Returning From The Immortal World - 335
.......................................................................................................................................................................................
ถังซิ่วเองก็ได้ถามออกมาว่า
“บอกตรงจุดสำคัญของมันมาหน่อย บางทีผมอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง”
ถังหยุนเด่เองก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาช้าๆว่า
“ซิ่วน้อย แม้ว่าตอนนี้ตระกูลของเราจะไม่ค่อยมั่นคงนักแต่ก็ยังจะพอต้านทานได้ อย่างมากก็แค่ได้รับความเสียหายเพราะฝ่ายตรงข้ามเองก็ไม่กล้าที่จะใช้กำลังทั้งหมดแลกกับเราหรอก ยังไงอูฐผอมๆก็ยังตัวใหญ่กว่าม้านะ หากว่ามันต้องการจะจัดการกับตระกูลเราก็คงจะต้องเสียหายไม่น้อยเช่นกัน”
อูฐผอมๆก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า ?
หมายความว่าไง ?
คิ้วของถังซิ่วได้ขมวดเข้าหากันก่อนที่จะถามออกมาว่า
“พ่อ ผมไม่เข้าใจความหมายของมัน อะไรคืออูฐผอมๆก็ตัวใหญ่กว่าม้ากัน ? เท่าที่ผมรู้ไม่ใช่ว่าตระกูลของเราเป็น1ใน3ตระกูลที่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่หรอ ?”
ถังหยุนเด่เองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“แน่นอนว่ามันจะไม่มีปัญหาเลยถ้าลูกพูดแบบนี้เมื่อ3ปีที่แล้วแต่หลังจากที่โรคหอบหืดของปู่ลูกกำเริบก็ทำให้อำนาจของตระกูลเราถดถอยลง ตอนนี้สถานการณ์ในเมืองหลวงมันซับซ้อนเป็นอย่างมาก ฝ่ายตรงข้ามของเราเองก็ได้ทำอะไรไปมากมายระหว่างที่ปู่ลูกกำลังป่วย แม้ว่าตระกูลของเราจะยังพอเรียกได้ว่าติดอันดับ1ใน10แต่คงไม่สามารถเรียกได้ว่า1ใน3แล้ว”
คิ้วของถังซิ่วได้ขมวดเข้าหากันพร้อมถามออกมาว่า
“พ่อจะบอกว่า........ตอนนี้ศัตรูของเราแข็งแกร่งขึ้นแต่เราอ่อนแอ ?”
ถังหยุนเด่ได้ฝืนยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดว่า
“ใช่แล้ว เรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ตอนนี้แต่ละตระกูลเองก็บริหารงานของพวกเขาแต่ฝ่ายตระกูลศัตรูของเราก็ได้รับการสนับสนุนจากขุมอำนาจอื่นซึ่งทำให้อำนาจของพวกเขามีมากขึ้นดังนั้นพวกเขาเลยออกมาสร้างปัญหากันในตอนนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่กล้าสู้แบบเอาเป็นเอาตายกับเราทว่าการขัดแย้งก็เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยๆ”
ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า
“ตระกูลไหนกัน ?”
“ตระกูลเหยา”
ถังหยุนเด่ได้ตอบกลับไป
ถังซิ่วได้จดจำชื่อนี้เอาไว้พร้อมกับพูดว่า
“พ่อ ตอนนี้ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องตระกูลก่อนแต่หากว่ามีความต้องการอะไรก็สามารถโทรหาผมได้ทุกเมื่อ ขุมพลังที่ผมมีเองพ่อก็น่าจะรู้จักดี ไม่ว่าจะเป็นในทางทหารหรือทรัพยากรก็ตาม”
ถังหยุนเด่เองก็ได้พูดออกมาด้วยความสับสนว่า
“ขุมพลังอะไรงั้นหรอ ? ลูกบอกพ่อมาตอนไหนกัน ?”
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“พ่อ ตอนนี้พ่ออย่าได้ถามเลย จำไว้แค่ว่าหากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ให้ติดต่อผมมาทันที อ่อใช่ ผมลืมถามไปเลยว่าตระกูลเราและตระกูลเหยานั้นขัดแย้งกันที่ไหนงั้นหรอ ?”
ถังหยุนเด่เองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“จังหวัดกวนหยางและจังหวัดฟูคัง”
ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าพร้อมพูดว่า
“โอเค พ่อกับแม่ก็ดูแลตัวเองด้วยแล้วกัน”
“ไม่ต้องเป็นห่วง”
ถังหยุนเด่ได้ตอบกลับไป
เมื่อวางสายไปแล้วสายตาของถังซิ่วก็เป็นประกายแห่งความเย็นชา แม้ว่าเขาเองจะไม่ได้มีสายสัมพันธ์กับตระกูลถังมากมายในตอนนี้แต่ตระกูลนี้เองก็เป็นของเขาซึ่งคนในตระกูลก็คือญาติของเขาเช่นกันดังนั้นหากว่าฝ่ายตรงข้ามมันอวดดีเกินไปเขาก็ยินดีที่จะให้ห้องอาหารร้อยงานฉลองไปจัดการปัญหานี้
และเมื่อใช้ขุมพลังของห้องอาหารร้อยงานฉลองเมื่อไหร่ก็รับรองได้เลยว่าจะต้องหวาดผวากันไปทั่วอย่างแน่นอน
ถังซิ่วที่ใส่ชุดนอนอยู่นั้นก็ได้ตื่นขึ้นพร้อมกับไปที่ห้องเก็บไวน์แล้วหยิบมันมาหนึ่งขวด แม้ว่าเขาจะไม่ได้ติดไวน์แต่การดื่มเล็กน้อยก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร หลังจากที่เขาดื่มไวน์แดงไปหนึ่งแก้วแล้วก็ได้เดินออกไปที่ระเบียง
เขากวาดตามองไปยังภาพโดยรอบซึ่งมีแต่ป่าไม้ยามค่ำคืนพร้อมกับถอนหายใจออกมา ขุมพลังที่เขามีอยู่ในตอนนี้มันน้อยเกินไป หากว่าให้เวลาเขาอีกไม่กี่ปีอย่าว่าแต่ตระกูลเหยาเลยแม้จะเป็นตระกูลที่ทรงพลังทั้งหมดร่วมมือกันเขาก็มั่นใจว่าจะจัดการได้
“คนที่มีความสามารถ !”
“ผู้เชี่ยวชาญ !”
ในสายตาของถังซิ่วเองก็เป็นประกายแห่งความเย็นยะเยือกก่อนที่จะคิดถึงเรื่องที่เขาจะไปหากลุ่มคนมีความสามารถมาจากไหนกัน ? หลังจากที่ผ่านไปครู่หนึ่งไวน์แดงก็ได้หมดไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ดินแดนแห่งนิรันด์นั้นเป็นโลกใบใหญ่ !
โลกนี้เป็นเพียงแค่โลกใบเล็กเท่านั้น !
โลกทั้งสองเองก็มีเอกลักษณ์เหมือนๆกัน
ครั้งหนึ่งถังซิ่วเองก็ได้เดินทางไปทั่วทุกเขตแดนในดินแดนแห่งนิรันด์และรวมรวมเหล่าผู้ใต้บัญชาของเขา แม้ว่าเขาจะขึ้นเป็นนิรันด์สูงสุดแล้วเขาก็ได้ส่งต่ออำนาจของแต่ละพื้นที่ให้พวกเขาสั่งการแต่ก็คอยดูแลอย่างห่างๆ
ดังนั้นเขามีความคิดปรากฏขึ้นภายในจิตใจ
คุก !
ตลาดมืด !
ถังซิ่วมั่นใจว่าในคุกจะต้องมีคนที่มีความสามารถอย่างแน่นอน
สมัยที่อยู่ในดินแดนแห่งนิรันด์เองเขาก็ได้ฝึกผู้เชี่ยวชาญจากนักโทษมากมายที่เป็นเหมือนหน่วยข่าวกรองทั่วดินแดนให้กับเขา ผู้คนเหล่านี้เป็นคนที่โหดเหี้ยมและไร้ความปราณี พวกเขามีทักษะมากมายและถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีนิสัยแบบนี้ถังซิ่วเองก็มีวิธีควบคุมชีวิตของพวกเขาเอาไว้
ดังนั้น ในทุกๆพื้นที่ทั่วดินแดนแห่งนิรันด์ก็จะมีกองกำลังที่เขาฝึกเอาไว้และทุกๆคนเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งทั้งหมด แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นที่ตัดผ่านไปยังระดับนิรันด์สูงสุดแต่ก็สามารถทำให้นิรันด์หลายหมื่นล้านคนต้องหวาดผวา
ที่ดินแดนแห่งนิรันด์นั้นมีตลาดมืดอยู่และเขาเองก็เชื่อว่าที่โลกนี้ก็ต้องมีเช่นกัน แม้ว่าของโลกจะด้อยคุณภาพกว่าก็ตามแต่มันก็เป็นแหล่งรวมของคนดีและคนชั่วมากมาย เขาคิดว่าตัวเองสามารถไปหาคนที่มีความสามารถได้จากสนามมวยใต้ดิน
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ความคิดของถังซิ่วเองก็ใสกระจ่างอย่างไรก็ตามเขาได้รายงานตัวที่มหาวิทยาลัยไปแล้วยิ่งไปกว่านั้นกู่หยานเอ๋อที่หมดสติอยู่ที่เกาะจิงเหมินเองก็มีโอกาสตื่นขึ้นได้ทุกเมื่อดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาว่างพอที่จะไปหาคนมีความสามารถเหล่านั้น
“ต้องปรับความคิดพร้อมกับหาเวลาไปในที่ต่างๆ นอกจากผู้เชี่ยวชาญของทางห้องอาหารแล้วก็ต้องหาจากที่อื่นมาเพิ่มอีก”
ถังซิ่วได้คิดอยู่ภายในจิตใจ
เมืองหลวง
ที่บ้านหลักตระกูลถัง ถังเกาเชิงกำลังนั่งเครียดขณะที่อ่านเอกสารในมือส่วนถังเกาโฉวที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขานั้นกำลังเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธ
“พ่อค่ะ ตอนนี้ตระกูลเหยาได้ปิดกั้นเส้นทางลำเลียงสินค้าของสตาร์ไลท์กรุ๊ปของเราในจังหวัดฟูคังไว้แล้ว ตระกูลใบที่อยู่ภายใต้เราเองก็ถูกบุกรุกพร้อมกับใบหยางที่เป็นหัวหน้าตระกูลเองก็ได้ถูกจับตัวไป หากว่าเราไม่รีบตอบโต้กลับไปก็คงไม่สามารถรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ได้”
ถังหมินที่ยืนอยู่ข้างๆพวกเขาเองก็ได้พูดออกมาด้วยความรู้สึกโกรธ
ถังเกาเชิงเองก็ได้เงยหน้าขึ้นมาพร้อมทั้งพูดว่า
“ตระกูลเหยาเองก็ได้วางรากไว้ในจังหวัดฟูคังมาหลายปีแล้ว ตอนนี้ขุมอำนาจของที่นั่นเองนอกจากตระกูลที่ใหญ่ที่สุด2ตระกูลก็เริ่มที่จะร่วมมือกับตระกูลเหยาอย่างลับๆแล้ว หากว่าเราต้องการจะตอบโต้พวกเขาก็จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลใหญ่ทั้งสองที่เหลืออยู่ไม่เช่นนั้นก็คงจะเป็นเรื่องที่ยากมาก”
ถังหมินเองก็ได้พูดออกมาอย่างเคร่งขรึมว่า
“หากว่าเราไม่สามารถทำอะไรได้หรือว่าเราจะแอบลอบจัดการพวกมัน ? หลายๆปีมานี้หนูก็ได้ฝึกหน่วยลับไว้มากมายและสถานะของพวกเขาเองก็ถูกปกปิดเอาไว้ หากว่าพวกเขาลงมือก็ไม่มีใครสาวมาถึงตระกูลเราได้อย่างแน่นอน”
ถังเกาเชิงเองก็ได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
“ตระกูลเหยาและตระกูลอื่นๆของจังหวัดฟูคังเองก็ไม่ใช่พวกโง่ แม้ว่าพวกมันจะไม่มีหลักฐานแต่ก็สามารถคาดเดาได้ว่าเป็นการกระทำของพวกเรา หากว่าพวกมันใช้เส้นสายทั้งหมดเพื่อสืบเรื่องที่เกี่ยวข้องเองก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ยาก”
ถังหมินเองก็ได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาว่า
“พวกมันสืบสวนแล้วไงล่ะ ? เราเองก็ต้องทำให้พวกเขารู้ว่าตระกูลของเราไม่ได้จะมาแหย่ง่ายๆ หากว่าพวกมันอยากจะทุ่มหมดหน้าตักเราก็พร้อมที่จะเล่นไปกับพวกมัน”
แม้ว่าถังเกาโฉวที่อยู่ข้างๆเองจะเต็มไปด้วยความโกรธแต่เขาเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ถังหมิน จำคำพูดบางอย่างเอาไว้นะว่า เราไม่สามารถแบกรับกลอุบายมากมายของพวกเขาทั้งหมดได้ หากว่าตระกูลเราและตระกูลเหยาทุ่มสุดตัวเพื่อเข่นฆ่ากันแต่นอนว่าเราจะไม่ได้เสียหายน้อยๆอย่างแน่นอนและเมื่อถึงเวลานั้นแล้วหากว่าเรายังไม่ถูกตระกูลเหยาทำลายก็จะถูกตระกูลเหล่านั้นใช้ผลประโยชน์”
ถังเกาเชิงเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“ใช่แล้ว สิ่งที่พวกเราต้องทำในตอนนี้คือบริหารไปอย่างช้าๆเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกเรา ก่อนหน้านี้ฉันป่วยและไม่ได้จัดการเรื่องต่างๆมากมายส่วนศัตรูของเราเองก็คิดว่าฉันคงจะอยู่ได้อีกไม่นานดังนั้นจึงได้สร้างปัญหาขึ้นทว่าตอนนี้อาการป่วยของฉันเองก็ได้ถูกรักษาแล้วและแน่นอนว่าการมีชีวิตรอดอีก10ปีเองก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงต้องปกปิดเรื่องที่อาการป่วยของตัวเองหายแล้ว ? เพราะว่าฉันกำลังอดทนเพื่อรอให้โอกาสได้ชัยชนะของเรามาถึง แผนการลับเมื่อเดือนที่แล้วของเราก็ได้เริ่มไปแล้ว หากว่าให้เวลาเราอีกไม่กี่ปีฉันก็เชื่อว่าเงินจำนวนมากที่ตระกูลของเราได้หว่านลงไปนั้นจะต้องเกิดผลและจัดการตระกูลเหยาได้อย่างแน่นอน”
ถังหมินเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“แต่ตระกูลเหยาเองก็เกาะหนึบอยู่กับจังหวัดทั้งสองทางตะวันตกอย่างแนบแน่น หากว่ามันยังเป็นเช่นนี้อยู่ ขุมอำนาจของเราในจังหวัดเหล่านั้นจะถูกถอนรากออกโดยพวกเขา”
ถังเกาเชิงเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ฉันได้ติดต่อน้องสองแล้ว เขาใช้เวลามีความสุขอยู่ที่เกาะจิงเหมินตั้งมากมายก็คงจะถึงเวลาที่เขาจะออกมาเดินเล่นบ้างแล้ว แม้ว่าพวกมันจะถืออำนาจในสองจังหวัดนั้นแต่เราเองก็จะไม่ให้มันได้อยู่อย่างสงบสุขหรอก”
ถังหมินเองก็ได้ถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“ต้องการให้หนูไปจัดการไหม ?”
ถังเกาเชิงได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดว่า
“ตอนนี้ยังไม่ต้อง พ่อจะให้พี่ชายของลูกไปจัดการด้วยตัวเองและเขาคงสามารถยืดเวลาออกไปได้บ้าง อ่อใช่ หลังจากที่พูดเรื่องสถานการณ์ปัจจุบันให้หยุนเด่ฟังดูแล้วก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะสร้างกองกำลังที่สามารถเคลื่อนไหวในความมืดได้ หากว่ามีปัญหาจริงๆเราก็อาจจะได้ใช้ขุมพลังของเขา”
ถังหมินเองก็ได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า
“พี่สองของหนู ? เขาไม่ใช่ ......”
ถังเกาเชิงเองก็ได้พูดออกมาว่า
“เรื่องบางเรื่องนั้นลูกยังไม่รู้ พี่สองและพี่สะใภ้สองของลูกกำลังมาที่เมืองหลวงนี้ เมื่อถึงเวลาแล้วลูกก็จะรู้เอง”
ถังหมินเองก็รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากเพราะเขารู้จักพี่สองของเขาก่อนที่จะเป็นเจ้าชายนิทราดีแต่เขาไปสร้างกองกำลังลับตอนไหนกัน ?
“ริ้งงงงงงง ริ้งงงงงง ริ้งงงงง....”
เสียงเรียกเข้าได้ดังขึ้นจากโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าถังเกาเชิง
คิ้วของถังเกาเชิงได้ยกตัวขึ้นก่อนที่จะกดปุ่มตอบรับแล้วพูดว่า
“มีเรื่องอะไร ?”
“พ่อครับ ศูนย์ใหญ่ของสตาร์ไลท์กรุ๊ปที่จังหวัดฟูคังได้ถูกเผาและไฟเองก็ลามไปอย่างบ้าคลั่งซึ่งมีหน่วยรักษาความปลอดภัยจำนวนหนึ่งที่ติดอยู่ในนั้น พวกเขาได้สงสัญญาณไปให้หน่วยดับเพลิงแล้วแต่ดูเหมือนว่าสัญญาณจะไปไม่ถึงและตอนนี้ตึกเองก็ไหม้มากว่า20นาทีแล้ว”
เสียงที่กำลังโกรธจัดของถังหยุนเป็งได้ดังออกมาจากทางปลายสาย