ตอนที่แล้วบทที่ 38: สถานียอดเขาหิมะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40: ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้

บทที่ 39: จ้านคง


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

บทที่ 39: จ้านคง

ในตอนนี้นักเรียนทุกคนนั้นยืนอยู่ที่ประตูของสถานียอดเขาหิมะ เห็นได้ชัดเจนว่าอำนาจในการเข้าออกสถานที่แห่งนี้นั้นอยู่ในมือของจ้านคงแต่เพียงผู้เดียว

สถานที่แห่งนี้ไม่ได้ซับซ้อนมากนัก มันมีถนนเส้นหลักเพียงเส้นเดียวเท่านั้น รอบข้างมีร้านขายของทั่วไปซึ่งไม่ต่างจากตลาดภายในตัวเมือง

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือร้านค้าเหล่านั้นไม่ได้ขายเนื้อไก่ เนื้อหมูหรือเนื้อปลา พวกเขาขายสิ่งของที่จำเป็นกับการต่อสู้หรือเกี่ยวกับการพัฒนาการฝึกเวทเท่านั้น

“มาเลย เชิญมาดูก่อน รองเท้าบูตเวทมนตร์ระดับสูง เข้ามาดูได้เลย มันยอดเยี่ยมแน่นอน พวกคุณรู้รึเปล่าว่าอสูรกายเวทที่รวดเร็วที่สุดคืออะไร? แน่นอน มันทำมาจากขาหลังของอสูรตนนั้น! พร้อมด้วยการปรับแต่งจากนักเวทธาตุลม นอกจากนั้นยังเพิ่มความสามารถของมันด้วยหินวายุบริสุทธิ์อีกด้วย แน่นอนว่าถ้าหากคุณเปิดใช้งานมันล่ะก็… หมาป่าตาเดียวไม่อาจวิ่งไล่จับคุณได้ทัน ถ้าหากใครต้องการซื้อสิ่งของชิ้นนี้แน่นอนว่าฉันมีส่วนลดให้ถ้าหากคุณกับมันต้องชะตากัน!”

“หยุดนะไอ้โล้น เลิกพล่ามเรื่องไร้สาระสักที สิ่งนี้มันจะเรียกว่าเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ได้ยังไงล่ะ? เหอะ ฉันว่ารองเท้าไนท์กี้แบบกากๆยังจะดีว่าไอ้รองเท้าเน่าๆของแก”

“บัดซบ! ฉันเป็นคนสังหารอสูรตัวนั้นและฉันก็ได้รับขาหลังของมันเป็นของรางวัล เหอะ แน่นอนว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้มันจะต้องเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ!” ชายหัวโล้นโต้กลับอย่างมีอารมณ์

ไกลออกไปเป็นชายขายหินสี เขามีหินวิเศษและสีสันมากมาย

‘หินวิเศษณ์’ เป็นสิ่งที่ไม่ได้ซับซ้อนมากนัก พวกมันถูกสร้างขึ้นจากธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ สายฟ้า ใช้ความควบแน่นของพลังวิญญาณเพื่อหลอมรวมเป็นหิน หินเหล่านี้คล้ายกับพลังเวทภายในละอองดาราของเหล่านักเวท แม้ว่าจะไม่สามารถใช้งานมันได้โดยตรง แต่ก็สามารถใช้มันเพื่อช่วยเหลือให้พวกเขามีพลังงานเวทคงที่และเพียงพอต่อการใช้พลัง

อาจารย์ได้พูดคุยเรื่องราวในสองข้างทางนี้ให้กับนักเรียนทั้งหมดฟังอย่างสบายๆ โม่ฝานตั้งใจฟังเรื่องเหล่านี้อย่างมากเพราะมันแปลกใหม่สำหรับเขา

ในหลายๆครั้งหินวิเศษณ์เหล่านี้นั้นใช้แทนเงินได้อีกด้วย แต่ต้องเป็นหินที่บริสุทธิ์มากๆ

ความจริงแล้วพลังของมันนั้นคล้ายกับแหล่งพลังงานภายในโลกวิทยาศาสตร์ที่เขาจากมา อัตราความสิ้นเปลืองของมันมหาศาลเช่นกัน

เดิมทีโม่ฝานคิดว่าโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านนั้นล้วนแต่ต้องใช้พลังงานอย่างบ้าลั่งแน่นอน แต่หลังจากได้เรียนรู้สิ่งต่างๆเขาเริ่มเข้าใจว่าโรงไฟฟ้าของโลกใบนี้ไม่ได้สร้างกระแสไฟฟ้าแต่อย่างใด ทุกสิ่งอย่างล้วนแต่ใช้พลังงานจากหินวิเศษณ์ทั้งสิ้น

ซึ่งไม่มีอะไรที่เขาทำได้เลยเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ แสงนั้นเกิดจากความเฉลียวฉลาดของเอดิสัน ซึ่งเป็นสิ่งที่โม่ฝานยอมรับเสมอมา อีกทั้งผู้ที่ผลิตเครื่องปั้มน้ำทำให้โลกใบนี้เข้าสู่วงการอุตสาหกรรมนั้น… เป็นนักเวทธาตุไฟ! พวกเขาใช้หินวิเศษณ์ธาตุไฟเป็นแหล่งจ่ายพลังงาน

นี่เป็นเหตุผลที่โลกใบนี้ไม่มีน้ำมัน หรือพลังงานไฟฟ้า แหล่งพลังงานทุกอย่างนั้นเกิดจากหินเวทมนตร์!

แล้วจะหาหินเวทมนตร์มาจากไหนล่ะ?

แน่นอน มันมาจากธรรมชาติ!

สิ่งที่เลวร้ายก็คืออสูรเวทนั้นต้องการหินเวทมนตร์เช่นกัน หินเหล่านั้นเป็นแหล่งอาหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับพวกมัน สิ่งนี้จะทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น!

ดังนั้นเมื่อมนุษย์นั้นออกค้นหาหินเวทมนตร์นั้น ไม่เพียงแต่ต้องต่อสู้กับธรรมชาติที่โหดร้าย แต่ยังต้องคอยจัดการกับเหล่าอสูรเวทมนตร์อีกด้วย เพราะพวกมันจำเป็นต้องใช้หินเหล่านี้เพื่อมีชีวิตรอดต่อไป

แน่นอนว่าด้วยเหตุผลนี้ทำให้อสูรเวทกลายเป็นศัตรูกับมนุษย์โดยปริยาย!

เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้จึงทำให้ได้รู้ว่าอุปกรณ์เวททั้งหมดในเมืองล้วนแต่เป็นอาหารของอสูรเวท เช่นนี้มนุษย์กับอสูรจึงไม่เคยหยุดที่จะต่อสู้กันเลยแม้แต่วันเดียว มนุษย์กลายเป็นเหยื่อของพวกสัตว์ร้ายอยู่เสมอมา นั่นเป็นเหตุผลที่นักเวทจำเป็นจะต้องออกมาปกป้องเขตแดนของเหล่ามนุษยชาติ

บางทีสิ่งเหล่านี้อาจเป็นข้อแตกต่างที่สุดระหว่างโลกเดิมกับโลกปัจจุบันที่โม่ฝานกำลังยืนอยู่

ในโลกเดิมนั้น มนุษย์เป็นผู้ปกครองโลกใบนี้สูงสุด ถ้าหากพวกเขาต้องการกำจัดใครให้พ้นทางออกไป เพียงแค่กดปุ่มส่งขีปนาวุธนำทางเพื่อจัดการ!

อย่างไรก็ตาม ภายในโลกเวทมนตร์ใบนี้ไม่มีระเบิดร้ายแรงเช่นนั้น มีแต่นักเวทเท่านั้น!

อีกทั้งการใช้ระเบิดขนาดใหญ่เช่นนั้น คงไม่อาจจะทำอะไรเหล่าอสูรเวทได้ อีกทั้งอาจจะทำให้พวกมันขยายขอบเขตเพิ่มอีกด้วย

มนุษย์ส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในเมืองและไม่รู้เวทมนตร์ พวกเขาจำเป็นจะต้องได้รับการคุ้มครองจากเหล่านักเวท

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสถานะของผู้ใช้เวทมนตร์ถึงสูงกว่าสามัญชนธรรมดา พวกเขาไม่เพียงแต่มีพลังอันยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่พวกเขานั้นมีภารกิจที่เต็มไปด้วยศรัทธาของเหล่าผู้คน!

……

“พี่ฝาน ในครั้งนี้เราจะต้องแสดงพลังทั้งหมดที่เรามีอย่างไม่หมกเม็ด ฉันได้ยินมาว่าคะแนนตรงนี้จะมีผลกับการเข้าเรียนในมหาลัย อีกทั้งมันยังเป็นคะแนนสองในสิบของภาคเทอมนี้อีกด้วย!” จงหู่กล่าวกับโม่ฝานอย่างจริงจัง

โม่ฝานพยักหน้าเรียบๆ

แน่นอนว่าอาจารย์ชุ่ยมู่เชิงนั้นได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้แล้ว

คะแนนของกองทัพเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะไปรวมกับคะแนนในโรงเรียน แน่นอนว่านี่คือภาคปฏิบัติที่สำคัญมากกับทุกคน!

การประเมินของหัวหน้ากองทัพว่าจะเป็นเกรดซีหรือเอ นั่นขึ้นอยู่กับเขาทั้งหมด เพียงแค่ปลายนิ้วของเขาจะสามารถส่งนักเรียนไปสู่มหาวิทยาลัยธรรมดาหรือชั้นนำได้อย่างง่ายดาย!

ถ้าหากต้องการที่จะไปอยู่ในมหาวิทยาลัยจักรพรรดิของมู่หนิงเซวีย แน่นอนว่าเกรดเอย่อมนำทางพวกเขาได้แน่นอน

อีกอย่างโม่ฝานนั้นไม่คิดที่จะอยู่ในเมืองเล็กๆเช่นนี้ต่อไป เขาต้องการจะเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นซึ่งแน่นอนว่ามหาลัยเหล่านั้นอยู่ในเมืองใหญ่

แน่นอนว่าในครั้งนี้เขาต้องการเกรดเอเพื่อที่จะเข้าสู่มหาวิทยาลัยจักรพรรดิ เขาจะต้องได้เกรดเอหรือสูงกว่านั้น!

“พวกกองทัพเหล่านี้ถูกโรงเรียนของเราติดสินบน เหอะ พวกเขาเพียงแค่เสียเวลาสองเดือนเพื่อจัดการกับพวกเรา เพียงแค่ให้เกรดบีหรือซี คงไม่ลำบากลำบนนัก เราคงไม่ต้องสนใจอะไรมากหรอก ยังไงก็ผ่าน!” หวังซานฟ่ากล่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม

“อืม เป็นเช่นนั้น มันก็คงจะเหมือนกับการปฏิบัติในก่อนหน้านี้” นักเรียนอีกคนกล่าวออกมาอย่างเห็นด้วย

“อืม ถูกต้อง แต่โรงเรียนก็หวังอย่างยิ่งว่าหัวหน้ากองทัพจะให้เกรดที่สูงขึ้นกว่าเดิม”

“รวมพลในตลาด!”

“รวมพล!”

หลังจากที่ลั่วหยุนปั๋วตะโกนออกมาเสียงดัง นักเรียนทุกคนรีบรวมพลกันอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดพร้อมกันที่กลางลานของตลาดบนยอดเขาหิมะอย่างพร้อมเพรียง

จำนวนนักเรียนนั้นมีเพียงร้อยคนเท่านั้น ทุกคนล้วนแต่อยู่ในเครื่องแบบของโรงเรียนมัธยมเทียนหลาน

เมื่อนักเรียนทั้งหมดรวมตัวกันและจัดแถวอย่างรวดเร็ว ทำให้สายตาของนักเวทรอบๆจ้องมองมาในทันที ทั้งหมดเริ่มจับจ้องสายตาและเดินมาล้อมนักเรียนเหล่านี้ไว้อย่างสนอกสนใจพร้อมกับแสดงใบหน้าที่เย้ยหยันออกมาเล็กน้อย

“เฮ้ ดูนี่สิ เด็กฝึกงานกลุ่มใหม่น่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเราจะได้เห็นเด็กใหม่แสดงละครเป็นคนโง่เขลาอีกแล้วล่ะ!” ชายหนุ่มที่มีใบหน้าคล้ายกับหนูป่ากล่าวออกมา

“ถูกแผงเลย! ช่วงเวลาที่มีเด็กโง่มาฝึกงานนี่แหละเป็นช่วงที่ยอดเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยความสดชื่น ฮ่าฮ่า ฉันขอเดาเลยนะว่าจะมีเด็กหนึ่งคนที่จะต้องฉี่แตกใส่กางเกงของตัวเองเพราะว่ากลัวจนหัวหด! เอะ หรือมันน้อยไป? ฮ่าฮ่า” ชายอีกคนกล่าวออกมาพร้อมหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

“ฉันเดาว่าสามสิบคนแล้วกัน ฮ่าฮ่า!”

“แล้วอีกเจ็ดสิบคนว่าไงล่ะ? เป็นลมเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า”

นักเรียนที่ยืนอยู่กลางลานของตลาดนั้น แน่นอนว่าพวกเขาได้ยินเสียงเหล่านั้นอย่างชัดเจน

ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่แล้วดูเหมือนว่าจะชื่นชอบความโชคร้ายของผู้อื่นอย่างมาก อีกทั้งพวกเขาไม่ได้พยายามปกปิดความรังเกียจที่ตนเองมีต่อเด็กเหล่านี้แม้แต่น้อย

นักเรียนถูกแบ่งออกเป็นห้ากลุ่ม กลุ่มละยี่สิบคน พวกเขามีอาจารย์ประจำกลุ่มหนึ่งคนและอาจารย์ทหารอีกสองคนยืนอยู่ด้านหน้า

“หัวหน้ากองทัพ!”

“หัวหน้ากองทัพมาถึงแล้ว!”

หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มนักเวทสวมใส่เครื่องแบบเต็มยศได้เดินออกมาตรงหน้าของนักเรียน ออร่าที่ออกมาจากร่างกายพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความสง่างามและดูแข็งแกร่งอย่างมาก

บุคคลที่เดินนำหน้ากองทัพเหล่านั้นมาก็คือชายหนุ่มรูปงามผู้ที่ยืนเล่นกับเปลวไฟอยู่ด้านหน้าของประตูทางเข้า จ้านคง!

จ้านคงนั้นเป็นบุคคลที่ดูจะเด็กกว่าคนอื่น แต่ทว่าเขาอยู่ในฐานะหัวหน้ากองทัพ คนภายนอกนั้นมองมาจะเห็นว่ารูปร่างหรือหน้าตาของเขานั้นไม่ทำให้ผู้ใดคาดคิดว่าเขาจะเก่งกาจและอยู่ในสถานะที่สูงส่งเช่นนั้นเลย…

••••••••••••••••••••

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด