวัง

นี่เป็นครั้งแรกที่โม่ฝานได้รับเงินจากการทำงาน แม้ว่างานนี้จะอันตรายอย่างมากแต่ผลตอบแทนของมันคุ้มค่าเกินกว่าที่เขาคิดซะอีก นี่มันมากซะกว่านักล่าที่อยู่นอกเมืองอีกด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนถึงต้องการที่จะเข้าร่วมหน่วยล่าล้างเมือง!

——

ภายในคฤหาสน์ตระกูลมู่…

ภายในสระว่ายน้ำสีฟ้านั้นมีระลอกคลื่นเล็กน้อย มู่เห่อที่อยู่ในชุดว่ายน้ำกำลังขึ้นจากสระ ร่างกายของเขาเปียกปอน เขาเดินขึ้นมาพร้อมกับเอนตัวลงที่เบาะหนังใต้ร่มคันใหญ่ จากนั้นเขามองไปที่ครูสอนว่ายน้ำของเด็กๆ แต่เขาไม่ได้ตั้งใจเลยที่จะจ้องมองหน้าอกของเธอ

แกร๊กกกๆๆๆ~~~

ในขณะที่มู่เห่อนั้นกำลังจะกล่าวอะไรบางอย่างออกมา เขาเห็นว่าสระว่ายน้ำนั้นกำลังถูกเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งทีละนิด พื้นที่ของสระนั้นกำลังถูกคุกคามโดยน้ำแข็ง!

“อย่า… ฉันจะลงไปว่ายน้ำอีกครั้ง…” มู่เห่อรู้สึกปวดหัวขึ้นมาในทันที ก่อนที่เขาจะกล่าวอะไรได้อีก สระน้ำทั้งหมดได้กลายเป็นน้ำแข็งไปแล้วโดยสมบูรณ์ เขามองสถานการณ์ตรงหน้าราวกับไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี

“ลุงเห่อ พ่อบอกให้คุณมาที่นี่เหรอ?” เด็กชายร่างสูงรูปร่างผอมเพรียวหันมาหาเขาด้วยแววตาเศร้าโศก

“อ้าว หยู่อั๋น สวัสดี… ดวงดาวธาตุน้ำแข็งของเธอนั้นแข็งแกร่งจริงๆ ในตอนนี้การฝึกเป็นยังไงบ้างล่ะ?” มู่เห่อถามออกไปด้วยรอยยิ้ม

“ค่อนข้างช้า” เด็กหนุ่มหยู่อั๋นตอบกลับ

“หืม เธอเรียกความเร็วเช่นนี้ว่าช้างั้นเหรอ…” มู่เห่อเผยยิ้มออกมา “คนอื่นนั้นสามารถทำได้เพียงทักษะแรกของธาตุน้ำแข็งเท่านั้น แต่ตอนนี้เธอนั้นอยู่ในขั้นที่สองแล้ว อีกทั้งการฝึกฝนที่รวดเร็วและสมองอันชาญฉลาดของเธอ ฉันว่าจะต้องไปได้ถึงขั้นที่สามแน่นอน! ฮ่าฮ่า ไม่ต้องกล่าวถึงเด็กนักเรียนธาตุไฟตัวจ้อยคนนั้นหรอก เธอสามารถล้มเขาได้อย่างง่ายดาย!”

“ผ่านมาสองปีแล้ว? มันนานเหลือเกิน…” หยู่อั๋นกล่าวออกมาอย่างเลื่อนลอย

“เธอนี่นะ… ไม่พอใจกับการฝึกของตนเองอยู่เสมอเลย ความจริงแล้วในกลุ่มเด็กวัยเดียวกันเธอนั้นยอดเยี่ยมมากที่สุด ใช่แล้ว เธอและมู่หนิงเซวียนั้นเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามมู่หนิงเซวียนั้นพิเศษกว่า แต่ว่าเธอคงจะรู้อยู่แล้วล่ะนะว่ามู่โจวอวิ๋นพ่อของเธอน่ะต้องการจัดการกับเด็กหนุ่มโม่ฝานนั้นให้ได้ ถ้าหากเธอทำได้ แน่นอนว่าเธอจะต้องได้รับของขวัญสุดพิเศษแน่ๆ ฉันมั่นใจ!” มู่เห่อหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี

“เหอะ ฉันไม่ได้ใส่ใจไอ้บ้านั่นสักหน่อย… ไม่เคยอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ” หยู่อั๋นกล่าวออกมาอย่างเย้ยหยัน

••••••••••••••••••••

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

ช่วยกันกดคะแนนดาวให้กับผู้แปลเพื่อเป็นกำลังใจด้วยน้าาาา //อ้อนน

อย่าลืมกดติดตามนิยายไว้ด้วยน้า กดได้ที่หน้าปกนิยายเลยค่ะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด