ตอนที่แล้วสงครามดาวศักดิ์สิทธิ์ : ตอนที่1 คนผิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปสงครามดาวศักดิ์สิทธิ์ : ตอนที่3 ทำตัวเป็นผู้พิพากษา

สงครามดาวศักดิ์สิทธิ์ : ตอนที่2 มันแข็งแกร่งจริง


ตอนที่2 มันแข็งแกร่งจริง

ดาบนั้นสะท้อนแสงราวกับหิมะ แสดงให้เห็นถึงความหนาวเย็น และมันกำลังจะตัดลงมาที่หัวหลี่มู่

“ทำไมไร้เหตุผลกันแบบนี้? มันจะมากเกินไปแล้วนะ.. ผมเป็นเอเลี่ยนจริงๆ พิสูจน์ได้นะ ทั้งพูดภาษาอังกฤษ รู้คณิต ฟิสิกส์ เคมี คอม ญี่ปุ่น ....” หลี่มู่ร้องโวยวายแทบจะขาดใจตาย เขาถอยหลังและปฎิกิริยาโต้กลับด้วยความกลัว

แต่ใครจะรู้ว่าหลี่มู่สามารถหลบมีดที่รวดเร็วได้ง่ายดายแบบนี้?

อะไรกัน?

ทำไมพวกเขาถึงฟันช้าแบบนี้?

ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวหลี่มู่ชั่วขณะ

ฟึบ!

ทั้งสองมีดพุ่งหาเขาอีกครั้ง

และเขาก็หลบได้เหมือนเดิม

เขาหลบได้อย่างไม่น่าเชื่อ..

“มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง? ทำไมพวกเขาฟันช้าอย่างกับเปิดโหมดสโลวโมชั่น..? ทำไมผมเห็นพวกเขาเคลื่อนไหวทุกอย่างได้ชัดเจน? หรือบางทีพวกเขาอาจจะฟันเล่นงั้นหรอ?” หลี่มู่สงสัยมากในตอนนี้

แต่นักรบทั้งสองก็แสดงสีหน้าและความตั้งใจในการฆ่าอย่างชัดเจน ซึ่งไม่น่าจะใช่เรื่องเล่นๆแน่นอน

“ว้าว อาจารย์หนุ่ม อาจารย์เองก็แข็งแกร่งใช่ย่อยนิ.. มา เลิกหลบได้แล้ว โต้กลับไปสิ้!” เด็กหญิงที่ยืนข้างเขาไม่ได้โง่ แต่เธอเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่านี่มันเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับหลี่มู่

แต่เด็กชายดูเหมือนว่าจะกลัวมาจนถอยหลังกลับไป

หลี่มู่เองก็พูดไม่ออก

“ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นหล่ะ น้องสาว?”

“แล้วไม่คิดว่าอาจารย์กำลังทำหน้ากลัวแบบคนที่อยู่ข้างหลังอาจารย์มั่งหรอ?”

“เธอนี่เป็นพวกแมงวี่แมงวันรึเปล่าเนี่ย?”

เสียงเงียบทันที

และมีดแสงก็ฟันลงมาอีกครั้ง

“ฮัลโหลล โทษนะ เมื่อไหร่จะหยุดสักที? ลองมาสามรอบแล้วนะ!” หลี่มู่เริ่มจะรำคานและโกรธขึ้นมา “เจ้ากำลังทำผิดมหันน! ผมทั้งเขียนเอสเสได้ โทอิคก็ได้เยอะ แต่งกลอนก็เก่ง ผมพิสูจน์ได้จริงๆนะว่าเป็นเอเลี่ยน หยุดเถอะ!”

ขณะที่หลี่มู่หลบมีด เขาก็จับแขนทั้งสองนักรบ และผลักออกไปทันที

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เพราะเขาสามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ราวกับมีใครมาบีบขวดพลาสติกข้างๆหู

แขนและกระดูกแขนของนักรบทั้งสองขาดแตกออกจากกันทันที เลือดพุ่งสาดไปทั่วเหมือนเอาค้อนทุบแตงโม หลังจากนั้นทั้งสองก็ดูไร้เรี่ยวแรงล้มลงพื้น เพียงแค่มองดูก็รู้แล้วว่าพวกเขาไม่รอดแน่ๆ

เห้ย?

หลี่มู่ตกใจมากที่เห็นแขนพวกเขาอยู่ในมือตัวเอง

“อะไรวะเนี่ย?”

ทำไมแค่การจับแขนและผลักออกไปถึงฆ่าคนได้หล่ะ?

“แล้ว ข้าไปได้พลังนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ..”

หลี่มู่รู้สึกงงไปหมดแล้ว

“นี่มัน? พลังอะไรกันเนี่ย ...” หัวหน้านักรบเองก็แทบบ้าเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

พลังร้ายกาจยิ่งนัก!

หัวหน้าของเหล่านักรบหวั่นกลัวไปหมดแล้ว

เขามองหน้าหลี่มู่ด้วยความกลัว สามารถเห็นได้ผ่านทางดวงตาเลย

หลังจากนั้นเขาก็ถอยกลับไปอย่างเงียบๆ และพูดอย่างเยือกเย็นว่า “โอเค ไม่คิดเหมือนกันเลยนะว่าอาจารย์หนุ่มนั่นจะเป็นนักรบเหมือนกัน เจ้าเก็บพลังไว้ได้เนียนมาก ขนาดไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนมาด้วยนะเนี่ย ....  ข้าคิดว่าพวกเรากำลังทำผิดพลาด และแพ้อย่างแน่นอน ด้วยเกียรติยศของ บลัดดี้มูน พวกจะกลับมาเอาคืน ถอยกันเถอะ!”

เมื่อเหล่านักรบพูดแบบนั้น พวกเขาก็บินถอยหายไปในความมืดทันที

ส่วนนักรบอีกสามคนที่เหลือก็มองหน้ากันอย่างหวาดกลัว แล้วก็บินตามหัวหน้าไปในทันที ทิ้งศพพื้นไว้ด้านหลังอย่างไม่เหลียวแล

เอ่อ...?

“พวกเขาสามารถบินได้ด้วยงั้นหรอ?”

“เป็นคิงคองกันรึไง?”

“พวกเขาต้องเป็นอาจารย์ศิลปะการต่อสู้แน่เลย”

ทันใดนั้นหลี่มู่ก็ต่าสว่างขึ้น  งั้นดาวนี้ก็คือดาวแห่งศิลปะการต่อสู้จริงๆงั้นสิ

“ว้าวอาจารย์หนุ่ม ไปแข็งแกร่งแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่?” เด็กหญิงกระโดดขึ้นขี่คอหลี่มู่ทันที

เธอมีตาที่โตและสดใส แวววับไปด้วยความเยาว์วัย

หลี่มู่จ้องมองที่เธอ

เด็กโง่นี่ต้องเป็นพวกกระหายสงครามแน่เลย

“อาจารย์หนุ่ม อยู่ที่นี่นานๆมันจะไม่ดีสักเท่าไหร่ ไปกันเถอะ อีกตั้งหลายกิโลเมตรกว่าจะถึงเมือง ไต๋ไบ๋” เด็กชายคนนี้ดูจะเป็นปกติที่สุดแล้ว แค่เมื่อเจอการต่อสู้ก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา เขาแบกหนังสือไม้ไผ่สูงเท่ากับตัวเองไว้ข้างหลังและพูดอย่างเคร่งขรึม “ไม่ต้องกลัวคนจาก บลัดดี้มูนหรอก เพราะเมื่อไหร่ที่อาจารย์หนุ่มยึดออฟฟิศของรัฐบาลได้ อาจารย์หนุ่มก็จะสามารถส่งทหารออกไปจัดการพวกเขาได้”

“โอ้?” หลี่มู่รู้สึกตะลึงกับน้ำเสียงและสิ่งที่เด็กชายคนนี้พูด “ยึดรัฐบาลแล้วส่งทหารไปจัดการพวกเขางั้นหรอ?”

“แน่นอนที่สุด ท่านอาจารย์หนุ่มลืมไปแล้วหรือว่าท่านได้รับมอบหมายให้เป็นผู้พิพากษาประจำเมืองไต๋ไบ๋เพราะท่านได้ผ่านการสอบระดับสูงของจักรพรรดิหน่ะ ..”

“จักรพรรดิ? อะไรกัน?”

“จักรพรรดิของฉินไง โอเครึเปล่าเนี่ย?”

“อ๋อ ... จักรพรรดิฉิน ตอนนี้จักรพรรดิคือผู้เหนือกฎเกณฑ์สินะ? แล้ว... เรื่องดวงจันทร์สองดวงนี่หล่ะ?”

“กฎเกณฑ์? ก็ประเทศจีนถูกแบ่งออกได้เป็น9ระดับ และถูกตั้งกฎโดย 3จักรพรรดิใหญ่ๆ ในขณะที่จักพรรดิฉินดูแลในส่วนของตะวันตกและทางเหนือ ... ส่วนเรื่องดวงจันทร์มันทำไมหรอ มันก็มีสองดวงมาตั้งนานแล้วนิ”

“อ่าว? แล้วตอนกลางวันหล่ะ? จะมีดวงอาทิตย์สองดวงงั้นหรอ?”

“แน่นอนสิ สองดวงแน่นอน เป็นอะไรของอาจารย์เนี่ยย?”

“อ๋อๆๆๆ แม่งเอ้ยไอปู่บ้า ส่งมาที่ไหนกันเนี่ย ดาวบ้าบออะไรกัน อยากกลับโลกแล้วว..”

เมืองไต๋ไบ๋นั้นตั้งอยู่ที่เชิงเขาไต๋ไบ๋ เป็นที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเทือกเขาขินหลิงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนตะวันตก

และทุกอย่างกระจ่างทันทีเมื่อหลี่มู่และเด็กทั้งสองมาถึงหน้าประตูเมืองไต๋ไบ๋

ประตูเมืองก็ยังคงเปิดอยู่ตลอดแม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนก็ตาม

ผู้คนนับพันต่อแถวกันอย่างสวยงามเพื่อเข้าสู่เมือง ค่อยๆเดินผ่านยามที่ยืนตรวจกาลอยู่หน้าเมืองทีละคนสองคน

หลี่มู่ก็ยืนรอและดูไปต่อไป

เมืองเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม เป็นช่วงนี้พืชผักกำลังเติบโตได้ดี

ที่ตั้งเมืองไต๋ไบ๋นี้ถูกล้อมรอบไปด้วยป่าดึกดำบรรพ์และกำแพงสูงยาว มันมีประวัติมานานหลายร้อยปี หากยืนมองอยู่ที่ข้างนอกเมืองก็จะพบกับตึกหึนมากมายเต็มไปหมด ทั้งหมดดูสวยงามแบบคราสสิค

“เหมือนกับเมืองโบราณเลยเนอะ สวยจริงๆ”

ขณะที่ยืนรอหลี่มู่ก็พูดอะไรไปเรื่อย

จนเขาเริ่มหิว ท้องร้อง

เพราะหลังจากที่เขาฝึกฝนตัวเองในวัดแรนเด็งเสร็จ ปู่ก็ส่งมาที่นี่เลย ทำให้ไม่มีเวลาพักกินข้าว

“อดทนไว้อาจารย์หนุ่ม เมื่อเราไปถึงออฟฟิศก็จะได้กินเอง”

เด็กชายพูดขึ้นมา และเขามีชื่อว่า ชิงเฟง

“โอเค”

หลี่มู่ตอบกลับอย่างน่าเศร้า

ท้องยังคงร้องต่อไป

จนคนรอบๆหันมามองหลี่มู่ จนหลี่มู่เขิลอาย

นั่นก็เพราะว่าเมื่อก่อนหน้านี้ที่สู้กับนักรบบลัดดี้มูน เพราะเขาก็กระวนกระวายหนีจนสภาพร่างกายดูยับเยินสกปรกไปหมด แม้แต่รองเท้าก็ยังหาย ดังนั้นสภาพพวกเขาในตอนนี้คือไม่น่ามองเอาส้ะเลย

“นี่ พี่ชาย พี่ไม่ได้กินอะไรมาตั้งนานแล้วใช่ไหม? อ่ะเอานี่ไป”

ทันใดนั้นก็เหมือนมีเสียงสวรรค์มาโปรดจากทางด้านหลัง

หลี่มู่รีบหันกลับไปอย่างรวดเร็ว

และเขาพบกับเด็กหญิงตัวเล็กอายุราวๆ 7ขวบ แต่งตัวซอมซ่อ ทั้งเสื้อคลุมและกางเกงก็ดูเก่า สวมใส่รองเท้าฟาง ไว้ผมเปียที่หัว ใบหน้าของเธอดูตาโตสดใส พร้อมกับยืนถือ แอพริคอต สีเหลืองสวยงามน่ากินอยู่

“ว้าว นั่นสำหรับผมหรอ?” หลี่มู่ตะลึงเล็กน้อย

แต่เขายังไม่รู้จักเด็กคนนี้เลย..

...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด