Returning From The Immortal World - 333
.......................................................................................................................................................................................
วิสสสส
รถของหลี่เจิ้งเองก็ได้ขับมาถึงพร้อมกับความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อเมื่อเขามองไปยังรถที่จอดอยู่กลางทางพร้อมทั้งใบหน้าซีดขาวของฮ่วนหยู
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?
ฮ่วนหยูน่าจะอยู่อันดับหนึ่งไม่ใช่หรอ ? แล้วเขาจอดทำไม ?
อย่าบอกนะว่า.....
รถของเขาเกิดปัญหา ?
หลี่เจิ้งเองก็ได้มองไปที่ห่างไกลพร้อมพบว่าไม่มีวี่แววของถังซิ่วหรือฉีหนานแม้แต่น้อยซึ่งทำให้เขาเปิดประตูออกมาด้วยความโกรธพร้อมทั้งวิ่งไปที่รถของฮ่วนหยูแล้วพูดออกมาว่า
“เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมถึงได้หยุดกลางทาง ?”
ฮ่วนหยูเองก็ได้ออกมาจากรถของเขาพร้อมทั้งชี้ไปที่รอยยางที่พื้นก่อนที่จะพูดว่า
“หากว่าเมื่อกี้ถังซิ่วไม่ได้ช่วยฉันไว้ ตอนนี้ฉันก็คงจะตายไปแล้ว”
“อะไรนะ ?”
หัวใจของหลี่เจิ้งเองก็กระสับกระส่ายพร้อมกับมองไปตามรอยล้อ เขาตั้งใจสำรวจมันและพบว่ารอยล้อของรถฮ่วนหยูบิดเบี้ยวไปมาอย่างน่าเหลือเชื่อ มันแสดงให้เห็นว่ารถของเขาไถลไปมาหลายเมตรก่อนที่จะหยุดลงในที่สุด
รอยยางเริ่มขึ้น..........ที่ทางกั้นขอบทาง?
ก่อนหน้าที่เขาจะวิ่งมาถึงรถของฮ่วนหยูนั้นก็ได้เห็นรอยชนที่เกิดขึ้นแล้วเช่นกันซึ่งทำให้ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปทันที
“ฮ่วนหยู ความสามารถของนาย.....”
ฮ่วนหยูเองก็ได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดว่า
“มันไม่ได้เป็นเพราะความสามารถของฉันแต่ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าฉีหนานจะเป็นคนที่โหดเหี้ยมและไร้ปราณีขนาดนี้ เธอต้องการที่จะฆ่าฉัน”
หัวใจของหลี่เจิ้งได้กระสับกระส่ายพร้อมทั้งแสดงความรู้สึกไม่อยากจะเชื่ออกมา
“ทำไม ?”
ฮ่วนหยูเองก็ได้ฝืนยิ้มพร้อมทั้งพูดว่า
“ฉันเองก็ไม่รู้คำตอบที่แน่ชัดเหมือนกันแต่หากว่าให้เดาก็คงจะเป็นเพราะว่าเธออยากจะชนะ”
หลี่เจิ้งได้เงียบไป
นอกจากแพ้ก็คือฮ่วนหยูตาย มันมีแค่สองทางเลือกเท่านั้นซึ่งมันทำให้เขาเลือกที่จะแพ้ดีกว่า
“ไปกันเถอะ”
หลี่เจิ้งเองก็มีความรู้สึกที่ซับซ้อนเป็นอย่างมากพร้อมกับหันหลังกลับไปยังรถของเขา
ที่ลานกว้างนั้น ผู้ชมกว่าหลายร้อยคนเองก็กำลังตั้งหน้าตั้งตารอพร้อมกับกำลังสนทนากันว่าใครจะเป็นผู้ชนะ
“ฉันคิดว่าฮ่วนหยูน่าจะเป็นผู้ชนะ เขาเป็นถึงนักแข่งรถมืออาชีพและเป็นผู้ที่ชนะรางวัลอาเซี่ยนนะ แม้ว่าจะเป็นการแข่งขันระดับโลกเองก็ได้ตั้งที่สอง”
“ฉันเองก็คิดว่าฮ่วนหยูจะเป็นผู้ชนะเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญกับคนธรรมดามันก็แตกต่างกันอย่างมาก แม้ว่าฉีหนานเองจะสามารถชนะใครมาได้หลายคนแต่เธอเองก็ไม่ได้มีชื่อเสียงพอที่จะเทียบกับเทพนักแข่งได้”
“ฉันไม่เชื่อเช่นนั้น ฉันคิดว่าโอกาสของฉีหนานเองก็มีเยอะพอสมควร”
“นายคิดว่าถังซิ่วจะได้ที่เท่าไหร่กัน ? ที่สุดท้าย ? หรือรองสุดท้าย ?”
“ก่อนหน้านี้เขาใช้เวลาไปเกือบตั้ง15นาทีถึงจะเป็นการลองสนามครั้งแรกก็เถอะ ฉันคิดว่าเขาไม่ได้น่าทึ่งขนาดนั้น”
“ไอ้เจ้านั่นมันเป็นคนโง่ เขามาที่นี่เพื่อจะเสียเงินแท้ๆ”
“ไม่รู้เลยว่าเขาไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน”
“............”
ขณะที่เสียงสนทนาดำเนินต่อไปนั้น ที่ห่างไกลเองก็ได้มีไฟหน้ารถคู่หนึ่งปรากฏขึ้น พริบตานั้นก็ทำให้คนทั้งหมดเองเงียบลงทันทีพร้อมกับมองไปที่ไฟคู่นั้น
“บอสจี่ นั่นเป็นรถของพี่ฉีหนาน นี่มันดีจริงๆ ที่หนึ่งเป็นของพี่สาวฉีหนาน!!!”
ชายหนุ่มที่เดินตามจี่มู่มานั้นก็ได้โห่ร้องออกมาทันทีหลังจากที่สามารถยืนยันตัวรถได้
ในพริบตานั้น
เสียงร้องเองก็ได้ดังไปทั่วลานกว้าง
คนที่พูดว่าฉีหนานด้อยกว่าฮ่วนหยูเองก็มีท่าทางที่น่าเกลียดเป็นอย่างมาก พวกเขาคิดว่าคำพูดของตัวเองเมื่อก่อนหน้านี้มันน่าอับอายยิ่งนัก
“ดูสิ ด้านหลังเธอก็มีรถตามมาเช่นกัน !”
ดวงตาของพวกเขาเองก็ได้มองไปที่รถ Lamborghini สีดำที่อยู่ถัดออกไปซึ่งถึงกับทำให้พวกเขาโง่งมด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อทันที
ถังซิ่ว ?
คนขับคือถังซิ่ว
ทันใดนั้นผู้คนเองก็เอาแต่จ้องมองด้วยดวงตาคู่โตจนแถบจะถลนออกมาจากเบ้าตา พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าที่2จะเป็นถังซิ่ว
“มันเป็นไปได้ไงกัน ?”
คนหลายคนเองก็ได้โห่ร้องออกมา พวกเขาสามารถรับได้หากฉีหนานได้ที่ 1 แต่การที่ถังซิ่วจะได้ที่2นั้นเป็นอะไรที่พวกเขาไม่สามารถยอมรับได้
เพราะอย่างไรก็ตามถังซิ่วไม่เคยมาที่นี่เลยด้วยซ้ำ เขาไม่ชินกับสนามนี้เลยแม้แต่น้อยทว่ากลับเอาชนะเทพนักแข่งได้เนี่ยน่ะ นี่มันจะท้าทายสวรรค์เกินไปหรือเปล่า?
หลังจากผ่านไปสองนาที
หลี่เจิ้งและฮ่วนหยูเองก็ได้กลับมาพร้อมกับท่าทางที่น่าเกลียดบนในหน้า เมื่อเขาเปิดประตูรถออกมาพบกับถังซิ่วและฉีหนานแล้วก็ได้เดินไปทางพวกเขาก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ฉีหนาน นี่มันหมายความว่าไง ?”
ใบหน้าที่บูดบึ้งได้ปรากฏขึ้นก่อนที่หลี่เจิ้งจะถามออกมาอย่างรุนแรง
ฉีหนานได้ตอบกลับเบาๆว่า
“ฉันทำไม ? แพ้แล้วยอมรับไม่ได้ ?”
หลี่เจิ้งเองก็ได้คำรามออกมาด้วยความโกรธว่า
“เราแข่งขันรถกันเป็นกีฬาแต่มันถึงกับต้องหมายปองชีวิตกันเลยงั้นหรอ ? เธอรู้ไหมว่าเป็นเพราะเธอที่เกือบจะทำให้ฮ่วนหยูตกเหวตายน่ะ ?”
ฉีหนานเองก็ได้แสยะออกมาว่า
“การแข่งรถมันก็อันตรายอยู่แล้ว หากว่ากลัวก็ไม่ควรจะมาแข่งนะ”
“เธอ......”
ฮ่วนหยูเองก็ได้โบกมือขัดจังหวะเขาพร้อมทั้งมองไปทางถังซิ่วก่อนที่จะพูดว่า
“ก่อนหน้านี้.......ขอบคุณมากๆ”
ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฉันไม่คิดว่าจะช่วงชิงชีวิตกันเพียงเพราะแข่งรถหรอกเพราะอย่างไรก็ตามนี่เป็นการแข่งขันเท่านั้น หลังจากนี้ไปก็เล่นให้น้อยๆลงหน่อยล่ะเพราะชีวิตเราเองก็มีแค่1ชีวิตเท่านั้น”
ฮ่วนหยูเองก็ได้พยักหน้าพร้อมทั้งตอบกลับไปว่า
“ฉันจะจำเอาไว้ ครั้งนี้ถือว่าฉันติดหนี้บุญคุณนาย หากว่าต้องการความช่วยเหลือในอนาคตก็สามารถติดต่อฉันได้เลย เรามาแลกเบอร์โทรศัพท์กันดีกว่า”
ถังซิ่วได้โบกมือของเขาพร้อมทั้งพูดว่า
“ฉันคิดว่าหลังจากนี้เราคงไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีกแล้วล่ะดังนั้นไม่จำเป็นหรอก หากพูดกันตามตรงแล้วการแข่งขันนี่มันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากๆแต่มันอันตรายเกินไป หลังจากนี้ฉันคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เล่นอีกแล้ว”
เมื่อพูดจบเขาก็ได้มองไปที่ฉีหนานก่อนที่จะพูดว่า
“จัดการเรื่องเงินซะ ฉันจะไปรอเธอที่รถ”
“ได้ค่ะ”
ฉีหนานสามารถสัมผัสได้ว่าถังซิ่วรู้สึกไม่มีความสุขแต่เธอก็ไม่ได้เสียใจกับสิ่งที่ทำไปเมื่อครู่แม้แต่น้อย แม้ว่าเธอจะตกตะลึงกับทักษะของถังซิ่วที่สามารถช่วยชีวิตฮ่วนหยูในเวลาคับขันได้แต่หากเพื่อปกป้องบอสแล้วแม้ว่าจะทำให้เขาโกรธ เธอก็ยอม
ชีวิตของบอสมีค่ามากยิ่งกว่าเธอ
ถังซิ่วได้มองไปทางหลี่เจิ้งก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“จำการพนันก่อนหน้านี้ของเราได้ไหม ? นายแพ้แล้ว อย่าลืมว่าหลังจากนี้หากว่าเจอฉันก็ให้รีบไสหัวไปไกลๆนะ”
ท่าทางของหลี่เจิ้งเองก็ซีดเผือดพร้อมทั้งจ้องมองไปที่ถังซิ่วอย่างไม่ลดละก่อนที่จะถามออกมาว่า
“บอกฉันมาหน่อยได้ไหมว่าเรามีความแค้นอะไรกัน ?”
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“ฉันบอกไปแล้วว่าไม่มี มันเป็นเพียงแค่.....ฉันได้เห็นท่าทางอวดดีของนายแล้วก็รู้สึกไม่ชอบน่ะ”
หลี่เจิ้งเองก็ได้ขมวดคิ้วพร้อมทั้งถามออกมาว่า
“นายไปเจอฉันที่ไหนกัน ?”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“ทางเข้ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้”
หลี่เจิ้งได้ตอบกลับไปว่า
“นายหมายถึงเมื่อเช้า......”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปอย่างไม่แยแสว่า
“เอาล่ะมันเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว จำไว้แค่ว่าฉันไม่ชอบนายก็พอ อย่าได้เสนอหน้ามาใกล้ๆฉันก็โอเคแล้ว ลาก่อน”
เมื่อพูดจบแล้วถังซิ่วเองก็ได้กลับขึ้นรถไปทันที
จี่มู่ที่ต้องการจะคุยกับถังซิ่วเองนั้นก็ได้ละทิ้งความคิดนี้ไปทันทีเมื่อเห็นว่าเขาเดินกลับขึ้นรถไปแล้ว หลังจากนี้เขาคิดว่าเขาอยากจะร่วมมือกับถังซิ่ว
“พี่สาวหนาน เขาเป็นใครกัน ? มันคุ้มค่ากับการที่พี่จะมาเดินตามก้นเขางั้นหรอ ?”
