Returning From The Immortal World - 360
.......................................................................................................................................................................................
จิตสัมผัสที่ถังซิ่วมีนั้นเป็นเหมือนกับการโกงอย่างแท้จริง หลังจากที่เขาได้ปลดปล่อยมันออกไปหลายร้อยเมตรแล้วพื้นที่โดยรอบก็ถูกเขาตรวจสอบทั้งหมด
ดังนั้นเขาสามารถรับรู้ได้ถึงคนต้องสงสัยทั้งหมดที่อยู่บริเวณรอบๆวิลล่าแห่งนี้ อย่างไรก็ตามความสามารถของกล้องส่องทางไกลเองก็ถือว่าดีมาก หากว่าอยู่ในระยะที่ไกลเกินไปเขาก็ไม่สามารถตรวจพบได้
‘ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ต้องหาให้พบ’
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาอย่างจริงจังว่า
“ขณะที่เรากำลังถอนตัวนี้ฉันจะเป็นคนนำไปเอง หากว่าพบผู้ต้องสงสัยก็ฆ่าทันที”
ถังเหว่ยเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ แล้วเราจะทำอย่างไร ?”
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“เราถอนตัวออกไปได้สบายๆมาก หากว่าเราพบผู้ต้องสงสัยและสามารถยืนยันได้ว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามก็ฆ่าทันทีหากว่าไม่มีอะไรแล้วก็ถอนตัวได้”
“ตกลง”
ถังเหว่ยเองก็ได้หยิบปืนออกมาพร้อมกับพยักหน้า
ทันใดนั้น
ชายทั้งสองเองก็ได้เดินออกไปทางประตูหน้าของวิลล่าทันที ขณะที่จิตสัมผัสของถังซิ่วได้ปลดปล่อยออกไปนั้นเขาก็ได้ตรวจดูสถานการณ์โดยรอบทั้งหมด
สิ่งที่ถังซิ่วไม่คาดคิดคือหลังจากที่ออกมาจากวิลล่าแล้วเขาก็ตรวจพบร่องรอยของศัตรูและพบว่าศัตรู2คนกำลังส่องกล้องอยู่บนหลังคาตึกที่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร
อย่างไรก็ตามถังซิ่วเองก็ไม่ได้ทำอะไรบุ่มบ่าม หลังจากที่เขาออกมากับถังเหว่ยแล้วนั้นพวกเขาก็เดินทอดน่องพร้อมกับสูบบุหรี่แล้วพ่นวงกลมออกมาทันที
“หากว่าฉันเดาไม่ผิดตรงมุมถนนฝั่งซ้ายตรงหน้าเรานี้มีรถ SUVจอดอยู่หลายชั่วโมงแล้วใช่ไหม ? หลังจากที่เรากลับมาจากเมืองชางบูแล้วก็เห็นว่ามันหยุดอยู่ตรงนั้นตั้งนานแล้ว”
แสงช่วงกลางคืนนี้ไม่สามารถบดบังสายตาอันแหลมคมของถังซิ่วได้แม้แต่น้อย
ก่อนที่จะกลับมาจากเมืองชางบูนั้นถังซิ่วเองก็พบว่ามีรถ SUV อยู่แต่หลังจากที่เขามองไปแล้วก็พบว่าไม่มีใครอยู่ภายในรถแม้แต่น้อยทว่าตอนนี้เขาพบว่ามีชายอยู่สองคนและหนึ่งในนั้นกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ท้ายรถ
สายตาของถังเหว่ยนั้นแย่กว่าถังซิ่วมากเพราะว่าพวกเขาอยู่ห่างจากรถกว่า400เมตรดังนั้นเขาจึงไม่เห็นรถคันดังกล่าว เขาได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
“รถที่จอดอยู่ริมถนนนั้นมันเป็นเรื่องปกติ ตอนที่ฉันกลับมาก็ไม่ได้สงสัยเลยแม้แต่น้อย”
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“จอดอยู่ริมถนนมันไม่แปลกก็จริงแต่หากว่าตอนนี้มีคนอยู่ในนั้นล่ะ ?”
ท่าทางของถังเหว่ยเองก็เปลี่ยนไปพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
“หากว่าภายในรถนั้นมีคนอยู่จริงแถมยังนั่งอยู่กว่าหลายชั่วโมงแล้วก็แสดงว่านี่มันแปลกๆแล้วล่ะ”
“ไปดูกันหน่อยแล้วกัน”
ถังซิ่วได้พูดออกมาพร้อมกับเดินไปทางรถคันนั้นทันที
ณ ตอนนี้
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งคนขับของก็ได้มองไปที่ประตูทางเข้าของวิลล่าพร้อมกับเห็นถังซิ่วและถังเหว่ย สิ่งที่ทำให้เขาต้องประหลาดใจนั่นคือพวกเขากำลังเดินทอดน่องกัน
“อื่มมมม ?”
เมื่อเขาตระหนักได้ว่าทั้งสองคนกำลังเดินมาทางนี้ เขาก็ได้หันหน้ากลับไปมองที่ชายที่เบาะหลังพร้อมกับพูดออกมาว่า
“พี่ชายฮู่ จากข้อมูลของเราแล้วเด็กหนุ่มที่กำลังเดินมาทางนี้คือถังเหว่ย”
“พวกมันกำลังหาที่ตาย”
ชายคนนั้นเองก็ได้หยิบปืนออกมาพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา
ชายหนุ่มคนนั้นเองก็ได้พูดขึ้นว่า
“พี่ชายฮู่ งานของเราคือการสอดแนมที่นี่นะ หากว่าเราฆ่าคนแล้วจะไม่ถูกลงโทษโดยนายน้องงั้นหรอ ?”
ชายคนนั้นเองก็ได้แสยะออกมาว่า
“ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกหน่า หากว่าเราสามารถฆ่าลูกหลานสายตรงของตระกูลถังได้แล้วล่ะก็ นายน้อยจะไม่โกรธเราแต่จะให้รางวัลเราด้วยซ้ำ จากข่าวที่เราได้รับมานั้นทางฝ่ายเราเสียหายเป็นอย่างหนักซึ่งตอนนี้นายน้อยก็กำลังโกรธเป็นอย่างมาก หากว่าเราสามารถฆ่าถังเหว่ยได้ก็จะทำให้เขาพึงพอใจอย่างแน่นอน”
“ได้ครับ”
ชายหนุ่มคนนั้นเองก็ได้หยิบปืนออกมาจากเสื้อของเขาทันที
ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายเองก็ลดลงเรื่อยๆ
ถังซิ่วเองก็ได้ปลดปล่อยจิตสัมผัสออกไปและพบว่าพวกมันกำลังหยิบปืนพร้อมกับใบหน้าที่ปลดปล่อยจิตสังหารออกมา ทันใดนั้นเขาก็สามารถยืนยันได้ว่าพวกมันไม่ใช่คนตระกูลเหยาแต่เป็นคนจากตระกูลซัน
ยังไงก็ตามพวกมันก็เป็นศัตรูอยู่ดี
“พี่ชายถังเหว่ยระวังหน่อยก็ดี ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีปืน”
ถังซิ่วเองก็ได้เตือนเขาด้วยเสียงกระซิบ
ถังเหว่ยได้พูดออกมาว่า
“ไม่ต้องเป็นห่วง ในเมื่อพวกมันกำลังสอดแนมเราอยู่ก็ไม่มีทางที่จะเปิดฉากยิงเราง่ายๆอย่างแน่นอน”
ถังซิ่วเองก็ได้ถอนหายใจออกมา ไม่เปิดฉากยิงบ้าอะไร ? พวกมันแทบอยากจะฆ่าพวกเขาอยู่ทุกเมื่อ
“เอาปืนมาให้ฉัน”
ถังซิ่วได้หยุดเท้าลงพร้อมกับยืนขวางถังเหว่ยเอาไว้
ถังเหว่ยเองก็ลังเลอยู่ก่อนที่จะหยิบปืนให้กับถังซิ่ว
หลังจากที่ถังซิ่วได้รับปืนมาแล้วนั้นเขาก็ได้เอามันเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อทันที เขาเดินเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆและเมื่อถึงระยะ30เมตรแล้วนั้นถังซิ่วเองก็ได้หยุดเท้าลงพร้อมกับชักปืนออกมาอย่างรวดเร็วและเปิดฉากยิงทันที
“เปรี้ยง เปรี้ยง..........”
เสียงปืนได้ดังขึ้นพร้อมกับกระสุนที่ได้เจาะทะลุกระจกรถ มันได้เจาะทะลุกะโหลกของชายหนุ่มคนขับรถพร้อมกับหัวใจของชายที่นั่งอยู่ด้านหลังทันที เขาไม่เคยจะฝึกยิงปืนแม้แต่น้อยทว่ามันกลับแม่นยำเป็นอย่างมาก ในความคิดของเขาแล้วปืนก็เหมือนกับอาวุธลับจำพวกมีดขว้างซึ่งเขาสามารถบังคับมันได้อย่างสบายๆ
ถังเหว่ยเองก็ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปพร้อมกับมองไปทางคนขับที่ถูกยิง ทันใดนั้นเขาก็มองไปที่ถังซิ่วแล้วพูดว่า
“น้องชาย นายจะรีบยิงไปทำไมกัน ?”
ถังซิ่วได้แตะไปที่ไหล่ของเขาพร้อมกับพูดออกมาว่า
“ไปกันเถอะ เรากลับกันได้แล้ว”
ถังเหว่ยเองก็ได้ชี้ไปที่รถพร้อมกับพูดออกมาอย่างสับสนว่า
“พวกเขา.......”
ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาพร้อมพูดว่า
“เดี๋ยวจะมีคนมาเก็บกวาดให้เอง เรารีบกลับไปที่วิลล่าเพื่อจัดการหน่วยสอดแนม2ตัวให้หมดแล้วจะได้เริ่มการถอนตัวเสียที”
“ศัตรู2คน ?”
ถังเหว่ยเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยความรู้สึกแปลกๆ เขาและถังซิ่วเองก็ออกมาด้วยกันแต่เขากลับไม่พบอะไรแม้แต่น้อย
หลังจากผ่านไปหลายนาที
พวกเขาก็ได้กลับมาที่วิลล่าก่อนที่ถังซิ่วจะหยุดเท้าลงแล้วพูดว่า
“นายรอฉันอยู่ตรงนี้นะ ฉันจะรีบกลับมา”
ถังเหว่ยเองก็ได้อ้าปากเพราะอยากจะไปกับถังซิ่วทว่าเนื่องจากเขาไม่รู้สถานการณ์อะไรเลยดังนั้นจึงไม่อยากไปเป็นตัวถ่วงของถังซิ่ว ท้ายที่สุดก็ได้แต่พยักหน้าและปล่อยถังซิ่วไป
ไม่นานหลังจากนั้นถังซิ่วเองก็ได้มาโผล่อยู่ข้างๆถังเหว่ยพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“เจ้าสองคนที่แอบสอดแนมอยู่นั้นได้ถูกฉันเก็บกวาดไปเรียบร้อยแล้ว เราไปกันเถอะ ให้ทุกคนถอนตัวเดี๋ยวนี้”
ถังเหว่ยเองก็ได้พยักหน้าเงียบๆ
แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ตั้งแต่ที่ถังซิ่วได้มาถึงจังหวัดกวนหยางนั้นหลังจากที่เขาจัดการเรื่องต่างๆแล้วก็ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ไม่นานหลังจากนั้น
รถยนต์หลายคันก็ได้ออกไปจากวิลล่าฮงเฟิงด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้มุ่งหน้าไปที่โรงงานที่เช่าไว้ในเขตฮงปู
แต่ทว่ารถที่ถังซิ่วนั่งมานั้นก็ได้จอดอยู่กลางทางพร้อมกับปล่อยจิตสัมผัสออกไป หลังจากนั้นเขาก็ได้เฝ้ามองว่ามีรถคันไหนที่ตามมาอีกไหม เมื่อพบว่าไม่มีใครติดตามมาแล้วเขาก็ได้ขับต่อไปพร้อมเร่งความเร็วขึ้นนำขบวนรถ
หลังจากผ่านไป20นาที
พวกเขาก็ได้จอดรถอยู่ไกลจากเขตฮงปู นอกจาคนขับรถแล้วคนอื่นๆเองก็ได้นั่งรถโดยสารไม่ก็รถแท็กซี่เพื่อไปยังโรงงานที่ฮงปูทันที
ตอนนี้
มีสายตาของตระกูลเหยาและตระกูลซันอยู่ทั่วทุกที พวกเขาอาจจะถูกจับได้กลางทางดังนั้นพวกเขาจึงได้ลงจากรถกลางทางพร้อมทั้งเปลี่ยนยานพาหนะไปเรื่อยๆ
เวลาตี2ช่วงกลางคืน
ภายในโรงงานที่เช่ามานั้น ห้องที่เคยเป็นที่พักอาศัยของคนงานเองก็ได้ส่องสว่างไปทั่ว เกาเซินเองก็ได้ส่งคนไปซื้อเตียงและสิ่งของอย่างอื่นมาไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหม้อ กระทะหรือสิ่งต่างๆที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันดังนั้นถังซิ่วและคนอื่นๆจึงได้ช่วยกันทำความสะอาดที่แห่งนี้
“นายน้อยซิ่ว เราจัดการเรียบร้อยแล้ว”
หลี่เสี่ยวจี่เองก็ได้เดินมาพร้อมกับชายรูปร่างกำยำหลายคนพร้อมทั้งแจ้งถังซิ่ว
ถังซิ่วได้พยักหน้าพร้อมกับชี้ไปที่เฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ใกล้ๆเพื่อให้พวกเขานั่งลงก่อนที่จะถามออกมาว่า
“จัดการเรื่องรถเหล่านั้นแล้วหรือยัง ?”
หลี่เสี่ยวจี่เองก็ได้พูดออกมาว่า
“ทิ้งไว้ใกล้ๆสถานีตำรวจแล้วครับ”
ถังซิ่วเองก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมพยักหน้าแล้วพูดว่า
“ทำได้ดีมาก นี่เป็นเวลาตอบโต้ของพวกเราแล้ว พวกนายทั้งหมดไปพักผ่อนก่อนอย่างช้าสุดก็เย็นวันพรุ่งนี้ที่ฉันจะคิดแผนการ”
“ได้”
ถังเหว่ย เสวี่ยเจี่ยและหลี่เสี่ยวจี่เองก็ได้พยักหน้าพร้อมๆกัน
ถังซิ่วได้พูดต่อว่า
“แน่นอนว่าป้าเสวี่ยจะต้องไปหาข้อมูลธุรกิจของตระกูลเหยาและตระกูลซันภายในจังหวัดนี้มา ที่อยู่ของพวกมันพร้อมทั้งรายชื่อสมาชิก ผมจะต้องเห็นเอกสารเหล่านั้นก่อนบ่ายสองในวันพรุ่งนี้”
เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดออกมาว่า
“เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง”
ถังซิ่วได้พยักหน้าพร้อมกับมองไปที่ถังเหว่ยแล้วพูดว่า
“นายอยู่ที่นี่เพื่อออกคำสั่ง มีใครที่ดูน่าสงสัยแถวๆนี้ก็จับพวกมันมาให้หมดหากว่าขัดขืนก็ฆ่าได้เลย”
“ได้”
ถังเหว่ยได้พยักหน้าตาม
ถังซิ่วได้มองไปที่หลี่เสี่ยวจี่ก่อนที่จะพูดว่า
“พรุ่งนี้เราจะไปที่จังหวัดฟูคังกัน ฉันจะไปพบกับหัวหน้าตระกูลฮ่วงด้วยตัวเอง”
“ได้ครับ”
หลี่เสี่ยวจี่เองก็ได้ตอบทันที
ถังซิ่วเองก็ได้ให้พวกเขาออกจากห้องนี้ไป
ด้านนอกห้องนี้เห่ยหลงเองก็กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ทางเดิน เขาตระหนักได้ว่ามันเป็นดั่งคำพูดที่ถังซิ่วพูดไว้จริงๆว่าหากต้องการก็สามารถขยี้เขาให้ตายได้เหมือนมดปลวก
เขาสามารถบ่งบอกได้ทันทีว่าชายรูปร่างกำยำทั้ง40-50คนนั้นเป็นคนที่มีความสามารถและแผ่กลิ่นอายของทหารออกมา
อย่างไรก็ตามเขาก็กังวลเกี่ยวกับการกระทำของถังซิ่วและคนเหล่านี้ เขาพบว่าถังซิ่วกำลังจะทำเรื่องที่สำคัญบางอย่างและฝ่ายตรงข้ามเองก็ไม่ใช่อะไรที่เขาสามารถเดาได้แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่เขารู้คือการที่มันสามารถทำให้ตระกูลถังตกที่นั่งลำบากแบบนี้ได้ก็แสดงว่าฝ่ายนู้นเองก็แข็งแกร่งเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้นคือเขายังไม่เข้าใจเลยว่าถังซิ่วจะไปหาเขาทำไมกัน ?
“เห่ยหลง ถังซิ่วบอกให้นายเข้าไป”
หลังจากที่เสวี่ยเจี่ยออกมาจากห้องประชุมแล้วก็ได้พูดออกมาหลังจากที่มองไปทางเห่ยหลง