ตอนที่แล้วAGKMW บทที่ 13: สเมิร์ฟิงคืออะไร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAGKMW บทที่ 15: เครื่องคำนวณทางวิทยาศาสตร์

AGKMW บทที่ 14: มัสแตงสีดำ


AGKMW บทที่ 14: มัสแตงสีดำ

[แพนดาโมเนียม คุณล้อเล่นใช่ไหม]

“ด้วยฝีมือการเล่นเกมของเขา เขาต้องเป็นสเมิร์ฟิงหรือไม่ก็เล่นMOBAอื่นมาก่อน” แพนดาโมเนียมคิด

หลังจากนั้นชั่วขณะ อาทรอกซ์ก็เห็นข้อความอื่นส่งมาจึงตอบกลับไปว่า “ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไรจริงๆ”

จนจบเกม อาทรอกซ์ก็พูดกับคนลึกลับในแชทของ Twitch เห็นชัดว่าตลอดทั้งเกม มีเพียงคนนี้คนเดียวที่พูดคุยกับอาทรอกซ์ผ่านแชท

ในการต่อสู้ครั้งต่อไป อาทรอกซ์ก็พูดคุยกับแพนดาโมเนียม และเมื่อฝ่ายตรงข้ามของเขากล่าวว่าเขาเป็นคนเพิ่มแต้ม ELO เขาก็เพียงส่งไลฟ์สตรีมไปให้อีกฝ่ายดู

คนที่ประหลาดใจอย่างแท้จริงในตอนนั้นก็คือ แพนดาโมเนียม ตลอดการสนทนา พวกเขาพบว่าอาทรอกซ์เป็นเพียงแค่เด็กใหม่ ความสามารถเดียวที่เขามีก็คือฝีมือเล่นเกมที่บ้าระห่ำ เขาไม่รู้แม้กระทั่งว่าสกิลของแชมเปี้ยนอีกฝ่ายมีอะไร “นี่เป็นเพชรที่ยังไม่ได้เจียรนัย ผมสงสัยว่าเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน …” พวกเขาคิด

...

หลังจากเล่นไปอีกสองสามเกม อาทรอกซ์ก็ปิดไลฟ์สตรีม เขาคิดว่าการเล่นสังเวียนเทพนี้สนุกจริงๆ แต่การเล่นไปพร้อมกับพูดกับใครบางคนไปด้วยนี่สนุกยิ่งกว่า

เขาไม่รู้ว่าทำไมจึงมีคนต้องการดูเขา แต่เขาก็พบว่าความรู้สึกตอนที่มีใครสักคนดูเขาเล่นอยู่นั้นน่าตื่นเต้น

หลังจากที่อาทรอกซ์จบสตรีม ประตูห้องก็เปิดออกและพ่อของเขาก็เข้ามา

“เป็นอย่างไรบ้าง ลูกชาย”

“สบายดีครับ มีอะไรหรือเปล่า” เขาถามด้วยความสับสน

“เราจะไปโรงเรียนพรุ่งนี้เพื่อพบกับผู้อำนวยการ ถ้าทุกอย่างไปได้ด้วยดี ลูกจะได้ทำการทดสอบประเมินในวันพรุ่งนี้ดูว่าลูกจะสามารถเลื่อนไปอยู่เกรด 12 หรือว่ากลับไปยังเกรด 9” อเล็กซ์พูดอย่างเป็นกังวล

“อาา ใช่แล้ว ผมอ่านตำราและค่อนข้างมั่นใจว่าจะผ่านการทดสอบนี้” อาทรอกซ์พูด

“ลูกชาย เรียนเนื้อหาของหนึ่งปีนี่ก็ถือว่าเป็นความท้าทายแล้ว เรียนเนื้อหาของสามปีในเวลาสองวันนี่เกือบเป็นไปไม่ได้ แต่อย่ากังวล ถึงแม้ว่าลูกจะไม่ผ่านการทดสอบ เราก็จะจ้างติวเตอร์ส่วนตัวมาสอนลูกที่บ้าน” อาทรอกซ์สามารถเห็นความกังวลในสายตาของอเล็กซ์

เมื่อเห็นว่าสิ่งเดียวที่อยู่ในใจของพ่อของเขาก็คือเขาไม่เสียใจ อาทรอกซ์ก็คิดว่าจะดีกว่าถ้าไม่โต้แย้งและปล่อยให้เขาประหลาดใจในวันพรุ่งนี้แทน “อย่างนั้นก็ได้แด๊ด แต่เรามาคุยเรื่องนี้กันหลังจากการทดสอบ โอเคไหม”

เมื่ออเล็กซ์เห็นใบหน้าที่ไม่สะทกสะท้านของลูกชาย เขาก็คิดว่าอาจจะมีโอกาสที่ลูกจะผ่าน “ไม่ นั่นเป็นไปไม่ได้ เขาได้ศึกษาเพียงแค่สองวัน นอกจากว่า…” เขามองดูอาทรอกซ์ด้วยใบหน้าประหลาดใจ “ได้เลยลูกชาย หลังจากการทดสอบเราค่อยมาดูว่ามีความจำเป็นที่จะต้องจ้างติวเตอร์ไหม มอมรออยู่ชั้นล่างพร้อมกับพวกเด็กๆ พวกเขากำลังแย่งชิงกันว่าใครจะเป็นคนที่นั่งติดกับลูก พวกเขาไม่เคยทำเช่นนั้นกับพ่อมาก่อน” เขากล่าวด้วยใบหน้าเหมือนจะร้องไห้

“ฮ่าฮ่าฮ่า โอเคแด๊ด มาเลย” อาทรอกซ์พูดพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า

ลงไปชั้นล่าง อาทรอกซ์ก็เห็นว่ามีที่นั่งว่างระหว่างที่นั่งเสริมสองที่ แต่อาทรอกซ์นั่งลงเงียบๆบนที่นั่งผู้มาเยี่ยมที่ว่างอยู่

เด็กน้อยที่กำลังเล่นอยู่บนเก้าอี้ของตนเองเห็นว่าพี่ชายนั่งห่างออกไปจากพวกเขา ตอนแรกพวกเขาต่างรู้สึกประหลาดใจและมองดูอีกฝ่ายกระทั่งดวงตาเริ่มมีน้ำตาไหลและเริ่มอ้าปากร้องไห้

เมื่อเห็นพวกเขาเริ่มร้องไห้ อาทรอกซ์ก็ยืนขึ้นอย่างรวดเร็วและนั่งลงระหว่างพวกเขา กอดทั้งคู่ จูบลงไปบนแก้มของแต่ละคน

รู้สึกถึงจูบบนแก้ม บรูน่าและไบรอันพากันมองดูอาทรอกซ์และหยุดร้อง พร้อมมีรอยยิ้มไร้เดียงสาบนริมฝีปากของพวกเขา

“พวกเราคิดว่าพี่เบื่อพวกเราแล้ว พี่ชาย…” บรูน่ากล่าวด้วยเสียงเศร้าขณะไบรอันพยักหน้าเห็นด้วย

“พี่แค่ล้อพวกเธอเล่น แด๊ดได้บอกพี่แล้วว่าพวกเธอต้องการนั่งติดกับพี่ ไม่มีทางที่พี่จะเบื่อน้องที่น่ารักเช่นนี้ได้” อาทรอกซ์พูดพร้อมกับหัวเราะที่เห็นทั้งสองคนทำหน้ามุ่ย

หลังจากมื้อเย็นแสนอร่อย สามพี่น้องก็เล่นด้วยกันตลอดบ่ายและยิ่งสนิทสนมกันยิ่งขึ้น อาทรอกซ์ยังคิดจะสอนพวกเขาให้ฝึกวิชายุทธ ซึ่งนั่นย่อมไม่มีอะไรเสียหายเกิดขึ้นกับพวกเขา แต่ความคิดที่สองก็คือพวกเขายังเด็กเกินไป

คืนนี้ อาทรอกซ์ไม่ได้ฝึกวิชายุทธเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง แต่สร้างความมั่นคงแทน ในช่วงกลางวันที่ไปซื้อของและเล่นสนุก อาทรอกซ์ได้เห็นความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัดในเรื่องประสาทสัมผัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะเล่น GoA ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาซึ่งแต่เดิมเห็นตัวละครเคลื่อนที่ช้าลงเล็กน้อยตอนนี้กลับเห็นพวกมันเคลื่อนที่ช้าลงไปยิ่งกว่าเดิม ทำให้เขามีเวลามากกว่าเดิมในการตอบโต้ สำหรับคนอื่นจะเหมือนกับว่าขณะที่มีคนใช้สกิลใส่อาทรอกซ์แล้วเขาก็เคลื่อนที่ไปแบบสุ่ม แต่ตามความเป็นจริงเมื่อท่าทางความสามารถของตัวละครปรากฏขึ้น อาทรอกซ์ก็จะเห็นมันได้อย่างง่ายดายและหลบออกไปอย่างดีที่สุดที่จะทำได้ ปัญหาก็คืออาทรอกซ์ไม่รู้ความสามารถของตัวละครแต่ละตัว ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะมีเวลาตอบสนองบางครั้งมันก็ใช้ไม่ได้ถ้าเขาไม่รู้ว่าสกิลนั้นคืออะไร

ใช้เวลเกือบทั้งคืนในการฝึกสมาธิเพื่อวางรากฐานความแข็งแกร่งที่เพิ่งได้มา อาทรอกซ์จึงได้นอนหลับไปเพียงสองชั่วโมงก่อนที่เขาจะต้องไปตามนัดหมายที่โรงเรียน

แม่ของเขาได้ออกไปยังบ้านยายแล้วพร้อมกับพี่น้องของเขา พวกเขาจะยังไม่เริ่มเรียนจนกว่าจะถึงอาทิตย์หน้า

ภายในรถของพ่อของเขา อาทรอกซ์ค่อนข้างอยากรู้ว่าสิ่งที่เรียกว่ารถยนต์นี้ทำงานอย่างไร เมื่อเห็นว่าลูกชายสนใจ อเล็กซ์ก็นึกขึ้นได้ว่า เขาอายุมากพอที่จะขับรถแล้ว “อยากลองขับไปโรงเรียนไหม ลูกชาย พ่อจะสอนลูกบนเส้นทางให้”

ได้ยินเช่นนั้น อาทรอกซ์ดวงตาเป็นประกาย “ผมอยากลอง”

ก่อนที่เบนจามินจะโคม่า ครอบครัวของเขาก็มีฐานะดีแต่ไม่ถึงขั้นหรูหรา ในช่วงปีที่เขาตกอยู่ในสภาพโคม่า ครอบครัวของเขาได้ได้รับแรงบันดาลใจให้ทำงานเพื่อที่จะสามารถจ่ายค่ายาและสนับสนุนลูกชายเมื่อเขาฟื้นขึ้นจากอาการโคม่า ในเมื่อตอนนี้เขากลับมาแล้ว ธุรกิจซึ่งเคยเล็กของอเล็กซ์ก็ได้กำไรมากกว่าเดิม เขาซึ่งเคยใช้ SUV ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น ฟอร์ดมัสแตงสีดำวาวปี 2012 ซึ่งมีระยะทางขับขี่ไม่ถึง 5,000 กิโลเมตร รถย่อมยังถือว่าใหม่

นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ อาทรอกซ์ทำตามที่พ่อของเขาแนะนำ “ถอนเท้าออกจากคลัชช้าๆ จนกระทั่งรถเริ่มสั่น ตอนนั้นลูกค่อยเริ่มเร่งคันเร่ง แต่ในเมื่อรถคันนี้มีแรงถึง 300 แรงม้า ลูกต้องเร่งเครื่องอย่างระมัดระวัง เพียงแค่แตะก็จะทำให้มันเคลื่อนไปข้างหน้า”

อาทรอกซ์รู้สึกตื่นเต้น รถเร่งขึ้นอย่างรวดเร็วแต่ด้วยความคล่องแคล่วและปฏิกิริยาตอนสนองของเขา ทำให้เขาสามารถควบคุมความเร่งได้รวดเร็วกว่าคนปกติสองสามเท่าอย่างง่ายดาย หลังจากขับรถเพียงสองสามนาที เขาก็เข้าใจการใช้อย่างรวดเร็ว

ภายนอกโรงเรียน นักเรียนบางคนเห็นเด็กชายในเสื้อเชิร์ตแดงผมดำยาวหน้าตาหล่อเหลาขับมัสแตงสีดำด้วยใบหน้าเฉยชา หญิงสาวบางคนมองดูเขาด้วยความสนใจในขณะที่ชายบางคนมองเขาด้วยความอิจฉา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด