ตอนที่แล้วAGKMW บทที่ 9: มดและแมงมุมปะทะช้าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปAGKMW บทที่ 11: Double Kill

AGKMW บทที่ 10: คุณยังโชคดี


AGKMW บทที่ 10: คุณยังโชคดี

จอห์นยังคงจ้องมองอย่างโกรธแค้นในขณะที่อาทรอกซ์ก็จ้องมองกลับไปอย่างไม่แยแส จิมมี่เป็นศิษย์คนหนึ่งที่จอห์นโปรดปราน เขามักจะทำตัวตลกและเคารพต่อผู้อาวุโสเสมอ จิมมี่ค่อนข้างจะรังเกียจคนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงเรียนดาบบาฮามุต แต่ในเมื่อจอห์นเป็นสมาชิกเช่นกัน เขาจึงไม่ใส่ใจ

ชายชราไปอยู่ระหว่างพวกเขาอีกครั้งและสั่งเริ่มการต่อสู้ ทันทีที่การดวลเริ่มต้น จอห์นก็พุ่งตัวเข้าไปหาอาทรอกซ์หมายมุ่งในการแก้แค้นให้กับเพื่อนศิษย์ จอห์นต้องการแสดงให้เห็นว่า ใครก็ไม่สามารถทำร้ายศิษย์ร่วมสำนักของเขาและจากไปได้ทั้งอย่างนั้น ภาพใบหน้าที่หวาดกลัวของอาทรอกซ์หลังจากที่ถูกทำร้ายพิการฉายอยู่ในใจของเขา และเขาไม่อาจทนรอที่จะแก้แค้น เขาไม่สนใจแม้แต่น้อยว่านั่นจะผิดกฏหมาย จอห์นเกิดในตระกูลร่ำรวย ต่อให้ครอบครัวของเด็กชายเรียกตำรวจ เขาก็เพียงเรียกพ่อของเขาและพ่อก็จะสามารถแก้ไขปัญหาให้เขาได้

ดาบของจอห์นวาดไปยังอาทรอกซ์ คมดาบทื่อด้านมุ่งแก้แค้นโทษทัณฑ์ของศัตรู เมื่อดาบเข้าไปใกล้จุดหมาย อาทรอกซ์ก็เบี่ยงมันไปได้โดยไม่ต้องมีความพยายามใดด้วยปลายดาบ ทำให้มันพุ่งไปโดยไร้จุดหมายปล่อยให้ผู้ถือมันไร้การป้องกันตัวโดยสิ้นเชิง อาทรอกซ์จบการสะบัดดาบเป็นเส้นโค้งสมบูรณ์แบบจากตำแหน่งที่มันเคยอยู่ ตัดลงไปยังมือที่จับดาบของจอห์น จอห์นรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่รุนแรงที่ข้อมือขวา เขาไม่แม้จะทันได้เห็นว่าอาทรอกซ์หลบการโจมตีได้อย่างไร ได้แต่กุมข้อมือขวาตามสัญชาตญาณ

อาทรอกซ์มองดูอีกฝ่ายกุมข้อมือด้วยความเจ็บปวดขณะที่หัวเราะในใจ “ช่างเดาได้ง่ายนัก เพียงแค่ข้าทำร้ายศิษย์น้องของเจ้าในการดวลที่ยุติธรรม เจ้าก็หาทางแก้แค้นพยายามจะทำข้าพิการ ช่างเป็นเรื่องขายหน้าที่กลับกลายเป็นเจ้าที่มือต้องพิการแทน”

ก่อนที่ชายชราจะทันได้วิ่งไปช่วยเหลือศิษย์คนโปรด เขาก็เห็นเงาวูบผ่านเมื่ออาทรอกซ์ตวัดดาบอีกครั้งไปยังข้อมืออีกข้างของจอห์น

“ในขณะที่ผมแนะนำตัวผมก็ได้รับคำเยาะเย้ยและทัศนคติเชิงลบ ตอนนี้ในการดวล”ฉันมิตร“ศิษย์ของคุณก็พยายามทำร้ายผมพิการ คุณมีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกไหม ผู้เฒ่า” อาทรอกซ์พูดออกมาขณะที่ยืนอยู่ข้างจอห์นที่นั่งคุกเข่า เผชิญหน้ากับชายชรา

มองดูอาการบาดเจ็บบนข้อมือทั้งสองข้างของจอห์น ชายชราก็ประเมินได้ว่าวิถีทางในศิลปะการต่อสู้ของจอห์นได้จบสิ้นแล้ว บาดแผลเหล่านี้คงใช้เวลาประมาณสองสามเดือนในการรักษา ซึ่งในเวลานั้นศิษย์คนโปรดของเขาก็คงไม่ดีไปกว่าคนพิการ

“คนรุ่นใหม่ต้องการรับการสั่งสอนจริงๆ” ชายชราตะโกนออกมาด้วยใบหน้าแดงด้วยความโกรธ เส้นเลือดบนหน้าผากของเขากระตุกราวกับหัวใจเต้น “วันนี้เธอยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่ง เธอจะไม่มีวันคืนที่หลับอย่างเป็นสุขในเมืองนี้อีกต่อไป”

อาทรอกซ์เตรียมตัวจะสั่งสอนชายชรานี้สักครั้ง ยามนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีคนคุ้นเคยกำลังมุ่งมา เมื่อเหลือบมองไปทางด้านนั้น เขาก็เห็นหัวเล็กๆสองหัวมองหาบางสิ่งไปรอบๆ

“คุณโชคดี ผู้เฒ่า คุณควรคาดหวังไม่ให้ผมเห็นคุณอีก”  อาทรอกซ์กล่าวขณะที่เขาโยนดาบลงไปบนพื้นและเดินไปทางญาติของเขาที่กำลังตามหาเขาอยู่

ในชีวิตก่อนอาทรอกซ์ไม่เคยใส่ใจใคร และในทางกลับกันก็ไม่มีใครสนใจเขาเช่นกัน ตอนนี้เมื่อเขามีครอบครัวที่รักเขา เขาก็ไม่ใส่ใจที่จะปล่อยคนสองสามคนไปเพื่อไม่ให้แปดเปื้อนจิตใจน้องของเขา อาทรอกซ์รีบเดินออกไปพ้นสายตาของพวกเขาและเรียกน้องสองคนจากด้านหลัง “บรูน่า ไบรอัน ทางนี้” พวกเขาต่างพากันตะลึง แต่เมื่อพวกเขามองกลับไปและเห็นว่าใครเรียกพวกเขา พวกเขาต่างพากันดีใจรีบวิ่งเข้าไปกอดเขา

“มอมส่งพวกเรามาหาพี่ อาหารพร้อมแล้ว ไปกันเถอะ” ไบรอัลกล่าวขณะที่เขาดึงแขนอาทรอกซ์ไป

“หลังจากอาหารเที่ยง มอมบอกว่าพวกเราสามารถขอให้พี่เล่นกับพวกเราด้วยก็ได้ พี่จะเล่นกับพวกเราไหมพี่ใหญ่” บรูน่าถาม ดวงตาเธอเป็นประกายด้วยความคาดหวัง

เมื่อเห็นใบหน้าไร้เดียงสาที่คาดหวังให้เขาเข้าร่วมด้วย อาทรอกซ์ก็โยนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทิ้งไปจากใจและพยักหน้า

...

หลังจากที่อาทรอกซ์ขู่เขาและจากไป ชายชราได้หยุดบรรดาศิษย์ที่ต้องการที่จะตามเขาไปและเริ่มยิ้มอย่างเป็นสุข คิดว่าเด็กชายวิ่งหนีไปด้วยความกลัวเขา

“อย่ากังวลไปเด็กๆ พวกเธอยังมีเวลาแก้แค้น” ชายชรากล่าวกับจอห์นและจิมมี่ด้วยรอยยิ้มปีศาจบนใบหน้า

“ครับอาจารย์” ทั้งสองคนตอบประสานเสียงด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกัน

เมื่อเห็นกลิ่นอายกดดันที่เกิดขึ้นรอบตัวพวกเขา คนเดียวที่ไม่ได้รู้สึกดีในสภาพแวดล้อมนี้คือไซอัน เพราะว่าครอบครัวเธอ เธอจึงต้องเข้ามายังโรงเรียนดาบแห่งนี้เพื่อฝึกป้องกันตัวสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เธอพยายามที่จะอ้อนวอนมารดาของเธอให้จ้างครูฝึกมาเป็นส่วนตัว แต่มารดาเธอยืนยันว่าเธอต้องการพบปะกับคนมากขึ้นและมีเพื่อนมากขึ้น ดังนั้นเธอต้องลงทะเบียนเรียนหนึ่งในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในเมือง บาฮามุต เพื่อเธอจะสามารถเรียนรู้การเข้าสังคมด้วย

เมื่อเห็นทุกคนรอบตัวเธอมีรอยยิ้มปีศาจยามเมื่อพวกเขาคิดหาหนทางแก้แค้น ไซอันไม่อาจทนได้อีกต่อไปได้แต่หลบออกไป

มาถึงทางเข้าสวนไซอันก็พบคนขับรถของเธออยู่บนรถออดี้สีดำรอเธออยู่

“นายหญิง เรียนจบเร็วกว่าปกติเหรอ” เขาถาม

“ไม่ อีเลียต พวกเขาท้าทายเด็กชายคนหนึ่งให้มาดวล แต่ผลกลับตรงกันข้ามกับที่พวกเขาคาดไว้ เด็กชายทุบตีจิมมี่และจอห์น พอไม่อาจทนความพ่ายแพ้ได้ พวกเขาตอนนี้กำลังคิดหาวิธีการแก้แค้นและวางแผนเล่นงานอีกฝ่าย ฉันทนไม่ได้อีกต่อไปจึงออกมา ฉันไม่ต้องการเจอพวกเขาอีก” ไซอันกล่าวขณะที่เธอนั่งลงบนที่นั่งในรถอย่างหงุดหงิด

“ถ้าผมรู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างนี้ ผมคงพยายามหว่านล้อมคุณนายให้จ้างครูฝึกส่วนตัวมาให้คุณแล้ว นายหญิง” อีเลียตกล่าวอย่างโกรธเคืองเมื่อรู้ว่าคนพวกนั้นใช้ศิลปะการต่อสู้ในการรังแกคนอ่อนแอ

เมื่อมาถึงบ้าน ไซอันบอกมารดาเธอเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นและมารดาของเธอก็โทรหาชายชราเพื่อบอกว่าลูกสาวเธอจะไม่ไปเข้าเรียนอีกต่อไป

หลังจากที่วางโทรศัพท์ ชายชราก็ยิ่งโกรธ ครอบครัวจอห์นและไซอันถือว่าเป็นผู้สนับสนุนหลักของเขา เขารู้ว่าจอห์นเป็นลูกชายของนักธุรกิจร่ำรวย ในขณะที่ครอบครัวของไซอันให้เงินสนับสนุนโรงฝึกของเขาและเธอก็มักจะมาด้วยรถแพงพร้อมกับคนขับรถส่วนตัวเสมอ ซึ่งเขาก็จะขับรถรับเธอไปกลับจากการเรียน แต่ในวันเดียวเขาก็สูญเสียผู้สนับสนุนหลักทั้งสองคน

ตอนนี้หนึ่งในนักเรียนของเขาซึ่งคอยช่วยเขาถ้าหากเกิดสิ่งเลวร้ายขึ้นได้กลายเป็นคนพิการและคงได้แต่จากไป ชายชราย่อมโกรธแค้น ยิ่งไปกว่านั้นไซอันจากไปในวันเดียวกับการดวล ซึ่งดูเหมือนว่าเธอคงเห็นว่าโรงฝึกอ่อนแอในเมื่อพวกเขาพ่ายแพ้อย่างไมเป็นท่าให้กับเด็กชายที่มาจากไหนก็ไม่รู้ในสวนสาธารณะ ความกระหายในการแก้แค้นของชายชราต่ออาทรอกซ์ยิ่งเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

...

ในเวลานั้นอาทรอกซ์ได้วิ่งเล่นสนุกไปทั่วสวนกับเด็กเล็กทั้งสองที่ต้องการเล่นกับเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด