ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0333 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0335 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0334 [อ่านฟรี]


ตอนที่ 334 : เส้นทางทดสอบ

นอกจากเซี่ยอู๋เฟิง บรรดาผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าที่เหลือซึ่งอยู่ที่นี่ ล้วนเป็นผู้อาวุโสชราภาพ กระนั้นพวกเขากลับไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อน

ฉ่วยอี้ฮวยขมวดคิ้วกล่าว “จ้าวตำหนักใหญ่ เช่นนั้น... เรื่องนี้หมายความว่าอย่างไร? เหตุใดพวกเราจึงไม่เคยได้ยิน?”

หลันเฉินถอนหายใจ “ผู้ขัดเกลาวิญญาณมีน้อยนัก กระทั่งใช้เวลานับหลายสิบปียังหาผู้หนึ่งได้ยากยิ่ง ดังนั้นแล้ว เป็นปกติที่ข้าจะไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้”

“ฉินหยุนเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาขัดเกลาวิญญาณ และยังเป็นอาจารย์จารึก หากเขาแกะสลักผังจารึกที่วิญญาณยุทธ์ของตนเอง เขาจะขัดเกลามัน และวิวัฒนาการวิญญาณยุทธ์ มันจะยิ่งทำให้วิญญาณยุทธ์แข็งแกร่งมากขึ้น!”

“น่าเสียดายนัก เขากลับเข้าไปยังสถานที่บัดซบนี่!”

ผู้คนล้วนมองปากทางเข้าถ้ำสีดำมืด ความรู้สึกแตกตื่นปรากฏในใจพวกเขา

ตอนนี้พวกเขาเพิ่งได้ทราบ ว่าเคล็ดวิชาขัดเกลาวิญญาณ เป็นเคล็ดวิชาที่สูญหาย และยังเป็นวิชาที่ทำให้คนผู้หนึ่งแข็งแกร่งขึ้นได้!

“แต่ว่า... ฉินหยุนสังหารจ้าวตำหนักหยาง!” จ้าวตำหนักทิศใต้กล่าว “เรื่องนี้ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง!”

“ข้าจะสืบสวนเรื่องนี้เอง! ในตำหนักตะวันตก ยังมีผู้อาวุโสอยู่อีกหลายคน! ข้าจะเรียกพวกมันมา ให้พวกมันคายอาชญากรรมที่จ้าวตำหนักหยางก่อตลอดช่วงหลายปีมานี้!” หลันเฉินแค่นเสียง บินมุ่งหน้าไปยังตำหนักตะวันตก

เซี่ยอู๋เฟิงมองที่ถ้ำและกล่าว “ใครจะรู้ บางทีน้องหยุนอาจออกมาได้!”

“ฝันไปเถอะ! พวกเราตอนนี้เป็นแค่กองกำลังยุทธ์ระดับวิญญาณ รู้ไหมเพราะอะไร? เพราะผู้อาวุโสขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณทั้งสองคนเข้าไป และไม่อาจออกมาได้!”

จ้าวตำหนักทิศเหนือแค่นเสียงเย็น “ไม่ว่าฉินหยุนจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาจะแข็งแกร่งไปกว่าขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณหรือ?”

สีหน้าของเซี่ยอู๋เฟิงแปรเปลี่ยน เขาเพิ่งทราบตอนนี้เอง ว่าผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณสิ้นชีพที่ภายในนั้น!

ตอนนี้เขาจึงได้เข้าใจ ว่าเหตุใดหลันเฉินมั่นใจว่าฉินหยุนไม่อาจออกมา

“กลับกันก่อน ไปดูอาการของแม่นางหยาง!” หลันฮัวอวี้ถอนหายใจ ตบบ่าเซี่ยอู๋เฟิงก่อนจากไป

จ้าวฉวนเองก็เสียดายรุนแรง ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและฉินหยุนถือว่าไม่แย่

สำหรับฉินหยุน เขาเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าแล้ว ทั้งยังมีพรสวรรค์ทางวิถีจารึกสูงล้ำ ในภายหน้า เขาย่อมต้องมุ่งหน้าสู่แดนยุทธ์อ้างว้าง สร้างชื่อเสียงลือไกลที่นั่น

แต่ตอนนี้ ฉินหยุนกลับเข้าไปในถ้ำตรงหน้า...

เมื่อเข้าไปแล้ว หมายความถึงเขาต้องผ่านบททดสอบอันลึกล้ำและน่าสะพรึงของประตูจารึก

ที่ลานกว้างตำหนักตะวันตก หลันเฉินเข้าตรวจสอบอาการบาดเจ็บของหยางฉีเย่ว์ เขาถอนหายใจ “แก่นเต๋าเสียหายหนัก คงยากที่จะฟื้นคืน”

ที่ยากยิ่งกว่าคือการฟื้นฟูวิญญาณยุทธ์ เพราะวิญญาณยุทธ์จันทราทองม่วงบาดเจ็บร้ายแรง มันฉีกขาดออกเป็นชิ้น เศษเสี้ยววิญญาณยุทธ์ส่วนใหญ่หลุดพ้นจากร่าง การจะฟื้นคืนให้กลับสู่สภาพเดิมเป็นเรื่องยาก

“จ้าวตำหนักใหญ่ ฉินหยุนอยู่ที่ใดกันขอรับ?” มู่หรงต้าเหรินเอ่ยถาม

“เข้าประตูจารึกไปแล้ว!” หลันเฉินถอนหายใจ “เฟิงจิน พานางกลับไปพักก่อน! ข้าช่วยคงสภาพวิญญาณยุทธ์จันทราของนางเอาไว้แล้ว ที่เหลือคือให้ตัวนางค่อย ๆ ฟื้นฟูเรี่ยวแรงกลับมา!”

พอหยางฉีเย่ว์ได้ทราบ ว่าฉินหยุนเข้าสู่ประตูจารึก นางอึ้งไปวูบก่อนความเจ็บปวดในหัวใจเข้าแทรกแซง นางอยู่ที่ตำหนักตะวันออกมาก่อน ดังนั้นจึงทราบดี ว่าประตูจารึกมีความน่าสะพรึงเพียงใด!

มู่หรงต้าเหริน ฮั่วจง หลันเฟิงจิน และเสวี้ยซือเยี่ย พวกเขาต่างก็ทราบถึงความน่ากลัวของประตูจารึก เมื่อพวกเขาได้รู้ว่าฉินหยุนเข้าไป ความรู้สึกของพวกเขา มันคล้ายกับต้องแยกจากฉินหยุนไปตลอดกาล!

มิตรสหายของฉินหยุน พลันเกิดความโศกขึ้นอย่างไม่อาจถ่วงรั้ง!

หลันเฉินมองกลุ่มผู้อาวุโสตำหนักตะวันตก กล่าวเสียงเย็นเยือก “มากับข้า ไปที่หอคอยทัณฑ์สวรรค์!”

เมื่อบรรดาผู้อาวุโสได้ยินเช่นนี้ ร่างพวกเขาคล้ายไร้สิ้นเรี่ยวแรง พวกเขาหวาดกลัวยิ่ง กระนั้นก็ไร้ทางเลือก มีแต่ต้องตามไป

ผู้คนที่รวมตัวในงานเลี้ยงเริ่มกระจายตัวกันออกไป ระหว่างทางกลับ ล้วนแต่สนทนาถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ขาดปาก

ที่หน้าทางเข้าถ้ำประตูจารึก สามพี่น้องจรัสแสงล้วนยืนอยู่

พวกเขาขอติดตามฉินหยุน มักคาดหวังอยู่เสมอว่าฉินหยุนจะเข้าร่วมตำหนักตะวันออก กระนั้น พวกเขาไม่เคยคาดคิด ว่าการมาถึงตำหนักตะวันออกของเขาจะเป็นในรูปแบบนี้!

เสวี้ยซือเยี่ย มู่หรงต้าเหริน และฮั่วจงต่างก็อยู่ที่นี่ สายตาพวกเขาจับจ้องไปยังถ้ำสีดำสนิท

“น้องหยุนแตกต่างจากผู้อื่น บางทีอาจออกมาได้?” ฮั่วจงกล่าว

“บางที!” มู่หรงต้าเหรินตอบ “สถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่เลว ดีกว่าให้พวกเราทราบว่าเขาตาย อย่างน้อยพวกเราก็ยังมีความหวังอยู่บ้าง”

“ผู้อาวุโสหลายคนเคยเข้าไปยังประตูจารีก พวกเขาล้วนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า ผ่านไปหลายสิบปี ไม่มีผู้ใดได้ออกมา!” พี่ใหญ่ของสามพี่น้องกล่าวขึ้น

“ประตูจารึกของตำหนักตะวันออก... เหตุใดจึงสร้างสถานที่ทดสอบเช่นนี้ขึ้นมา? ความตายของศิษย์จำนวนมากจากตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ก็หมายถึงความเสื่อมถอยของตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามด้วยนี่!” มู่หรงต้าเหรินอดไม่ได้ที่จะสบถออก

ฮั่วจงกล่าว “พี่รอง กลับกันก่อน! น้องหยุนได้ก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าแล้ว พวกเราเองก็ต้องแข็งแกร่งให้มากขึ้นกว่านี้!”

* * *

ฉินหยุนที่เพิ่งเข้าไปในถ้ำของประตูจารึก เขาร่วงหล่นสู่อาคมสังหาร!

และอาคมสังหารนี้ เป็นสิ่งที่ทับซ้อนกันระหว่างอาคมนรกน้ำแข็งเสียดแทงกระดูก กับอาคมอัคคีแยกวิญญาณ มันคืออาคมสังหารน้ำแข็งอัคคี!

“อ๊าก!”

ฉินหยุนที่นอนในค่ายอาคม ส่งเสียงร้องออกเบา โชคดีที่เขาปลุกสายเลือดราชสีห์สวรรค์แล้ว จึงไม่หวั่นเกรงต่อพลังของน้ำแข็งหรืออัคคีเพลิง

แต่ที่ทำเขารู้สึกเจ็บปวด ก็เพราะมันมีพลังจิตพิเศษเข้าโจมตีวิญญาณของเขา

อาคมสังหารนี้ แตกต่างไปจากที่เคยเผชิญเมื่องานประลอง

อาคมสังหารที่ใช้ในการแข่งขัน สามารถออกมาได้ทุกเมื่อ

แต่ทางด้านอาคมสังหารในประตูจารึก ทันทีเมื่อมีคนเข้ามา คนผู้นั้นจะติดอยู่ภายใน ต้องหาทางบุกฝ่าออกไปด้วยตัวเอง!

“ไม่แปลกใจเลยที่หลายคนไม่อาจออกไปได้ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะตายตั้งแต่เข้ามา!” ฉินหยุนคิดกับตัวเองเช่นนี้ สภาพรอบด้านเป็นสีดำมืด เขาไม่อาจมองเห็นหรือสัมผัสถึงสิ่งอื่นใดได้เลย

ที่เขาต้องทำตอนนี้ คือทะลวงออกจากค่ายอาคม!

“โมโม รู้วิธีฝ่าค่ายอาคมนี้ออกไปไหม?” ฉินหยุนเร่งรีบเอ่ยถาม หากเขาต้องทำลายค่ายอาคมด้วยตัวเอง ย่อมต้องใช้เวลามาก

“ให้ข้าปลดปล่อยพลังจิตออกไปลองดู!” โมโมไม่อาจออกมา ไม่เช่นนั้นนางที่อ่อนแอ ยามโดนพลังของอาคมสังหารเข้า ชีวิตของนางจะตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง

พลังจิตของโมโมค่อนข้างพิเศษ มันคล้ายคลึงกับจิตวิญญาณต้นกำเนิด ขณะแปรเปลี่ยนเป็นเส้นสายสีขาว มันเริ่มยืดขยายออกจากไข่มุกเม็ดแรกของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน

ฉินหยุนมองที่กระแสพลังจิตของโมโม พร้อมกันนี้ก็นึกถึงไข่มุกเม็ดที่สองของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน

ก่อนหน้านี้ เขาไม่อาจเปิดใช้งานไข่มุกเม็ดที่สอง เพราะยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ

แต่ตอนนี้เขาก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าแล้ว เขาสมควรเปิดไข่มุกเม็ดที่สองได้!

“ไข่มุกเม็ดที่สองจะมีอะไรอยู่กันนะ?”

ตอนนี้วิญญาณของฉินหยุนตกอยู่ภายใต้การโจมตีของอาคมสังหาร พลังจิตของเขาได้รับผลกระทบรุนแรง เขาไม่อาจทดลองเปิดไข่มุกเม็ดที่สองตอนนี้ได้

โมโมใช้พลังจิตของนาง สำรวจตรวจสอบอาคมสังหารอยู่ครู่หนึ่ง กล่าวออกด้วยความเสียใจ “พี่หยุน ข้าไม่อาจหาพบ ถ้าข้าออกไปได้ ข้าจะทำการสำรวจมันได้ละเอียดกว่านี้! ท่านคิดให้ข้าออกไปทดลองดูหรือไม่?”

“ย่อมไม่ เจ้าออกมามีแต่จะเป็นอันตราย!” ฉินหยุนครอบครองสายเลือดราชสีห์สวรรค์ เขาไม่หวาดเกรงต่อพลังของน้ำแข็งและอัคคีเพลิงของค่ายอาคมสังหาร ทว่าวิญญาณของเขายังได้รับผลกระทบ

“ข้าสามารถทนได้!” แม้โมโมดูบอบบาง กระนั้นนางหาได้หวั่นเกรงไม่ นางพร้อมจะทำทุกหนทางเพื่อช่วยเหลือฉินหยุน

ตอนนี้เอง ฉินหยุนพลันนึกถึงเสื้อคลุมลึกล้ำวิญญาณสีคราม เขานำมันออกมา ทดลองสวมใส่เข้าที่กาย พบว่าสามารถต้านทานการโจมตีพลังจิตของค่ายอาคมสังหารไว้ได้

เขาเร่งร้อนหยดเลือด เป็นการทำให้เสื้อคลุมลึกล้ำวิญญาณสีครามยอมรับเขาเป็นเจ้านาย ด้วยวิธีการนี้ จะยิ่งทำให้มันสามารถปลดปล่อยพลังป้องกันอันแข็งแกร่งออกมาได้มากขึ้น

ไม่นานนัก ฉินหยุน ผู้สวมใส่เสื้อคลุมลึกล้ำวิญญาณสีคราม พลันเผยรอยยิ้มออก ความเจ็บปวดที่หัวของเขาเลือนหายหมดสิ้นแล้ว

เขาปล่อยให้โมโมออกมาโดยอยู่ในตัวเสื้อ ด้วยวิธีการนี้ นางจะสามารถตรวจสอบอาคมสังหารได้ง่ายดายขึ้น

สำหรับฉินหยุน เขารวบรวมพลังจิต คิดเปิดไข่มุกเม็ดที่สองของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน

ในอดีต พลังจิตของเขามักจะถูกไข่มุกเม็ดที่สองขัดขวางเอาไว้

ตอนนี้ ในที่สุดเขาค่อยมีโอกาสเหยียบย่างเข้าไป

ผ่านทางพลังจิต เขาจึงได้เห็นค่ายอาคมอยู่ภายในไข่มุกเม็ดที่สอง!

“สารเลวนัก มันถูกขัดขวางเอาไว้! เราต้องทำลายค่ายอาคมนี่ด้วย!”

เมื่อฉินหยุนพบว่าค่ายอาคมขัดขวางพลังจิตของเขาเอาไว้ เขาจึงสบถออกเสียงเบา

ตอนนี้เขาเริ่มพิจารณาสำรวจค่ายอาคม พบว่ามันไม่ใช่เรื่องยากทำลายลง แต่กระนั้นก็ต้องใช้เวลา

ตอนนี้เขาตกอยู่ภายใต้ค่ายอาคมสังหาร จึงไม่อาจสงสบใจทำลายค่ายอาคมภายในไข่มุก ดังนั้นต้องรอจนกว่าจะปลอดภัยเสียก่อน

พอฉินหยุนคิดว่าตนสามารถเปิดไข่มุกเม็ดที่สองได้แล้ว เขาลอบยินดีขึ้นมา เขากำลังคาดหวัง คิดอยากเปิดมันออกอย่างสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด

โมโมพลันกล่าวขึ้น “ได้แล้ว ข้าขัดขวางผังจารึกที่เป็นส่วนสำคัญของอาคมสังหารไว้ชั่วคราวแล้ว!”

ฉินหยุนสัมผัสได้ ว่าพลังที่ค่ายอาคมสังหารปลดปล่อยออกเริ่มอ่อนแรง เขาจึงเก็บโมโมเข้าไปในไข่มุกเม็ดแรก!

พร้อมกันนี้ เขานำเอาไข่มุกส่องสว่างออกมา สาดแสงทั่วบริเวณตรงหน้า ก้าวเดินออกจากค่ายอาคมสังหาร

ภายในถ้ำเป็นเส้นทางเดินสี่เหลี่ยม กว้างและสูงราวสี่ถึงห้าเมตร มีรอยแกะสลักบนผนังถ้ำจำนวนมาก

“สถานที่อะไรกันนี่!”

ฉินหยุนได้เห็นเส้นทางซึ่งแกะสลักผังจารึกแปลกประหลาดนานาชนิด เขาลอบตื่นตระหนก พวกมันเป็นค่ายอาคมที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง

ที่ทำเขาสงสัยที่สุด คือพื้นซึ่งสมควรมีซากศพจำนวนมาก กระนั้นกลับสะอาด ราวกับมีคนคอยทำความสะอาดมันอยู่เสมอ

พอคิดเช่นนี้ ฉินหยุนอดไม่ได้จนรู้สึกขนลุกขึ้นมา!

เขายิ่งมายิ่งระแวดระวัง สำรวจโดยรอบ ไม่ช้าจึงพบค่ายอาคมอยู่ตรงหน้า กระนั้นเขาไม่อาจนึกออกได้ว่านี่เป็นค่ายอาคมอันใด

เขาไม่คิดอยากทราบว่าอาคมนี้คืออะไร เพราะเมื่อปลดปล่อยโมโมออก นางทำการเข้าขัดขวางผังจารึกของค่ายอาคมโดยชั่วคราว ทำให้ค่ายอาคมสูญเสียความสามารถ

หลังจากผ่านถ้ำมาระยะหนึ่ง เส้นทางเดินจากสี่เหลี่ยมแปรเปลี่ยนเป็นทางโค้งชัน วนรอบทางเข้าขึ้นไป!

ระหว่างทาง มีอาคมหลายประเภท กระนั้นพวกมันก็ถูกโมโมทำลายไปทีละอาคม

ฉินหยุนยังคงมีไข่ผลึกแก้วมังกรอสูรอยู่จำนวนหนึ่ง เพียงฟองหนึ่งก็พอให้โมโมได้ฟื้นฟูกำลังแล้ว

เดินอยู่ครึ่งค่อนวัน ในที่สุดเขาก็มาถึงสถานที่ซึ่งปราศจากค่ายอาคม

“โมโม เจ้ากลับเข้าไปก่อน ข้ากังวลว่าด้านหน้าอาจมีกับดัก!” ฉินหยุนเก็บโมโมใส่มิติเก็บของ ก้าวเดินออกไปด้านหน้าด้วยความระแวดระวัง

ผนังของที่นี่สะอาดสะอ้าน ไม่มีผังจารึกใดแกะสลักเอาไว้ เพราะเหตุนี้ฉินหยุนจึงกังวลว่ามันอาจมีกับดักคงอยู่

ฉินหยุนปลดปล่อยราชันราชสีห์วิญญาณ ให้หุ่นเชิดราชสีห์นำทางไป หากมีกับดักจริง เช่นนั้นหุ่นเชิดต้องโดนก่อน

ตลอดเส้นทางยาว ตามผนังหาได้มีผังจารึกประหลาดใดคงอยู่ไม่

แม้ฉินหยุนอยู่ในทางเดิน เขาก็ทราบว่านี่เป็นเส้นทางในภูเขา เป็นเส้นทางที่วนรอบภายในเอาไว้

ด้วยก้าวเดินเชื่องช้าลง เขาหยุดลงและคิดพักผ่อน ผ่านไปราววันหนึ่งแล้ว กระนั้นที่นี่กลับไม่มีกับดักใด การเดินทางถึงกับปลอดภัยอย่างที่คาดไม่ถึง!

ที่ฉินหยุนไม่ทราบ คือด่านทดสอบที่เขาผ่านมา พวกมันคือผังจารึกลึกลับที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง

อาคมสังหารระดับลึกล้ำจำนวนมากคงอยู่ กระนั้นด้วยเพราะโมโมจึงทำให้เขาผ่านมาได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องเผชิญหน้ากับอาคมสังหารใดจนกระทั่งถึงตอนนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด