ตอนที่แล้วGE299 ดาราสมุทร (2) [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE301 ดาราสมุทร (4) [ฟรี]

GE300 ดาราสมุทร (3) [ฟรี]


ผ่านไปครึ่งวันซีหลานก็เก็บรวบรวมทรายกลั่นวิญญาณได้ครบ

เบื้องหน้านาง หนิงฝานหยัดยืน กระชับกระบี่แยกสวรรค์เพื่อเฝ้าคุ้มกัน

ทหารศิลาให้รับคำสั่งขยายวงสังหารออกเป็นแสนลี้ ไม่ว่าพบเจออสูรตนใด สังหารให้หมด

เมื่อซีหลานเสร็จสิ้นการเก็บทรายกลั่นวิญญาณ ใบหน้าที่ซีดขาวของนางก็เริ่มฟื้นฟูสีสัน นางก้มหน้าไม่กล้ามองหนิงฝาน พลางยื่นถุงทรายให้

“ในนี้เป็นทรายกลั่นวิญญาณ เพียงพอให้เจ้าปลุกจิตวิญญาณสมุนไพรแล้ว”

ที่นางไม่กล้ามองหนิงฝานไม่ใช่เพราะกลัว แต่เป็นเพราะนางอาย ยามนี้หัวใจนางเต้นรัวแทบบ้า เพราะในชั่วลมหายใจที่นางกำลังจะตาย หนิงฝานกลับเอาตัวมาขวางนางไว้และรับพิษแทน

นางไม่รู้ว่าทำไมตนเองถึงเป็นเช่นนี้ นางรู้แค่เพียงว่า นางไม่กล้ามองหนิงฝาน เพราะกลัวหัวใจจะเต้นรัวจนควบคุมไม่อยู่

“ขอบคุณที่ช่วยข้า...” นางกล่าวเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่นั่นก็ทำให้ใบหน้านางแดงก่ำจนต้องเร่งปิดหน้าด้วยความอาย

“อะไรกัน… เจ้าช่วยข้าเก็บทรายกลั่นวิญญาณ ข้าเองก็รับปากว่าจะช่วยปกป้องเจ้า ไม่ว่าศัตรูเก่งกาจขนาดไหน ข้าย่อมไม่ปล่อยให้เจ้าบาดเจ็บ ฉะนั้น...เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า”

หนิงฝานเก็บถุงทรายกลั่นวิญญาณพลางกล่าวปลอบซีหลาน แต่ถึงอย่างนั้น พิษเมื่อครู่ก็รุนแรงจนเขาเกือบเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกัน

หนอนม่วงเมื่อครู่แตกต่างจากยันต์ทั่วไป ทั้งยังมีอานุภาพที่ทรงพลังกว่ามาก

เมื่อครู่หนิงฝานใช่ปราณเย็นและร้อนเพื่อทำลายพิษ เขาแช่แข็งอวัยวะภายในทั้งหมด จากนั้นจุดเพลิงทำลายพิษ

สิ่งที่น่าตระหนกคือ หนอนม่วงตัวนั้นทรงพลังกระทั่งสามารถทะลวงร่างกายที่แข็งแกร่งของหนิงฝานได้

ยามที่เขาเกือบจะกระอักโลหิตและฝืนกลืนลงไปนั้น เป็นการสะกดพิษในอีกวิธี หากไม่ทำเช่นนั้น ยามนี้เขาคงบาดเจ็บสาหัส

การที่ซีหลานยอมช่วยในสิ่งที่เขาขอ เขาย่อมต้อช่วยเหลือนางเป็นการตอบแทน

เมื่อบุรุษกล่าวแล้วก็ต้องทำให้ได้ เมื่อกล่าวว่าจะปกป้อง ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด

หนิงฝานไม่ได้บอกนางเรื่องความรุนแรงของพิษ เพราะหากบอกไปนางจะรู้สึกแย่เอา

เขาบอกนางเพียงว่าตนเองไม่ได้บาดเจ็บมากนัก เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางก็สบายใจ นางยิ้มพลางกล่าว

“ไม่เป็นไรมากก็ดีแล้ว ถ้าเกิดอะไรกับเจ้าขึ้นมา ข้าคงเสียใจไปตลอดชีวิต… แต่น่าแปลก หนอนม่วงทรงพลังจนน่าสะพรึงกลัว ทั้งยังเหมาะกับการลอบจู่โจม ข้าจะช่วยเจ้าฟื้นฟูเส้นลมปราณ”

สิ่งที่นางกำลังจะทำให้คือการรักษาเส้นลมปราณ ที่มีเพียงนักปรุงโอสถที่ครอบครองจิตวิญญาณสมุนไพรเท่านั้นที่ทำได้

นางไม่เข้าใจว่ายามนี้นางคิดอะไร นางรู้แค่ว่า สองเท้าของนางก้าวไปเบื้องหน้า เดินเข้าหาหนิงฝาน ยิ่งเข้าใกล้ความรู้สึกต่างๆนาๆก็ยิ่งประดัง นางราวกับรู้ว่าหนิงฝานแสร้งเป็นบาดเจ็บเล็กน้อยเพื่อทำให้นางไม่กังวล

นางยื่นมือน้อยๆหวังสัมผัสข้อมือหนิงฝาน หนิงฝานยามนี้ กำลังทุ่มสติไปกับการสะกดพิษที่ยังค้างอยู่ จึงไม่ได้สนใจการกระทำของนาง

แต่เมื่อสังเกตุเห็นว่ามือน้อยๆของนางกำลังจะสัมผัสข้อมือ สีหน้าหนิงฝานกลับแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

“อย่าจับข้า!” แม้จะเตือนแต่ก็สายเกินไป

ทันทีที่นางสัมผัสหนิงฝาน พิษที่ค้างอยู่ในตัวเขาแล่นผ่านเข้าไปในมือของนาง

นางไม่ได้มีเพลิงที่ทรงพลังเหมือนหนิงฝาน ยามนี้นางจึงรู้สึกหนาวเหน็บอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

ทั่วร่างของนางเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง นางตกตะลึงและสั่นเทา ความเย็นระดับนี้ทำให้นางเจ็บปวดไปทั่วร่าง

ยามนี้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดหนิงฝานจึงไม่ยอมบอกว่ารุนแรงขนาดไหน เพราะไม่อยากทำให้นางเสียใจ

โดยทั่วไปแล้วพิษชนิดนี้จะห้ามไม่ให้สัมผัสกายของสตรี พิษชนิดนี้เป็นพิษน้ำแข็ง สตรีคือธาตุหยิน มีพลังความเย็นในกาย หากต้องพิษชนิดนี้เข้าจะทำให้พิษทวีความรุนแรงขึ้น

“ข้า...ขอ...โทษ...” สติของนางจดจ่ออยู่กับการสกัดพิษ นอกจากนี้ ยางยังตำหนิตนเองว่า หากนางป้องกันตัวบ้าง หนิงฝานก็คงไม่ต้องพิษที่รุนแรงขนาดนี้

การถูกนางสัมผัสเมื่อครู่ทำให้พิษในร่างของหนิงฝานปั่นป่วนและทวีความรุนแรง

ลักษณะของพิษคือกระจายตัวเริ่มจากแช่แข็งอวัยวะภายในทั้งหมด จากนั้นลามไปยังทะเลสติและเส้นลมปราณ หากพิษลุกลามในระดับนี้ ก็ไม่อาจยื้อชีวิตได้อีก

“ไม่ต้องขอโทษหรอก ข้าบอกไปแล้วหนิว่าพิษไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่ปัญหาตอนนี้คือพิษเข้าไปในร่างเจ้าแล้ว”

หนิงฝานยิ้มปลอบโยนนาง เขานำขวดบรรจุแก่นโลหิตอสูรออกมาสำนวนหนึ่ง บดขยี้มันจุดเพลิงเผาโลหิตเหล่านั้นเพื่อชำระของเสียออกจากโลหิต จนพวกมันกลายเป็นผลึกสีแดงเข้ม

“นี่คือหยกโลหิต ช่วยสะกดพิษที่เจ้าต้องอยู่ ข้าเพิ่งเคยเห็นพิษชนิดนี้ครั้งแรก และยังไม่รู้รายละเอียดของมัน แต่ข้ารู้ว่าผลึกโลหิตนี้ช่วงสะกดพิษได้ แก่นโลหิตเหล่านี้ได้มาจากอสูรดวงจิตแรกเริ่มหลายพันตัว คงช่วยเจ้าถอนพิษได้หมด”

หนิงฝานยื่นผลึกโลหิตให้ แต่นางกลับส่ายหน้าพลางกล่าว

“ข้าไม่กิน… เจ้ารีบกินเถอะ เพราะข้าโง่เขลาจึงทำให้พิษในร่างเจ้าทวีความรุนแรง ถ้าเจ้าไม่กิน เจ้าจะตายเอานะ!”

แม้นางจะกล่าวอย่างหาญกล้า แต่มือของนางกลับสั่นเทาไม่หยุด

ฉู่เฟิงกล่าวว่า ผู้ที่ต้องพิษชนิดนี้จะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 3 วัน… นางเห็นท่าทีเรียบเฉยของหนิงฝาน จึงคิดว่าพิษไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น แต่ตอนนี้นางรู้แล้ว

ทุกคนล้วนต้องตาย ปู่ของนางตายเพราะไม่อาจรอดพ้นจากทัณฑ์สวรรค์ มารดาของนางที่เป็นนักปรุงโอสถตายเพราะปรุงโอสถล้มเหลว

ยามนี้จิตใจซีหลานปั่นป่วนสับสน เมื่อคิดว่าตนเองต้องตาย ความทรงจำเรื่องท่านปู่และมารดาก็ปรากฏขึ้นมา

“เจ้าอย่าตายนะ...” น้ำตาของนางไหลรินอาบแก้ม นางไม่อยากให้หนิงฝานต้องตาย จิตใจปั่วป่วน ความรู้สึกที่ยากจะเข้าใจมากมายปรากฏ

“วางใจเถอะ ข้าไม่เป็นอะไรหรอก...” หนิงฝานจ้องมองนางพลางถอนหายใจ นางเป็นคนดี เป็นสตรีที่ดีคนหนึ่ง

ไม่ว่ายังไงหนิงฝานจะไม่ยอมตาย จนกว่าจะสังหารศัตรูได้ทั้งหมด

“เจ้ากินเข้าไปเถอะ ข้าอยากให้เจ้าช่วยปรุงโอสถสะกดพิษให้ ถ้าเจ้ายังต้องพิษอยู่แบบนี้ เจ้าจะปรุงโอสถให้ข้าได้ยังไง?”

“ปรุงโอสถ? ถ้าปรุงโอสถแล้วช่วยเจ้าได้ ข้าจะกิน!”

นางไม่กล้าสัมผัสกายหนิงฝานอีก นางรับผลึกโลหิตมาอย่างระมัดระวังและพยายามกลืนมันลงไป ถึงรสชาติจะไม่ได้เรื่อง ถึงจะกลืนยากแค่ไหน แต่นางก็ต้องกิน เพราะนางต้องช่วยหนิงฝานให้ได้

เมื่อผลึกโลหิตเริ่มผสานรวมกับร่างของนาง ความเย็นภายในร่างลดลง แขนข้างที่สัมผัสหนิงฝานกลับมาขยับได้อีกครั้ง

“เจ้าอยากได้โอสถอะไร ข้าจะปรุงให้!” นางกล่าวหลังจากกระอักโลหิตเสียออกมา

“ยังไม่ต้องรีบร้อนไป เอาไว้ข้าจะบอกเจ้าทีหลัง… เรื่องที่สำคัญกว่าตอนนี้คือ ต้องให้พวกมันชดใช้!”

แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา เขาจะไม่ปล่อยผู้ที่คิดร้ายกับเขารอดไปได้ เหตุที่ผู้เชี่ยวชาญแข็งแกร่ง ก็เพราะคนผู้นั้นไม่ยอมแพ้โชคชะตา

หนิงฝานรอให้ทหารศิลาและกลุ่มกลับมา

ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ทหารศิลาก็นำเหล่าทาสกลับมา

หนิงฝานจ้องมองทหารศิลา มันกลับมาพร้อมกับเศษเสี้ยวดวงจิตของฉุ่เฟิง

“ถ้าเจ้าทำแบบนี้อีก ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”

“ไม่กล้า!” ทหารศิลาป้องหมัดด้วยความนับถือ เมื่อครู่ที่พวกมันสังหารผู้เชี่ยวชาญ ดูดกลืนเอาดวงจิตของทหารเหล่านั้นไป

แม้การดูดกลืนดวงจิตเหล่านั้นก่อนถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่ด้วยเพราะห็นกว่าความดุความชอบ เขาจึงทำเป็นมองไม่เห็น

ที่หนิงฝานยอมให้ก็เพราะต้องการวิชาบางอย่างจากทหารศิลา

“ข้าต้องการวิชายกระดับพลังของเจ้า เพื่อเป็นการตอบแทน ข้าสัญญาว่าถ้ากลับออกไปจากที่นี่ได้ ข้าจะคืนอิสระให้เจ้า ให้เจ้าได้กลับไปอยู่ข้างกายเป่ยเซี่ยวเหมินอีกครั้ง”

“ได้… ข้าจะถ่ายทอดวิชาให้” ทหารศิลายอมรับข้อเสนอ

แม้วิชาที่ดูดกลืนดวงจิตเพื่อยกระดับพลังจะเป็นวิชาลับ แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนในแดนสวรรค์เหนือที่ใช้ ดังนั้นย่อมไม่เป็นปัญหา

หากวิชานี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างวิหารสาบสูญและหนิงฝานดีขึ้นได้ ก็ยิ่งเป็นผลดี

ทหารศิลาเร่งสลักวิชาลงในแผ่นหยกแล้วยื่นส่งให้หนิงฝาน เมื่อหนิงฝานดู แววตาของเขาเปล่งประกาย

วิชายกระดับทาส หากสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้มากพอ ก็สามารถยกระดับทาสของตนได้

หนิงฝานมีทาสที่ตงสู่มอบให้อยู่ 10 ตน และยามนี้ เขาก็มีวิธียกระดับพวกมันแล้ว

ผู้ติดตามที่ไว้ใจได้นั้นหากได้ยาก และทาส...คือผู้ติดตามที่ดีที่สุด

หนิงฝานรับดวงจิตของฉู่เฟิง จากนั้นใช้วิชาอ่านความทรงจำ

หนิงฝานได้ทราบว่าผู้ที่จะบุกเกาะดาราและสังหารเขา คือ 4 อสูรกึ่งไร้ดัดแปลง

“ข้าคืนดวงจิตให้ แค่นี้สมควรให้เจ้าบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง!” หนิงฝานยื่นดวงจิตของฉู่เฟิงให้ทหารศิลา แววตาของเขาเผยเจตนาสังหาร

ตั้งแต่เขาออกจากเมืองหนิงฝาน มาจะสังหารผู้คนไปมากมาย แต่ก็ทำทุกอย่างอย่างรัดกุม

เมื่อคราวที่อยู่แคว้นจิน หรือเมื่อคราวที่อยู่ทะเลไร้สิ้นเขา เขาก็พยายามระมัดระวังการกระทำ

แต่ยามนี้ เขาไม่จำเป็นต้องทนอีกต่อไป!

“เดิมทีข้าไม่คิดจะสร้างปัญหา แต่ในเมื่อพวกเจ้าไม่ปล่อยข้าไป ข้าก็จะทำลายพวกเจ้าให้หมด!”

ดาราสมุทรนั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนมีประตูสู่วังสวรรค์

ตามความทรงจำของของฉู่เฟิง อสูรกึ่งไร้ดัดแปลง 3 ตนยกเลิกเรื่องที่จะจู่โจมไปแล้ว เหลือเพียงราชาหมึกเท่านั้นที่ยังคงดำเนินแผนการต่อ

“ข้าจะเอาโลหิตของพวกเจ้ามาชำระพิษ!”

หนิงฝานสร้างปราณกระบี่ขึ้นเพื่อใช้ส่งข้อความ

หนิงฝานจะยังไม่กลับถ้ำ เพราะไม่อยากให้สตรีที่อยู่ที่นั่นต้องมาเกี่ยวข้อง

“ข้าจะไปแก้แค้น… เจ้าอยากไปด้วยหรือปล่า” หนิงฝานกล่าวถามซีหลาน หากนางไม่ไปด้วย เขาจะส่งทาส 2 ตนคอยอารักขานาง

“แก้แค้น...” แม้นางจะหวาดกลัวสงคราม แต่นางจะไม่ยอมให้หนิงฝานไปเพียงลำพัง

“ถึงข้าจะกลัวการเข่นฆ่า แต่ข้ายจะไปกับเจ้า!”

“อืม...” หนิงฝานกล่าวพลางนำรถเพลิงทองคำออกมา

“รถเพลิงทองคำ!” ดวงตานางเบิกกว้าง เพราะรถเพลิงเมฆาเป็นรถที่สูงทั้สุด

หนิงฝานหลับตา ยามนี้ความรู้สึกของหนิงฝานเหมือนกับตอนที่อยู่ในป่าภูติพราย ยามที่เขาออกเข่นฆ่าไปทั่วทุกเผ่า

“ราชาหมึก… ข้าจะเป็นปลิดชีวิตเจ้าเอง!”...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด