Returning From The Immortal World - 367
.......................................................................................................................................................................................
ถังซิ่วเองก็เคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็ว เท้าของเขาก็แตะลงกับพื้นอย่างนุ่มนวลเหมือนเสือชีต้า ทันใดนั้นเขาก็ได้เข้าไปแอบที่พุ่มไม้ทันที
“ดูเหมือนว่าตระกูลซันจะตื่นตัวจริงๆเลยนะ ระวังหน่วยรักษาความปลอดภัยไว้”
ถังซิ่วเองก็ได้มองไปในที่ห่างไกลพร้อมกับเห็นว่าแสงไฟฉายกำลังใกล้เข้ามา
กู่หลางเองก็ได้พูดออกมาว่า
“บอสครับ ผมเข้าใจแล้ว”
ถังซิ่วได้ชี้ไปที่บ้านสไตล์ต่างประเทศที่อยู่ห่างออกไปพร้อมกับแผดจิตสัมผัสทันที
“วันนี้เราได้วางแผนฆ่าพวกมันแบบเร่งรีบเกินไปดึงนั้นจึงไม่รู้แบบแปลนของที่นี่ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันมีกองกำลังอยู่มากแค่ไหนดังนั้นเราต้องเอาบัญชีดำของเราเป็นหลัก ผู้หญิง เด็กและคนแก่ที่ไม่ขัดขืนก็ไม่ต้องฆ่า”
“ได้ครับ”
กู่หลางเองก็ได้แสดงใบหน้าที่ประหลาดใจพร้อมกับพยักหน้าช้าๆ
ขณะที่หน่วยลาดตระเวนได้เดินออกไปสุดสายตานั้นถังซิ่วเองก็ได้นำกู่หลางหลบมุมกล้องวงจรปิดพร้อมเดินเข้าไปใกล้ๆบ้านสไตล์ต่างประเทศ จิตสัมผัสของเขาได้ครอบคลุมและพบว่านอกจากหญิงสาวและเด็กๆสองคนแล้วก็มีชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งถือปืนอยู่
“หลี่ยี่ ลูกสะใภ้ของตระกูลซัน เขาเป็นมันสมองของตระกูลซัน”
ถังซิ่วได้ยืนยันตัวตนของอีกฝ่ายพร้อมกับดูรูปภาพและพบว่าหน้าตาเขาเหมือนกันไม่มีผิด
ในห้องทำงาน
หลี่ยี่เองก็ได้ถือปืนเอาไว้พร้อมกับแสดงรอยยิ้มออกมา ในสมองของเขาได้คิดว่าหลังจากที่ไอ้เจ้าซันเฟย์หลงตายไปนั้นก็ทำให้อำนาจของตระกูลซันลดลงอย่างมาก ตอนนี้กองกำลังของตระกูลซันเองน้อยลงเรื่อยๆ หรือว่า............เราจะสามารถมีอำนาจในตระกูลมากขึ้น ?
ฮึ่มมมมม......
ฉันไม่มีเลือดของตระกูลซันแล้วมันยังไงล่ะ ? ผู้คนที่ตายเองก็มีมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับอำนาจของเราที่เพิ่มขึ้น เมื่อถึงเวลาแล้วหากว่าไม่ต้องการที่จะใช้ฉันก็สามารถหาคนอื่นมาแทนได้
หลี่ยี่เองก็ได้วางปืนลงพร้อมกับไม่ได้สังเกตถึงเงาที่อยู่ตรงหน้าต่าง เขาได้โทรออกไปยังเบอร์หนึ่งพร้อมกับพูดว่า
“พี่ชายเบี่ยว ควบคุมคนเอาไว้ให้ดี ตอนนี้ตระกูลซันเองยังไม่รู้ถึงตัวตนของพี่ ตอนนี้ตระกูลซันได้เป็นลูกน้องของตระกูลเหยาแล้ว พวกเขาได้ทุ่มสุดตัวกับตระกูลถังซึ่งคนของตระกูลซันเองก็กำลังตายมากขึ้นเรื่อยๆ อำนาจและความมั่งคั่งที่เราจะได้รับเองก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆดังนั้นเราต้องเตรียมกำลังเข้าไว้ หากว่าในภายภาคหน้าเกิดอะไรขึ้นก็จะต้องคว้าโอกาสเอาไว้ให้ได้”
“เข้าใจแล้ว”
หลี่ยี่เองก็ได้วางสายไปพร้อมกับทำความสะอาดปืนต่อไป
ที่นอกหน้าต่าง ถังซิ่วสามารถได้ยินการสนทนาของเขาได้อย่างชัดเจน เขาได้แอบเดินกลับไปที่กู่หลางแบบเงียบๆพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขว่า
“มันน่าสนใจจริงๆ คนๆหนึ่งที่ไม่ได้มีสกุลซันและต้องการจะทรยศตระกูล เก็บเขาเอาไว้ก็น่าจะพอมีประโยชน์ในภายภาคหน้า”
กู่หลางเองไม่เข้าใจว่าถังซิ่วหมายความว่าอย่างไรแต่เขาก็ได้ทำตามคำสั่งของถังซิ่วพร้อมกับพูดว่า
“งั้นเราจะไปที่อื่นกันใช่ไหมครับ ?”
“อื่มมมม”
ถังซิ่วได้ตอบตกลงพร้อมกับเดินไปที่บ้านใกล้ๆกัน
ในความมืดนี้ ถังซิ่วและกู่หลางเองก็ได้แอบเข้าไปในบ้านโดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามแม้แต่น้อย พวกเขาได้เดินขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นสอง ณ ตอนนี้มีชายคนและหญิงคู่หนึ่งกำลังหลับอย่างสบายใจ ถังซิ่วยืนยันได้ว่าชายคนนั้นเป็นแกนหลักของตระกูลซัน
“ปึ้กกก.....”
“พุฟฟฟฟฟ.....”
ขณะที่กู่หลางได้ส่งหมัดออกไปนั้นก็ได้ทำให้หญิงสาวสลบ มีดของถังซิ่วเองก็ได้แทงทะลุคอของชายคนนั้นพร้อมกับฆ่าเขาในทันที
“ต่อไป”
ชายทั้งสองคนเองก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นนาน พวกเขาจากไปแบบไม่มีร่องรอยพร้อมกับไปโผล่อยู่ที่บ้านหลังข้างๆ ถังซิ่วได้แผดจิตสัมผัสออกไปพร้อมกับสามารถรับรู้ได้ถึงสถานการณ์ภายในที่แห่งนี้ เขาสามารถรับรู้ได้ถึงตำแหน่งศัตรูทันที
แม้ว่ากู่หลางเองไม่รู้ว่าถังซิ่วจะมีสกิลโกงนี้อยู่แต่เขาก็ได้ฝ่าดงกระสุนและลอบสังหารคนมามากมายดังนั้นพวกเขาร่วมมือกันเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงก็ผ่านบ้านเหล่านั้นไปกว่า6หลัง บ้างก็ถูกทำให้สลบ บ้างก็ถูกฆ่า ตอนนี้คนที่ตายไปในมือของพวกเขามีด้วยกันทั้งหมด 8 คน
บ้านหลังหนึ่งภายในบ้านหลัก
ซันเฟย์หวูเองก็ยังไม่ได้พักผ่อน ชายรูปร่างกำยำสองคนได้มารายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นในวันนี้ พวกเขากำลังคิดกันว่าจะจัดการปัญหาในวันนี้อย่างไร
เขาเป็นน้องสามของหัวหน้าตระกูลซัน เขาเป็นคนที่ถืออำนาจภายในตระกูลยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ควบคุม1ใน3ของกองกำลังทั้งหมดพร้อมทั้งความมั่งคั่งจำนวน1ใน10 ซึ่งมันเรียกได้เลยว่าหากว่าตระกูลซันเสียเขาไปก็เท่ากับว่าถูกตัดนิ้วออกไปทันที
“อาเขวียน พี่สองของฉันถูกฆ่าและบริษัทที่เขาเป็นเจ้าของนั้นก็ให้นายไปบริหารก่อนชั่วคราว ฉันได้ปรึกษากับพี่ใหญ่แล้วว่าเขาก็ตอบตกลงเช่นกัน จำไว้ว่าฉันจะส่งผู้เชี่ยวชาญไปให้นาย20คน หากว่าเจอศัตรูเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องยั้งมือ ฆ่าพวกมันได้เลย”
ซันเฟย์หวูเองก็ได้มองไปที่ชายคนนั้นพร้อมกับพูดออกมาด้วยคำพูดที่จริงจัง
“เอาล่ะ ฉันสามารถยิงพวกตระกูลถังได้อย่างแน่นอน พวกมันจะต้องตาย...........”
“พุฟฟฟฟฟฟฟ.........”
มีดเองก็ได้แทงทะลุท้องของเขาอย่างรุนแรงพร้อมกับมือที่อุดปากเขาเอาไว้ ที่หน้าประตูเองก็มีชายคนหนึ่งได้พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งแทงไปที่คอของชายรูปร่างกำยำอีกคน
“ใครกัน ?”
ท่าทางของซูเฟย์หวูเองก็เปลี่ยนไปพร้อมกับหยิบปืนที่วางอยู่ขึ้นมาทันที หลังจากที่ปืนของเขาเล็งไปที่กู่หลางแล้วถังซิ่วเองก็ได้ผลักเขาออกไปพร้อมทั้งวาดใบมีดตัดมือที่กำลังถือปืนของซันเฟย์หวูออกทันที
“อย่าได้ปริปากโดยเด็ดขาด !”
ถังซิ่วได้จับไปที่คอของเขาพร้อมทั้งปิดปากเขาเอาไว้แล้วใช้มีดจี้ไว้ที่คอของซันเฟย์หวู
ความเจ็บปวดนี้ทำให้ใบหน้าและเนื้อตัวของซันเฟย์หวูบิดเบี้ยวทันที เขาไม่สามารถโห่ร้องออกมาได้พร้อมกับมองไปที่ลูกน้องคนสนิททั้งสองที่กำลังนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าแกจะมีเงินหรือกองกำลังมากเท่าไหร่แต่เมื่อตายไปแล้วก็ไม่สามารถเอาอะไรไปด้วยได้ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือชีวิต ส่งเงินมาแล้วฉันจะไว้ชีวิตแก”
ซูเฟย์หวูเองก็ได้ระงับความปวดเอาไว้พร้อมกับขยิบปากเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง
ถังซิ่วได้ปล่อยมือออกจากปากของเขาพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
“อย่าได้คิดที่จะขอความช่วยเหลือเลยเพราะหากแกพูดออกมาเพียงนิดเดียวฉันก็จะเอามีดนี่ฟันคอแกซะ เอาเงินออกมาซื้อชีวิตซะ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าชีวิตแกจะมีค่าเท่าไหร่กัน”
“แกเป็นใคร?”
ซันเฟยหวูเองก็ได้จับไปที่แขนที่ถูกโฉลมไปด้วยเลือดของตัวเองพร้อมทั้งถามออกมาทันที
ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาพร้อมทั้งพูดว่า
“ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าเราเป็นใคร เราสองพี่น้องเองก็ได้เดินทางไปทั่วจังหวัดนี้และเริ่มไม่ค่อยเหลือเงินกินข้าวแล้วแต่ว่าตระกูลของพวกนายมั่งคั่งเป็นอย่างมากดังนั้นพวกเราเองก็ต้องการที่จะจับเมียของนายแล้วขู่เรียกค่าไถ่เสียหน่อยทว่าเธอกลับอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหนดังนั้นพวกเราจึงต้องเสี่ยงออกมาที่นี่เพื่อหาเงินไงล่ะ”
นัยน์ตาของซันเฟย์หวูเองก็ได้หดลงพร้อมกับถามออกมาว่า
“พวกแกไม่ใช่คนตระกูลถังงั้นหรอ ?”
ถังซิ่วได้ขมวดคิ้วพร้อมกับถามออกมาด้วยความประหลาดใจแบบจงใจว่า
“ตระกูลถังไหนกัน ? ใครคือตระกูลถัง ?”
ใจของซันเฟย์หวูเองก็ได้กระสับกระส่ายพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
“ในเมื่อแกไม่ใช่คนของตระกูลถังแล้วกลับกล้ามาที่นี่ก็แสดงว่าพวกแกอวดดีจริงๆ อย่าบอกนะว่าไม่กลัวว่ามาถึงแล้วจะไม่ได้กลับไป ? ต้องรู้ก่อนนะว่าที่นี่เต็มไปด้วยหน่วยลาดตระเวนและหากว่าพวกเขาค้นพบพวกแกก็จะเป็นศพไปทันที”
ถังซิ่วเองก็ได้ทำท่าทางเหมือนเข้าใจพร้อมพูดว่า
“นี่ไอ้บ้านกากๆแบบนี้มีหน่วยลาดตระเวนด้วยงั้นหรอ ? แล้วทำไมเราถึงไม่เห็นเลยล่ะ ? ฉันเห็นเพียงแค่ไอ้พวกนี้ที่นอนกองอยู่นี่แหละ”
“เวรเอ้ย !”
หัวใจของซันเฟย์หวูเองก็ได้รู้สึกเกลียดชังอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่าไอ้ผู้เชี่ยวชาญสองตัวนี้จะไม่ใช่คนจากตระกูลถังแต่ว่ามาที่นี่เพื่อเงินและโชคดีถึงขั้นที่ว่าไม่ไปเจอเข้ากับหน่วยลาดตระเวน
เรื่องโชคร้ายนั้น
เขาเองก็ได้พบมามากมาย
แต่เขากล้ารับประกันเลยว่าตลอดชีวิตมานี้ไม่มีเรื่องไหนที่โชคร้ายไปมากกว่านี้แล้ว
“แกต้องการเงินเท่าไหร่กัน ? ฉันจะให้เอง”
ซันเฟย์หวูเองก็ได้ถามออกมา
ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ได้ยินมาว่าตระกูลของแกรวยมากๆและรู้มาว่าเมียของแกเองก็บริหารบริษัทบางอย่างอยู่ ในมือของแกเองก็คงจะมีเงินอยู่บ้างใช่ไหม ? ไหนลองว่ามาหน่อยสิว่าชีวิตของเมียแกมีค่าเท่าไหร่กัน จำไว้ว่าหากกล้าที่จะโกหกเราก็ไม่จำเป็นต้องให้เงินหรอกเพราะแกจะได้ตายแน่นอน ฉันเองก็จะข่มขืนเมียแกแล้วฆ่าเธอด้วย”
“แก.....”
ซันเฟย์หวูเองก็ได้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าทว่าตอนนี้เขาเป็นปลาที่อยู่บนเขียง มันแทบไม่มีความเป็นไปได้เลยที่เขาจะฆ่าถังซิ่วและกู่หลางดังนั้นเขาจึงไม่ได้ทำอะไรบุ่มบ่าม
“ฉันจะให้เงินแก 10ล้าน”
ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า
“10ล้าน ? แกจะให้เลยเรา10ล้านเลยงั้นหรอ ?”
กู่หลางเองก็ได้พูดออกมาว่า
“แค่10ล้านงั้นหรอ มันน้อยเกินไป !”
ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า
“กู่หลาง นายบอกมาได้ไงว่า10ล้านมันน้อยไป ? อย่าบอกนะว่าตระกูลของพวกมันมีเงินเยอะงั้นหรอ ?”
กู่หลางเองก็ได้คล้อยตามแล้วพูดว่า
“ใช่แล้ว มันมีบริษัทตั้งใหญ่โตและได้ยินมาว่าตระกูลของพวกมันเองก็มีเงินหลายร้อยล้าน”
ถังซิ่วเองก็ได้เอามีดแทงไปที่ลำตัวของซันเฟย์หวูขณะที่ปิดปากเขาแล้วตะโกนออกมาว่า
“ไอ้เวรนี่ แกกล้าให้เงินฉันแค่10ล้านงั้นหรอ อย่าบอกนะว่าแกคิดว่าฉันมันโง่ให้แกหลอกได้น่ะ ? มันยังไม่ดีพอ ว่ามาอีกครั้ง”
กู่หลางเอกก็ได้พูดออกมาว่า
“ฉันคิดว่า200ล้านมันก็มีปัญญาจ่ายแน่นอน”
ถังซิ่วได้โห่ร้องออกมาว่า
“200ล้าน ? มันจะจ่ายจริงๆงั้นหรอ ?”
กู่หลางเองก็ได้พูดออกมาว่า
“มันจะจ่ายไหมนั่นก็เป็นเรื่องของมัน หากว่ามันไม่ให้เราก็ไปขู่ฆ่าทุกคนที่นี่กับเมียของมันซะ”
ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“ใช่ใช่ ผู้หญิงนั้นมักจะเป็นคนใจอ่อนหรือเราฆ่าคนเลยดีไหม ? ได้ยินมาว่าเมียของมันก็สวยมากด้วย เราก็ยังจะ.........”
“ฉันจะจ่าย !”
ซันเฟย์หวูเองก็ได้พูดออกมาขัดจังหวะคำพูดของถังซิ่วโดยทันที