ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0325 [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0327 [อ่านฟรี]

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0326 [อ่านฟรี]


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

••••••••••••••••••••

ตอนที่ 326 : ตอบโต้ด้วยโทสะ

เมื่อทุกคนได้เห็นสีหน้าแปรเปลี่ยนของหลันเฉิน พวกเขาต่างคิดภายใน เชื่อมั่นว่าฉินหยุนฝึกฝนวิชาของปีศาจเป็นแน่แท้แล้ว

หลายคนเผยดวงตาเบิกออกกว้างขณะรับชม พวกเขาเชื่อว่าฉินหยุนต้องตาย ณ ที่นี้!

หลันเฉินประหลาดใจ เพราะเขาพบโทเทมมังกรพยัคฆ์ที่หัวใจของฉินหยุน นอกจากนี้ วิญญาณยุทธ์สั่นไหว ยังเป็นวิญญาณยุทธ์สีดำ!

“ฉินหยุนหาได้ฝึกฝนวิชาปีศาจ!” หลันเฉินกล่าวคำเชื่องช้า ขณะถอนมือออก และสูดลมหายใจเข้าลึก

จี้เสวียนอีร่างกายแข็งทื่อ กล้ามเนื้อคล้ายหมดสิ้นเรี่ยวแรง! เขาไม่อาจยอมรับความจริงนี้!

ฉินหยุนไม่ได้ฝึกฝนวิชาปีศาจ เช่นนั้นหมายความถึงเขาสังหารจี้ไค่หลินด้วยพละกำลังล้วน!

พรสวรรค์ของจี้ไค่หลินถือว่าเหนือล้ำ ทั้งยังครอบครองเจ็ดเส้นวิญญาณ รวมถึงครอบครองวิญญาณยุทธ์กิเลนสายฟ้า และยังได้รับอุปกรณ์ลึกล้ำอย่างดาบชีพจรอสนีบาต แต่แล้วก็ยังไม่อาจสังหารฉินหยุน!

“ข้าย่อมไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อ... หากฉินหยุนไม่ได้ใช้วิชาปีศาจ แล้วเขาสังหารอาหลินได้อย่างไร?” ดวงตาของจี้เสวียนอีแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงโกรธแค้น “อาหลินต้องไม่ตายโดยสูญเปล่า ฉินหยุนต้องฝึกฝนวิชาปีศาจ เขาต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”

ท่ามกลางการประลองเสี่ยงชีวิต ไม่มีผู้ใดต้องรับผิดชอบ!

กระนั้น เขากลับยืนกรานดื้อรั้นบอกว่าฉินหยุนฝึกฝนวิชาปีศาจ เป็นเขาไม่ยอมปล่อยวางเรื่องราวที่หยิบยกขึ้นมาเอง!

หลันเฉินเผยเสียงดัง “ฉินหยุนหาได้ฝึกฝนวิชาปีศาจไม่ เขาครอบครองวิญญาณยุทธ์สั่นไหวจริง ทั้งยังเป็นระดับสีดำ! ดังทุกคนทราบ วิญญาณยุทธ์ทองม่วงถือเป็นระดับสูงที่สุด! กระนั้น เหนือกว่าระดับทองม่วง ก็ยังมีวิญญาณยุทธ์สีดำอยู่”

“วิญญาณยุทธ์สั่นไหวของฉินหยุน เป็นวิญญาณยุทธ์สีดำ!”

“วิญญาณยุทธ์ซึ่งแข็งแกร่งที่สุด ครอบครองความสามารถผสานรวมกับร่างกายเป็นหนึ่ง วิญญาณยุทธ์และร่างกายจะผสานรวมเข้าด้วยกัน ยิ่งก่อให้เกิดพลังตามคุณลักษณะที่มากขึ้น!”

เป็นวิญญาณยุทธ์สีดำในตำนาน!

ฮือ! ฮา!

เสียงร้องด้วยความตื่นตกใจปกคลุมทั่วทั้งซากปรักหักพัง!

วิญญาณยุทธ์สีดำในตำนาน มันเหนือล้ำกว่าที่ผู้ใดคาดคิด!

กระทั่งในตำราโบราณ ยังไม่มีการกล่าวอ้างถึง

“วิญญาณยุทธ์สีดำ! ข้าเพียงเคยได้ยิน แต่ไม่นึกเลยว่ามันจะมีอยู่จริง!”

“นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นถึงวิญญาณยุทธ์ในตำนาน น่ากลัวนัก ฉินหยุนช่างเก็บซ่อนไว้ได้มิดชิดยิ่ง ไม่แปลกใจเลยที่จัดการจี้ไค่หลิน แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีอุปกรณ์ลึกล้ำก็ตาม!”

“จี้ไค่หลินสมควรตายแล้ว!”

“นั่นแทบเทียบเท่าวิญญาณยุทธ์แห่งสวรรค์ประทาน พรสวรรค์ของฉินหยุนช่างน่ากลัวนัก! น่าเสียดายที่เขามีเส้นวิญญาณเพียงหนึ่ง ไม่เช่นนั้นคงเป็นการท้าทายสวรรค์แล้ว!”

บรรดาผู้ฝึกตนต่างสนทนากันอย่างออกรส

เชี่ยวหยางหลงกำหมัดเอาไว้แน่น เขาไม่เคยคิด ว่าฉินหยุนจะเก็บซ่อนพลังน่าสะพรึงเพียงนี้เอาไว้

หากฉินหยุนก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า เขาก็ไม่มั่นใจแล้วว่าจะเอาชนะฉินหยุนได้!

ทว่า ฉินหยุนเพียงอยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า

จี้เสวียนอีเหม่อมองฉินหยุน พร้อมกันนี้ ความริษยาพลันทะลักในหัวใจล้นพ้น

จี้ไค่หลินถูกฉินหยุนสังหาร หลานชายมากพรสวรรค์ของเขาตายไปแล้ว กระทั่งเถ้ากระดูกยังไม่หลงเหลือ

เขาคิดอยากสังหารฉินหยุนแรงกล้า กระนั้นตอนนี้ไม่มีโอกาสแล้ว!

“จี้เสวียนอี เจ้าก่อการทำชั่ว ทำการขัดต่อกฎของตำหนักศักดิ์สิทธิ์อย่างร้ายแรง ข้าต้องลงทัณฑ์เจ้า!” หลันเฉินกล่าวเสียงเย็น “เจ้าไม่คล้ายเป็นผู้สำนึกผิดแม้สักนิด!”

“ข้า... ข้าทราบความผิดแล้ว!” จี้เสวียนอีกัดฟันแน่น สายตาจับจ้องที่ฉินหยุน

หลันเฉินหาได้สนใจ ก่อนจะมองไปยังฉินหยุน เขากล่าวออก “ฉินหยุน ข้าคิดรับศิษย์เพียงหนึ่ง อู๋เฟิงเป็นศิษย์ข้าแล้ว กระนั้นเขาก็ยังไม่ได้รับการประกาศว่าเป็นศิษย์ข้าอย่างเป็นทางการ!”

“ตอนนี้ ข้าคิดอยากรับเจ้าเป็นศิษย์คนที่สอง เจ้าจะว่าอย่างไร?”

ผู้คนต่างทราบ ว่าหลันเฉินแข็งแกร่งเพียงใด เขาคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตำหนักศักดิ์สิทธิ์

ย้อนกลับไป ครั้งตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามยังอยู่ในแดนยุทธ์อ้างว้าง พวกเขาแทบถูกทำลาย เป็นหลันเฉินที่พลิกกระแสน้ำ นำพาทั่วทั้งตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามกลับมาที่นี่

เซี่ยอู๋เฟิงยินดียิ่ง หากฉินหยุนรับหลันเฉินเป็นอาจารย์ เขาและฉินหยุนจะได้เป็นศิษย์พี่น้องกันในภายหน้าอย่างแท้จริง

“ท่านต้องการให้ข้ารับเงื่อนไขใดหรือไม่ขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

พอทุกคนได้ยินดังนี้ พวกเขาพลันรู้สึก ว่าฉินหยุนออกจะโง่งมเกินไปแล้ว ถึงขั้นจะได้รับหลันเฉินเป็นอาจารย์ แน่นอนว่าหากเป็นพวกเขา แม้มีเงื่อนไขอันใดก็ต้องรับอย่างไม่ต้องคิด

หลันเฉินกล่าว “เจ้าต้องรับฟังคำข้าหากต้องการเป็นศิษย์ เพราะสถานการณ์ของเจ้าค่อนข้างพิเศษ เจ้าจะต้องฝึกฝนตามเส้นทางการฝึกตนที่ข้ามอบให้อย่างเข้มงวด ไม่เช่นนั้นการฝึกฝนของเจ้าอาจแตกซ่านได้!”

“เช่นกัน เจ้าไม่ได้รับอนุญาตแม้เพียงครึ่งก้าว ให้ออกจากตำหนักศักดิ์สิทธิ์หากข้าไม่อนุญาต!”

“หากเจ้าต้องการก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า เจ้าต้องฟังคำข้าอย่างเข้มงวด ข้าไม่ได้คิดเข้มงวดต่ออิสรภาพของเจ้า เป็นข้าต้องการช่วยให้เจ้ามีเสถียรภาพเพื่อก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า!”

ฉินหยุนขมวดคิ้ว ก่อนจะโค้งกายให้และกล่าวตอบ “ศิษย์ผู้นี้ขอขอบคุณต่อความหวังดีของจ้าวตำหนักใหญ่ขอรับ!”

ทุกคนถึงกับสะท้าน ฉินหยุนปฏิเสธออกไป!

หลันเฉินไม่ใช่รับศิษย์โดยง่าย อัจฉริยะหลายต่อหลายคน คิดอยากขอร้องเขานับถือเป็นอาจารย์ แต่ฉินหยุนกลับยอมปล่อยมือจากโอกาสที่หาได้ยากยิ่งเช่นนี้!

“ฉินหยุน เจ้าโง่หรือว่าอะไร? จงรีบรับเสีย!” หยางฉีเย่ว์เร่งรีบเดินมากล่าวบอก

นางคล้ายคาดเดาได้ ว่าฉินหยุนคิดท้าประลองเชี่ยวหยางหลงในเร็ววันนี้ เพราะเหตุนั้นเขาจึงปฏิเสธหลันเฉิน

หากรับหลันเฉินเป็นอาจารย์ หมายความถึงเขาไม่อาจออกไปนอกตำหนักศักดิ์สิทธิ์ได้ตามใจต้องการ!

เซี่ยอู๋เฟิงเข้าใจเจตนาของฉินหยุน เขาไม่กล่าวคำใด เขารู้จักฉินหยุนเป็นอย่างดี หากฉินหยุนตัดสินใจแล้ว เกลี้ยกล่อมไปย่อมไม่มีประโยชน์

หลันเฉินเองยังแปลกใจ เขาไม่คิดว่าจะมีผู้ใดปฏิเสธตนเอง!

“ฉินหยุน มีแต่ข้าจึงสามารถช่วยเจ้าก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า! เจ้าควรทราบอยู่แล้ว ว่าการฝึกฝนแก่นภายในถึงสอง รวมถึงมีวิญญาณยุทธ์ถึงสองเป็นอย่างไร มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เจ้าจะเลื่อนระดับด้วยตนเอง มีโอกาสสูงมากที่การฝึกฝนของเจ้าจะแตกซ่าน!”

“วิญญาณยุทธ์ของเจ้าแข็งแกร่งยิ่ง ทั้งยังมีถึงสอง หากเจ้าไม่อาจควบคุมวิญญาณยุทธ์ระหว่างการเลื่อนระดับ เรื่องราวจะอันตรายอย่างยิ่ง!”

ผู้คนต่างลอบพยักหน้ารับถึงสิ่งที่หลันเฉินกล่าว

“ขอขอบคุณในความห่วงใยของจ้าวตำหนักใหญ่ขอรับ!” สีหน้าของฉินหยุนยังคงแน่วแน่ “ข้ามีแผนการเป็นของตัวเองแล้วขอรับ!”

ฉินหยุนปฏิเสธออกไปอีกครั้ง ผู้คนต่างก็ร้องอุทานอีกครั้งหนึ่ง

หลันเฉินยังคงกล่าวต่อ “ข้าสัญญาต่อเจ้า ว่าข้าจะช่วยเจ้าก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม เจ้าสามารถวางใจ!”

พอได้ยินดังนี้ ผู้คนต่างรู้สึก ว่ากลายเป็นหลันเฉินแล้วที่ขอต่อฉินหยุนให้รับตนเป็นอาจารย์!

สำหรับผู้แข็งแกร่งที่สุดของตำหนักดวงดาววิญญาณสีคราม ถึงขั้นร้องขอต่อฉินหยุนให้รับเป็นอาจารย์ หากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ย่อมไม่มีผู้ใดเชื่อ!

“นานหรือไม่ขอรับ?” ฉินหยุนถาม

“ภายในสิบปี!” หลันเฉินกล่าว

ฉินหยุนส่ายศีรษะ “นานเกินไปขอรับ ข้าไม่อาจรอได้! หากท่านช่วยข้าเลื่อนระดับในหนึ่งหรือสองวัน ข้าสาบานว่าจะยอมรับท่านเป็นอาจารย์!”

หลันเฉินขมวดคิ้ว “นั่นเป็นไปไม่ได้! มันเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่ผู้ฝึกตนซึ่งมีสองแก่นภายในจะก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า! เจ้าควรทราบดีอยู่แล้วว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฝึกฝนสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงผู้ที่มีสองแก่นภายใน!”

คำกล่าวนี้ ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้าหลายคนพยักหน้ารับ พวกเขาเข้าใจถึงความยากลำบากตรงจุดนี้เป็นอย่างดี

“ฉินหยุน สถานการณ์ของเจ้าไม่อาจเร่งร้อน ไม่เช่นนั้น จะเป็นเรื่องง่ายดายผิดพลาด! ภายในสิบปี นั่นเป็นเพียงการคาดการณ์โดยคร่าวเท่านั้น มันอาจมากกว่าสิบปีด้วยซ้ำ กระนั้น เมื่อเจ้าก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์เต๋า พละกำลังของเจ้าจะเกินผู้ใดเทียบ”

หลันเฉินมีทั้งประสบการณ์และภูมิความรู้ ดังนั้นเขาย่อมทราบว่าผู้ครอบครองสองวิญญาณยุทธ์มีความยากลำบากเพียงใด

ฉินหยุนถอนหายใจ “จ้าวตำหนักใหญ่ขอรับ ข้าเองก็มีเรื่องลำบากใจ ได้โปรดเข้าใจด้วยขอรับ!”

หลันเฉินพูดไม่ออก ด้วยสถานะจ้าวตำหนักใหญ่ของเขา ไม่เคยมีการรับศิษย์ครั้งใดที่ไม่สำเร็จ

ช่างเป็นคนหัวดื้อนัก! ฉินหยุนถึงขั้นปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า!

“ก็ได้ บางทีโชคชะตาของพวกเราอาจไม่ได้ต้องกัน!” หลันเฉินถอนหายใจ “เช่นนั้นข้าไม่คิดบังคับ หากเจ้าคิดใหม่ สามารถมาพบข้าได้ทุกเมื่อ”

“จ้าวตำหนักใหญ่ เย่ว์หลานเป็นภรรยาข้า สถานการณ์ของนางตอนนี้ไม่สู้ดีนัก!” ฉินหยุนเป็นกังวลถึงเรื่องนี้ยิ่ง จากนั้นสายตาของเขาจึงมองอย่างกราดเกรี้ยวไปยังจี้เสวียนอี

“เข้าใจแล้ว ข้าจะมอบเม็ดยาหัวใจสงบนิ่งแก่นางตอนนี้ เพื่อช่วยให้นางฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บ” หลันเฉินมองทางจี้เสวียนอีและคณะ น้ำเสียงกล่าวเย็นเยือก “จงรอข้ากลับมา!”

“ขอรับ!” จี้เสวียนอีและคณะ ล้วนเป็นคนของตำหนักศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาทราบดีว่าบทลงโทษใดที่รอคอยพวกเขาอยู่

หลันเฉินนำเม็ดยาหัวใจสงบนิ่ง ทะยานขึ้นสู่อากาศ บินออกไปจากที่แห่งนี้

ไม่นานหลังหลันเฉินจากไป ดาบสั้นพลันปรากฏในมือของจี้เสวียนอี ด้วยสีหน้าแน่วแน่ เปี่ยมด้วยจิตสังหารล้นพ้น เขาพุ่งตรงเข้าหาฉินหยุน!

การปรากฏตัวของหลันเฉิน ถือเป็นการสะกดผู้ฝึกตนทั้งหมดในที่นี้

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีผู้ใดคาดคิด ว่าจี้เสวียนอีจะลงมืออย่างกะทันหันเพียงนี้!

พอหยางฉีเย่ว์ จ้าวฉวน เซี่ยอู๋เฟิง และหลันฮัวอวี้รับรู้ได้ถึงจิตสังหารรุนแรง พวกเขาตื่นตกใจเกินจะเชื่อ เป็นพวกเขาไม่ทันระวังตัว

จี้เสวียนอีอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า หากเขาเคลื่อนไหว ย่อมสังหารฉินหยุนได้ในทันที!

ฉินหยุนจะเป็นได้แค่เหยื่อสำหรับจี้เสวียนอี!

การตอบสนองของเขารวดเร็ว พอจี้เสวียนอีบุกเข้ามา เขาเร่งรีบถอย ขว้างยันต์สะกดกายชั้นเลิศออกไปจำนวนหนึ่งพร้อมกัน

จี้เสวียนอี ผู้ซึ่งทะยานกายเข้ามา พลันต้องหยุดชะงักเพราะยันต์สะกดกาย!

ยันต์สะกดกายชั้นเลิศจำนวนหนึ่ง สามารถหยุดยั้งจี้เสวียนอีเอาไว้ได้เพียงสองวินาทีเท่านั้น!

ทว่า สองวินาทีนี้ ก็เพียงพอให้ฉินหยุนลงมือสังหารอีกฝ่าย!

ฉินหยุนใช้ก้าวอัคคีเมฆา ปลดปล่อยท่าเท้าดาวตก พุ่งเข้าถึงตรงหน้าจี้เสวียนอี ด้วยกระบี่แก่นจิตในมือ เขาคิดใช้วิชาวายุสังหาร!

“ฉินหยุน หยุดมือ!” หลันเฉินตะโกนจากระยะไกล ทันทีที่เขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของจี้เสวียนอี เขาเร่งรีบกลับมา

วูบ! วูบ! วูบ!

วายุสังหาร คลื่นทลาย แยกภูผา แยกพสุธา ทลายนที อสนีฟาดฟัน กระบวนท่าทั้งหกถูกปลดปล่อยออกในคราวเดียว!

ฉินหยุนใช้ขุมพลังภายในขั้นสูงบริสุทธิ์ ปลดปล่อยวิชาวายุสังหารขั้นสมบูรณ์แบบ แสดงถึงพลังอำนาจเต็มที่ของมันออกมา!

ขณะกระบี่สับฟัน พลังสั่นสะเทือนพื้นดินปรากฏ เป็นคลื่นกระแทกสีดำ ทำเอาทั้งตำหนักดวงดาววิญญาณสีครามถึงกับสั่นไหวอีกครั้ง!

ด้วยมือเงื้อขึ้นสับฟันกระบี่ออก เขาปลดปล่อยวิชาวายุสังหารออกโดยทันที สับ ฟัน และหั่นร่างของจี้เสวียนอีออกเป็นแปดท่อน!

กระบี่คมกล้าก่อเกิดเป็นสายลมกระโชกรุนแรง พัดผ่านไปทั่วทิศทางอยู่นานจนค่อยสงบ

พอหลันเฉินกลับมา จี้เสวียนอีก็สิ้นชีวิตแล้ว!

สีหน้าของฉินหยุนเฉยชา สะบัดคราบเลือดที่กระบี่ทิ้ง สายตาจับจ้องที่ร่างศพของจี้เสวียนอี!

ยอดฝีมือวรยุทธ์เต๋าที่แข็งแกร่ง ถึงขั้นถูกสังหาร!

พละกำลังของฉินหยุนทำเอาขอบเขตวรยุทธ์เต๋าหลายคนสั่นสะท้าน!

หลันเฉินเองก็มองที่ร่างของจี้เสวียนอี เขาไร้คำพูดใดกล่าวออก!

เขาไม่เคยคิด ว่าฉินหยุนจะลงมือสังหารจี้เสวียนอีได้รวดเร็วเพียงนี้!

“จ้าวตำหนักใหญ่ขอรับ ข้าเพียงแต่ป้องกันตนเอง!” ฉินหยุนเร่งรีบกล่าว

แม้จี้เสวียนอีแหกกฎของตำหนักศักดิ์สิทธิ์ ด้วยสถานะของเขา โทษก็เพียงแค่ถูกกักขังชั่วระยะเวลาหนึ่งที่ไม่นาน มันแทบไม่นับเป็นอะไรสำหรับเขาเลยด้วยซ้ำ

ทว่า อีกฝ่ายคือผู้ก่อการทำให้การฝึกฝนของเชี่ยวเย่ว์หลานแตกซ่าน เพียงเรื่องนี้ ฉินหยุนหากมีโอกาสย่อมไม่มีทางไว้ชีวิตอีกฝ่ายอย่างแน่นอน!

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด