ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0342
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0344

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0343


ตอนที่ 313 : พลีชีพ

ฉินหยุนคิดอยากไปเยือนตำหนักจารึกเทวะ เพราะเชี่ยวเย่ว์เหม่ยและเชี่ยวเสวียนฉิน ต่างก็อยู่ที่ตำหนักจารึกของเทวะของนครหลวงเทียนฉิน

กระนั้น ฉินหลงได้แจ้งต่อเขา ว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยและเชี่ยวเสวียนฉิน ทั้งสองออกเดินทางไปแดนยุทธ์อ้างว้างแล้ว

พวกนางเดินทางไปพร้อมจ้าวฉวน

จ้าวฉวน ต้วนเฉียน และผู้อื่นอีกหลายคน ต่างออกเดินทางไปแดนยุทธ์อ้างว้าง เป็นปกติที่เชี่ยวเสวียนฉินและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย จะติดตามร่วมทางไปด้วย

เมิ่งเฟยหลิงเองก็เช่นกัน นางร่วมทางไปกับคณะนี้

“เฮ้อ ผู้คนล้วนไปยังแดนยุทธ์อ้างว้างกันหมด! เราเองก็อยากไปเปิดหูเปิดตาบ้าง!” ชั่วขณะนี้ ฉินหยุนกำลังอยู่ระหว่างทางไปยังสถาบันยุทธ์ชิงเสวียน

เมื่อมาถึงสถาบันยุทธ์ชิงเสวียน เขาตรงไปพบตู้ก่วย

ตู้ก่วยค่อนข้างมีอายุเยอะแล้ว แรงจูงใจจึงถดถอย ดังนั้นเขาจึงไม่คิดไปแดนยุทธ์อ้างว้าง แต่เลือกอยู่ที่นี่แทน

ฉินหยุนและตู้ก่วยพูดคุยกันพักหนึ่ง จนเขาได้ทราบว่าชี่เม่ยเหลียนและอาจารย์ผู้ลึกลับของนาง ก็มุ่งหน้าไปยังแดนยุทธ์อ้างว้าง

เดิมที เขาคิดอยากไปเยี่ยมเยือนชี่เม่ยเหลียน แต่ตอนนี้ เขาได้แต่หวังว่านางจะเดินทางปลอดภัยถึงแดนยุทธ์อ้างว้าง

ขณะฉินหยุนออกจากสถาบันยุทธ์ชิงเสวียน เขาได้บินผ่านทะเลสาบหมื่นดารา ภายในใจอดไม่ได้ที่จะนึกถึงพี่สาวผู้หนึ่ง เซี่ยฉีโหรว ผู้ซึ่งกำลังซ่อนตัวอยู่เบื้องล่างนั้น

เขาลอยนิ่งกลางอากาศเหนือทะเลสาบหมื่นดารา มองที่คลื่นวงน้ำ จากนั้นจึงมองเก้าดวงตะวันบนฟากฟ้า แล้วค่อยมองที่ข้อมือของตนเอง

“วิญญาณเทวะเก้าตะวัน พี่สาวมหาอุปราช ธิดาแห่งแม่มดและหลุมฝังเซียน ทั้งหมดนี้มันซุกซ่อนความลับใดเอาไว้กันแน่?”

ฉินหยุนรู้สึกว่า ไม่ช้าตนต้องไปยังแดนยุทธ์อ้างว้าง เป็นเขาไม่ทราบ ว่าตนต้องครอบครอบพละกำลังเท่าใดจึงสามารถเข้าสู่หลุมฝังเซียนที่ลึกลับแห่งนั้นได้

“จิตวิญญาณของเสด็จแม่ก็อยู่ในหลุมฝังเซียน! ตราบเท่าที่เราเข้าไปและได้รับจิตวิญญาณมา เสด็จแม่จะฟื้นคืนชีพมาได้!”

ฉินหยุนนึกย้อน ถึงสิ่งที่เซี่ยฉีโหรวบอกต่อเขา ความยินดีปรากฏภายในใจยามนึกถึง

เขายังทราบ ว่าหากตนคิดอยากเข้าหลุมฝังเซียนโดยไม่ติดขัด เขาต้องครอบครองพละกำลังอันแข็งแกร่ง!

กระทั่งสื่อชิงเฉิง ผู้ซึ่งอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ยังไม่อาจหาญกล้าเข้าสำรวจหลุมฝังเซียน ลำพังอะไรกับเขาที่อยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า!

ฉินหยุนเร่งรีบกลับไปยังตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม เขาคิดอยากรีบเปิดไข่มุกเม็ดที่สองของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน เพื่อรับชมว่าภายในมีอันใดอยู่กันแน่ บางทีมันอาจเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาสามารถได้รับพละกำลังเพิ่มมากขึ้น

เดินทางอยู่ครึ่งค่อนวัน ฉินหยุนค่อยมาถึงทางเข้าตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม

กระนั้น ทันทีเมื่อมาถึง เขาสัมผัสได้  ว่าอาคมป้องกันของตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามถูกทำลายลง!

“เกิดอะไรขึ้น?” หัวใจฉินหยุนบีบรัด เขาเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังประตูจารึกของตำหนักตะวันออก

ทันทีเมื่อมาถึงตำหนักตะวันออก เขารับรู้ได้ถึงออร่าแข็งแกร่งจำนวนหนึ่ง!

นี่เป็นออร่าของขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ!

ฉินหยุนตระหนกโดยทันที ออร่าขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณนี้ เต็มเปี่ยมด้วยจิตสังหารมากล้น

ตอนนี้เป็นยามบ่าย เก้าดวงตะวันยังคงร้อนแรง กระนั้น ตำหนักตะวันออกกลับมีจิตสังหารเย็นเยียบกระจายทั่ว!

“พี่หลัน!”

ฉินหยุนมองที่ถ้ำด้านบนภูเขาสีเงิน ได้เห็นประตูหินยังปิดดีอยู่ เขาค่อยวางใจ

เขาถูกสื่อชิงเฉิงมัดกายฉกชิงตัว ประตูหินจึงปิดด้วยตัวของมันเองทันทีเมื่อเขาจากมา

กระทั่งว่าหลันเฟิงจินอยู่ด้านใน นางก็ไม่อาจออกมาด้านนอก

ขณะบินมุ่งหน้าไปยังภูเขาสีเงิน คลื่นจิตสังหารพลันโหมซัดเข้าใส่เขา!

“มีขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ พวกมันอยู่ในตำหนักตะวันออก!”

ฉินหยุนไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาจึงเร่งรีบใช้ก้าวอัคคีเมฆาเร่งความเร็ว มุ่งหน้าออกไปรับชมเรื่องราว

“ฉินหยุน เจ้าหนีไม่รอดแล้ว!” เสียงชราดังขึ้น พร้อมเสียงหัวเราะอันป่าเถื่อนดังราวฟ้าคะนอง

ตู้ม!

ขุมพลังรุนแรงร่วงหล่นจากฟากฟ้า แปรเปลี่ยนเป็นสายอสนีบาตสีทอง ฟาดเข้าใส่ที่ร่างของฉินหยุนจนร่วงหล่น!

ฉินหยุนที่โดนโจมตี ร่างกายรู้สึกราวถูกฉีกกระชากออกเป็นเศษเสี้ยว ทั้งยังไม่อาจขยับ กระทั่งว่าเขาสวมใส่เสื้อคลุมลึกล้ำวิญญาณสีคราม ก็ยังไม่อาจทานทนพลังสายฟ้าแกร่งกล้าขุมนี้!

พลังของขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ช่างน่าสะพรึงอย่างแท้จริง!

ตึง!

ฉินหยุนร่วงหล่นจากฟากฟ้า!

ขณะลงที่พื้นราบเบื้องล่างภูเขา เขาอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าเส้นทางทดสอบของประตูจารึก

ขณะลงมาที่พื้น ผู้อาวุโสสวมใส่ชุดคลุมมังกรปรากฏตัว ฝีเท้านั้นกระทืบรุนแรงเข้าที่หน้าอกของฉินหยุน

ชายชราผู้นี้ คือผู้ฝึกตนจากสำนักวิญญาณหมัดมังกร และเป็นถึงขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ!

ฉินหยุนโดนกระทืบรุนแรง เขารู้สึกราวถูกบดขยี้จนแทบแตกออกเป็นเสี่ยง โชคดีเพราะแก่นเต๋าสั่นไหวของเขาอยู่ภายในหัวใจ จึงต้านรับแรงปะทะนี้เอาไว้ได้!

“ฮ่าฮ่า มาดูกันว่าเจ้าจะทำโอหังได้อีกนานแค่ไหน! เจ้าถึงขั้นลงมือสังหารผู้คนของสำนักวิญญาณหมัดมังกรของเรา!”

ผู้อาวุโสในชุดมังกรสีทองยิ้มชั่วช้า “ฉินหยุน เจ้าทราบหรือไม่ว่าข้าคือผู้ใด? ข้าคือจ้าวสำนักของสำนักวิญญาณหมัดมังกร กระทั่งนางแพศยาสื่อชิงเฉิงก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า! เจ้าไม่ควรคิด ว่านางจะมาช่วยเจ้าไว้ได้!”

ฉินหยุนอดทนต่อความเจ็บปวด ตอบโต้กราดเกรี้ยว “ตาเฒ่า ทางที่ดีจงฆ่าข้าเสียเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้น ในภายหน้า ข้าย่อมต้องทำให้เจ้าตายอย่างน่าสังเวช!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า... ได้ยินกันหรือไม่? เจ้าหนูนี่บอกว่า มันจะทำให้ข้าตายอย่างน่าสังเวช!” จ้าวสำนักวิญญาณหมัดมังกร หัวเราะออกเสียงดังลั่นโดยทันที

ตอนนี้เอง หลายคนก้าวเดินออก ท่ามกลางพวกเขา มีสองคนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ และมีอีกกว่ายี่สิบคนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า

นอกจากนี้แล้ว ยังมีผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปดและเก้า อีกจำนวนหลายร้อยคน!

คนจำนวนมากขนาดนี้ แท้จริงมาจากสำนักวิญญาณหมัดมังกร!

ตั้งแต่ที่ตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ถูกยึดครองโดยตำหนักดวงดาววิญญาณสีม่วง ศิษย์หลายต่อหลายคนหนีหาย

อาจารย์จารึกหลายท่านเข้าร่วมกับกองกำลังอื่น เป็นผลให้ตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามว่างเปล่า ค่ายอาคมใหญ่จึงไม่ได้รับการเฝ้าระวัง

ทางด้านตำหนักดวงดาววิญญาณสีม่วง ทางนั้นไม่มีกำลังสำรองเหลือพอ เพราะเหตุนั้นจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

อย่างไรแล้ว ตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ก็ด้อยค่าลงอย่างมหาศาล

“ไม่มีผู้ใดช่วยเจ้าได้!” จ้าวสำนักวิญญาณหมัดมังกรหัวเราะลั่น “และเจ้าก็หนีไม่รอดเช่นกัน!”

ขณะกล่าวคำจบ ชายชราชุดสีน้ำเงินจำนวนหนึ่ง พลันปรากฏตัวและเข้ามาใกล้!

“ผู้อาวุโสฉ่วย!” ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะร้องออก ยามได้เห็นฉ่วยอี้ฮวยและคณะเผยสีหน้าเด็ดเดี่ยวมุ่งเข้ามา

“ฉินหยุน! เจ้าเป็นเพียงความหวังเดียวของตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม!” ฉ่วยอี้ฮวยเผยดวงตาเป็นสีเลือด “ถึงกับสามารถได้เห็นศิษย์ของสำนักจารึกอีกครั้ง แม้ตายข้าก็ไม่เสียดาย!”

“ฉินหยุน พวกเราจะพยายามเต็มที่เพื่อช่วยเจ้า!” ชายชราอีกคนหนึ่งตะโกนขึ้น

จ้าวสำนักวิญญาณหมัดมังกรหัวเราะเดียดฉันท์ “ตาเฒ่าเช่นพวกเจ้าเบื่อหน่ายมีชีวิตแล้วหรือ? ให้ข้าส่งไปตามเส้นทางก็แล้วกัน!”

“ผู้อาวุโสฉ่วย ท่าน...” ดวงตาฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาสัมผัสได้ ถึงจิตวิญญาณภายในกายของฉ่วยอี้ฮวยและผู้อาวุโสทั้งหลาย

กระทั่งหลันเฉิน ยังยอมแพ้ต่อตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม!

แต่แล้ว ผู้อาวุโสแห่งตำหนักตะวันออกเช่นฉ่วยอี้ฮวย กลับเลือกที่จะอยู่รั้งต่อ

เป็นเวลาหลายปี พวกเขาใช้เวลาอยู่กับตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม จนกระทั่งครั้งหนึ่งมันมีชื่อเสียงโด่งดัง

ตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ครั้งหนึ่งเคยเรืองอำนาจ ทั้งหมดก็เพราะการคงอยู่ของประตูจารึก

ตอนนี้ สำนักจารึกในที่สุดก็มีผู้สืบทอด มันเป็นความหวังแก่พวกเขา!

ด้วยเหตุนี้ ฉ่วยอี้ฮวยและคณะ จึงคิดยอมเสี่ยงชีวิต ฝากฝังความหวังที่พวกเขารอมาเนิ่นนาน!

ฉ่วยอี้ฮวยและพลพรรคเพียงขอบเขตวรยุทธ์เต๋า ต่อหน้าขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ พวกเขาไม่มีทางยืนหยัดรับได้แม้การโจมตีครั้งหนึ่ง

กระนั้น ขณะที่พวกเขาเร่งรีบเข้ามา ตันเถียนในกายของพวกเขาได้เดือดพล่าน ขณะบินเข้าหาจ้าวสำนักวิญญาณหมัดมังกร!

จ้าวสำนักวิญญาณหมัดมังกรและคณะ ผู้ซึ่งตกเป็นเป้าหมาย อดไม่ได้ที่จะสีหน้าแปรเปลี่ยน ยามได้เห็นแก่นเต๋าที่พร้อมระเบิดพลังออก!

การทำลายตัวเองของแก่นเต๋า หาได้ใช่เรื่องใหญ่ กระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก

ด้วยระดับการฝึกฝนขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ แม้ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่อย่างน้อยก็ต้องมีสภาพดูไม่จืดแน่

นอกจากนี้ แก่นเต๋าเหล่านี้ ยังมาเป็นหมู่คณะ และมุ่งตรงสู่บริเวณที่ผู้ฝึกตนใต้บัญชาขอบเขตวรยุทธ์เต๋า และขอบเขตกายวรยุทธ์ของสำนักเขา!

จ้าวสำนักวิญญาณหมัดมังกร และขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณอีกสองคน ย่อมต้องเข้าขัดขวาง ไม่เช่นนั้น ศิษย์ที่พวกเขานำร่วมทางมาด้วย คงเหลือไม่ถึงครึ่งที่สามารถรอดชีวิตกลับไปได้ กระทั่งรอด ก็ต้องบาดเจ็บสาหัส!

จ้าวสำนักวิญญาณหมัดมังกรและคณะ ผู้ซึ่งอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ไร้ทางเลือกจนต้องทิ้งฉินหยุน เข้าคุ้มกันศิษย์ของตัวเองเป็นการด่วน

ฉินหยุนยังคงแตกตื่น ที่ฉ่วยอี้ฮวยและคณะถึงขั้นยอมสละชีวิตตนเองเช่นนี้ ดวงตาของเขากระทั่งเผยน้ำตาให้เห็น!

“ผู้อาวุโสฉ่วย ฉินหยุนผู้นี้ทำท่านผิดหวังแล้ว!” เขาคำรามร้อง

หลังปลดปล่อยแก่นเต๋า ฉ่วยอี้ฮวยและคณะต่างนอนนิ่งกับพื้น มีแต่ฉ่วยอี้ฮวยที่ยังรอดชีวิต กระนั้นก็ใกล้ถึงแก่ความตายเต็มทนแล้ว

เขายิ้มให้ฉินหยุน “ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วว่าจะผ่านสถานการณ์นี้ได้หรือไม่ พวกเราใช้ชีวิตมาพอแล้ว พวกเราพึงพอใจที่ได้เห็นศิษย์ของสำนักจารึกอีกครั้งหนึ่ง!”

ฉินหยุนคำรามร้องสุดเสียง เร่งรีบใช้งานพลังจิตอันแกร่งกล้า เขาใช้เคล็ดวิชาเทวะควบคุม รับร่างฉ่วยอี้ฮวยที่ใกล้ตาย นำเขาเข้าสู่มิติเก็บของ

จากนั้น เขาจึงใช้เคล็ดวิชาเทวะควบคุม นำพาร่างตนเองที่ได้รับบาดเจ็บ มุ่งหน้าเข้าสู่เส้นทางแห่งการทดสอบ

ทุกสิ่งเกิดขึ้นรวดเร็ว หาได้มีผู้ใดคิด ว่าฉ่วยอี้ฮวยและคณะจะหาญกล้า ยอมทิ้งชีวิตตนเองนำแก่นเต๋าออกมา เรื่องนี้ถือเป็นความเจ็บปวดที่เกินกว่าผู้ใดจะคาดคิด!

ตู้ม!

แก่นเต๋าเหล่านั้นระเบิดออก ทำลายสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ในตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามเกือบหมดสิ้น!

แรงสั่นสะเทือนรุนแรงเริ่มอ่อนกำลัง กลุ่มเมฆหนายังคงปกคลุมท้องฟ้าเหนือตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ฝุ่นยังคงฟุ้งกระจายในอากาศ ทั้งยังมีสายฟ้าอสนีบาตลั่นลงมา

ตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม กลับกลายเป็นซากปรักหักพัง มีแต่ภูเขาสีเงินที่ยังคงตั้งตระหง่าน แสงสีเงินที่ปกคลุมมันไว้ เปรียบดั่งปราการที่มั่นคงแกร่งกล้า

ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณทั้งสาม ผู้มาจากสำนักวิญญาณหมัดมังกรถอนหายใจด้วยความโล่งอก หากพวกเขาช้ากว่านี้ จะไม่มีศิษย์คนใดรอดชีวิต

ศิษย์จำนวนหลายร้อยคน ถูกปกคลุมด้วยโล่พลังที่เกิดขึ้นอย่างแกร่งกล้า ปกป้องพวกเขาไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ จากการระเบิดของแก่นเต๋าจำนวนมาก

“ตาเฒ่าพวกนั้น ถึงขั้นคิดอยากลากศิษย์ของพวกเราลงนรกพร้อมกับมัน!” จ้าวสำนักวิญญาณหมัดมังกรสบถเสียงดัง “ไอ้หนูฉินหยุนนั่น มันหนีกลับเข้าถ้ำในภูเขาไปแล้ว!”

ทางเข้าของเส้นทางแห่งการทดสอบยังคงดำมืด ราวกับปากปีศาจขนาดใหญ่

หากเข้าไปแล้ว เขาคงไม่มีทางออกมาอีก

“จ้าวสำนัก พวกเราควรไล่ตามมันไปหรือไม่?” ชายชราเอ่ยถาม “พวกเราจะปล่อยมันหนีไปเช่นนี้ไม่ได้! ศักยภาพของมันน่ากลัวนัก ภายหน้าหากมันแกร่งกล้าขึ้น ย่อมต้องหาโอกาสกลับมาล้างแค้น หากทราบก่อนหน้าว่าจะเป็นเช่นนี้ ข้าคงลงมือสังหารมันไปแล้ว!”

จ้าวสำนักวิญญาณหมัดมังกรแค่นเสียงเย็นเยือก “เจ้าจะโทษที่ข้าไม่ยอมมุ่งตรงไปปลิดปลงชีวิตมันโดยทันทีงั้นหรือ? เจ้าจะรู้อะไร? มูลค่าการจับเป็นฉินหยุนสูงล้ำ! เจ้าก็ได้เห็นแล้ว บรรดาตาเฒ่าเหล่านั้นยอมทำลายแก่นเต๋าของตัวเอง ทั้งหมดก็เพื่อปกป้องฉินหยุน เจ้าควรทราบว่ามันมีค่ามากเพียงใด!”

“ภูเขาสีเงินแห่งสำนักจารึก เป็นหนึ่งในความรุ่งโรจน์ของตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม มันคือสิ่งที่ครั้งหนึ่ง ทำให้ตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามเป็นสำนักระดับลึกล้ำ!”

“ภายหลัง เพราะไม่มีผู้ใดสามารถผ่านการทดสอบ ผังจารึกที่สืบทอดเริ่มเลือนหาย ตอนนี้ ฉินหยุนผ่านการทดสอบได้ นี่หมายความถึงมันสามารถ ทำให้ตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามกลับคืนสู่ความรุ่งโรจน์ได้อีกครั้ง!”

“ตราบเท่าที่พวกเราจับเป็นมัน คิดหาหนทางได้รับผังจารึกจากมัน สำนักวิญญาณหมัดมังกรของพวกเรา จะมีโอกาสได้กลายเป็นสำนักระดับลึกล้ำในภายหน้า!”

ชายชราพยักหน้ารับ “สายตาจ้าวสำนักช่างกว้างไกล... เช่นนั้นพวกเราควรทำอย่างไรแล้ว? ภูเขานี้ชื่อเสียงโด่งดังเรื่องความแข็งแกร่ง พวกเราย่อมไม่มีทางทำลายมันได้ หรือพวกเราจะเสี่ยงเข้าเส้นทางทดสอบ?”

“รอ! ข้าไม่เชื่อว่ามันจะไม่โผล่หัวออกมาอีก!” จ้าวสำนักวิญญาณหมัดมังกรตอบกลับ “คนที่เหลือ ให้ไปโจมตีตำหนักดวงดาววิญญาณสีม่วงเดี๋ยวนี้ เมื่อพวกเราจัดการตำหนักดวงดาววิญญาณสีม่วงลงได้ พวกเราจะได้ครอบครองภูมิภาคชายแดนแห่งนี้!”

ฉินหยุนเข้าเส้นทางแห่งการทดสอบ กระนั้นค่ายอาคมนานาชนิดกลับไม่โจมตีเขา

ด้วยหยกจ้าวสำนักในครอบครอง เขาสามารถผ่านเส้นทางการทดสอบได้ง่ายดาย

“มันกระทั่งไปโจมตีตำหนักดวงดาววิญญาณสีม่วง! ไม่แปลกใจเลยที่ซาลาเปาอ้วนผู้นั้นไม่มาช่วย!” ฉินหยุนได้ยินคำกล่าวที่ภายนอก แม้จะอยู่ในเส้นทางทดสอบก็ตามที

ตอนนี้ เขาถือว่าปลอดภัยชั่วคราว

ขณะวิ่งมุ่งหน้าไปยังยอดเขา เขายังเรียกใช้งานโทเทมต้นไม้ และผังธาตุแสงเพื่อช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตนเอง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด