ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 356
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 358

Returning From The Immortal World - 357


.......................................................................................................................................................................................

เราก็หวังเช่นนั้น

แกนหลักของตระกูลใบเองคิดถึงคำพูดของถังซิ่วแล้วก็มีความหวังขึ้นทันที

นี่ทำให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดของพวกเขากลับเป็นดั่งเดิม

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“ลุงใบ ให้เวลาผมอีกหน่อยแล้วผมจะใช้เส้นสายทุกอย่างเพื่อช่วยหัวหน้าตระกูลให้ได้อย่างแน่นอน หากว่าท้ายที่สุดแล้วตระกูลถังของเราแพ้ศึกนี้ผมก็จะไม่มีทางทิ้งหัวหน้าตระกูลอย่างแน่นอนและจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้เขารอดจากการติดคุก นี่เป็นสัญญาที่ผมจะให้ได้หากว่าสถานการณ์มันแย่ที่สุดแล้ว”

ใบเถาที่ได้ยินทำพูดของถังซิ่วเองก็ได้ถูกกระตุ้นทันที

จริงๆแล้วเขาเองอยากได้ยินคำพูดนี้จากถังหยุนเป็งมากกว่าทว่าผ่านมาขนาดนี้แล้วก็ไม่มีวี่แววว่าจะพูดเลยแม้แต่น้อย ซึ่งในสถานการณ์เช่นนั้นก็ทำให้เขาเข้าใจได้ว่าจะเกิดอะไรต่อไปแต่ทว่าคำพูดของถังซิ่วนี้ทำให้ความกังวลภายในใจของเขาหายไปทันที

“ถังซิ่ว ในเมื่อเธอพูดถึงขนาดนี้แล้วฉันเองก็อยากจะบอกอะไรกับเธอเอาไว้ ตระกูลใบของฉันและตระกูลถังนั้นไม่มีทางแยกออกจากกัน ไม่ว่าเธอจะมีแผนการอย่างไรตระกูลของเราก็จะสนับสนุนโดยไม่มีข้อแม้ อยากได้เงินเราก็ให้อยากได้กองกำลังก็เอาไปได้เลย”

ใบเถาเองก็ได้พูดออกมาอย่างแน่วแน่

ถังซิ่วได้พยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วพูดว่า

“เราจะจำคำพูดของกันและกันไว้เพราะนี่เป็นคำสัญญาของสุภาพบุรุษ ตอนนี้ผมยังไม่มีความจำเป็นที่จะให้ตระกูลของคุณเคลื่อนไหวดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือเพิ่มความระแวงตระกูลเหยาและตระกูลซันมากกว่า เราคงอยู่ที่นี่ได้อีกไม่นานแล้วดังนั้นคุณรอฟังข่าวดีจากผมได้เลย”

“ได้ ฉันจะไปส่งเธอเอง”

ใบเถาเองก็ได้พยักหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน

เมื่อทุกคนได้เดินไปถึงที่หน้าประตูแล้วถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ลุงสอง ต้องขอช่วยให้คุณหารถยนต์มาให้พวกเราหน่อยแล้ว ตอนที่เรามาที่นี่ก็ปีนกำแพงออกมาเพื่อไม่ให้ตระกูลเหยาและตระกูลซันรับรู้”

ใบเถาเองก็ไดโบกมือไปทางใบบิง

ทันใดนั้นเอง

ใบบิงเองก็ได้วิ่งกลับมาทันทีหลังจากผ่านไป1นาที เธอได้เอากุญแจรถออกมามากมายพร้อมทั้งยื่นให้ถังซิ่วแล้วพูดว่า

“รถที่อยู่ที่ลานนี้เธอเลือกไปได้ทั้งหมดเลย”

ถังซิ่วเองก็ได้กวาดตามองพร้อมทั้งพูดออกมาว่า

“เอาอันที่มันไม่สะดุดตาแล้วกัน ดูเหมือนว่าราคารถคันนี้จะไม่สูงมาก น่าจะพอใช้ได้”

หลังจากผ่านไปสองนาที

ถังซิ่ว เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้จากไปพร้อมกับสองผู้คุ้มกัน

บนรถ

เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“ถังซิ่ว ในเมื่อเราต้องเปลี่ยนที่หลบซ่อนตัวแล้วทำไมเธอไม่ให้ตระกูลใบช่วยล่ะ? พวกเขาบริหารจัดการที่เมืองนี้มาตั้งหลายปีก็น่าจะมีที่ที่เหมาะแก่การหลบซ่อนของเรา”

ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า

“ป้าเสวี่ย หากไม่ใช่ยามวิกฤตจริงๆก็ต้องเป็นคนของเราเท่านั้นที่จะเชื่อถือได้ ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเพราะใครจะไปรับประกันได้ล่ะว่าตระกูลใบจะไม่มีหนอนของตระกูลซันและตระกูลเหยาแฝงอยู่”

เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้ชะงักไปพร้อมกับมองไปที่ถังซิ่ว

ทำตัวไม่สะดุดตา !

รอบคอบ !

ก่อนหน้านี้เธอแทบไม่มีหวังเลยว่าตระกูลถังจะชนะตระกูลเหยาภายใต้การนำของถังซิ่วทว่าตอนนี้ความหวังของเธอได้เพิ่มมากขึ้นยิ่งไปกว่านั้นเธอคิดว่าการกระทำของถังซิ่วในวันนี้มีเป้าหมายเพื่อจะปลอบใจตระกูลใบและเห็นได้ชัดเจนว่าเขามีความสามารถจริงๆ อย่างน้อยความรู้สึกกังวลของตระกูลใบเองก็ลงน้อยลง

แม้กระทั่ง.......

เรื่องที่ถังซิ่วสามารถซื้อใจของพวกเขาได้

เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้ถามออกมาว่า

“เราจะไปที่ไหนกันงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“เราจะไปที่อำเภอกังเพื่อหาที่ที่เงียบสงบๆ ผมหมายถึงไม่มีคนอยู่อาศัยเยอะเพราะหลังจากที่เราย้ายไปที่นั่นแล้วมันจะมีคนเป็นจำนวนมากและเราต้องทำให้แน่ใจว่ามันจะไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น”

เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้ถามออกมาว่า

“ถังซิ่ว เธอคิดว่าข่าวที่เธอกำลังหาที่อยู่นี้จะหลุดรอดออกไปไหม ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ไมจำเป็นต้องไปกลัว ตราบใดที่เราให้ความสนใจและหาวิธีก็รับรองได้เลยว่าเราจะต้องไม่เกิดปัญหาอย่างแน่นอน”

เสวี่ยเจี่ยไม่รู้ว่า หาวิธี ของถังซิ่วคืออะไรแต่เธอเชื่อใจเขา หลังจากที่ได้เห็นการกระทำของเขาไปในวันนี้ก็ทำให้เธอต้องคล้อยตามเขาอย่างง่ายดาย

“ไปที่เขตฮงปู”

ชายที่เป็นผู้คุ้มกันของเสวี่ยเจี่ยเองก็ได้พูดออกมาขณะที่กำลังขับรถ

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“ที่เขตฮงปูอยู่ที่ไหนกัน ?”

เสวี่ยเจี่ยได้ตอบกลับไปว่า

“เขตฮงปูนั้นอยู่ที่ทางเหนือของอำเภอกังครับ ที่นั่นมีโรงงานมากมายไม่ว่าจะเป็นโครงการใหญ่หรือเล็ก มีคนจากต่างถิ่นเข้ามาอยู่อาศัยบ้างและโรงงานทำเสื้อของตระกูลถังเองก็ตั้งอยู่ที่นั่น แม้ว่าที่นั่นจะได้รับการพัฒนามาในช่วงหลายปีมานี้แต่จากสถานที่แล้วก็เหมาะมากที่จะหลบซ่อน”

ถังซิ่วได้พยักหน้าพร้อมกับโทรไปหาหัวหน้าตระกูลฮ่วง หลังจากที่ได้ข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองของทางนั้นแล้วเขาก็ได้เบอร์ติดต่อของผู้รับผิดชอบในพื้นที่นั้นทันที

เกาเซิน

เป็นบอสของร้านเกมส์แถบฮงปู เขาได้บริหารร้านนี้มานานหลายปีพร้อมกับมีความสัมพันธ์กับเหล่าอันธพาลซึ่งอีกสถานะของเขาคือหน่วยข่าวกรองของตระกูลฮ่วงที่รับมอบอำนาจของเขตนี้

หลังจากที่ได้รับสายโดยตรงของหัวหน้าตระกูลแล้วมันทำให้เกาเซินถึงกับตื่นเต้น เขาตัดสินใจว่าตัวเองจะต้องร่วมมือกับอีกฝ่ายให้ดีที่สุด ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเรียกร้องอะไรเขาก็จะต้องทำให้พอใจให้ได้

ไม่นานหลังจากนั้น

เขาได้รับสายจากถังซิ่วพร้อมกับบอกที่อยู่ของร้านเขาไป

ร้านเกมส์จิงหยิง

เกาเซินเองก็ได้พาลูกน้องคนสนิทของเขามาพร้อมกับเดินออกไปหน้าถนนเพื่อรอการมาถึงของถังซิ่วและคนอื่นๆ ข้างๆเขานั้นมีเด็กหนุ่มที่ท่าทางสงบกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ หลังจากที่เขาได้บี้ก้นบุหรี่ไปแล้วก็เงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า

“พี่ใหญ่ ฝ่ายนู้นเป็นใครกัน ? ทำไมเขาถึงได้ทำให้บอสใหญ่สั่งการด้วยตัวเองได้พร้อมกับสั่งให้เราร่วมมือกับเขาในทุกวิถีทาง ?”

เกาเซินเองก็ได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดว่า

“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันแต่มันเป็นคำสั่งของบอสดังนั้นเราก็ต้องทำตาม บอสได้บอกเอาไว้ว่าหากว่าเราทำได้ด้วยดีก็จะให้รางวัลเราอย่างงาม แน่นอนว่าเราเองก็จะได้ไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้น”

ชายหนุ่มคนนั้นเองก็ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปพร้อมกับพูดอย่างแน่วแน่ว่า

“เรื่องข่าวสารนั้นผมอ่อนกว่าพี่แต่เรื่องการจัดการนั้นผมแข็งแกร่งกว่ามาก”

เกาเซินเองก็ได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะถามออกมาว่า

“น้องเขวียน เมื่อสามปีที่แล้วบอสพานายไปที่ไหนมา ? ทำไมนายถึงได้แข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้ ?”

เซ่าเขวียนเองก็ได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดว่า

“พี่ใหญ่อย่าได้ถามเลยเพราะผมพูดไม่ได้ ไม่เช่นนั้นผมจะทำให้ตระกูลของเราล่มสลาย อย่าว่าแต่พี่เลยที่จะตายผมเองก็จะถูกเก็บด้วย สิ่งนี้เองผมคิดว่าพี่น่าจะเข้าใจนะ”

เกาเซินเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า

“โอเค ช่างมันเถอะ ในเมื่อนายไม่อยากจะพูดฉันเองก็จะไม่ถามแล้ว”

เซ่าเขวียนเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อไป ในสมองของเขาได้มีภาพความทุกข์ทรมานจากการฝึกเหมือนปีศาจผุดขึ้น นั่นเป็นสถานที่ลับที่ไว้ใช้ฝึกคนและเป็นศูนย์รวมของเหล่าปีศาจ เขาต้องการที่จะไปฝึกภายใต้ที่แห่งนั้นอีกครั้งทว่าเขาก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถรับไหวและตายลงในที่สุด

จริงๆแล้วหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสาวสวยคนนั้นแล้วเขาก็คงไม่สามารถทนได้และตายไปในการฝึกแล้ว

อย่างไรก็ตามเขารู้ดีว่าสถานะของเขาและเธอคนนั้นต่างชั้นกันมาก พวกเขาเป็นคนจากสองโลกที่ตัวเองเป็นได้แค่คางคกส่วนเธอเป็นเหมือนหงส์

ไม่........

ไม่สิ ไม่ใช่หงส์แต่เป็นเทพธิดา

“แป๊น แป๊น ....”

เสียงแตรรถก็ได้ดังขั้นพร้อมกับปลุกเขาขึ้นมา หลังจากที่เงยหน้าขึ้นแล้วก็ได้มองไปที่รถ SUV ที่กำลังแล่นตรงมาทางเขา

หลังจากที่รถจอดลงแล้วถังซิ่วก็ได้เปิดประตูออกมาพร้อมกับมองไปที่เกาเซินแล้วถามว่า

“คุณคือเกาเซินงั้นหรอ ?”

เกาเซินเองก็ได้ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า

“ใช่แล้วครับ คุณคือคุณถัง ?”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ใช่แล้วผมเอง คุณน่าจะได้รับสายจากฮ่วงจินฟูแล้วใช่ไหม ?”

ริมฝีปากของเกาเซินเองก็ได้กระตุกทันที เขาไม่คิดเลยว่าถังซิ่วจะกล้าเรียกชื่อบอสของเขาตรงๆแบบนี้ เขาได้พยักหน้าพร้อมกับพูดออกมาว่า

“บอสใหญ่ได้แจ้งมาแล้วว่าให้พวกเราช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที ไม่ว่าจะมีความต้องการอะไรเราก็จะทำให้คุณพอใจอย่างรวดเร็ว”

ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ผมต้องการหาที่ที่ปลอดภัยเพราะว่าจะมีคนเป็นจำนวนมากมาที่นี่ดังนั้นสถานที่ต้องใหญ่และไม่สามารถถูกค้นพบได้อย่างง่ายดาย”

เกาเซินเองก็ได้ถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“บอกผมหน่อยได้ไหมว่ามีกันประมาณกี่คน ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ขึ้นอยู่กับเวลา หากว่าใช้เวลาจัดการนานก็น่าจะซัก100คนแต่หากว่าใช้เวลาจัดการไม่นานก็น่าจะ40-50คน”

เกาเซินเองก็ได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่องที่จะพูดออกมาว่า

“ผมรู้จักอยู่ที่หนึ่ง มันเป็นที่ที่เหมาะมากและตรงตามความต้องการของคุณ อย่างไรก็ตาม..........”

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“อะไร ?”

เกาเซินได้ตอบกลับไปว่า

“เพราะว่าที่แห่งนั้นค่อนข้างวุ่นวายและมีคนงานอพยพอยู่มากมายและรวมไปถึงเหล่าอันธพาลด้วย แต่บอสของพวกมันนั้นชื่อว่าเห่ยหลงซึ่งเป็นคนที่มีอำนาจและยิ่งไปกว่านั้นคือมีหน่วยข่าวกรองอยู่ด้วย หากว่าเราถูกพวกเขาค้นพบก็จะ..........”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“หากว่ามันไม่มีหัวหน้าอันธพาลแล้วผมเองก็คงจะคิดว่ามันเป็นปัญหาอยู่บ้าง ไปกันเถอะ พาผมไปดูสถานที่ก่อนแล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะเอาไง”

เกาเซินเองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“น้องเขวียน นายขับ”

เซ่าเขวียนเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับเดินออกไปทันที

ถังซิ่วได้หรี่ตาลงขณะที่มองไปที่เซ่าเขวียนแล้วถามออกมาว่า

“เขาเป็นคนของคุณงั้นหรอ ? น่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งใช่ไหม ?”

เกาเซินเองก็ได้ชะงักไปพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“คุณถังนี่สุดยอดจริงๆเลยนะ น้องเขวียนนั้นเป็นคนที่บอสใหญ่ส่งมาให้ผม แน่นอนว่าเขามีความสามารถที่ไม่ธรรมดาและอันธพาล7-8คนนั้นไม่ใช่คู่มือของเขาเลย”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“สิ่งทีคุณกำลังพูดถึงนั้นเป็นเรื่องของการต่อสู้แต่ในความหมายที่ผมจะพูดคือเรื่องของการฆ่าคน เขาเคยได้เห็นเลือดและมีหัวใจที่โหดเหี้ยม”

เกาเซินเองก็ได้จ้องมองพร้อมกับคิดอยู่ภายในใจว่า ไม่อยากจะคิดเลยว่าน้องชายที่ตามเขาอยู่สองปีนี้จะแข็งแกร่งได้ขนาดนั้นอย่างไรก็ตามเพราะเขาเป็นคนที่บอสใหญ่ส่งมาก็ทำให้หัวใจของเขาผ่อนคลายทันที

ไม่นานหลังจากนั้นรถคันหนึ่งก็ได้ขับมาจอดตรงหน้าพวกเขา

ถังซิ่วได้ให้ผู้คุ้มกันของเขานั่งไปกับเซ่าเขวียนพร้อมกับเกาเซินที่นั่งอยู่ข้างคนขับ รถของเขาเองก็ขับตามเซ่าเขวียนไปที่โรงงานทิ้งร้างโดยทันที

“มาทำอะไร ?”

ยามรุ่นปู่ที่เฝ้าประตูอยู่ก็ได้ตะโกนออกมา

หลังจากที่เกาเซินได้ลงมาจากรถแล้วก็ได้เอาเงินออกมา100ดอลลาร์แล้วยื่นให้ปู่คนนั้นก่อนที่จะพูดว่า

“คุณปู่ จำผมได้ไหม ? บอสของร้านเกมส์ไง คุณเองก็เคยไปที่นั่นเพื่อไปรับหลานกลับบ้านไง”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด