ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0329
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0331

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0330


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 330 : การประลองที่ไม่เท่าเทียม

ได้ยินดังนี้ จ้าวตำหนักหยางจึงเผยความกังวลออกโดยทันที น้ำเสียงเบาค่อยกล่าวคำขึ้น “อาหลง นั่นมันอุปกรณ์เต๋า! เพราะเสียหาย ระดับจึงถูกลดเป็นอุปกรณ์ลึกล้ำ!”

“ไม่เป็นไร!” เชี่ยวหยางหลงยิ้มเฉยชา ส่งถ้วยลึกล้ำตะวันจันทราแก่หลันฮัวอวี้ “หากข้าแพ้ มอบถ้วยนี้แก่ฉินหยุน!”

แม้ไม่มีผู้ใดทราบ ว่าถ้วยลึกล้ำตะวันจันทราคืออะไร แต่ได้เห็นท่าทีเป็นกังวลของจ้าวตำหนักหยาง พวกเขาจึงทราบว่าสิ่งนี้สมควรล้ำค่ายิ่งกว่าเสื้อคลุมลึกล้ำวิญญาณสีคราม

จ้าวตำหนักหยางพอคิดได้ ว่าฉินหยุนไม่มีโอกาสชนะ เขาจึงค่อยรู้สึกวางใจ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างจะโปร่งใสต่อหน้าธารกำนัล เขาจึงส่งเสื้อคลุมลึกล้ำวิญญาณสีครามแก่หลันฮัวอวี้

แม้หลันฮัวอวี้มีความสัมพันธ์อันดีต่อฉินหยุน ผู้คนก็ทราบว่าเขาเป็นผู้ที่ยุติธรรมอย่างยิ่งคนหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาต่างวางใจ

“ไม่อนุญาตให้มีการใช้อาวุธหรือชุดเกราะในการประลองยุทธ์!” หลันฮัวอวี้กล่าว “หากมีผู้ใดใช้ ข้าย่อมพบเห็น! เช่นกัน ข้าหวังว่าจะมีการยั้งมือยามเมื่อรู้ผล...”

เชี่ยวหยางหลงหัวเราะ “ยั้งมืองั้นหรือ? นี่ไม่ใช่การประลองเด็กเล่น! ในเมื่อเป็นการต่อสู้ เช่นนั้นก็ต้องตรงไปตรงมา เป็นการเอาชีวิตและความตายเป็นเดิมพัน!”

“ข้าแพ้แล้วยังจะมีอะไรให้เสีย? มันก็หมดสิ้นกันแค่นั้น! ข้า เชี่ยวหยางหลงแข่งขันการประลองยุทธ์มาหลายครั้งครา ข้าไม่เคยพ่ายแพ้ต่อผู้ใด หากข้าพ่ายแพ้ ย่อมไม่ขอมีชีวิตอยู่ต่อ!”

หยางฉีเย่ว์คิดอยากก้าวเดินขึ้นไป เกลี้ยกล่อมฉินหยุน กระนั้น เมื่อนางได้เห็นสีหน้าสงบจนน่าสะพรึงของฉินหยุน ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง นางกลับรู้สึกวางใจ

“การประลองยุทธ์โดยมีชีวิตและความตายเป็นเดิมพัน!” ฉินหยุนไม่ขัดแย้ง ยอมรับข้อตกลงนี้แต่โดยดี

หลันฮัวอวี้ถอนหายใจ “ย่อมได้ จนกว่าจะถึงเวลานั้น ค่ายอาคมจะทำงาน ภายในไม่อาจออก ภายนอกไม่อาจเข้า จนกว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะถูกตัดสิน!”

จ้าวตำหนักหยางและผู้อาวุโสหลายคน เร่งรีบเดินลงจากลานประลองยุทธ์ ความยินดีฉายชัดที่ใบหน้าพวกเขา

เชี่ยวหยางหลงเองก็ตื่นเต้นในชั่วขณะนี้ มือทั้งสองกำแน่น สั่นไหวเล็กน้อย แสดงออกให้เห็นว่าเขารอคอยการประลองครั้งนี้เพียงใด!

การโค่นล้มฉินหยุน ไม่ได้หมายถึงเพียงแต่ชื่อเสียง เขายังจะได้รับวัตถุล้ำค่าของฉินหยุนเป็นรางวัล

หลันฮัวอวี้ก้าวเดินลงจากลานประลองยุทธ์ ทะยานขึ้นไปเหนือเสาค่ายอาคม ใช้ท่าทางชี้แนะแก่ฉินหยุนและเชี่ยวหยางหลง ให้ทั้งสองเดินไปยังขอบลานประลองยุทธ์

ลานประลองสร้างขึ้นในลานกว้าง ขนาดค่อนข้างใหญ่โต เพียงพอสำหรับใช้เปิดศึกครั้งใหญ่!

ทั้งสองแยกห่างจากกันหลายสิบเมตร พวกเขากำลังเตรียมตัวขั้นสุดท้ายรอเริ่มประลอง!

ทุกคนต่างยืนขึ้น รับชมด้วยใจจดจ่อ

ผู้ที่ได้รับชมฉินหยุนแข่งขันประลองยุทธ์ก่อนหน้า พวกเขาต่างประทับใจในตัวอีกฝ่ายอย่างยิ่ง!

แม้พวกเขาทราบว่าฉินหยุนน่าจะต้องแพ้ กระนั้นก็ไม่คิดว่าฉินหยุนจะพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงอยากรับชม ว่าเขาจะยืนหยัดได้นานเพียงใด

ทุกคนล้วนตระหนักได้ดี ว่าฉินหยุนเจตนาท้าประลองเชี่ยวหยางหลงแต่แรก

มันก็เพื่อหยุดพิธีการแต่งงานครั้งนี้!

หยางฉีเย่ว์ถูกบีบบังคับให้แต่งงาน ผู้คนต่างทราบว่าเชี่ยวหยางหลงมีกลเม็ดซุกซ่อนเอาไว้ เขาย่อมต้องใช้วิธีการบางอย่างเพื่อให้สำเร็จถึงเป้าหมาย

กระทั่งว่าเชี่ยวหยางหลงเลื่อนระดับสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋ามาชั่วระยะเวลาหนึ่ง กระนั้นเขาอยู่เพียงระดับแรกของขอบเขตวรยุทธ์เต๋า การเลื่อนสู่ระดับถัดไปเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง

กระนั้น เขาก็แข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าทั่วไปอยู่หลายขุม

ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าที่แข็งแกร่ง หากเทียบกับขอบเขตกายวรยุทธ์แล้ว ความสามารถนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจนจนไม่อาจชัดไปกว่านั้นได้!

เชี่ยวหยางหลงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เก้าตะวันยังตั้งตระหง่านบนฟากฟ้า เขากล่าวต่อหลันฮัวอวี้ “ผู้อาวุโสหลัน ตอนนี้เกือบบ่ายแล้ว ให้เริ่มการประลองยุทธ์ในช่วงเวลานั้น! ตอนนั้นจะเป็นช่วงเวลาที่เก้าดวงตะวัน ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมามากที่สุด!”

“ย่อมได้!” เขาเองก็คาดหวัง ว่าฉินหยุนจะได้มีเวลาเตรียมการในช่วงเวลานี้บ้าง

เชี่ยวหยางหลงยิ้มอย่างมาดมั่น ร่างกายเริ่มทอประกายสีทอง บอลแสงสีทองพลันปรากฏออกจากตันเถียนของเขา พุ่งทะยานขึ้นท้องฟ้า

ได้เห็นบอลแสงสีทอง ผู้คนพลันทราบ ว่านั่นคือวิญญาณยุทธ์!

วิญญาณยุทธ์ตะวันระดับทอง!

วิญญาณยุทธ์ของเชี่ยวหยางหลง แท้จริงเป็นวิญญาณยุทธ์ที่สวรรค์ประทานมอบ!

ผู้คนเบื้องล่างลานประลอง ต่างสูดเอาอากาศเย็นเข้าลึก!

นี่ก็เพราะ วิญญาณยุทธ์ตะวันทัดเทียมกับวิญญาณยุทธ์จันทรา แม้เป็นระดับทอง แต่ก็หาได้ยากยิ่งกว่าวิญญาณยุทธ์จันทรา

ผู้คนต่างรู้สึก ว่าวิญญาณยุทธ์ตะวันระดับทองของเชี่ยวหยางหลง สามารถทัดเทียมกับวิญญาณยุทธ์จันทราระดับทองม่วงของหยางฉีเย่ว์ได้!

ฉินหยุนมองตามด้วยสีหน้าตึงเครียด เขาไม่คิดมาก่อน ว่าวิญญาณยุทธ์ของเชี่ยวหยางหลงที่ซุกซ่อนเอาไว้ แท้จริงเป็นถึงวิญญาณยุทธ์แห่งสวรรค์

หลันเฟิงจินเดิมไม่กังวลต่อฉินหยุน แต่ตอนนี้พอได้เห็นวิญญาณยุทธ์ตะวันระดับทองของเชี่ยวหยางหลง นางกลายเป็นรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาโดยทันที

เซี่ยอู๋เฟิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังดวงตะวันสีทองขนาดเล็ก กล่าวด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก “น้องหยุนเผชิญหน้ากับเชี่ยวหยางหลง แรงกดดันมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น ข้าหวังว่าเขาจะทนได้!”

จ้าวฉวนถอนหายใจ “ข้าไม่คิดเลย ว่าพรสวรรค์ของเชี่ยวหยางหลง แท้จริงจะน่าสะพรึงกลัวได้ระดับนี้!”

วิญญาณยุทธ์ตะวันระดับทองของเชี่ยวหยางหลง ทำเอาหลายผู้คนแตกตื่น!

หน้าผากของฉินหยุนเริ่มตึง เขารู้สึกได้ถึงพลังของดวงตะวันที่น่าสะพรึง!

“ฉินหยุน หยางฉีเย่ว์เป็นอาจารย์เจ้า แต่เจ้ากลับไม่ทราบวิธีแสดงความเคารพต่ออาจารย์ เจ้ามองนางเป็นโฉมงามผู้หนึ่ง คิดอยากครอบครองนางเอาไว้! ศิษย์เช่นนี้มีแต่จะก่อปัญหาให้แก่นาง คราครั้งนี้ เจ้าจะต้องโดนสายฟ้าแห่งสวรรค์ลงทัณฑ์!”

เชี่ยวหยางหลงหัวเราะเย็นเยือก “นอกจากนี้แล้ว กระทั่งว่าเจ้าทราบว่านางเป็นคู่หมั้นของข้า เจ้าก็ยังปิดซ่อนพละกำลังแท้จริงเอาไว้ แสร้งทำตัวน่าเวทนามาโดยตลอด”

“เจ้ายังเด็ก กระนั้นกลับโฉดชั่วและต่ำช้า ชัดเจนว่าเจ้ามีเย่ว์หลานเป็นภรรยาแล้ว แต่กลับมีเจตนาคิดเป็นอื่น ตกหลุมรักอาจารย์ของตัวเอง ช่างต่ำช้ายิ่งนัก!”

“เชี่ยวหยางหลง จงหุบปากและเลิกพล่ามวาจาไร้สาระ!” ฉินหยุนเริ่มมีโทสะ เขาตะโกนตอบโต้

ผู้ชมหลายคนต่างพูดคุย ชี้ไม้ชี้มือทางฉินหยุน เรื่องราวที่ได้รับฟังเหล่านั้น ไม่ใช่เรื่องที่สมควรอภัยให้ได้!

หยางฉีเย่ว์พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ นางโกรธตัวแทบสั่น เพราะนางทราบว่าเรื่องราวหาได้เป็นเช่นนั้นไม่

“ฮ่าฮ่า! ฉินหยุนเอ๋ย ดูท่าทีเจ้าสิ ชัดเจนแล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง!” เชี่ยวหยางหลงหัวเราะดังลั่น “วันนี้ ข้าคิดใช้พลังของวิญญาณยุทธ์ตะวัน เรียกร้องความยุติธรรมจากสวรรค์ กำจัดวายร้ายเช่นเจ้า!”

“เจ้า!” ฉินหยุนมีโทสะถึงขนาดกล่าวคำอื่นใดไม่ออก การคิดทำให้เรื่องราวนี้กระจ่างถือเป็นเรื่องยากจนเกินไป

เชี่ยวหยางหลงแค่นเสียง “ฉินหยุน เจ้ามีสองวิญญาณยุทธ์ในครอบครอง! ถือว่าไม่เลว! แต่เจ้าก็ยังห่างไกลจากวิญญาณยุทธ์ของหยางฉีเย่ว์นัก!”

“มีแต่วิญญาณยุทธ์ตะวันระดับทองของข้า จึงเหมาะสมแก่นาง! ที่ผ่านมาเพียงนางเวทนาเจ้า แสดงความเมตตาแก่เจ้า จึงช่วยดูแลเจ้าเป็นอย่างดีก็เท่านั้น”

ฉินหยุนทราบเป็นอย่างดี ว่าเชี่ยวหยางหลงแต่งงานกับหยางฉีเย่ว์ ก็เพื่อใช้งานเคล็ดวิชาอันชั่วร้าย ทำการแยกเอาวิญญาณยุทธ์จันทราระดับทองม่วงจากหยางฉีเย่ว์

เพราะเหตุนั้นเขาจึงทุ่มสุดตัวเพื่อหยุดเรื่องราวนั้นเอาไว้!

ทั้งหมดนี้ ก็เพราะเขาได้ยินบทสนทนาในเทือกเขามนุษย์อสูร ย้อนกลับไปตอนนั้น เป็นเชี่ยวหยางหลงกับจ้าวตำหนักหยางสนทนากัน

แม้เขาทราบ กระนั้นก็ไม่มีผู้ใดเชื่อหากเขาพูดกล่าวออกไป ด้วยเหตุนี้ เขามีแต่ต้องเอาชนะเชี่ยวหยางหลง เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ก่อการเรื่องเลวร้ายขึ้น

“ฉินหยุนช่างต่ำช้านัก หยางฉีเย่ว์ดีต่อเขาเพียงนี้ กลับมีเจตนาร้ายซุกซ่อนภายในใจ!”

“ถึงขั้นคิดเช่นนี้กับอาจารย์ของตัวเอง ช่างไม่อาจให้อภัย!”

“ตอนนี้เขาเป็นศิษย์ของตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ช่างเป็นการเสื่อมเสียแก่ตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามนัก!”

“กระทั่งหลังต่อสู้กับเชี่ยวหยางหลงยังไม่ตาย ข้าก็จะเผามันจนตายด้วยตนเอง!”

“ไม่ประหลาดใจเลย ที่เชี่ยวหยางหลงคิดอยากสู้จนถึงแก่ความตาย เพราะแบบนี้นี่เอง!”

หลายผู้คนเริ่มสนทนากันถึงเรื่องที่ฉินหยุนทำให้เสื่อมเสีย ทำให้เขายิ่งดูต่ำช้าเลวทรามมากขึ้น

และผู้ที่กล่าวคำเหล่านี้ต่อฉินหยุน ส่วนใหญ่ล้วนเป็นศิษย์ของตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ที่อิจฉาฉินหยุนจนแทบตายตก! ตอนนี้พวกเขามีโอกาส จะยอมปล่อยให้ปากว่างได้อย่างไร?

“ฉินหยุน หยางฉีเย่ว์เป็นของข้า เจ้าไม่คู่ควรกับนาง! หลังจัดการเจ้าเรียบร้อย นางจะตกเป็นของข้า ข้าจะดูแลนางแทนเจ้าให้เป็นอย่างดีเลยละ!” เชี่ยวหยางหลงหัวเราะต่ำทรามดังลั่น

ฉินหยุนโกรธจนตัวสั่น เชี่ยวหยางหลงคิดใช้งานหยางฉีเย่ว์ เป็นเตาหลอมราคะของมัน และก็เพื่อทำลายนาง!

หยางฉีเย่ว์กัดฟันแน่นด้วยความโกรธ ชื่อเสียงที่เสียหายของฉินหยุนเช่นนี้ ทำเอานางรู้สึกมีโทสะอย่างล้นพ้น

ตอนนี้เอง ดวงตะวันสีทองเหนือศีรษะของเชี่ยวหยางหลง ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น!

เป็นช่วงเวลาบ่ายแล้ว!

“การประลองยุทธ์ เริ่มได้!” หลันฮัวอวี้ตะโกน

เชี่ยวหยางหลงครอบครองวิญญาณยุทธ์ตะวัน เหตุผลว่าทำไมเขาคิดรอจนถึงตอนบ่าย ก็เพื่อให้วิญญาณยุทธ์ตะวันแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

เขาใช้งานวิญญาณยุทธ์ตะวัน เพื่อดูดกลืนพลังวิญญาณเก้าตะวัน รวบรวมมันตลอดช่วงระยะเวลาเตรียมตัว เพื่อปลดปล่อยออกในยามนี้!

“ฉินหยุน ข้าจะสังหารเจ้าเสมือนหญ้าในสวนที่ถูกตัดทิ้ง!”

เชี่ยวหยางหลงยิ้มแสยะ ดึงเอาวิญญาณยุทธ์ตะวันที่รวบรวมพลังงานกลับคืนสู่ร่าง ลำแสงสีทองพลันสาดส่องออกจากร่างนั้นขณะพุ่งขึ้นกลางอากาศ เป็นการหลบเลี่ยงฉินหยุนที่กำลังพุ่งเข้ามา

ฉินหยุนโจมตีพลาด!

เชี่ยวหยางหลงผู้ซึ่งอยู่กลางอากาศ หันฝ่ามือลงพื้นลานประลอง ฝ่ามือสีแดงปรากฏภาพเปรียบดั่งขุนเขา ปกคลุมทั้งลานประลองเอาไว้จนสิ้น

ตู้ม!

ฝ่ามือสีทองปะทะลงมา ความร้อนแรงเกินใดเทียบเปรียบ ราวกับดวงตะวันเคลื่อนคล้อยลงมาด้วยตัวเอง คลื่นความร้อนมหาศาลทะลุออกจากค่ายอาคมใหญ่ แปรเปลี่ยนเป็นคลื่นความร้อนสู่ภายนอก ปกคลุมทั่วทั้งลานกว้าง!

ลานประลองยุทธ์สั่นสะเทือน พรมแดงถูกเผาไหม้กลายเป็นไอระเหย ร่างฉินหยุนถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีทองหนาแน่นมวลนี้!

“ฉินหยุนสมควรถูกเผาจนตายแล้ว ช่างอ่อนแอนัก เพียงการโจมตีเดียวก็ยืนหยัดไม่ได้!”

“อย่างไรแล้ว เขาก็แค่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า เป็นปกติที่เชี่ยวหยางหลงจะสังหารได้ในกระบวนท่าเดียว!”

“น่าเบื่อนัก ถึงกับตายเช่นนี้!”

ขณะทุกคนคิดว่าฉินหยุนจบสิ้นแล้ว แรงระเบิดอากาศรุนแรงพลันพวยพุ่งจากพื้น เข้าปะทะกับเชี่ยวหยางหลง!

นี่คือเคล็ดวิชาคลื่นยักษ์ที่ฉินหยุนใช้งานผ่านขุมพลังภายในขั้นสูง มันผสานรวมเข้าไว้กับวิชาระเบิดปราณ วิชาคลื่นยักษ์ และวิชามังกรหลอมกระบวนท่าสวรรค์ทลาย!

อีกหนึ่งเสียงระเบิดดังขึ้นเขย่าฟากฟ้า!

เชี่ยวหยางหลงผู้ซึ่งลอยอยู่กลางอากาศ ถึงกับลอบตระหนก เขาไม่คิดว่าฉินหยุนจะตอบโต้กลับมาได้!

คลื่นพลังภายในเปรียบดั่งลำแสง พุ่งเข้าปะทะต่อเชี่ยวหยางหลง!

เชี่ยวหยางหลงคำรามกราดเกรี้ยว ปลดปล่อยฝ่ามือลงพื้นอีกครั้งหนึ่ง ดวงตะวันลุกโชติช่วงเริ่มเผาไหม้อีกครั้ง!

ฉินหยุนคำรามจากที่พื้น จากนั้นเขาจึงปลดปล่อยเคล็ดวิชาคลื่นยักษ์ ปัดเป่าเปลวเพลิงให้พ้นตัว!

ฉินหยุนยังคงสบายดีอยู่บนลานประลองยุทธ์ เปลวเพลิงหาได้ทำอันตรายใดแก่เขาไม่!

ฉินหยุนปลุกสายเลือดราชสีห์สวรรค์แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่หวาดเกรงต่อทั้งอัคคีเพลิงหรือว่าน้ำแข็งขั้วโลก

เปลวเพลิงของเชี่ยวหยางหลง ทำได้ก็แค่ให้เขารู้สึกร้อนขึ้นบ้าง มันไม่อาจเผาไหม้เขาได้!

เชี่ยวหยางหลงหาได้คิดไม่ ว่าฉินหยุนจะไม่หวั่นเกรงต่อเปลวเพลิง!

“อย่าได้ใจนัก!” พร้อมกันนี้ เชี่ยวหยางหลงตะโกนขึ้น เคลื่อนคล้อยลงจากท้องฟ้าประหนึ่งอุกกาบาตสีทอง ฝ่ามือยื่นออก เตรียมปะทะเข้าใส่ศีรษะของฉินหยุน

ฉินหยุนคล้ายคาดการณ์ ถึงการโจมตีนี้ของเชี่ยวหยางหลงไว้ก่อน ด้วยเสียงคำรามหนึ่งครา เขาใช้งานเสียงคำรามราชสีห์สวรรค์เปล่งออก!

ที่น่ากลัวที่สุด คือสิ่งที่มาพร้อมกับเสียงคำราม คลื่นเสียงปล่อยออก มาพร้อมกับสายอสนีบาตทองม่วง!

เสียงคำรามราชสีห์สวรรค์ที่ปลดปล่อยพลังอสนีบาต มันร่ายรำขึ้นท้องฟ้าพุ่งเข้าปะทะกับร่างของเชี่ยวหยางหลง!

“อ๊าก!” หลังการปะทะ เชี่ยวหยางหลงคำรามร้องกราดเกรี้ยว ร่างนั้นปลิวกระเด็นจนปะทะเข้ากับเสาอาคม!

ฉินหยุนถึงขั้นทำให้เชี่ยวหยางหลงร่างกระเด็น!

ทั่วทั้งลานกว้างเงียบงัน พวกเขาต่างคิด ว่าเชี่ยวหยางหลงสมควรบดขยี้ฉินหยุนตั้งแต่แรกเริ่ม การต่อสู้สมควรจบในไม่กี่กระบวนท่า

แต่แล้วตอนนี้ ฉินหยุนกลับเป็นฝ่ายยืนหยัดรับการโจมตีสองครั้ง พร้อมทั้งสวนกลับ เปรียบดั่งเขาเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า!

“อาหลง เอาจริงได้แล้ว ใช้พลังของมหาวิถีแห่งเต๋าจัดการมันเสีย!” จ้าวตำหนักหยางขมวดคิ้วเร่งร้อนโพล่งคำกล่าวตะโกนออก

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด