Returning From The Immortal World - 354
.......................................................................................................................................................................................
ถังหยุนเป็งเองที่กำลังคิดอยู่นั้นก็ได้รับสายจากเสวี่ยเจี่ย หลังจากที่เขาได้รับรายงานแล้วก็ถึงกับทำให้ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปเป็นประหลาดใจทันที
“เธอมั่นใจงั้นหรอ ? กำจัดกองกำลังของตระกูลเหยาไปได้ตามจำนวนนั้นงั้นหรอ ?”
เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้พูดออกมาว่า
“แน่ใจ ถังซิ่วเป็นคนเข้าไปจัดการด้วยตัวเอง เขาได้ฆ่าไปทั้งหมด30คนพร้อมกับยึดปืนมาอีก 6 กระบอก เรากำลังเดินทางกลับไปแล้วจะถึงวิลล่าฮงเฟิงในอีกประมาณ 1 ชั่วโมง”
“เข้าใจแล้ว”
ถังหยุนเป็งเองก็ได้พูดออกมาพร้อมกับตัดสายไปทันที
หลังจากนั้นท่าทางตกตะลึงของเขาก็ค่อยๆจางหายไปพร้อมกับพูดออกมาว่า
“แจ้งไปว่าเราจะไม่ไปที่เมืองชางบูแล้ว เราจะกลับไปยังวิลล่าฮงเฟิงทันที”
“ได้ครับ”
ชายวัยกลางคนข้างคนขับเองก็ได้ตอบกลับทันที
ถังหยุนเป็งเองก็ได้หันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง หากว่ามีใครกำลังจ้องมองที่เขาอยู่ก็จะรู้ว่าตอนนี้ตัวของเขากำลังสั่นเครือพร้อมทั้งมือที่กำแน่น
“30”
“บุกไปครั้งเดียวก็สามารถฆ่าไปได้กว่า30คน ตระกูลของเราที่ได้ประทะกันมากับตระกูลเหยาจนถึงตอนนี้ก็ตายไปแค่20คนเท่านั้น ถังซิ่วกลับนำคนไปและฆ่าพวกมันได้ถึง30คนในครั้งเดียว !”
“ไม่สิ ไม่ใช่30 ก่อนหน้านี้ตอนไปช่วยรองผู้จัดการเองก็ได้ฆ่าไปอีก 6 คน หากพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ คนของเราถูกจับตัวไปพร้อมกับวางกับดังเอาไว้แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรไปจากปากของตัวรองผู้จัดการแถมยังเสียกองกำลังไปถึง36คน”
“ดี ดี ดี มันดีจริงๆเลย”
“ถังซิ่ว ถังซิ่ว ! นี่มันเป็นโชคลาภของตระกูลถังแล้ว !”
หลังจากผ่านไปนาน
ถังหยุนเป็งเองก็เต็มไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแบบไม่หุบ เขาได้หยิบโทรศัพท์ออกมาแต่เขาก็ไม่ได้โทรไปทว่ากลับส่งข้อความไป
“หลังจากที่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้วค่อยบอกพ่ออีกครั้งก็ได้”
จังหวัดกวนหยาง ซินชีใดกรุ๊ป
เหยาซินหัวเองก็กำลังนั่งอย่างขี้เกียดอยู่ตรงโซฟาพร้อมกับอ่านเอกสารภายในมือ นี่เป็นเอกสารเกี่ยวกับการจู่โจมตระกูลถังในจังหวัดกวนหยางและฟูคัง ตอนนี้หัวหน้าตระกูลใบ ใบหยางที่อยู่ภายใต้ตระกูลถังนั้นอยู่ในมือของเขาแถมสตาร์ไลท์กรุ๊ปเองก็ถูกเผาวอดไปแล้ว มันสามารถเรียกได้ว่านิ้ว2นิ้วของตระกูลถังได้ถูกตัดออกไปแล้ว
“ไปหาข้อมูลการเงินของสตาร์ไลท์กรุ๊ปมาให้ชัดเจนก็จะสามารถตัดช่องทางทำเงินของตระกูลถังได้ หลังจากที่เราทำลายสตาร์ไลท์กรุ๊ปได้แล้วก็จะสามารถตัดนิ้วตระกูลถังได้อีกนิ้ว”
ใบหน้าของเหยาซินหัวได้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ริ้งงงง ริ้งงงงง ริ้งงงงง”
เสียงเรียกเข้าก็ได้ดังขึ้น
เหยาซินหัวได้หยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมกับมองไปที่หมายเลขด้วยความสุขก่อนที่จะกดปุ่มตอบรับแล้วพูดว่า
“ท๊อปเฟอร์สัน มีข่าวดีอะไรจะมาบอกฉัน ?”
“ซินหัว เกิดอุบัติเหตุขึ้น”
เสียงของท๊อปเฟอร์สันเองก็ได้ถูกส่งผ่านมาทางปลายสายพร้อมกับจิตสังหาร
รอบยิ้มบนใบหน้าของเหยาซินหัวเองก็ได้จางหายไปพร้อมกับยืนขึ้นแล้วถามออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า
“เกิดอะไรขึ้น ?”
ท๊อปเฟอร์สันเองก็ได้ตอบกลับด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า
“กับดักที่เราวางเอาไว้ถูกทำลายทั้งหมด พวกมันส่งคนมาล่อที่ด้านนอกพร้อมกับให้อีกกลุ่มหนึ่งลอบเข้ามาภายในและฆ่ากองกำลังที่ฉันวางเอาไว้ไปถึง30คน ยิ่งไปกว่านั้น.........”
เหยาซินหัวเองก็ได้ปล่อยจิตสังหารออกมาพร้อมกับถามต่อว่า
“อะไรอีก ?”
ท๊อปเฟอร์สันเองก็ได้พูดออกมาว่า
“เหยาซินหยูที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลหว่านเหออึนนั้นไม่สามารถติดต่อได้ ฉันคิดว่าเขาก็น่าจะถูกจัดการไปแล้วเหมือนกัน”
“เวรเอ้ย”
เหยาซินหัวเองก็ได้ตะโกนออกมาพร้อมกับวางสายไปทันที เขาได้โทรไปหาเบอร์ของเหยาซินหยูแต่ก็ไม่มีใครรับสายเช่นกัน เขาโทรไปเบอร์ของตระกูลเหยาอีกคนหนึ่งก็ได้ผลลัพธ์เช่นเดิม
หลังจากผ่านไปนาน
เหยาซินหัวที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเองก็ได้โทรไปหาท๊อปเฟอร์สันพร้อมกับพูดด้วยเสียงต่ำว่า
“ให้คนรีบไปที่ลานสเก็ตและไปตรวจดูสถานการณ์ภายในซะ”
ท๊อปเฟอร์สันเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ฉันได้ส่งคนไปก่อนแล้ว น่าจะได้ผลลัพธ์ในอีกไม่นานนี้”
เหยาซินหัวเองก็ได้ทุบลงไปที่โต๊ะพร้อมกับพูดออกมาว่า
“ในเมื่อทางฝั่งโรงงานทำตู้พ่ายแพ้แล้วนายก็รีบๆให้คนถอนตัวออกมาได้แล้ว ฉันจะไปเจอนายที่เมืองกวน”
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
เมืองกวน วิลล่าฮงเฟิง
ถังหยุนเป็งที่ได้กลับมาก่อนแล้วนั้นก็ได้ยืนนิ่งเป็นท่อนไม้อยู่ที่หน้าประตูทางเข้าพร้อมกับชายรูปร่างกำยำที่ยืนอยู่ข้างๆเขาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“มาแล้ว”
ชายข้างๆเขาเองก็ได้พูดออกมาด้วยเสียงเบา
ถังหยุนเป็งได้มองไปที่ประตูทางเข้าพร้อมกับเห็นรถ8คันกำลังตรงมาทางนี้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นรถก็ได้จอดลงพร้อมกับประตูที่เปิดออก
“พี่ชายหยุนเป็ง”
เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมเดินไปตรงหน้าถังหยุนเป็งคนแรก
“คุณลุง”
“คุณลุง”
ถังเหว่ยและถังซิ่วเองก็ได้เรียกออกมาทันที
ถังหยุนเป็งเองก็ได้ยิ้มออกมาอย่างเจิดจ้าพร้อมกับพูดออกมาว่า
“เสวี่ยเจี่ยเธอทำได้ดีมาก”
เมื่อพูดจบแล้วเขาก็ได้มองไปทีถังเหว่ยและถังซิ่วก่อนที่จะพยักหน้าแล้วพูดว่า
“พวกเธอสองคนทำได้ดีมาก ถังซิ่วฉันรู้มาก่อนแล้วว่าเธอแข็งแกร่งแต่ไม่คิดเลยว่าจะแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดเอาไว้มาก”
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“ไม่มีอะไรเสียหน่อยครับ แค่นี้มันเรื่องเล็กน้อย”
ถังหยุนเป็งเองก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ก่อนที่จะพูดว่า
“ดีมาก ในสายตาของฉันแล้วมันเป็นเรื่องที่ใหญ่มากแต่ในสายตาของเธอมันเป็นเรื่องเล็กน้อย ดี ดี ตระกูลถังของฉันมีคนที่โดดเด่นขนาดนี้ฉันก็รับประกันได้เลยว่าอนาคตของตระกูลเราจะต้องรุ่งโรจน์อีกครั้งอย่างแน่นอน”
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้วครับ”
“ฮ่า ฮ่า .....”
ถังหยุนเป็งเองก็ได้หัวเราะออกมาอย่างดังพร้อมกับพูดว่า
“เหนื่อยหน่อยนะ ฉันได้สั่งให้คนไปจัดเตรียมอาหารและไวน์ชั้นเลิศมาให้เธอแล้ว เราไปพูดคุยกันข้างในดีกว่า”
ขณะที่กลุ่มของพวกเขาได้เดินกลับเข้าไปในวิลล่านั้นผู้คุ้มกันเองก็รออยู่ข้างนอกพร้อมกับที่ถังหยุนเป็งได้นำคนอื่นๆขึ้นไปที่ชั้น2
“เสวี่ยเจี่ย ไหนเธอลองบอกสถานการณ์ทั้งหมดให้ฉันฟังหน่อยสิ”
หลังจากที่พวกเขาได้นั่งลงแล้วถังหยุนเป็งเองก็ได้ถามออกมาอย่างไม่สามารถทนไหว
“จริงๆแล้วปฏิบัติการครั้งนี้มีถังซิ่วเป็นหัวหอก เขาเป็นคนที่หาข้อมูลรวมถึงเปิดฉากโจมตีดังนั้นให้เขาเล่าดีกว่า”
ถังหยุนเป็งเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่ว
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ผมส่งคนไปหาข้อมูลมาและพบว่ารองผู้จัดการนั้นถูกคุมตัวไว้ที่ลานสเก็ตดังนั้นเราจึงได้บุกไปช่วยเขากัน หลังจากนั้นก็ตรงกลับไปที่โรงงานทำตู้ หลังจากที่ผมสำรวจสถานการณ์ภายในแล้วก็แอบลอบเข้าไปฆ่าพวกมัน เราสามารถฆ่าคนทั้งหมดภายในโรงงานได้แต่ไม่สามารถฆ่าคนในสำนักงาน น่าเสียดายที่พวกมันรับรู้การมาถึงของเราเสียก่อนไม่เช่นนั้นผมก็คงจะฆ่าคนที่เหลือด้วยดังนั้นเราจึงได้ถอนตัวกลับมา”
ถังหยุนเป็งเองก็ได้พูดออกมาด้วยความรู้สึกประหลาดใจว่า
“แค่นี้หรอ ?”
ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“ใช่แล้วครับ”
ถังหยุนเป็งเองก็พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้ว่าถังซิ่วจะพูดเหมือนมันไม่มีอะไรแต่เขาก็รู้ถึงอันตรายที่แฝงอยู่ดีโดยเฉพาะการที่สามารถฆ่าคนไปได้กว่า36คนโดยไม่เสียหายแม้แต่คนเดียวนั้น เขาได้มองดูแล้วและพบว่าไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่ได้รับบาดเจ็บเลยด้วยซ้ำ
ความสำเร็จนี้ !
มันเกินกว่าที่เขาวาดฝันเอาไว้มาก !
อย่างไรก็ถามเขาเองก็ยังมีคำถามที่ค้างคาใจ หลังจากนั้นเขาก็ได้ถามออกมาว่า
“ถังซิ่วบอกลุงหน่อยได้ไหมว่าคนที่เธอส่งไปสืบข้อมูลนั้นเป็นใครกัน ?”
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“พวกเขาไม่ใช่คนจังหวัดนี้แต่เป็นจังหวัดฟูคัง”
“ใครกันงั้นหรอ ?”
หัวใจของถังหยุนเป็งเองก็สั่นสะท้านเพราะคนที่จะสามารถสืบข้อมูลข้ามจังหวัดกันได้นั้นต้องเป็นคนที่มีอิทธิพลมากๆ
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“หัวหน้าตระกูลฮ่วง ฮ่วงจินฟูจากจังหวัดฟูคัง”
ถังหยุนเป็งเองก็ได้ยืนขึ้นทันทีพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“เธอจะบอกว่าคนที่ช่วยเธอนั้นคือฮ่วงจินฟู ? เธอไปรู้จักเขาได้ไงกัน ?”
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ผมไม่ได้รู้จักเขาหรอกแต่คนของผมรู้จักเขาและมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันมาก”
ริมฝีมากของถังหยุนเป็งเองก็ได้ขดไปมาพร้อมกับความรู้สึกตกตะลึงที่เอ่อล้นเต็มหัวใจ
ตระกูลฮ่วง
นี่เป็นตระกูลใหญ่ของจังหวัดฟูคังถึงแม้ว่าตระกูลฮ่วงจะไม่ได้มีส่วนร่วมในภาครัฐแต่ก็ยังมีใครบางคนของตระกูลที่เป็นนักการเมืองคนสำคัญ น้องชายของฮ่วงจินฟู ฮ่วงจินหมิงนั้นเป็นที่ 2 ของจังหวัดฟูคัง
ถังหยุนเป็งเองก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ดังนั้นจึงได้พูดออกมาว่า
“ถังซิ่ว หากว่าตระกูลของเราจะปะทะกับตระกูลเหยาในจังหวัดฟูคังแล้วตระกูลฮ่วง...”
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“เขาจะเข้าร่วมกับเราอย่างแน่นอน”
ถังหยุนเป็งเองก็ได้พูดออกมาอย่างมีความสุขว่า
“เธอมั่นใจงั้นหรอ ?”
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า
“มั่นใจมากๆ แม้ว่าผมกับเขาจะไม่สนิทกันแต่หัวหน้าตระกูลฮ่วงยังติดหนี้บุญคุณครั้งใหญ่กับคนของผมดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ใช่อำนาจของตระกูลเพื่อช่วยเราแต่จะส่งกองกำลังมาเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน”
ถังหยุนเป็งเองก็ได้พูดออกมาว่า
“หากว่าเราให้ฮ่วงจินฟูช่วยเหลือแล้วเขาจะไม่ปฏิเสธงั้นหรอ ? ฉันหมายถึงการเคลื่อนไหวของเขาจะส่งผลกระทบต่อทั้งจังหวัดกวนหยางเลยนะ”
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“คุณลุงลองขยายความให้ชัดขึ้นอีกหน่อยครับ”
ถังหยุนเป็งเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“การที่ตระกูลของเราสามารถบริหารที่จังหวัดกวนหยางได้นั้นเป็นเพราะตระกูลใบเป็นตระกูลภายใต้ตระกูลเรา หัวหน้าตระกูลใบ ใบหยางนั้นเป็นศิษย์รักของปู่เธอ ด้วยความช่วยเหลือจากเราจึงทำให้ตระกูลของเขาไต่ขึ้นมาเป็นอันดับ4ของจังหวัดนี้ได้ดังนั้นพวกตระกูลเหยามันถึงได้เล็งไปที่ตระกูลใบเป็นอย่างแรกพร้อมทั้งจับตัวใบหยางไป ฉันคิดว่าหากว่าให้ฮ่วงจินฟูช่วยก็น่าจะบีบให้พวกเขาปล่อยตัวใบหยางได้ ?”
ถังซิ่วได้ขมวดคิ้วพร้อมทั้งถามออกมาว่า
“ไม่ใช่ว่าตระกูลฮ่วงจะมีอิทธิพลในจังหวัดฟูคังงั้นหรอ ?แล้วพวกเขามีอำนาจในจังหวัดกวนหยางด้วย ?”
ถังหยุนเป็งเองก็ได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดว่า
“เธอคิดผิดแล้ว เท่าที่ฉันรู้มาคือฮ่วงจินฟูและผู้มีอำนาจหมายเลข1ของจังหวัดกวนหยาง เซ่ากวนเฟิงนั้นเป็นเพื่อนร่วมห้องที่สนิทกันยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเองก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งไปกว่านั้น คือเซ่ากวนเฟิงได้แต่งงานกับญาติฝ่ายน้องของฮ่วนจินฟูดังนั้นหากว่าเขาเคลื่อนไหวเซ่ากวนเฟิงก็ไม่น่าจะปฏิเสธ”