จี่มู่เองก็สงสัยเป็นอย่างมากก่อนที่จะถามออกมา
ฉีหนานได้ตอบกลับไปว่า
“อย่าได้ถามถึงสถานะของเขาเลยยิ่งไปกว่านั้นฉันเองก็ต้องรีบกลับแล้ว”
จี่มู่เองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาพร้อมทั้งพูดว่า
“พี่สาวหนาน อย่าเก็บเป็นความลับสิ บอกผมมาหน่อยว่าเขาเป็นใครกัน หลังจากนี้ผมจะได้เป็นเพื่อนกับเขาไง”
ฉีหนานได้ตอบกลับไปอย่างราบเรียบว่า
“ฉันเตือนไว้ก่อนเลยนะว่าอย่าได้ถามเรื่องของเขายกเว้นว่าเขาอยากจะเป็นเพื่อนกับนาย , จี่มู่ ฉันเองก็ไม่อยากจะพูดอะไรให้นายกลัวหรอกนะแต่อย่าได้บังอาจไปสืบค้นพื้นหลังของเขาโดยเด็ดขาดมิเช่นนั้นนายจะต้องพบกับหายนะ หากว่าเขาสั่งการแม้แต่ฉันเองก็จะเปิดฉากโจมตีใส่นายและตระกูลของนายด้วยเช่นกัน ดังนั้นอย่าได้สร้างปัญหาให้กับตระกูลของตัวเอง”
ท่าทางของจี่มู่เองก็เปลี่ยนไป เขาไม่เชื่อว่าฉีหนานจะพูดเพื่อขู่เขาเท่านั้น นี่มันแสดงให้เห็นว่าสถานะของถังซิ่วมันน่าหวาดผวาขนาดนั้นเลย ? ถึงขั้นที่ตระกูลของเขาไม่สามารถล่วงเกินได้ ?
ทันใดนั้นเขาเองก็ได้ทิ้งความคิดที่จะถามออกไปพร้อมทั้งรีบจ่ายเงินทันที
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
ฉีหนานเองก็ได้หยิบบัตรเงินสดพร้อมทั้งเดินกลับขึ้นรถไป หลังจากที่เธอนั่งแล้วก็ได้ส่งบัตรไปให้แก่ถังซิ่วพร้อมทั้งพูดว่า
“บอสค่ะ นี่เป็นเงินพนันทั้งหมดของวันนี้ค่ะ”
ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดว่า
“เธอเป็นผู้ชนะดังนั้นเธอเก็บมันเอาไว้เถอะ”
ฉีหนานเองก็ได้ลังเลอยู่ก่อนทีจะพูดออกมาว่า
“บอสค่ะ นี่มันเป็นเพราะฉันตามคุณมาเล่นเฉยๆดังนั้นเงินนี่ควรเป็นของคุณ”
คิ้วของถังซิ่วได้ขมวดเข้าหากันพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
“ฉันไม่ต้องการเงินนั่นแต่ฉันอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับเธอ”
ฉีหนานที่เห็นว่าถังซิ่วไม่ต้องการรับเงินเองก็ได้ถามออกมาด้วยความเคารพว่า
“คุณพูดมาสิ”
ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า
“ก่อนที่ฉันจะบอกเธอฉันจะถามอะไรเธอหน่อย , ก่อนหน้านี้เธอจงใจใช่ไหม ?”
ฉีหนานที่เป็นคนฉลาดเองก็สามารถเข้าใจคำถามของถังซิ่วได้ทันที เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าแล้วตอบกลับไปว่า
“ใช่ค่ะ ฉันจงใจ”
“เพราะอะไร ?”
ท่าทางของถังซิ่วได้เปลี่ยนเป็นหดหู่ทันที
ฉีหนานเองก็ได้พูดออกมาอย่างจริงจังว่า
“ตอนนั้นความเร็วของบอสสูงเป็นอย่างมากและฉันไม่สามารถปล่อยให้คุณเกิดอุบัติเหตุได้ หากว่าคุณต้องการที่จะชนะก็ต้องให้ไอ้เจ้านั่นมันหลบไปแต่การที่จะทำเช่นนั้นได้ก็คือฉันจะต้องฆ่ามัน!”
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า
“สรุปว่าเธอทำเพื่อฉันสินะ”
“ค่ะ”
ฉีหนานเองก็ได้ตอบกลับไปอย่างแน่วแน่
รอยยิ้มที่ฝืนๆได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของถังซิ่วก่อนที่จะส่ายหัวแล้วพูดว่า
“เอาล่ะ ช่างมันเถอะ ในเมื่อเธอคิดแบบนี้ฉันเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรดีแต่เธอควรจะจำอะไรเอาไว้อย่างว่า : อย่าได้เสี่ยงกับชีวิตคนง่ายๆแบบนี้แม้ว่าเธอจะผ่านการฝึกและฆ่าคนมามากมายก็ตามแต่ชีวิตของคนนั้นการที่เราทำดีกับคนอื่นมันดีกว่าทำชั่วใส่คนอื่นแน่นอน”