Returning From The Immortal World - 356

.......................................................................................................................................................................................

เมืองกวน

วิลล่าฮงเฟิง

ขณะที่อาหารถูกเรียงรายเอาไว้ที่ห้องนั้นถังหยุนเป็งเองก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมกับเดินลงมาจากชั้นสอง หลังจากที่เสวี่ยเจี่ยได้ช่วยเลื่อนเก้าอี้ให้เขาแล้วเขาก็ได้โบกมือให้ทุกคนนั่งลง

“อาหารน่ารับประทานมากๆ ! วันนี้เป็นวันที่ฉันอยากอาหารจริงๆ พวกเธออยากจะดื่มเป็นเพื่อนฉันไหม ?”

ถังหยุนเป็งเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

ดวงตาของถังเหว่ยได้เป็นประกายพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่เจิดจ้า

“คุณลุงมีไวน์ชั้นดีอยู่งั้นหรอครับ ?”

ถังหยุนเป็งเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นไวน์แบบไหนก็คือไวน์ชั้นดีสำหรับฉัน”

ทุกๆคนเองก็เข้าใจได้ถึงอารมณ์ที่มีความสุขของถังหยุนเป็งดี ถังเหว่ยเองก็ได้เข้าไปในห้องครัวพร้อมทั้งให้แม่บ้านนำไวน์ชั้นดีออกมาสองขวด

ถังหยุนเป็งได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพูดออกมาว่า

“ท่านชายได้บอกว่าเขาอนุญาตให้เธอได้รับอำนาจการสั่งการทั้งหมดของจังหวัดนี้ ลุงเองก็จะรีบกลับไปยังจังหวัดซูซู่ในคืนนี้ ฝากเรื่องที่นี่ด้วยนะ”

ถังซิ่วได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า

“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ”

ถังหยุนเป็งเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ถังซิ่ว ลุงอยากจะพูดอะไรตรงๆหน่อยนะ หลายๆอย่างคงจะดีกว่านี้หากว่าเราหาเธอพบก่อนหน้านี้”

ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาแล้วตอบกลับไปว่า

“ตอนนี้มันก็ยังไม่สายเกินไปครับ”

ถังหยุนเป็งได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

“ใช่แล้ว ตอนนี้มันยังไม่สาย เธอตั้งใจว่าจะไปจังหวัดฟูคังตอนไหนงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“พรุ่งนี้เช้า หลังจากที่ผมเข้าใจถึงสถานการณ์ทั้งหมดและความแข็งแกร่งของเรารวมไปถึงจังหวัดฟูคังและกวนหยางแล้ว อ่อใช่ ในเมื่อหัวหน้าตระกูลใบถูกจับตัวไปแล้วตอนนี้ใครรักษาการแทนงั้นหรอครับ ?”

ถังหยุนเป็งได้พูดออกมาว่า

“น้องชายของใบหยาง เขามีชื่อว่าใบเถา”

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าตอบ

หลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้ว

ถังหยุนเป็งเองก็ได้นำผู้คุ้มกัน6คนของเขาจากไป ในวิลล่านี้เหลืออยู่เพียงแค่ถังซิ่ว ถังเหว่ย เสวี่ยเจี่ยและหลี่เจียงจี่เท่านั้น

“ป้าเสวี่ย ป้าบอกผมทุกอย่างเกี่ยวกับคนของเราในทั้งสองจังหวัดนี้ มีเพียงแค่หลังจากที่เราเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของเราแล้วเท่านั้นถึงจะคิดแผนต่อไปได้”

ถังซิ่วได้พูดออกมา

เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดออกมาว่า

“ที่จังหวัดกวนหยางนี้นอกจากสตาร์ไลท์กรุ๊ปแล้วก็ยังมีบางบริษัทที่อยู่ภายใต้เรา พวกเขาทำเกี่ยวกับเสื้อผ้า โฆษณาอย่างไรก็ตามผู้จัดการหลุยหยวนเชิงที่รับหน้าที่บริหารกิจการเสื้อผ้านั้นได้ตายด้วยอุบัติเหตุรถยนต์ไปเมื่อเดือนที่แล้วและน่าจะเป็นฝีมือของคนตระกูลเหยาส่วนคนที่รับผิดชอบเรื่องบริษัทโฆษณา เหว่ยหยวนเองก็ได้ถูกทำร้ายถึงแม้ว่าจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้แต่ก็ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาล..........”

“ทางส่วนของจังหวัดฟูคังนั้นเรามีบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ตระกูลของเราแอบตั้งขึ้นซึ่งมีชื่อว่าจินเชิง แต่ว่ามันก็ไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่อะไรทว่าพนักงานภายในนั้นเป็นคนที่ตระกูลถังฝึกมาเองทั้งหมด อย่างน้อยก็มีประมาณ120คนส่วนผู้รับผิดชอบคือหลี่หลี่เหว่ยยิ่งไปกว่านั้นเราเองก็มีบริษัทฮาร์ดแวร์ บริษัทอสังหาฯ ซึ่งมีผู้รับผิดชอบบังหน้าเอาไว้แต่ผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังจริงๆก็คือหลี่หลี่เหว่ย.....”

“.......”

ขณะที่ฟังคำอธิบายของเสวี่ยเจี่ยนั้นถังซิ่วเองก็เข้าใจได้ถึงความแข็งแกร่งทั้งหมดของตระกูลถังภายในสองจังหวัดนี้ นอกจากสตาร์ไลท์กรุ๊ปแล้วบริษัทอื่นๆของตระกูลเขาเองก็ไม่ใช่บริษัทที่ใหญ่นักแต่ว่าเรื่องการทางทหารแล้วบริษัทรักษาความปลอดภัยจินเชิงนั้นถือว่าใช้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น กว่าครึ่งของ40คนที่ถังหยุนเป็งทิ้งเอาไว้นั้นเป็นคนของบริษัทจินเชิงส่วนอีกครึ่งเป็นผู้รับผิดชอบความปลอดภัยของบริษัทสตาร์ไลท์กรุ๊ป

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“ป้าเสวี่ย ป้าไปที่ตระกูลใบกับผมหน่อย ตอนนี้พวกเขาคงจะใจหายกันเราเองก็ต้องไปปลอบใจพวกเขา”

เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้พูดออกมาว่า

“แต่ว่าลุงของเธอ.....”

ถังซิ่วได้โบกมือขัดจังหวะคำพูดของเธอพร้อมพูดว่า

“ป้าเสวี่ย ลุงผมก็คือลุงผม ส่วนผมก็คือผม ในเมื่ออำนาจทั้งหมดของสองจังหวัดนี้ตกมาอยู่ที่ผมแล้วผมก็ต้องไปพบกับตระกูลใบด้วยตัวเองเพื่อซื้อใจพวกเขา !”

เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้พยักหน้าช้าๆ

ณ ตอนนี้ เธอรู้สึกสงสัยถังซิ่วมากไปกว่าเดิมเพราะเธอตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้มีแค่ความแข็งแกร่งที่น่าทึ่งเท่านั้นแต่รวมไปถึงสติปัญญาด้วย

ถังซิ่วได้มองไปที่ถังเหว่ยแล้วพูดออกมาว่า

“พี่ชาย พี่รออยู่ที่นี่นะ พักผ่อนเยอะๆและดูแลความปลอดภัยของตัวเองด้วย อย่าประมาทโดยเด็ดขาดเพราะวันนี้ตระกูลเหยาเองก็เสียหายเป็นอย่างมากฉันกลัวว่าพวกมันจะกลืนความขมขื่นนี้ไม่ไหวและอาจทำอะไรโง่ๆแล้วมาล้างแค้นเราที่นี่”

ถังเหว่ยได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า

“ไม่ต้องเป็นห่วง นายนั่นแหละอย่างลืมเอาคนไปด้วยแล้วกัน”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดว่า

“หากว่าฉันเดาไม่ผิดที่นี่ต้องมีคนของตระกูลเหยาคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่อย่างแน่นอน หากว่าเราออกไปเป็นขบวนใหญ่ก็จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ตัวได้ ฉันไปที่ตระกูลใบเพื่อที่จะปลอบพวกเขาและหาที่ที่ปลอดภัยกว่าที่นี่หลังจากนั้นเราค่อยย้ายไป”

ถังเหว่ยเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า

“ฉันเข้าใจแล้ว”

หลังจากนั้น

ถังซิ่วและเสวี่ยเจี่ยเองก็ได้ออกไปพร้อมกับผู้คุ้มกันคนสนิทแค่สองคนเท่านั้น หลังจากที่พวกเขาปีนข้ามกำแพงไปแล้วก็โบกรถแท็กซี่ไปอย่างรวดเร็ว

บ้านหลังตระกูลใบ

ใบเถาที่มีท่าทางมืดมนนั้นกำลังอยู่ในห้องพร้อมกับแกนหลักของตระกูล แม้ว่าใบหยางจะโดนอุ้มไปนั้นพวกเขาก็ไม่มีเบาะแสแม้แต่น้อย ตอนนี้พวกเขาไม่มีความหวังเลย

จริงๆแล้วหากว่ามันมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นก็จะมีตระกูลถังเข้ามาช่วยทว่าตอนนี้ตระกูลถังเองยังไม่มีปัญญาพอจะปกป้องตัวเองด้วยซ้ำแล้วจะไปมีเวลามาช่วยตระกูลของเขาได้อย่างไรกัน

“พี่สอง เราต้องหาทางไปช่วยพี่ใหญ่ให้ได้นะ เขาจะต้องถูกสอบสวนอยู่แน่นอนอย่าว่าแต่เรื่องนั้นเลย ตระกูลเหยาและตระกูลซันเองก็ได้เขียนจดหมายมาให้พวกเราว่าตอนนี้ตระกูลถังเองนั้นไม่สามารถเป็นที่คุ้มกันให้เราได้แล้ว เราจะต้องหาทางไปช่วยพี่ใหญ่ให้ได้”

ใบบิงเองก็ได้พูดออกมาด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด

ใบเถาได้ส่ายศีรษะพร้อมพูดออกมาว่า

“รอไปก่อน ตอนนี้เราส่งคนออกไปสำรวจแล้วยิ่งไปกว่านั้นเราเองก็ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ พรุ่งนี้ช่วงเย็นฉันจะไปหาถังหยุนเป็งอีกครั้ง หากว่าพวกเขามีวิธีก็ทำตามพวกเขาแต่หากว่าหมดหนทางแล้วจริงๆแล้วก็ต้องเริ่มโอนย้ายสินทรัพย์และเหล่าสมาชิกในตระกูล”

ใบบิงเองก็ได้พูดออกมาด้วยใบหน้าที่ตกตะลึงว่า

“พี่สอง พี่จะทิ้งธุรกิจของตระกูลเรางั้นหรอ ?”

ใบเถาเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า

“หากว่าพี่ใหญ่กำลังถูกเค้นข้อมูลอยู่นั้นเราจะรอดออกไปงั้นหรอ ? เธอเองก็เป็นคนที่มีอำนาจเหมือนกันและมีโอกาสเยอะมากที่จะถูกจับไปเค้นข้อมูล แล้วตระกูลเราจะเหลืออะไรล่ะ ? อย่างน้อย........... เราก็ยังมีคนในตระกูล5-6คนที่ยังคอยได้รับมรดกอยู่บ้าง”

ใบบิงเองก็ได้เงียบไปพร้อมกับแกนหลักของตระกูลคนอื่นๆ เธอรู้ว่าคำพูดของใบเถานั้นมีเหตุผลมากๆ ตอนนี้ตระกูลของเธออาจจะถูกโค่นล้มลงได้ทุกเมื่อ

ทันใดนั้น

คนจากตระกูลใบเองก็พูดขึ้นว่า

“พี่สอง หากว่าเราไม่ไปเข้ากับตระกูลเหยาแล้วพี่ใหญ่เขาจะ......”

“หุบปากซะ”

ใบเถาเองก็ได้มีแววตาที่ดุร้ายพร้อมกับตะโกนออกมาทันที

“อย่าว่าแต่โอกาสที่เราจะไปเข้าร่วมกับตระกูลเหยาเลย แม้ว่าจะมีโอกาสนั้นเราก็จะไม่ทำโดยเด็ดขาดเพราะเราและตระกูลถังนั้นเป็นเครือเดียวกัน มีเพียงแค่ตระกูลถังล่มสลายเท่านั้นถึงจะเป็นวันที่ตระกูลใบของเราสูญสิ้น แม้ว่าเราจะไปเข้ากับตระกูลเหยาได้ก็จริงแล้วคิดว่าพวกมันจะปฏิบัติต่อเราอย่างดีงั้นหรอ? พวกมันจะสูบเลือดสูบเนื้อไปจากเราก่อนที่จะกลืนกินตระกูลของเราไปทั้งหมด”

ท่าทางของชายคนนั้นเองก็เปลี่ยนไปอย่างมากพร้อมกับก้มหัวลงด้วยความอับอาย

ณ ตอนนี้

ที่ด้านนอกของตระกูลเองก็มีชายรูปร่างกำยำคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพร้อมกับพูดว่า

“พี่ชายเถา ด้านนอกมีผู้จัดการของสตาร์ไลท์กรุ๊ปเสวี่ยเจี่ยมาขอเข้าพบครับ อีกคนเองก็บอกว่าเป็นคนจากตระกูลถังชื่อว่าถังซิ่ว”

ใบเถาเองก็มีท่าทางเปลี่ยนไปพร้อมกับรีบเดินออกไปแล้วพูดว่า

“ไปทักทายพวกเขากับฉัน”

ไม่นานหลังจากนั้น

ใบเถาเองก็ได้นำคนของตระกูลออกมาพร้อมกับมองไปที่ถังซิ่วและเสวี่ยเจี่ย อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้จักถังซิ่วมาก่อนดังนั้นถึงได้มองด้วยความรู้สึกสงสัย

“สวัสดีหัวหน้าเสวี่ย”

ใบเถาเองก็ได้ทักทายออกมา

เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า

“ใบเถา ฉันขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือถังซิ่วลูกชายของถังหยุนเด่ ตามที่ท่านชายได้สั่งมานั้นเขาสั่งให้พี่ชายถังหยุนเป็งมอบอำนาจทั้งหมดในจังหวัดกวนหยางให้ถังซิ่ว”

ท่าทางของใบเถาเองก็เปลี่ยนไปทันที เขารู้ถึงสถานะของถังซิ่วดีแล้วในตอนนี้แต่ไม่คิดเลยว่าท่านชายจะมอบหมายอำนาจจัดการจังหวัดกวนหยางและฟูคังให้เด็กหนุ่มเป็นคนจัดการ

อย่าบอกนะว่า .....

ตระกูลถังได้ทิ้งสองจังหวัดนี้แล้ว ?

ถังซิ่วได้ยื่นมืออกมาทักทายว่า

“สวัสดีครับผมชื่อถังซิ่ว”

ใบถาเองก็ได้บีบเอารอยยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“สวัสดีคุณถัง ฉันน้องสองของตระกูลใบ ใบเถา”

ถังซิ่วได้พยักหน้าพร้อมกับมองไปที่ท่าทางของใบเถา เขารู้ถึงความคิดของใบเถาทันทีก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“อายุของคุณก็พอๆกับพ่อของผมดังนั้นหากคุณไม่ว่าอะไรผมขอเรียกคุณว่าคุณลุงใบแล้วกันนะครับ”

ใบเถาเองก็ชะงักไปพร้อมกับรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย รอยยิ้มที่เขาพยายามบีบออกมาก็เพิ่มขึ้นพร้อมกับพยักหน้าแล้วพูดว่า

“หลานชายถังซิ่ว มาในช่วงกลางดึกแบบนี้มีอะไรงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“เราจะคุยกันตรงนี้จริงหรอครับ ?”

ใบเถาเองก็ได้สติทันทีพร้อมกับพูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ฉันนี่มันไม่รอบคอบจริงๆเลย โปรดตามมา เราไปคุยกันด้านในเถอะ”

ทันใดนั้น

ใบเถา ถังซิ่วและคนอื่นๆเองก็ได้เข้าไปด้านใน หลังจากที่พวกเขานั่งลงแล้วใบเถาเองก็ได้สั่งให้คนไปชงชามาทันที

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“ไม่จำเป็นต้องลำบากหรอกครับลุงสอง เรามาที่นี่เพราะมีเรื่องอยากจะบอกให้ลุงทราบและหลังจากนั้นเราก็จะกลับไปทันที”

ใบเถาเองก็ได้พูดออกมาว่า

“มีเรื่องอะไรงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“ผมรู้ว่าตอนนี้ตระกูลใบเองกำลังสับสนอย่างมากแต่ผมบอกได้เลยว่าพวกคุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกแบบนั้นเพราะตระกูลถังจะไม่มีวันยอมทิ้งจังหวัดนี้หรือปล่อยให้หัวหน้าตระกูลของคุณเป็นอะไรไป ในเมื่อปู่ผมได้ส่งผมมาแล้วผมก็จะจัดการเรื่องที่นี่ให้ราบเรียบ แน่นอนว่ายังมีบางอย่างที่คุณยังไม่รู้เช่นเรื่องที่รองผู้จัดการฝ่ายการเงินของบริษัทสตาร์ไลท์ที่ถูกจับตัวไปโดยตระกูลเหยาและตระกูลซันนั้นได้ถูกผมช่วยกลับมาแล้ว ผมไม่ใช่แค่ช่วยเขาเท่านั้นแต่ก็ฆ่าพวกเปรตนั่นไปกว่า30ตัว หากให้เวลาผมอีกหน่อยผมก็สัญญาว่าจะต้องช่วยหัวหน้าตระกูลคุณกลับมาได้อย่างแน่นอน”

“อะไรนะ ?”

ท่าทางของผู้คนตระกูลใบเองก็เปลี่ยนไปทันที สถานการณ์ที่ผ่านมานั้นตระกูลถังและตระกูลใบก็เอาแต่ถอนกำลังและเสียคนไปมากกว่า20คนแล้ว

พวกเขาไม่คิดเลยว่าการที่ถังซิ่วเพิ่งจะมาถึงในวันนี้นั้นแต่กลับฆ่าคนของตระกูลเหยาและตระกูลซันไปได้30-40คน

นี่มัน........

มันจะน่าทึ่งเกินไปหรือเปล่า ?