ตอนที่แล้วRe-new ตอนที่ 9  การเดินทางที่คุ้มค่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปRe-new ตอนที่ 11 ถูกร้านอาหารชื่อดังรังแก

Re-new ตอนที่ 10  แผนลับ


ตอนที่ 10  แผนลับ

หยูเสี่ยวเฉาโกรธมาก “ท่านป้าใหญ่ ท่านป้าว่าใครแกล้งป่วย ? ไม่เห็นรึไงว่าเมื่อวานท่านแม่เป็นลม ? ท่านป้าแข็งแรงเยี่ยงนี้ยังสั่งให้คนป่วยทำงานอยู่อีกรึ อีกทั้งยังคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกอีกด้วย  ถ้าอยากรู้ว่าท่านแม่แกล้งหรือไม่ เช่นนั้นก็เชิญท่านปู่โหยวมาที่นี่เลยสิเจ้าคะ !”

นางจางที่อยู่ในห้องตัวเองทนนั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ได้อีกแล้วเมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวเฉา “หลี่กุ้ยฮัว นังคนขี้เกียจ ! พอได้เวลาทำอาหารก็หายหัว กลับมาได้สักทีนะ ! แล้วยังมัวแต่คุยอยู่ได้ รีบไปช่วยในครัวสิ !”

ถ้าเรียกหมอก็ต้องเสียเงินนjะสิ !

นางจางเดินไปที่ครัวแล้วพูดเหน็บหลิวมู่หยุนที่กำลังทำงานยุ่งอยู่ “เอ้า รีบกลับไปพักที่ห้องได้แล้ว  ลูกสาวเจ้าปวดใจจะแย่อยู่แล้ว”

“มีลูกคนไหนไม่รักแม่บ้างหละเจ้าคะ ? ท่านแม่นั่งลงเถอะ เดี๋ยวข้าจะช่วยเอาจานมาให้ !” หยูไซตี้ออกจากห้องมา นางกับลูกชายคนที่สาม หยูป่อ เป็นเพียงสองคนในครอบครัวที่สามารถทำให้หญิงชราสงบลงได้

นางจางหันหน้าไปและเห็นอาหารทะเลที่หยูไห่กับลูก ๆ ถืออยู่ สีหน้าหงุดหงิดของนางสดใสขึ้นและยิ้มออกมาทันที “เอาถังมาสิ ! สด ๆ ทั้งนั้นเลย เราเก็บค้างคืนไว้ได้ แล้วพรุ่งนี้เช้าให้พี่ใหญ่ของลูกเอาไปขายที่ร้านอาหารในเมือง”

“ท่านย่า เก็บหอยนางรมเอาไว้กินเองบ้างสิเจ้าคะ ! ข้าอยากรู้ว่ามันรสชาติเป็นเยี่ยงไร ?” หยูเสี่ยวเฉาเสนอแนะอย่างมีเจตนา

สีหน้าของนางจางอึมครึมขึ้นมาทันที นางพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “มีของตั้งเยอะแยะที่เจ้ามิเคยกิน ! ถ้าเราเอาไปขายในเมือง หอยนางรม 1 ชั่งขายได้ตั้งหลายอีแปะ เจ้ายังจะกินลงอีกรึไง ?”

ถ้าหยูไห่ไม่ได้ยืนอยู่ข้าง ๆ พวกเขา นางจางคงพูดอะไรออกมาที่ไม่น่าฟังมากกว่านี้ นางเรียกลูกสาวมาและยึดเอาของไปทั้งหมดโดยไม่เว้นแม้แต่ตะกร้าของเด็ก ๆ นางอยากเอาทุกอย่างกลับไปที่ห้องของนาง ของทุกอย่างที่เปลี่ยนเป็นเงินได้ นางต้องยึดเอาไว้ให้หมด

นางหันไปรอบ ๆ และมองไปที่ตะกร้าในมือของเสี่ยวเฉา จากนั้นก็บุ้ยปากและพูดว่า “เอาตะกร้าที่ถืออยู่ไปไว้ในห้องของข้าด้วย”

เสี่ยวเฉาทำปากยื่นแล้วตอบแบบเคือง ๆ ว่า “ท่านย่าก็เอาอาหารทะเลไปหมดแล้วนี่ ในตะกร้าข้ามีแค่สาหร่ายกับผักกาดทะเลเองนะ ขายมิได้ราคาหรอก พวกเราเก็บไว้ทำกับแกล้มให้ท่านปู่เย็นนี้เสียจะดีกว่า”

นางจางยื่นหน้ามาดูแล้วเห็นว่ามันเป็นแค่สาหร่ายทะเลจริง ๆ นางจึงพูดเหมือนจะใจดีว่า “แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะ ! คราวหน้าข้าคือคนตัดสินใจทุกอย่างในบ้าน ห้ามเจ้าทำสิ่งใดตามใจตนเองอีก !”

หยูเสี่ยวเฉารับคำ นางรอนางจางเข้าห้องใหญ่ก่อนจะขยิบตาให้เสี่ยวเหลียนและเอาตะกร้าเล็กเข้าไปในห้องตะวันตก

หยูเสี่ยวเหลียนเข้าใจความหมายและเอาไหดินเผาเก่า ๆ จากมุมครัวไปใส่น้ำ จากนั้นก็ตามน้องสาวเข้าห้องไป

เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาไปขายวันนี้ ดังนั้นสองพี่น้องจึงวางหอยเป๋าฮื้อลงในไหอย่างระมัดระวังและซ่อนพวกมันไว้ใต้สาหร่ายทะเล หยูเสี่ยวเฉายังรู้สึกกังวลอยู่ นางจึงใส่น้ำแช่หินศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ข้างในด้วยและซ่อนไหไว้ในช่องลับตรงมุมเตียง หลังจากนั้นนางก็ออกจากห้องพร้อมด้วยสาหร่ายทะเลที่เหลือ

หยูไห่ตามเด็ก ๆ เข้าไปและเห็นการกระทำของสองพี่น้อง เสี่ยวเหลียนเป็นคนอารมณ์ร้อน เวลาโกรธก็ถึงขั้นกล้าเถียงกับนางจาง นางจึงถูกดุและถูกลงโทษบ่อย ๆ ตอนนี้เสี่ยวเฉาก็ร้ายขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน แต่นางมีเล่ห์กลมากกว่า อีกทั้งยังกล้าหาญถึงขั้นซ่อนหอยเป๋าฮื้อราคาแพงเอาไว้อย่างไม่ลังเล

ในครัว นางหลิวทำอาหารจนเกือบเสร็จแล้ว หยูเสี่ยวเฉาเดินเข้าไปและจัดการทำสาหร่ายทะเลหั่นฝอยโรยกระเทียมบดกับต้มผักกาดทะเล อาหารเย็นมื้อนี้จึงหรูหรากว่าทุกวัน

ช่วงมื้อเย็น ผู้ชายกับผู้หญิงตระกูลหยูจะนั่งแยกกัน ฝั่งผู้หญิงแต่ละคนมีแผ่นแป้งดำ ๆ ที่ขนาดเท่าฝ่ามือคนละอัน และยังมีผักต้มที่ปรุงรสด้วยเกลือกับซุปเต้าเจี้ยวอีกหนึ่งถ้วย

อาหารหลักของพวกผู้ชายคือหมั่นโถวจำนวนไม่จำกัดซึ่งทำจากแป้งสาลี, แป้งข้าวฟ่าง, และแป้งมันฝรั่งผสมกันและยังมีผักที่ผัดด้วยน้ำมันหมู ซุปเต้าเจี้ยวแบบเดียวกับพวกผู้หญิง แต่นี่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าชายเหนือกว่าหญิงอะไรแบบนั้นหรอก แค่ผู้ชายใช้แรงงานหนักก็เลยใช้พลังงานไปเยอะมากกว่า พวกเขาจึงจำเป็นต้องกินอาหารดี ๆ ให้เต็มที่

หยูเสี่ยวเฉาได้คำชมเชยอย่างเป็นเอกฉันท์สำหรับอาหารสองอย่างที่นางทำเอง สาหร่ายทะเลหั่นฝอยโรยกระเทียมบดอร่อยและเผ็ดเล็กน้อย ส่วนต้มผักกาดทะเลนั้นรสชาติสดใหม่และเต็มไปด้วยรสชาติจากทะเล เฒ่าหยูชอบสาหร่ายทะเลหั่นฝอยโรยกระเทียมบดเป็นพิเศษและเอ่ยปากชมไม่หยุด

นางจางทนเห็นเสี่ยวเฉาถูกชมไม่ได้ นางยัดสาหร่ายทะเลใส่ปากแล้วพูดว่า “เสี่ยวเฉาก็มีความสามารถอยู่นี่ เก็บอาหารทะเลก็ได้ ช่วยทำอาหารก็ได้ ท่านหมอโหยวก็บอกแล้วว่าสุขภาพของเจ้าแข็งแรงดีแล้ว ข้าว่าเราเลิกทำอาหารแยกต่างหากให้เจ้าได้แล้วล่ะ”

เสี่ยวเฉากำลังถือโจ๊กแสนอร่อยของนางแบ่งกินกับฉีโตวอย่างมีความสุข แต่สีหน้าของนางเครียดขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของย่า ต่อไปนางต้องกินแผ่นแป้งแข็ง ๆ หยาบ ๆ ที่ฝืดคอจนกลืนแทบไม่ลงกับซุปเต้าเจี้ยวชวนแหวะนั่นด้วย นี่มันทรมานกันเกินไปแล้ว ! โชคดีที่หอยเป๋าฮื้อไม่ได้ถูกยึดไปด้วย !

นางจางรู้สึกพอใจเมื่อเห็นสีหน้าของเสี่ยวเฉา นางกินแผ่นแป้งแข็ง ๆ หยาบ ๆ อย่างมีความสุขมากขึ้น  อีกทั้งยังกินสาหร่ายทะเลไปมากกว่าครึ่งถ้วย

นางหลี่กับลูกชายจอมอ้วนของนางก้มหน้าก้มตากิน สาหร่ายทะเลหั่นฝอยกับต้มผักกาดทะเลที่เหลืออยู่ถูกพวกเขาสองคนจัดการจนเรียบ พอกินจนเกลี้ยงจานแล้ว นางก็ดึงลูกชายที่ยังอยากกินต่อย่องกลับเข้าห้องไปเงียบ ๆ

เสี่ยวเฉารู้ว่าพวกเขาจะแอบไปหาอะไรกินกันเอง ตอนที่นางหลี่แต่งงานเข้าตระกูลหยูนั้น  ครอบครัวของนางยังยากจน ไม่อย่างนั้นนางคงไม่แต่งงานกับลูกเลี้ยงของตระกูลหยูที่จนพอ ๆ กัน  แต่เมื่อหลายปีที่แล้ว เหล่าบรรดาพี่ ๆ ของนางทำเงินได้จากธุรกิจเล็ก ๆ ครอบครัวของพวกเขาจึงดีขึ้น นางหลี่เป็นลูกคนเล็กและเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว ดังนั้นทุกครั้งที่นางกลับบ้าน พ่อแม่ พี่ชายและพี่สะใภ้จะเตรียมเงินและอาหารไว้ให้นาง ไม่อย่างนั้นนางหลี่กับลูกชายจะอ้วนถึงเพียงนี้ได้เยี่ยงไรถ้ากินแค่อาหารที่ครอบครัวหยูกินกัน ?

หลังอาหารเย็นก็มีแต่ความเงียบตลอดทั้งคืน

วันต่อมาที่ห้องตะวันตก ครอบครัวของหยูไห่ตื่นกันตั้งแต่ย่ำรุ่ง

หยูไห่กับพรานจ้าวตกลงจะไปล่าสัตว์ที่ภูเขาด้วยกัน หยูฮังกับหยูเสี่ยวเหลียนก็มักจะตื่นในเวลานี้เพื่อเก็บผักคาวทองและเก็บฟืนที่ตีนเขา นางหลิวกำลังกวาดเล้าไก่และเล้าหมูอยู่ที่ลานบ้าน

ครอบครัวของหยูเสี่ยวเฉาแปลกใจที่เห็นนางตื่นแต่เช้าตรู่ หยูไห่จับหัวของลูกสาวและพูดยิ้ม ๆ ว่า “เจ้านอนต่ออีกหน่อยเถิด ข้างนอกยังมืดอยู่เลย”

หยูเสี่ยวเฉายังคงกังวลถึงเรื่องสำคัญ นางจึงนอนต่อไม่ลง จึงตอบพ่อไปว่า “ฉีโตวยังช่วยงานได้เลย แล้วข้าเป็นพี่จะขี้เกียจอยู่ได้เยี่ยงไรกัน ?  ท่านพ่อรีบไปเถิด อย่าให้ลุงจ้าวรอนาน”

หยูไห่จึงไม่ชักช้าอีกและเก็บข้าวของทันที เขาเอาถุงกระดาษที่มีหมั่นโถวสองอันที่นางหลิวเตรียมไว้ให้ห่อไว้ข้างในและผูกถุงใส่น้ำไว้ที่ข้างเอว หลังจากนั้นเขาก็คว้าธนูและหอกออกจากบ้านไป

หยูเสี่ยวเฉาเอาไหดินเผาที่นางซ่อนไว้ใต้เตียงเมื่อวานนี้ออกมา หอยเป๋าฮื้อมีความสดมากขึ้นหลังจากได้รับการหล่อเลี้ยงจากน้ำแช่หินศักดิ์สิทธิ์

มีแค่ร้านอาหารใหญ่ ๆ เท่านั้นที่สามารถรับซื้อหอยเป๋าฮื้อที่มีคุณภาพดีเช่นนี้ได้ในราคาที่ดี แต่นางเพิ่งมาเกิดใหม่ที่นี่และไม่เคยออกจากหมู่บ้านเลยสักครั้ง แล้วเช่นนี้นางจะรู้ได้เยี่ยงไรว่าเมืองต้องไปทางไหน ?

“ท่านพี่ใหญ่ หมู่บ้านเราอยู่ไกลจากเมืองหรือไม่ ?” ขณะที่คนในห้องใหญ่กับห้องตะวันออกยังหลับอยู่ หยูเสี่ยวเฉาก็ได้อุ้มไหดินเผาเดินตามพี่ใหญ่ของนางออกไป

หยูฮังมองนางแปลก ๆ แล้วถามว่า “ก็ไกลอยู่นะ ต้องใช้เวลาเดินมากกว่า 1 ชั่วยาม เจ้าถามทำไมรึ ? คงมิได้คิดจะเอาไอ้นี่ไปขายในเมืองใช่รึไม่ ?” เขาชี้ไปที่ไหดินเผาในมือนาง

เกิน 1 ชั่วยามเลยรึ ? เยี่ยงนั้นก็หมายความว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วยามเลยน่ะสิ ? หยูเสี่ยวเฉามองขาสั้น ๆ ของตัวเองแล้วถอนใจ นางจึงพูดว่า “ในหมู่บ้านเรามีรถม้าหรือเกวียนที่จะเดินทางเข้าเมืองรึไม่ ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด