AGKMW บทที่ 6: หรือมนุษย์เหล่านี้รู้จักข้า
AGKMW บทที่ 6: หรือมนุษย์เหล่านี้รู้จักข้า
เวลาหนึ่งอาทิตย์ได้ผ่านไป บรรดาแพทย์ต่างพากันแปลกใจกับอัตราการฟื้นฟูของอาทรอกซ์ ภายในเวลาอาทิตย์เดียว เขาเปลี่ยนจากคนที่มีความแข็งแกร่งเท่ากับ 10% ของคนธรรมดาไปเป็นคนธรรมดาที่อ่อนแอ
พวกเขาพยายามทดสอบหลายอย่างเพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติกับเขาบ้างไหม แต่ร่างกายของเขาก็ปกติดี
พ่อแม่ของเขามาเยี่ยมทุกวันพร้อมกับน้องๆของเขา สิ่งที่อาทรอกซ์ชอบมากที่สุดก็คือโทรศัพท์มือถือนี้ เครื่องมือเล็กๆในมือนี้มีข้อมูลแทบทุกอย่างที่เขาต้องการ
เขาพยายามที่จะค้นคว้าหาผู้ฝึกตนแต่สิ่งเดียวที่เขาพบก็คือหนังสือบางเล่มที่ผู้คนเรียกว่า “นวนิยาย” หนังสือเหล่านี้พรรณาการฝึกวิชาเป็นบางสิ่งที่ลึกลับและไม่มีจริง
อาทรอกซ์รู้สึกว่ามันช่างน่าขันและปล่อยทิ้งไว้ดูภายหลัง
ทุกคืนอาทรอกซ์เพียงโคจรพลังวิชาผู้สังหารเทพในร่าง เขาต้องหยุดการฝึกฝนบ่อยขึ้นก่อนออกจากโรงพยาบาล ซึ่งจะได้ไม่มีใครสังเกตเห็นพัฒนาการของเขาด้วยเครื่องกลเหล่านี้ได้
วันนี้อาทรอกซ์ยืนอยู่ข้างเตียงสวมเสื้อผ้าที่พ่อแม่ของเขาได้นำมาให้เขาวันก่อนหน้า เสื้อเชิ้ตสีดำ ยีนและรองเท้าผ้าใบสีขาว ผมยาวของเขาถูกผูกรวบไว้ ใบหน้าของเขาซึ่งเคยผอมจนเห็นกระดูกบัดนี้ยังดูผอมแต่ดูมีสุขภาพดี
เมื่ออาทรอกซ์แต่งตัวเสร็จแล้ว เขาก็ยัดโทรศัพท์มือถือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและออกไปจากห้องเพื่อพบกับพ่อแม่
หลังจากพูดอำลานายแพทย์อ๊อกตาเวียส พวกเขาก็ไปยังสนามบินเพื่อกลับบ้าน
ระหว่างการบิน พ่อแม่และน้องทั้งสองต่างพากันพูดจากับอาทรอกซ์มากมายต่อเนื่อง ระหว่างอาทิตย์นี้ พวกเขาต่างประหลาดใจกับบุคลิกของลูกชาย เบ็นจี้คนเดิมเป็นเด็กขี้อายที่ไม่มีเพื่อน หลังจากที่ตื่นขึ้นกลับดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้เขาฉายแววแห่งความมั่นใจและตลอดช่วงเวลาเหล่านี้อารมณ์ประเภทเดียวที่เขาแสดงออกก็คือความมั่นใจและความสุข
บิดามารดาของเขารู้สึกดีใจมากที่เห็นความเปลี่ยนแปลงนี้กับลูก พวกเขากลัวว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเขากลับเข้าไปในโรงเรียนถ้าเพื่อนของเขาทุกคนอายุมากขึ้นแต่เขายังคงมีความคิดแบบเดิม แต่ตอนนี้พวกเขาก็ใจเย็นลงแล้ว
แต่อาทรอกซ์กลับคิดบางสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขามักจะเหาะเหินไปโดยใช้พลังเวทเป็นเชื้อเพลิงแต่เมื่อเห็นว่ามนุษย์บนโลกนี้พัฒนายานขนาดใหญ่ที่สามารถขนผู้คนจำนวนมากไปเหนือเมฆได้ย่อมสร้างความประหลาดใจให้กับเขา
“ความรู้ที่มนุษย์เหล่านี้พัฒนาขึ้นช่างน่าสนใจ บางทีข้าควรเรียนบางอย่างที่นี่ที่น่าจะมีประโยชน์ต่อการฝึกวิชาของข้า” อาทรอกซ์คิดขณะที่เขามองออกไปข้างนอกผ่านหน้าต่างของเครื่องบิน
หลังจากลงจอกแล้วครอบครัวก็ใช้แท็กซี่สองคัน ในเมื่อพวกเขามีห้าคน ย่อมไม่พอกับแท็กซี่คันเดียว
เมื่อรถจอดแล้วมองออกไปข้างนอก อาทรอกซ์ก็เห็นที่พักของครอบครัวนี้ ความทรงจำของเบ็นจี้บอกเขาบางอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาเป็นเด็ก
“เด็กๆ ทำไมพวกเธอไม่พาพี่ชายไปชมบ้านอีกครั้งเพื่อเขาจะได้จำได้” อมันดาแนะนำสองฝาแฝด
“ใช่แล้ว มาเร็วพี่” ไบรอัลกล่าวขณะที่เขาจับมืออาทรอกซ์ไว้และลากเขาเข้าไปข้างใน
บรูน่าจับมือของเขาอีกข้างไว้และพวกเขาทั้งคู่ก็พาเขาเข้าไปด้านใน
มองดูรอบๆอาทรอกซ์ก็เริ่มจดจำข้อมูลบางอย่าง แต่เพราะว่าร่างนี้ไม่ได้มีความจำที่ดีนัก มิหนำซ้ำยังโคม่าอีกด้วย อาทรอกซ์มีเพียงความทรงจำเดิมในสิ่งที่เบนจามินคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญมากเท่านั้น
หลังจากที่เด็กๆพาเขาไปเยี่ยมชมทุกห้องแล้ว พวกเขาก็มาหยุดที่ประตูบานหนึ่งและมองดูอาทรอกซ์ด้วยดวงตาที่คาดหวัง
“มีอะไรเหรอ” อาทรอกซ์ถามด้วยความอยากรู้
“มอมพูดว่าพวกเราสามารถเข้าไปในห้องพี่ได้ก็ตอนเมื่อพี่ตื่นขึ้นแล้ว” บรูน่าพูด
“เปิดประตูสิพี่” ไบรอันพูดด้วยความกระตือรือล้น
มองเข้าไปในดวงตาของพวกเขา อาทรอกซ์ก็ยื่นมือซ้ายไปที่ลูกบิดประตูและเปิดประตูออก มองเข้าไปข้างในเขาก็รู้สึกประทับใจ เซียนผู้ที่สนใจเฉพาะดาบและสงคราม อาทรอกซ์ ไม่เคยสนใจกับสิ่งของของมนุษย์
ห้องตรงหน้าเขามีหลายสิ่งที่หลงเหลือไว้ ตุ๊กตาฟิกเกอร์ที่สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นบางตัว โปสเตอร์งานออกแบบบางชนิดของฟิกเกอร์สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นเหล่านี้ และที่มุมห้องมีเครื่องจักรที่มีจอภาพ ความทรงจำบอกว่ามันคือสิ่งที่เรียกว่า คอมพิวเตอร์ “มันให้ความสนุกมากมายตามที่ความทรงจำบอกไว้จริงรึ” อาทรอกซ์คิด
ขณะที่น้องๆของเขากำลังประหลาดใจกับตุ๊กตาฟิกเกอร์ที่แสดงท่าทางอยู่ อาทรอกซ์ก็ตรงเข้าไปยังคอมพิวเตอร์และเปิดสวิทช์
[ยินดีต้อนรับ เบนจิ] บนหน้าจอปรากฏตัวอักษร
นั่งลงบนเก้าอี้ อาทรอกซ์ก็เริ่มมองไปยังบนโต๊ะและพยายามที่จะนึกถึงวิธีการใช้เครื่องนี้
สัญชาตญาณบอกว่าเขาควรวางมือขวาลงบนชิ้นพลาสติกที่มีสายเชื่อม เมื่อมือของเขาสัมผัสกับเมาท์ ร่างกายของเขาก็ขยับด้วยตนเองและทำทุกสิ่งที่อาทรอกซ์คิด ทั้งหมดจากความทรงจำของกล้ามเนื้อ
มองหาสิ่งสนุกสนานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ อาทรอกซ์ก็ได้เข้าไปในเวปไซต์วิดีโอสีแดงที่โด่งดังมาก (TL : ยูทูป)
มองดูวิดีโอ หนึ่งในนั้น ทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจ
[วิธีเล่นคนป่าอาทรอกซ์ใน ลีกออฟเลเจนด์ (League of Legends)]
(TL : ดู https://th.wikipedia.org/wiki/ลีกออฟเลเจนด์)
“เหอ … อาทรอกซ์ … หรือว่ามนุษย์พวกนี้รู้จักข้า …” อาทรอกซ์พูดออกมาด้วยความประหลาดใจในน้ำเสียง
เมื่อเปิดวิดีโอเขาก็ได้ยินเสียงมนุษย์ แต่เมื่อมองดูที่ภาพเขาก็ไม่อาจละความสนใจอีก ในฉากเล็กๆนี้ อาทรอกซ์เห็นอาทรอกซ์ตัวเล็กที่ดูเหมือนถูกบังคับโดยมนุษย์ผู้ที่โพสต์วิดีโอไว้
ที่เลวร้ายที่สุดก็คือ อาทรอกซ์ตัวเล็กนี้เหมือนกับเขาหลังจากที่กลายเป็นราชันย์เทพอย่างมาก…
“นี่ก็ด้วยรึ….” มองดูไปยังข้อมูลบนหน้าจอที่อยู่รอบๆ อาทรอกซ์ก็เห็นราชันย์เทพอื่นๆอีกหลายตัวที่เขาพบในชีวิตก่อนก็ถูกควบคุมโดยผู้เล่นเหล่านี้ด้วย
“เคน..หญิงเลวอาริ...เดี๋ยวก่อน ทำไมเทรซและลูเซียนช่วยเหลือกัน ...เกิดอะไรขึ้น..” อาทรอกซ์รู้สึกสงสัยจนเขาดึงทึ้งผมอย่างหมดอาลัยตายอยาก
GKM บทที่ 6: หรือมนุษย์เหล่านี้รู้จักข้า
เวลาหนึ่งอาทิตย์ได้ผ่านไป บรรดาแพทย์ต่างพากันแปลกใจกับอัตราการฟื้นฟูของอาทรอกซ์ ภายในเวลาอาทิตย์เดียว เขาเปลี่ยนจากคนที่มีความแข็งแกร่งเท่ากับ 10% ของคนธรรมดาไปเป็นคนธรรมดาที่อ่อนแอ
พวกเขาพยายามทดสอบหลายอย่างเพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติกับเขาบ้างไหม แต่ร่างกายของเขาก็ปกติดี
พ่อแม่ของเขามาเยี่ยมทุกวันพร้อมกับน้องๆของเขา สิ่งที่อาทรอกซ์ชอบมากที่สุดก็คือโทรศัพท์มือถือนี้ เครื่องมือเล็กๆในมือนี้มีข้อมูลแทบทุกอย่างที่เขาต้องการ
เขาพยายามที่จะค้นคว้าหาผู้ฝึกตนแต่สิ่งเดียวที่เขาพบก็คือหนังสือบางเล่มที่ผู้คนเรียกว่า “นวนิยาย” หนังสือเหล่านี้พรรณาการฝึกวิชาเป็นบางสิ่งที่ลึกลับและไม่มีจริง
อาทรอกซ์รู้สึกว่ามันช่างน่าขันและปล่อยทิ้งไว้ดูภายหลัง
ทุกคืนอาทรอกซ์เพียงโคจรพลังวิชาผู้สังหารเทพในร่าง เขาต้องหยุดการฝึกฝนบ่อยขึ้นก่อนออกจากโรงพยาบาล ซึ่งจะได้ไม่มีใครสังเกตเห็นพัฒนาการของเขาด้วยเครื่องกลเหล่านี้ได้
วันนี้อาทรอกซ์ยืนอยู่ข้างเตียงสวมเสื้อผ้าที่พ่อแม่ของเขาได้นำมาให้เขาวันก่อนหน้า เสื้อเชิ้ตสีดำ ยีนและรองเท้าผ้าใบสีขาว ผมยาวของเขาถูกผูกรวบไว้ ใบหน้าของเขาซึ่งเคยผอมจนเห็นกระดูกบัดนี้ยังดูผอมแต่ดูมีสุขภาพดี
เมื่ออาทรอกซ์แต่งตัวเสร็จแล้ว เขาก็ยัดโทรศัพท์มือถือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและออกไปจากห้องเพื่อพบกับพ่อแม่
หลังจากพูดอำลานายแพทย์อ๊อกตาเวียส พวกเขาก็ไปยังสนามบินเพื่อกลับบ้าน
ระหว่างการบิน พ่อแม่และน้องทั้งสองต่างพากันพูดจากับอาทรอกซ์มากมายต่อเนื่อง ระหว่างอาทิตย์นี้ พวกเขาต่างประหลาดใจกับบุคลิกของลูกชาย เบ็นจี้คนเดิมเป็นเด็กขี้อายที่ไม่มีเพื่อน หลังจากที่ตื่นขึ้นกลับดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้เขาฉายแววแห่งความมั่นใจและตลอดช่วงเวลาเหล่านี้อารมณ์ประเภทเดียวที่เขาแสดงออกก็คือความมั่นใจและความสุข
บิดามารดาของเขารู้สึกดีใจมากที่เห็นความเปลี่ยนแปลงนี้กับลูก พวกเขากลัวว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเขากลับเข้าไปในโรงเรียนถ้าเพื่อนของเขาทุกคนอายุมากขึ้นแต่เขายังคงมีความคิดแบบเดิม แต่ตอนนี้พวกเขาก็ใจเย็นลงแล้ว
แต่อาทรอกซ์กลับคิดบางสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขามักจะเหาะเหินไปโดยใช้พลังเวทเป็นเชื้อเพลิงแต่เมื่อเห็นว่ามนุษย์บนโลกนี้พัฒนายานขนาดใหญ่ที่สามารถขนผู้คนจำนวนมากไปเหนือเมฆได้ย่อมสร้างความประหลาดใจให้กับเขา
“ความรู้ที่มนุษย์เหล่านี้พัฒนาขึ้นช่างน่าสนใจ บางทีข้าควรเรียนบางอย่างที่นี่ที่น่าจะมีประโยชน์ต่อการฝึกวิชาของข้า” อาทรอกซ์คิดขณะที่เขามองออกไปข้างนอกผ่านหน้าต่างของเครื่องบิน
หลังจากลงจอกแล้วครอบครัวก็ใช้แท็กซี่สองคัน ในเมื่อพวกเขามีห้าคน ย่อมไม่พอกับแท็กซี่คันเดียว
เมื่อรถจอดแล้วมองออกไปข้างนอก อาทรอกซ์ก็เห็นที่พักของครอบครัวนี้ ความทรงจำของเบ็นจี้บอกเขาบางอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาเป็นเด็ก
“เด็กๆ ทำไมพวกเธอไม่พาพี่ชายไปชมบ้านอีกครั้งเพื่อเขาจะได้จำได้” อมันดาแนะนำสองฝาแฝด
“ใช่แล้ว มาเร็วพี่” ไบรอัลกล่าวขณะที่เขาจับมืออาทรอกซ์ไว้และลากเขาเข้าไปข้างใน
บรูน่าจับมือของเขาอีกข้างไว้และพวกเขาทั้งคู่ก็พาเขาเข้าไปด้านใน
มองดูรอบๆอาทรอกซ์ก็เริ่มจดจำข้อมูลบางอย่าง แต่เพราะว่าร่างนี้ไม่ได้มีความจำที่ดีนัก มิหนำซ้ำยังโคม่าอีกด้วย อาทรอกซ์มีเพียงความทรงจำเดิมในสิ่งที่เบนจามินคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญมากเท่านั้น
หลังจากที่เด็กๆพาเขาไปเยี่ยมชมทุกห้องแล้ว พวกเขาก็มาหยุดที่ประตูบานหนึ่งและมองดูอาทรอกซ์ด้วยดวงตาที่คาดหวัง
“มีอะไรเหรอ” อาทรอกซ์ถามด้วยความอยากรู้
“มอมพูดว่าพวกเราสามารถเข้าไปในห้องพี่ได้ก็ตอนเมื่อพี่ตื่นขึ้นแล้ว” บรูน่าพูด
“เปิดประตูสิพี่” ไบรอันพูดด้วยความกระตือรือล้น
มองเข้าไปในดวงตาของพวกเขา อาทรอกซ์ก็ยื่นมือซ้ายไปที่ลูกบิดประตูและเปิดประตูออก มองเข้าไปข้างในเขาก็รู้สึกประทับใจ เซียนผู้ที่สนใจเฉพาะดาบและสงคราม อาทรอกซ์ ไม่เคยสนใจกับสิ่งของของมนุษย์
ห้องตรงหน้าเขามีหลายสิ่งที่หลงเหลือไว้ ตุ๊กตาฟิกเกอร์ที่สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นบางตัว โปสเตอร์งานออกแบบบางชนิดของฟิกเกอร์สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นเหล่านี้ และที่มุมห้องมีเครื่องจักรที่มีจอภาพ ความทรงจำบอกว่ามันคือสิ่งที่เรียกว่า คอมพิวเตอร์ “มันให้ความสนุกมากมายตามที่ความทรงจำบอกไว้จริงรึ” อาทรอกซ์คิด
ขณะที่น้องๆของเขากำลังประหลาดใจกับตุ๊กตาฟิกเกอร์ที่แสดงท่าทางอยู่ อาทรอกซ์ก็ตรงเข้าไปยังคอมพิวเตอร์และเปิดสวิทช์
[ยินดีต้อนรับ เบนจิ] บนหน้าจอปรากฏตัวอักษร
นั่งลงบนเก้าอี้ อาทรอกซ์ก็เริ่มมองไปยังบนโต๊ะและพยายามที่จะนึกถึงวิธีการใช้เครื่องนี้
สัญชาตญาณบอกว่าเขาควรวางมือขวาลงบนชิ้นพลาสติกที่มีสายเชื่อม เมื่อมือของเขาสัมผัสกับเมาท์ ร่างกายของเขาก็ขยับด้วยตนเองและทำทุกสิ่งที่อาทรอกซ์คิด ทั้งหมดจากความทรงจำของกล้ามเนื้อ
มองหาสิ่งสนุกสนานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ อาทรอกซ์ก็ได้เข้าไปในเวปไซต์วิดีโอสีแดงที่โด่งดังมาก (TL : ยูทูป)
มองดูวิดีโอ หนึ่งในนั้น ทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจ
[วิธีเล่นคนป่าอาทรอกซ์ใน ลีกออฟเลเจนด์ (League of Legends)]
(TL : ดู https://th.wikipedia.org/wiki/ลีกออฟเลเจนด์)
“เหอ … อาทรอกซ์ … หรือว่ามนุษย์พวกนี้รู้จักข้า …” อาทรอกซ์พูดออกมาด้วยความประหลาดใจในน้ำเสียง
เมื่อเปิดวิดีโอเขาก็ได้ยินเสียงมนุษย์ แต่เมื่อมองดูที่ภาพเขาก็ไม่อาจละความสนใจอีก ในฉากเล็กๆนี้ อาทรอกซ์เห็นอาทรอกซ์ตัวเล็กที่ดูเหมือนถูกบังคับโดยมนุษย์ผู้ที่โพสต์วิดีโอไว้
ที่เลวร้ายที่สุดก็คือ อาทรอกซ์ตัวเล็กนี้เหมือนกับเขาหลังจากที่กลายเป็นราชันย์เทพอย่างมาก…
“นี่ก็ด้วยรึ….” มองดูไปยังข้อมูลบนหน้าจอที่อยู่รอบๆ อาทรอกซ์ก็เห็นราชันย์เทพอื่นๆอีกหลายตัวที่เขาพบในชีวิตก่อนก็ถูกควบคุมโดยผู้เล่นเหล่านี้ด้วย
“เคน..หญิงเลวอาริ...เดี๋ยวก่อน ทำไมเทรซและลูเซียนช่วยเหลือกัน ...เกิดอะไรขึ้น..” อาทรอกซ์รู้สึกสงสัยจนเขาดึงทึ้งผมอย่างหมดอาลัยตายอยาก