ตอนที่แล้วGE302 ดาราสมุทร (5) [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE304 ดาราสมุทร (7) [ฟรี]

GE303 ดาราสมุทร (6) [ฟรี]


ผ่านไปสามวัน หนิงฝานยังไม่ตายเพราะพิษหนอนม่วง

ยามนี้ ไอปราณสีม่วงได้แผ่ออกจากร่าง แต่เมื่อได้ดูดซับโลหิตอสูร พิษในร่างก็ค่อยๆถูกสลายไปทีละส่วน จึงทำให้หนิงฝานยังมีชีวิตรอด

เรื่องที่ภูเขากุ่ยซ่งถูกทำลายแผ่กระจายไปทั่วทั้งดาราสมุทรอย่างรวดเร็ว เมื่อม่านฉานทราบข่าว มันตกตะลึงเป็นอย่างมาก

ภูเขากุ่ยซ่งไม่เหลือเค้าโครงเดิม ซากร่างและทะเลโลหิตของเหล่าอสูรไหลนอง

บริเวณนั้น มีรอยกระบี่ขนาดใหญ่อยู่

ผู้ที่ลงมือทำลายภูเขากุ่ยซ่งคือลู่เป่ย!

ข่าวนี้ทำให้ม่านฉานไม่อาจสงบใจ

บนเขากุ่ยซ่งมีข่ายอาคมระดับตัดวิญญาณขั้นสูงสุด มีองครักษ์ของราชาหมึก และกองทหารอีกเป็นจำนวนมาก แม้เป็นม่านฉานก็ยากจะทำลายที่นั่นได้ง่ายๆ

แต่ลู่เป่ยจัดการได้อย่างง่ายดาย ซากร่างของเหล่าอสูรเหลือเพียงกระดูก

“ลู่เป่ยเป็นใคร? ตอนนี้แค่ข้าต้องรับมือกับเจ้าตัดวิญญาณขั้นคนนั้นข้าก็เต็มกลืนแล้ว  ยิ่งหากลู่เป่ยมาที่นี่ ข้าก็จะยิ่งลำบากขึ้นไปอีก… แต่ถ้าเจ้าลู่เป่ยช่วยข้ากำจัดเด็กนั่นก็คงดี ได้ยินว่าลู่เป่ยเป็นศัตรูกับราชาหมึก การที่ทำลายภูเขากุ่ยซ่งหยามหน้าได้ขนาดนั้น ก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก”

“ถ้าลู่เป่ยสังหารราชาหมึกได้ก็ยิ่งเป็นผลดีกับข้า เพราะมันอาจเป็นตัวการที่จะยกทัพบุกเกาะดารา”

อีกด้าน ราชาหมึกได้รับข้อความจากกระบี่บิน จนมันไม่อาจอยู่เฉย

กองทัพที่จะบุกเกาะดาราถูกทำลาย ภูเขากุ่ยซ่งที่เป็นด่านหน้าของดินแดนมันก็ถูกทำลาย

“ถ่ายทอดคำสั่งข้าออกไป ให้ทุกกองทัพในดาราสมุทรใต้ทั้งหมด ทุ่มกำลังสังหารลู่เป่ยให้ได้!”

“ลู่เป่ยมันเป็นใคร!”

“เป็นคนที่ต้องพิษหนอนม่วงแต่ก็ยังไม่ตาย… อย่าให้ข้าเห็นหน้ามัน ข้าจะฆ่ามันเองกับมือ!”

ราชาหมึกโกรธแค้น มันไม่อาจตามจับหนิงฝานในยามนั้นได้ทัน และยามนี้ยังโดนอีกฝ่ายโต้กลับด้วย

มันนำเหรียญตราสีม่วงที่เป็นตราสัญลักษณ์ของเทพกษัตริย์พิษออกมา มุมปากยิ้มยกด้วยความชั่วร้าย

“ผู้ใดนำศีรษะลู่เป่ยมาให้ข้าได้ ข้าจะช่วยให้พิษหนอนม่วงยกระดับสัมผัสเทพของคนผู้นั้น แต่ไม่ว่าผู้ใด ขุมกำลังใดจะสังหารได้ ข้าก็จะช่วยยกระดับสัมผัสเทพให้เช่นกัน”

คำประกาศของราชาหมึกคือการตั้งค่าหัว เหล่าอสูรที่ได้ฟังไชโยโห่ร้อง หลายขุมกำลังที่ยังซ่อนตัวอยู่พร้อมจะเคลื่อนไหว

แม้พิษหนอนม่วงจะเป็นพิษที่ทรงพลัง แต่มันก็ช่วยให้ยกระดับสัมผัสเทพได้ เดิมทีพิษชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นเป็นโอสถรักษา แต่เมื่อทดลองผสานพิษเข้าไปภายใน จึงกลายเป็นพิษที่ทรงพลัง

แม้จะกล่าวว่ามีประโยชน์ แต่คนทั่วไปไม่สามารถดูดซับพิษชนิดนี้ได้ ราชาหมึกเองก็เช่นกัน หากไม่เพราะมันมีเหรียญตราของเทพกษัตริย์พิษ มันก็ไม่สามารถดูดซับได้เช่นกัน

เดิมทีเหรียญตราของเทพกษัตริย์พิษไม่ได้ยกให้ราชาหมึก เพียงแต่ราชาหมึกแอบขโมยมันมาได้จากวังดารา

“ถ้าเจอลู่เป่ยให้สังหารซะ!”

เหล่าอสูรฮึกเหิม ทั่วทั้งดาราสมุทรปั่นป่วนจากการเคลื่อนไหวของเหล่าอสูรจำนวนมาก ที่หวังจะมอบความตายให้หนิงฝาน

เหล่าอสูรดาราไม่ได้ใช้หยกสวรรค์ในการแลกเปลี่ยน ดังนั้นการทำลายเขากุ่ยซ่งจึงทำให้เขาได้สมุนไพรมามากมาย ที่สำคัญ เขายังได้ผลไม้แห่งเต๋าในระดับแก่นทองคำและดวงจิตแรกเริ่มมาด้วย

ตอนนี้หนิงฝานมีผลไม้แห่งเต๋าอยู่หลายพัน และเขาจะเดินหน้าล้างแค้นต่อไป

รถเพลิงทองคำมุ่งหน้าออกจากภูเขากุ่ยซ่ง ทุกที่ที่ผ่าน หากพบเมืองอสูร หนิงฝานจะทำลายทันที

ตอนแรกหนิงฝานเห็นเหล่าอสูรรวมกลุ่มอยู่ไม่มาก แต่หลังจากสังหารมัน กลุ่มอสูรเป็นจำนวนมากก็มาสมทบ เมื่อหนิงฝานสังหารพวกมันจนหมดและอ่านความทรงจำของพวกมัน เขาขมวดคิ้ว แววตาแปรเปลี่ยนเย็นชา

“เหรียญเทพกษัตริย์พิษ… น่าเสียดายที่เหรียญนั่นอยู่ในมือเจ้า” หนิงฝานแผ่สัมผัสเทพไปรอบข้าง สำรวจรอบข้างในระยะ 3 หมื่นลี้

หนิงฝานสังเกตุเห็นกลุ่มอสูรขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่ง ในกลุ่มพวกมันมีอสูรตัดวิญญทณอยู่หลายตน

หนิงฝานยังสังเกตุเห็นว่า ในหมู่พวกมันมีผู้ที่แต่งชุดในแบบเดียวกกัน อสูรกลุ่มนั้นสมควรเป็นผู้รับใช้ของราชาหมึก ส่วนอสูรตนอื่นๆได้เข้าร่วมกลุ่มด้วยตนเอง

พวกมันทั้งหมดผสานพลัง สร้างม่านพลังที่แข็งแกร่ง

สิ่งที่ทำให้หนิงฝานสนใจ คือขุมกำลังอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

หลังจากสังหารพวกมันไปและอ่านความทรงจำ ถึงได้ทราบว่าพวกมันยังมีขุมพล้งอื่นๆแอบแฝง

ดาราสมุทรแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาล การจะให้ไปบุกอสูรกึ่งไร้ดัดแปลงย่อมเป็นไปไม่ได ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะทำลายขุมกำลังของมันแทน

แม้ว่าหนิงฝานจะไม่ได้กลัวขุมกำลังอื่นๆ แต่หากเป็นไปได้เขาก็ไม่อาจก่อปัญหา

แต่หากพวกมันยังเลือกที่จะตามล่าเขา เขาย่อมโต้ตอบพวกมัน

ผ่านไป 10 ลมหายใจ รถเพลิงทองคำที่เคลื่อนไหวก็ถูกห้อมล้อม

7 ผู้เชี่ยวชาญจาก 7 ขุมกำลังหลัก ได้เข้าล้อม ในกลุ่มพวกมันมีอสูรตัดวิญญาณขั้นต้นและกลาง มีชายชราในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง สวมอาภรณ์คราม ดูราวกับเป็นผู้นำและเก็บซ่อนพลังที่ยิ่งใหญ่เอาไว้

“ได้รับบาดเจ็บจากผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูง ภายในร่างมีพิษหนอนม่วง อยู่เพียงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง”

ชายชราหันมองหนิงฝานและซีหลาน หากมันรู้ว่านอกจากหนิงฝานแล้ว ยังมีทางที่ทรงพลังของเขาอยู่ มันคงหนีไปเล้ว

“คารวะผู้อาวุโส ข้ามีความแค้นกับราชาหมึกเพียงผู้เดียว ไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับขุมกำลังอื่นๆ… ข้าให้เวลาพวกท่าน 3 ลมหายใจแล้วกลับไปซะ ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่สุภาพ”

พวกมันรู้สึกขบขัน ราวกับสิ่งที่หนิงฝานกล่าวคือเรื่องที่ขบขันที่สุดในชีวิต “มดปลวกในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้นกลับริอาจมาข่มขู่”

“ตอนนี้พิษยังคงอยู่ในร่างของมัน มันน่าจะบาดเจ็บสาหัส แต่ถึงแม้มันไม่ต้องพิษ ข้าย่อมโค่นมันได้”

“แต่จะว่าไป หน้ามันดูคุ้นๆบอกไม่ถูก… เจ้าคิดว่าไง”

“ฮ่าฮ่า ล้อมมันไว้ขนาดนี้แล้วจะไปสนใจทำไม? ข้าแ]ะเหล่าสหายมาที่นี่ก็เพราะต้องการศีรษะของมันไปยกระดับสัมผัสเทพเท่านั้น”

“ข้า...เจ้าเมืองมังกรสมุทร… ฉิงซวน ขอปฏิเสธไม่ถอย!”

คำกล่าวขิงคนผู้หนึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญมากมายที่อยู่ที่นี่แตกตื่น

“เมืองมังกรสมุทร! นี่ท่านเป็นคนของเมืองสมุทร!”

ผู้เขี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นหลายคนที่ได้ยิน สีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง พวกมันต่างหวาดกลัวผู้ที่กล่าว

เหตุที่หวาดกลัวไม่ใช่ผู้ที่กล่าวบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง แต่เป็นเพราะชื่อเสียงของเมืองมังกรสมุทร

“ท่านมังกรสมุทรเป็นยังไงบ้าง สบายหรือเปล่า...” ผู้นำเผ่าหมาป่าดาราดล่าวถาม

“ท่านสบายดี ตอนนี้กำลังเก็บตัวเพื่อทะลวงขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง” ฉิงซวนกล่าว

“อะไรนะ!”

ผู้เชี่ยวชาญอีก 6 คนที่เหลือตกตะลึง เมื่อครั้งที่มังกรสมุทรบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด มันเคยรับมือม่านฉานได้ 10 กระบวนท่า หากมันทะลวงขอบเขตกึ่งไร้แบ่งแยกได้สำเร็จ อาจแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าราชาหมึก

“พิษหนอนม่วงและศีรษะของลู่เป่ย สมควรตกเป็นของเมืองมังกรสมุทร ‘พวกเจ้าคิดว่ายังไง?’” ฉิงซวนกล่าวด้วยแววตาจริงจัง

“ย่อมได้!” ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ 6 คนที่เหลือป้องมือคารวะ เหงื่อกายไหลอาบด้วยความกังวล

“ดี...” ฉิงซวนพยักหน้า หากตัวแทนของทั้ง 6 ขุมกำลังไม่เห็นด้วย มันจะกลับไปยังเมืองมังกรสมุทรแล้วยกทัพไปถล่มขุมกำลังเหล่านั้น

พวกมันคิดว่าจะสังหารหนิงฝานได้ง่ายๆ และไม่เห็นหนิงฝานอยู่ในสายตา

ซีหลานบาดเจ็บ หนิงฝานต้องพิษ หากคิดตามตรรกะทั่วไป การจะสังหารทั้งสองนับเป็นเรื่องง่าย

ฉิงซวนจ้องมองซีหลานด้วยความชั่วร้าย ระดับพลังของนางสูงส่ง เหมาะที่จะเป็นกระถางขัดเกลาชั้นยอด

มันหันกลับมามองหนิงฝาน สองเท้าก้าวเข้าหา แรงกดดันที่รุนแรงปะทุพลางกล่าว

“เด็กเอ๋ย… ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ยกนางให้ข้าแล้วฆ่าตัวตายซะ แล้วข้าจะปล่อยดวงจิตเจ้าไปเกิดใหม่… ฮ่าฮ่า เจ้ายั่วยุผิดคนแล้ว หวังว่าเจ้าจะคิดทบทวนให้ดี”

ผู้เชี่ยวชาญอีก 6 คนขมวดคิ้ว ฉิงซวนเป็นคนเจ้าเล่ห์ แม้มันจะหยิบยื่นโอกาสให้ฆ่าตัวตายแล้วจะปล่อยดวงจิตไป แต่มันไม่สมควรใจดีขนาดนั้น แต่หากมันทำแบบนั้นจริง ข้อเสนอของมันก็น่าสนใจมาก

กลับกัน เมื่อซีหลานได้ยิน นางกลับหัวเราะขบขัน

ฉิงซวนอยู่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง กลิ่นอายพลังของมันไม่ด้อยไปกว่าองครักษ์อสูรที่เพิ่งถูกหนิงฝานสังหาร แต่มันยังกล้ากล่าวว่าให้เขาฆ่าตัวตาย เรื่องนี้ทำให้นางหยุดขำไม่ได้

“ข้าจะหลับตา...” ซีหลานกล่าวเบาๆ

“หลับตาเถอะ… ข้าจะจัดการพวกน่ารำคาญใน 3 ลมหายใจ”

ในเมื่อหนิงฝานให้โอกาสพวกมันแล้ว 3 ลมหายใจ แต่ในเมื่อพวกมันปฏิเสธ เขาก็จะไม่ปล่อยพวกมันไป

หนิงฝานก้าวเท้าไปเบื้องหน้า ผิวทะเลด้านล่างสั่นกระเพื่อมราวกับปั่นป่วน รอยแยกมิติปรากฏใต้ฝ่าเท้าหนิงฝาน ฉิงซวนกระอักโลหิตพลางถอยไปหลายก้าวจนเกือบจะร่วงหล่นจากนภา สีหน้าแตกตื่นเป็นอย่างมาก

แรงกดดันของมันถูกบดขยี้ในพริบตาด้วยก้าวเท้าเพียงก้าวเดียว

มันเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลาง แต่กลับบาดเจ็บอย่างง่ายดาย!

“ข้านึกออกแล้วว่าเคยเห็นมันที่ไหน! เจ้าเป็นคนเดียวกับที่หนีจากการตามล่าของราชาหมึก! เป็นไปไม่ได้…”

หนิงฝานก้าวเดินจนครบ 9 ก้าว แต่ละก้าวเปล่งแรงกดดันที่ทรงพลัง รอยแยกมิติจำนวนมากปรากฏ จนทำให้ทะเลสติของเหล่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ 6 คนที่เหลือเสียหาย

ปราณกระบี่ที่ทรงพลังปรากฏ เปล่งแสงเจิดจ้ารอบทิศ พวกมันรู้ดีว่าตนไม่อาจป้องกันปราณกระบี่ได้ ทางเลือกเดียวจึงเหลือเพียงหลบหนี

ถึงแม้พวกมันจะหลบหนีสุดชีวิต แต่ปราณกระบี่ที่รวดเร็วยิ่งกว่ากลับแหวกนภาเข้าฟาดฟันมันจนตาย

ฉิงซวนหวาดกลัวลนลาน มันขบฟันนำกระบี่ออกมาบั่นศีรษะตน ก่อนจะควบคุมให้ศีรษะหลบหนีออกไปสุดชีวิต

แม้มันจะหลบหนีออกมาได้ แต่มันยังไม่อาจวางใจ

คนผู้นี้คือลู่เป่ยที่ร่ำลือ ผู้ที่ต้องพิษแต่ยังไม่ตาย

ช่างน่าขัน เพียงก้าวเท้า 9 ครั้ง ก็สามารถสยบพวกมันได้ในพริบตา ความแข็งแกร่งของลู่เป่ยลึกล้ำ และแข็งแกร่งไม่ต่างไปจากขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูง หรืออาจจะสูงสุด

“ตัดศีรษะเพื่อเอาชีวิตรอด… วิชาอสูรช่างหลากหลายและไม่ธรรมดา… แต่เจ้าไม่รอดหรอก!”

เส้นแสงสีแดงจางเข้าพันธะนาการศรีษะของฉิงซวนเอาไว้จนมันไม่อาจขยับได้อีก

หนิงฝานนำรถเพลิงทองคำออกมา มุ่งหน้าไปหาฉิงซวนและจับศีรษะของมันไว้

ฉิงซวนหวาดกลัวและเสียใจกับการตัดสินใจของมัน ยามนี้ มันตกอยู่ในกำมือหนิงฝานอย่างสมบูรณ์ วิชาที่ทรงพลังเช่นนี้ มันไม่เคยเห็นมาก่อน

หนิงฝานใช้วิชาอ่านความทรงจำกับมัน แต่ก่อนที่มันจะตาย มันดิ้นรน อ้อนวอน ทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอด

“นายท่านอภัยให้ข้าด้วย! ข้ารู้ความลับสำคัญของเมืองมังกรสมุทร ข้ารู้ว่า ‘โลหิตบรรพบุรุษ’ ซ่อนอยู่ที่ไหน! ความลับนี้ต่อให้ใช้วิชาอ่านความทรงจำก็ไม่พบ หากท่านไว้ชีวิตข้า ข้าจะพาท่านไปหาโลหิตบรรพบุรุษ และช่วยท่านสังหารมังกรสมุทรด้วย!”

“โลหิตบรรพบุรุษ?”

หนิงฝานหยุดอ่านความทรงจำและสลักบางอย่างลงไปในดวงจิตของมัน จนทำให้มันไม่กล้าคิดหลบหนี

“นำทางข้าไปเมืองมังกรสมุทร!”...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด