ตอนที่แล้วตอนที่ 5 : เมืองหลวงเวนีเรียร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 : อาติเฟคเวทมนต์ในตำนาน !!

ตอนที่ 6 : สอบเข้า


(เปลี่ยนจาก วิทยาลัย เป็นสถาบัน)

อเดลถูกพาเข้ามาในคฤหาสน์และถูกนำไปที่ห้องทำงานของบารอนโกแลนทันที เมื่อทั้งคู่นั่งลงบารอนโกแลนก็พูดขึ้น

''ฉันได้ยินมาจากพ่อของเธอว่า เธออยากจะเข้าสถาบันเมอร์เซียสินะ''

อเดลพยักหน้าเบาๆ ซึ่งบารอนโกแลนก็จ้องมองอเดลอยู่สักพักพร้อมกับยิ้มออกมา

''ดีเหมือนกันนี่ เธอรู้ถึงสิ่งที่จำเป็นต้องทำตั้งแต่มาคัสกับมาเรียคงภูมิใจในตัวเธอมากแน่นอน เอาหล่ะเธอไปพักผ่อนก่อนแล้วกันอีกสองวันการสอบเข้าถึงจะเริ่มขึ้น ถึงแม้เธอจะมีจดหมายแนะนำก็ตามแต่เธอก็ยังคงต้องทำการทดสอบเหมือนกับคนอื่นๆ จดหมายแนะนำเพียงแค่ทำให้เธอเป็นที่จับตามองและข้ามขั้นตอนบางอย่างในการสมัครเรียนเท่านั้น ส่วนเรื่องจะได้เข้าเรียนไหมก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเธอเอง''

เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะออกจากห้องด้วยการนำทางของพ่อบ้านที่ชื่อ อัลเบิร์ต เมื่ออเดลออกไปบารอนโกแลนก็ถอนหายใจเล็กน้อยพร้อมกับยิ้มเบาๆให้กับอเดลก่อนจะพูดกับตัวเอง

''นายได้ลูกชายที่ดีจริงๆขนาดถูกจ้องมองจากอัศวินขั้น 9 อย่างฉันแล้วเขายังไม่แม้แต่จะตื่นตระหนก''

อเดลเดินตามหลังพ่อบ้านอัลเบิร์ตไปเรื่อยๆพร้อมกับสำรวจคฤหาสน์นี้อย่างระเอียด แล้วคฤหาสน์หลังนี้จะถูกครอบครองโดยผู้ที่มียศบารอน และยังเป็นถึงอัศวินขั้น 9 ก็ตามแต่ภายในคฤหาสน์ก็ไม่ได้ถูกตกแต่งอย่างหรูหรานักแสดงให้เห็นถึงเรื่องการใช้เงินได้อย่างดี เพราะจากที่เขาได้สำรวจดูแล้วนอกจากทหารยามสองคนที่เป็นเพียงนักดาบขั้น 4 แล้วทั้งเมดและพ่อบ้านต่างเป็นผู้ที่ทักษะชั้นสูงและอยู่ในระดับสูงในแต่ละคลาสของตัวเอง

พ่อบ้านอัลเบิร์ตพาอเดลมาที่ห้องนอน ห้องหนึ่งพร้อมกับพูดขึ้น

''ห้องนี้คือห้องของคุณครับนายน้อยอเดล''

''ขอบคุณครับ ไม่ต้องเรียกผมนายน้อยก็ได้ผมเพียงแค่มาขออาศัยเพียงไม่กี่วันเท่านั้น''

เมื่อได้ยินแบบนั้นพ่อบ้านอัลเบิร์ตก็กล่าวปฏิเสธทันที

''ไม่ได้หรอกครับ ท่านโกแลนได้ออกคำสั่งเอาแล้วว่านายน้อยอเดลนั้นเป็นแขกคนสำคัญของท่าน ฉะนั้นต้องปฏิบัติกับนายน้อยเป็นอย่างดี''

เมื่อเห็นว่าพูดเท่าไหร่พ่อบ้านอัลเบิร์ตก็ปฏิเสธเขาจึงได้แต่เลยตามเลยไปเท่านั้นก่อนจะถอนหายใจพร้อมกับพูดขึ้น

''เอางั้นก็ได้ครับ''

หลังจากที่พ่อบ้านอัลเบิร์ตกลับไปแล้วอเดลก็นำหม้อผสมยาออกมาและเริ่มการทำโพชั่นเก็บสะสมเอาไว้เพื่อที่จะได้มีขายในภายหลัง อเดลตัดสินใจจะหาเงินจำนวนหนึ่งเพื่อซื้อบ้านหลังเล็กๆเอาไว้เพื่อใช้ในการทำวิจัย และทดลองสิ่งต่างๆเพราะการที่เขาจะทำการทดลองที่หอพักของวิทยาลัยนั้นคงเป็นไปไม่ได้

——————————————————————————————————————————

สองวันต่อมาอเดลมาถึงหน้าสถาบันเมอร์เซียพร้อมกับเด็กคนอื่นๆที่รุ่นราวคราวเดียวกันแต่ส่วนใหญ่นั้นเด็กพวกนี้จะเป็นขุนนางน้อยนักที่มีเหล่าเด็กที่เป็นสามัญชน ช่างน่าขันที่แม้จะผ่านไปกว่าห้าร้อยปีแล้วปัญหาการแบ่งแยกชนชั้นนั้นก็ยังคงอยู่

อเดลเดินไปที่จุดรับสมัครก่อนจะยื่นจดหมายแนะนำตัวให้กับอาจารย์ท่านหนึ่ง เขามองไปที่จดหมายกับหน้าของอเดลสลับกันไปมาอยู่สักพักก่อนจะยื่นป้ายหมายเลขพร้อมกับหมายกำหนดการให้กับเขา และบอกทางไปยังห้องสอบ

ซึ่งอเดลก็เดินมาตามทางที่อาจารย์คนนั้นบอกซึ่งการสอบแรกนั้นคือการสอบข้อเขียนซึ่งมันจะเป็นตัววัดพื้นฐานความเข้าใจเวทมนต์ของเด็กว่าพวกเขาเข้าใจเวทมนต์มากแค่ไหน ซึ่งตัวข้อสอบจะถูกออกโดยเหล่าอาจารย์และอาจารย์ใหญ่ของสถาบันซึ่งเป็นเมกัส

เมื่อมาถึงอเดลก็เลือกที่นั่งของตัวเองพร้อมกับนั่งรอเด็กคนอื่นๆมาให้ครบเพื่อที่จะได้สอบพร้อมกัน

ไม่นานนักห้องสอบก็ถูกเติมจนเต็มจากนั้นอาจารย์ก็เริ่มที่จะเดินแจกข้อสอบให้กับเด็กแต่ละคน เมื่อเริ่มทำข้อสอบอเดลก็มองเห็นท่าทีของเหล่าเด็กคนอื่นๆที่ได้แต่ขมวดคิ้วและเกาหัวยิกๆกับข้อสอบแต่ละข้อในกระดาษ ส่วนทางอเดลนั้นเขาไม่ได้สนใจข้อสอบเลยแม้แต่น้อยเพราะมันง่ายไปสำหรับเขา

อเดลเขียนคำตอบอย่างรวดเร็วจนมาถึงข้อสุดท้าย เมื่อมาถึงข้อสุดท้ายเขาก็ต้องชะงักเล็กน้อยเพราะมันเกี่ยวกับทฤษฏีเวทมนต์ที่มีชื่อว่า อาคาฟาท่า ซึ่งมันเป็นทฤษฏีที่เกี่ยวกับการผสมผสานเวทมนต์หลายธาตุเข้าด้วยกันจนทำให้มันกลายเป็นเวทมนต์ชนิดใหม่ หรือเวทมนต์ผสม ยกตัวอย่างเช่นเวทมนต์ธาตุน้ำ ผสมกับธาตุดินจะกลายเป็นเวทมนต์ธาตุไม้ หรือธาตุไฟ กับธาตุดินจะกลายเป็นเวทมนต์ประเภทลาวา

ซึ่งทฤษฏีเวทมนต์นี้สามารถนำไปใช้ร่วมกับการเขียนรูน หรือการสร้างอาติเฟคได้ด้วยเช่นกันเป็นที่น่าตกใจที่มีคนรู้จักทฤษฏีเวทมนต์นี้ด้วยเพราะว่าในสมัยก่อนนั้นไม่ค่อยจะมีคนรู้จักมันมากนัก ด้วยการยุ่งยากของกระบวนการเขียนวงเวทย์ขนาดใช้ และอักษรรูนที่สลักซับซ้อนจนยากเกินบรรยาที่แม้แต่เมกัสก็ยังต้องหัวหมุน

แต่สำหรับอเดลนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรกับทฤษฏีเวทมนต์อันนี้เพราะเขานี่แหละเป็นคนที่คิดค้นมันขึ้นมาเอง ในช่วงเวลาห้าร้อยกว่าปีก่อนในตอนที่เขายังวัยรุ่นเขาเบื่อกับการที่จะต้องรอต้นสมุนไพรให้เติบโตเต็มที่มันต้องเวลานานหลายเดือน หรือแม้แต่เป็นปีเขาเบื่อที่จะต้องอดทนรอกับการเจริญเติบโตที่ช้าเป็นเต่าคลานของมัน เขาจึงเริ่มทดลองและคิดค้นทฤษฏีนี้ขึ้นมา

และเมื่อมันสำเร็จเขาก็นำมันมาเผยแผ่แก่สภาเวทมนต์แต่ด้วยความซับซ้อนของมันจึงน้อยคนนักที่จะเรียนรู้ได้มีเพียงเมกัสไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเรียนรู้ความพิเศษของทฤษฏีเวทมนต์นี้ เมื่อนานวันเข้ามันก็ค่อยๆเลือนหายไปตามกาลเวลา

แต่ทฤษฏีอาคาฟาท่าในกระดาษคำถามนี้ยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ่งบอกถึงความไม่เข้าใจอย่างแท้จริงในตัวของคนออกข้อสอบ อเดลจึงเขียนอธิบายถึงทฤษฏีนี้อย่างละเอียดลงไป

หลังจากช่วงสอบข้อเขียนแล้วต่อไปก็จะเป็นสอบปฏิบัติซึ่งอเดลกับเด็กคนอื่นๆก็ถูกพามาที่สนามสอบกันอย่างรวดเร็ว พร้อมกับแยกเด็กที่มีคลาสอื่นนอกจากนักเวทย์ออกไป หลังจากที่ทุกคนรวมตัวกันแล้วอาจารย์ก็บอกถึงรายละเอียดการสอบปฏิบัติ ซึ่งก็ง่ายมากอาจารย์จะให้ทุกคนใช้เวทย์ที่ตัวเองถนัดจากนั้นอาจารย์ก็จะเป็นคนประเมิณผลคะแนน

อเดลมองสีหน้าของเด็กหลายคนที่แลดูจะเป็นกังวลก็แน่นอนอยู่แล้วว่าอยู่ต่อนักเวทย์ขั้น 5 และ 6 พวกเขาที่แม้แต่ไม่ได้เป็นนักเวทย์เต็มตัวจะไปทำตัวตามสบายได้ยังไง แต่ก็มีบางคนที่ดูจะมั่นใจตัวเองเสียเหลือเกิน

การทดสอบเริ่มขึ้นเด็กๆหลายคนต่างปล่อยเวทย์ที่พวกเขาถนัดซึ่งก็คือเวทมนต์ขั้น 1 ของธาตุต่างๆอย่างเช่น ไฟบอล , แหลนน้ำแข็ง หรือสายฟ้า อเดลจ้องมองพวกเขาเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆดูเหมือนว่าเด็กที่มาจากตระกูลขุนนางจะทำได้ดีกว่าที่คาดเพราะแน่นอนว่าพวกเขามักจะจ้างนักเวทย์มาสอนลูกๆของเขา แต่ที่น่าแปลกใจก็คือเด็กเหล่านี้ต่างมีไม้คฑาเป็นของตัวเองไม่เว้นแม้แต่เด็กที่เป็นสามัญชน

'ดูเหมือนไม้คฑาจะเป็นสิ่งจำเป็นสินะ'

หลังจากเด็กคนล่าสุดทดสอบจบอาจารย์ก็มองไปที่รายชื่อพร้อมกับเอ่ยขึ้นเสียงดัง

''หมายเลข 421 อเดล ฟอร์ร่า''

อเดลก้าวเดินออกมาที่แท่นทดสอบอาจารย์คุมสอบมองเขาเล็กน้อยก่อนจะถาม

''ไม้คฑาของเธอหล่ะ ?''

''ของอย่างงั้นไม่จำเป็นหรอกครับ''

อเดลตอบกลับไปอย่างสบายๆพร้อมกับยกมือขึ้นอักษรรูนถูกวาดขึ้นรอบๆมือเขาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นวงเวทย์ ทันทีที่วงเวทย์ถูกเขียนเสร็จลูกบอลไฟขนาด 20เซนฯ ก็ถูกปล่อยออกมาจากมือของอเดล อาจารย์ผู้คุมมองพร้อมกับแปลกใจเล็กน้อยที่เด็กคนนี้สามารถใช้เวทมนต์โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์สื่อนำแม้เวทย์ที่ปล่อยออกมาจะเป็นเพียงเวทมนต์ขั้น 0 ก็ตาม

แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาอาจารย์ผู้คุมสอบก็ต้องแปลกใจที่บอลไฟของอเดลนั้นเมื่อลอยไปถึงกลางทางมันก็ได้เปลี่ยนรูปร่างกายเป็นศรเพลิงพร้อมกับแตกตัวออกกระจายกันเข้าใส่เป้าไม้ที่ตั้งอยู่ไปไม่ไกล ความเร็วของศรพรเพิ่มขึ้นอย่างกระทันหันพร้อมกับปะทะเข้าใส่เป้าซ้อมอย่างรุนแรง

ตูม ตูม ตูม ตูม

แรงปะทะกันระหว่างศรเพลิงทั้งสี่ลูกกับเป้าซ้อมทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ทันทีที่ฝุ่นควันจางหายไปทุกคนก็ถึงกับตกตะลึงบริเวณที่เป้าซ้อมเคยอยู่นั้นกลายเป็นหลุมลึกทันที เรียกได้ว่าพื้นที่บริเวณนั้นถูกปรับเปลี่ยนไปจนเกือบจำสภาพเดิมแทบไม่ได้เลยทีเดียว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด