ตอนที่แล้วRe-new ตอนที่ 6  หาของทะเล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปRe-new ตอนที่ 8 ชายผู้นี้มีภูมิหลังไม่ธรรมดา

Re-new ตอนที่ 7  ช่วยชีวิต


ตอนที่ 7  ช่วยชีวิต

แนวปะการังกว้างใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา เสี่ยวเหลียนกับฉีโตวพากันวิ่งเล่นอย่างร่าเริง  หยูฮังสงบนิ่งกว่าเล็กน้อย แต่เมื่อเขาเห็นอาหารทะเลจำนวนมากบนแนวปะการัง เขาก็รีบก้มลงเก็บอย่างรวดเร็ว

หยูเสี่ยวเฉายืนบนปะการังอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับปล่อยให้ลมทะเลเย็น ๆ พัดผ่านใบหน้า มองไปก็เห็นแต่สีฟ้าเต็มไปหมดทั้งท้องฟ้าและทะเล ช่างเป็นภาพที่มองแล้วสบายตายิ่งนัก แม้แต่หยกสีฟ้าที่คุณภาพดีที่สุดก็ยังเทียบมิได้กับความใสและเปล่งประกายของทะเลและท้องฟ้า

นี่คือทะเล ! เป็นทะเลที่ไม่มีมลพิษเลยสักนิด ! หยูเสี่ยวเฉาตกอยู่ในภวังค์ นางถูกสะกดโดยภาพทิวทัศน์ที่งดงามตรงหน้า

“เฉาเอ้อร์มานี่ ! ใส่รองเท้าหนังฉลามนี่ไว้ เท้าของเจ้าต่างจากพวกพี่น้องของเจ้านัก พวกเขาเคยวิ่งรอบ ๆ ชายหาดกันแล้ว ถ้าเจ้าวิ่งรอบ ๆ ปะการังเช่นนั้น เท้าต้องแตกเป็นแน่” นางไม่คิดว่าชายร่างกำยำอย่างหยูไห่จะเอาใจใส่ลูก ๆ ของเขามากถึงเพียงนี้ เขาคิดถึงเรื่องเท้านุ่มนิ่มของลูกสาวจะทนพื้นผิวหยาบ ๆ ไม่ได้

หยูเสี่ยวเฉาที่มัวแต่เคลิ้มกับภาพสวย ๆ ตรงหน้าหลุดจากภวังค์และสวมรองเท้าอย่างมีความสุข ถึงรองเท้าจะใหญ่ไปสักหน่อย แต่ก็ยังสามารถใส่ได้อยู่ นางเรียนรู้จากคนอื่น ๆ และก้มลงหาอาหารทะเลตามปะการังอย่างละเอียด

แน่นอนว่าคนอื่นยังไม่ค้นพบที่นี่ ดังนั้นหยูเสี่ยวเฉาจึงพบหอยสีดำชนิดหนึ่งในเวลาไม่นาน นางหยิบมันขึ้นมาอย่างระมัดระวังและเอาไปอวดหยูไห่ราวกับเจอสมบัติ เสี่ยวเฉาพูดอย่างตื่นเต้นว่า  “ท่านพ่อ ข้าเจอหอยด้วยล่ะ ท่านพ่อว่ามันกินได้หรือไม่ ?”

หยูไห่มองแล้วตอบยิ้ม ๆ ว่า “นี่คือหอยแมลงภู่ เนื้อมันอร่อยนะ อีกทั้งยังมีสรรพคุณบำรุงร่างกายดีมากด้วย เขาเรียกกันว่า ‘ไข่แห่งท้องทะเล’ เจ้าเก็บมาให้มากที่สุด ถ้าหากเก็บได้เยอะ เราจะนำไปตากแห้ง แล้วพอถึงฤดูหนาวก็นำไปขายในเมือง !”

‘ไข่แห่งท้องทะเล’ ? เช่นนั้นก็หมายความว่ามันมีประโยชน์มากมิใช่รึ ? ครอบครัวเราต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ให้มาก ๆ เอาล่ะ นางจะเก็บให้เยอะ ๆ และเราจะไม่ขายมัน เพราะเราจะกินมันเอง ! แค่จินตนาการถึงหอยผัดเผ็ดที่เคยกินในชาติก่อน เสี่ยวเฉาก็น้ำลายไหลเสียแล้ว

ข้าจะเก็บ ข้าจะเก็บ ข้าจะเก็บให้หมดเลย !

“หือ ? ท่านพี่ใหญ่ เคาะไอ้นั่นทำไมล่ะ ? มันกินได้ด้วยรึ ?” เสี่ยวเฉาเดินมาข้าง ๆ หยูฮัง เมื่อมองดูดี ๆ นางก็เห็นเขากำลังใช้พลั่วตีอะไรบางอย่างที่แข็งเหมือนหินปูนสีเทา นางจึงถามด้วยความอยากรู้

เป็นครั้งแรกที่น้องสาวคนเล็กของเขามาหาอาหารที่ทะเล ดังนั้นหยูฮังจึงอดทนอธิบายให้ฟังว่า “ไอ้นี่เรียกว่าเพรียง เจ้าเข้ามาดูสิ รูปร่างของมันเหมือนฟันม้ารึไม่ ? เพรียงดูมิเหมือนของพิเศษอะไร แต่มันอร่อยมากเลยนะเวลาเอาไปเคี่ยวกับน้ำสะอาด”

หยูเสี่ยวเฉารับพลั่วที่พี่ชายส่งให้มาเคาะแรง ๆ อย่างที่คาด นางเจอเนื้อนุ่ม ๆ ข้างในเปลือกที่แตกออก  นางเก็บมันขึ้นมาอย่างดีใจและวางมันลงในตะกร้าไม้ไผ่

“อ๊ะ ! นี่ใช่หอยนางรมหรือไม่ ? เอาไปย่างแล้วอร่อยมากเลยล่ะ !” หลังจากนั้นไม่นานเสี่ยวเฉาก็แปลกใจที่พบอาหารทะเลอย่างอื่น นางตะโกนอย่างประหลาดใจขณะที่แงะมันออกจากรอยแตกของปะการัง

ฉีโตวหัวเราะให้กับความไม่รู้ของพี่สาว “พี่สาม ไอ้นั่นคือไห่ลี่ซือ คนเมืองเรียกมันว่าหอยอีรม พอตากแห้งแล้วสามารถนำไปขายให้ร้านยาได้”

หอยอีรมก็คืออีกชื่อของหอยนางรมเยี่ยงนั้นรึ ? ก็แค่ชื่อต่างกันแต่มันก็อันเดียวกันนั่นแหละ หยูเสี่ยวเฉามองน้องชายตาขวางแล้วจึงหันมาล่าสมบัติบนปะการังต่อ

หอยทาก ? เล็กจัง แต่ก็กินได้ล่ะน่า ! เก็บโลด !

ปลาดาว ? ก็ดูสวยดีนะ ! มันสามารถกินได้รึไม่ ? ช่างเถอะ เก็บก่อนแล้วกัน !

หอยเม่น ? เหมือนเม่นเลย กินได้เหมือนกันมิใช่รึ ? เก็บ ๆ ๆ !

ว้าว ! ดูสิว่าข้าเจออะไร ? มีปลาหมึกอยู่ตรงรอยแตกของหินด้วย ฮ่า ๆ ๆ ! เจ้าช่างดวงซวยแท้ ๆ เจ้าหนีข้าไม่รอดหรอก !

...................

หยูเสี่ยวเฉายุ่งมากเสียทีเดียวและยัดสิ่งที่หาได้ลงตะกร้าแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่นางก็ยังเที่ยวค้นหาและเก็บต่อไปอย่างตื่นเต้น

หยูเสี่ยวเฉากระตือรือร้นมากในการมาเก็บของทะเลครั้งแรก นอกจากนั้นนางก็รู้สึกตื่นเต้นและพอใจกับผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ด้วยความไม่รู้ทำให้นางค่อย ๆ ออกห่างจากพ่อและพี่น้องของนางมากขึ้นเรื่อย ๆ นางเดินตามแนวปะการังจนไปถึงริมหน้าผา

หือ ? อะไรอยู่ในน้ำ คนรึ ? หยูเสี่ยวเฉาสะดุ้ง ศพคนจมน้ำตายรึ ? ช่างโชคร้ายเสียจริง !

“ท่านพ่อ ! ท่านพ่อ ! เร็วเข้า มานี่เร็วเข้า !” แม้แต่น้ำเสียงของหยูเสี่ยวเฉาก็เปลี่ยนไป มันแฝงไปด้วยความเครียดและความกลัวเอาไว้ด้วย

หยูไห่รีบเดินตามเสียงของนางมา “เกิดอะไรขึ้น ? มีอะไร ? เจ้าเป็นอะไรหรือไม่เสี่ยวเฉา ?”

“ท่านพ่อดูโน่นสิ นั่นใช่ศพคนรึไม่ ?” หยูเสี่ยวเฉาตะโกนเสียงดังพร้อมกับชี้ไปยังสิ่งที่ลอยอยู่ไม่ไกลจากจุดที่นางยืนอยู่

หยูไห่มองไปตามนิ้วที่ลูกสาวชี้ นางพูดถูก ! ชาวประมงจากหมู่บ้านใกล้ ๆ เรือแตกงั้นรึ ? ลมเริ่มแรงตอนราว ๆ เที่ยงและคลื่นในทะเลก็จะแรงขึ้นด้วย จึงเป็นไปได้ที่จะมีเรืออับปาง !

หยูไห่ตัดสินใจทันที เขาถอดเสื้อและว่ายน้ำออกไปในทะเล ดูเหมือนลมแรงขึ้นมากกว่าเดิมนัก เสียงฟ้าผ่าดังกึกก้อง ขณะที่คลื่นซัดหน้าผาและแนวปะการัง

หยูเสี่ยวเฉาตะโกนอย่างร้อนใจ “ท่านพ่อระวังด้วย ! มีโขดหินอยู่ด้านล่างเต็มไปหมด ระวังตัวด้วย  อย่าบาดเจ็บนะเจ้าคะท่านพ่อ !”

เมื่อหยูไห่โผล่ขึ้นเหนือน้ำ เขาก็อยู่ห่างจากเสี่ยวเฉาหลายเมตรแล้ว เขาได้ยินเสียงตะโกนอย่างห่วงใยของลูกสาวจึงโบกมือให้ หลังจากนั้นก็ว่ายเข้าไปหาคนที่กำลังลอยอยู่ในทะเล

หยูฮังกับน้อง ๆ ไม่ได้สนใจเรื่องเก็บของทะเลอีกแล้ว พวกเขารวมตัวกันเฝ้ามองพ่อว่ายน้ำเข้าไปใกล้คนที่หมดสติ

หยูไห่ว่ายน้ำต้านกระแสคลื่นและลากคนจมน้ำกลับเข้ามาที่แนวปะการัง แต่ตอนขากลับเขาก็เหนื่อยมากแล้ว หยูฮังกับเสี่ยวเหลียนช่วยพ่อของพวกเขาดึงคนผู้นั้นขึ้นไปบนแนวปะการัง

เขาเป็นชายหนุ่มที่สวมชุดดำทั้งตัว อายุประมาณ 15 - 16 ปี ใบหน้าของเขาซีดขาว ดวงตาปิดสนิท ขนตายาวเรียงเป็นแพราวกับพัดอันเล็กติดอยู่ที่ตา ริมฝีปากอวบอิ่มซึ่งปราศจากสีเลือด

“เหมือนว่า...เขาจะยังหายใจอยู่ !” หยูเสี่ยวเฉาเอานิ้วไปจ่อที่จมูกโด่งของชายหนุ่มและอุทานเสียงดังอย่างแปลกใจ

หยูไห่ที่ยังเหนื่อยอยู่ เขาจึงแบกชายหนุ่มคนนั้นขึ้นบ่าโดยให้หน้าคว่ำลง เขาใช้บ่าตัวเองกดท้องของชายหนุ่มคนนั้นและหลังจากนั้นไม่นานก็มีน้ำทะเลกระฉอกออกมาจากปากของชายหนุ่ม หยูไห่กระแทกตัวเขาอีกสองสามครั้งจนกระทั่งชายหนุ่มหยุดสำรอกน้ำออกมาจึงวางเขาลง

“ท่านพ่อ เขาจะรอดรึไม่ ?” หยูเสี่ยวเฉาถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นหนุ่มหล่อคนนั้นยังไม่ได้สติ

หยูไห่สำรวจแขนขาของชายหนุ่มคนนั้น “เขาไม่ได้จมน้ำนาน ถ้ามิมีข้อผิดพลาดอันใดก็น่าจะรอด มีใครเอาน้ำมาบ้างรึไม่ ? เอามาป้อนเขาหน่อยเถอะ”

“ท่านพ่อ เขาจมน้ำมิใช่รึ ? น้ำเต็มท้องแล้วเหตุใดถึงจะให้เขากินน้ำอีกเล่า ?” หยูเสี่ยวเฉาแก้มัดถุงหนังที่ใส่น้ำหินศักดิ์สิทธิ์จากข้อมือของนางเอาไว้ แล้วถามออกมาอย่างสับสน

“ข้ารู้ ข้ารู้ !” ฉีโตวพูดพลางตบมือ “น้ำทะเลมันเค็ม ถ้าหากดื่มน้ำเค็ม ๆ มากเกินไปจะรู้สึกหิวน้ำ  พอหิวน้ำก็ต้องดื่มน้ำไง”

หยูเสี่ยวเฉาขำคำพูดเด็ก ๆ ของน้องชาย นางหยิกแก้มเขาแล้วหัวเราะ “รู้เยอะดีนี่เรา !”

หยูไห่ที่นั่งหมดแรงอยู่บนปะการังมองลูก ๆ ของเขาแล้วหัวเราะเบา ๆ “การเอาน้ำให้คนที่จมน้ำกินก็เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำ ที่ฉีโตวก็พูดถูกเหมือนกัน ถ้าดื่มน้ำทะเลมากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย”

หยูเสี่ยวเฉาบอกให้หยูฮังช่วยพยุงชายคนนั้นขึ้นมา นางป้อนน้ำแช่หินศักดิ์สิทธิ์เข้าปากของเขาอย่างระมัดระวัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด