ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 328
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 330

Returning From The Immortal World - 329


.......................................................................................................................................................................................

คนอื่นๆในห้องนอกจากเหมี่ยวเหวินถังเองก็คิดว่าเข้าใจถังซิ่วแล้ว ก่อนหน้านี้เขาได้ยินแค่ข่าวลือแต่หลังจากที่ได้ยินจากปากของจินซิงกุยแล้วก็ถึงกับทำให้พวกเขาเงียบโดยทันที

น่ากลัว !

โหดเหี้ยมไร้ความปราณี !

ความคิดเกี่ยวกับตัวตนของถังซิ่วนั้นเปลี่ยนไปทั้งหมด

“ค๊อก ค๊อก”

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้ไอออกมาพร้อมทั้งพูดว่า

“ฉันและถังซิ่วเองก็ได้คลุกคลีกันมานาน ฉันรู้เกี่ยวกับนิสัยของเขาเป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะปฏิบัติต่อศัตรูโหดร้ายเพียงใดแต่เขาก็ทำดีกับเพื่อนเสมอดังนั้นตราบใดที่พวกนายไม่ไปล่วงเกินเขาก็รับรองได้ว่าเขาจะไม่ลงมือกับเพื่อนตัวเองอย่างแน่นอน การกระทำของเพื่อนจินในวันนี้ดีเป็นอย่างมากและถังซิ่วเองก็ถึงกับยอมรับด้วยตัวเองดังนั้นก็ต้องทำดีกันต่อไปในอนาคตและสามารถไต่ความสัมพันธ์ขึ้นไปได้”

ความสุขได้ปรากฏขึ้นเต็มใบหน้าของจินซิงกุยก่อนที่เขาจะพยักหน้าแล้วพูดว่า

“ฉันเองก็กังวลอยู่ว่าถังซิ่วจะเป็นคนที่เข้าหายากแต่หลังจากที่เจอเขาเมื่อครู่นี้แล้วฉันก็รู้สึกโล่งใจจริงๆ เขาไม่ใช่คนที่ชั่วร้ายโดยแก่นแท้”

ทันใดนั้น

ใบหน้ามีความสุขของเขาได้เปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับพูดออกมาอย่างเคร่งเครียดว่า

“เรื่องที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ห้ามแพร่งพรายโดยเด็ดขาดมิเช่นนั้นฉันจะไม่ใช่แค่ล่วงเกินถังซิ่วเท่านั้นแค่ญาติของฉันจะต้องตายอย่างแน่นอน”

“ไม่ต้องเป็นห่วง”

“เข้าใจแล้ว”

คนอื่นๆเองก็ได้พยักหน้ากันอย่างพร้อมเพรียงและเข้าใจว่าไม่ควรจะปริปากแม้แต่น้อย

หลังจากที่ผ่านไปครึ่งชั่วโมง

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้ไปส่งคนอื่นๆก่อนที่จะกลับเข้ามาในร้านอาหารแล้วเดินตามฉีหนานเข้าไปในห้องสำนักงาน

เสียงเคาะประตูได้ปลุกถังซิ่วขึ้น

“เข้ามาสิเพื่อนเหมี่ยว”

ถังซิ่วได้ยืนขึ้นจากโซฟาก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

เหมี่ยวเหวินถังเองก้ได้พูดออกมาอย่างมีความสุขว่า

“เพื่อนถัง นายคงจะมีเรื่องสำคัญมากสินะถึงได้บอกให้ฉันอย่าเพิ่งกลับ ? ไหนว่ามาสิว่ามีเรื่องทำเงินเรื่องไหนที่ต้องการจะให้ฉันเข้าร่วม ? ไม่สิ เล่นไปด้วยกัน”

ถังซิ่วอดหัวเราะออกมาไม่ได้ก่อนที่จะพูดว่า

“มันจะไปมีเรื่องทำเงินได้ไงกัน ที่ฉันเรียกนายมาในวันนี้ก็เพื่อจะขอให้นายช่วย”

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ไหนว่ามาสิ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“เราเองก็เป็นผู้บ่มเพาะพลังและฉันคิดว่านายน่าจะรู้จักเตาพลังวิญญาณ ? ไม่ใช่เตากลั่นยานะแต่เป็นเตาหลอม ฉันต้องการจะสร้างเครื่องมือบางอย่างแต่ยังไม่มีเตาเลยแม้แต่น้อยดังนั้นเลยต้องการความช่วยเหลือจากนายว่าจะไปหาซื้อได้ที่ไหนได้บ้าง”

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้ขมวดคิ้วก่อนที่จะพูดว่า

“เตาหลอมอาวุธ ? มันสามารถหาได้แต่ว่ามันคงจะมีใครขายอยู่หรอก ? จริงๆแล้วฉันเองก็พอรู้จักคนที่มีมันแต่ไม่แน่ใจว่าเขาจะขายหรือเปล่านะ”

“ใครงั้นหรอ ?”

ท่าทางของถังซิ่วเปลี่ยนไปก่อนที่จะถามออกมาทันที

เหมี่ยวเหวินถังได้พูดออกมาว่า

“นายเองก็รู้จักเขาเช่นกัน พรตเฒ่าซือยี่”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยความตกตะลึงว่า

“นี่เขามีเตาหลอมอาวุธด้วยงั้นหรอ ? ดูเหมือนว่าฉันต้องติดต่อเขาแล้วว่าต้องการจะขายมันหรือเปล่า รับรองได้ว่าฉันจะให้ราคาที่เป็นธรรมแน่นอน”

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดว่า

“เพื่อนถัง เขาไม่สนใจเงินเลยแม้แต่น้อยหากว่านายต้องการที่จะซื้อก็เตรียมรับการโดนปฏิเสธได้เลย ฉันรู้ว่าเขาขาดอะไรแต่มันเป็นสิ่งที่ยากจะหาได้และเป็นของหายากของโลกนี้”

ถังซิ่วได้ถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“อะไรกัน ?”

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้พูดออกมาว่า

“เข็มกู่(พิษ)และต้องเป็นเข็มทั้งเซ็ท 18 เล่ม”

มันคืออะไรกัน ?

ดวงตาของถังซิ่วแสดงให้เห็นถึงความสับสนก่อนที่จะถามออกมาส่า

“เพื่อนเหมี่ยว ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้แม้แต่น้อย มันเป็นอย่างไร ? แล้วมีผลอะไร ?”

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ทั้ง18เล่มเองก็มีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกัน มันมีหัวที่เป็นหนามแหลม นายน่าจะเคยได้เรื่องแมลงพิษใช่ไหม ? เข็มกู่นั้นเป็นสิ่งของเขาไว้สำหรับการรักษาพิษจากแมลง”

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“ฉันรู้จักดีและมันเป็นพิษที่ร้ายแรงมาก แล้วเขาจะเอาเข็มกู่นั่นไปทำอะไร ?”

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้ถอนหายใจออกมาก่อนที่จะพูดว่า

“ศิษย์สายตรงของเขาเองเป็นเด็กที่ฉลาดมาก ก่อนหน้านี้ประมาณ6เดือนเขาได้ไปที่ชายแดนเหมี่ยวและไปล่วงเกินผู้เชี่ยวชาญด้านพิษคนหนึ่งก่อนที่จะได้รับพิษมาจากเขาคนนั้น มันเป็นพิษที่ร้ายแรงอย่างมากและแม้เฒ่าซือยี่จะทำทุกวิถีทางก็ไม่สามารถขับพิษออกมาได้ ฉันและเพื่อนเซ่าเองก็ได้ลองดูแล้วแต่ก็พ่ายแพ้กลับมา”

“ฉันเข้าใจแล้ว”

ถังซิ่วเข้าใจเป็นอย่างดีว่าถึงขนาดที่เหมี่ยวเหวินถังและพรตเฒ่าซือยี่ยังหมดหนทางก็แสดงว่าโอกาสของเขาเองก็มีไม่มากนักเพราะระดับพลังของเขาตอนนี้ยังต่ำมากและไม่สามารถเทียบกับพวกเขาได้

ทันใดนั้นเขาก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นได้ก่อนที่จะพูดกับเหมี่ยวเหวินถังว่า

“เพื่อนเหมี่ยว ฉันไม่ได้เก็บเบอร์ของพรตเฒ่าเอาไว้ดังนั้นฉันคิดว่านายน่าจะมีอยู่ใช่ไหม ? ฉันคิดว่าพิษของศิษย์เขาอาจจะสามารถให้ใครบางคนที่ฉันรู้จักขับออกได้”

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้ถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ใครกันงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“เพื่อนเก่าของฉันเอง ต้องขอให้นายช่วยติดต่อหาเขาให้ทีนะ หากว่าสะดวกก็ขอให้นำศิษย์ของเขามาที่เมืองนี้”

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้พยักหน้าพร้อมทั้งพูดว่า

“ถึงแม้ว่าพรตเฒ่าเองจะมีโทรศัพท์แต่เขาก็ไมค่อยจะใช้มันเสียเท่าไหร่ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็อาศัยอยู่ในป่าเขาและไม่มีสัญญาณ เอางี้แล้วกัน ฉันจะติดต่อคนใกล้ตัวของเขาให้ส่งคนไปหาเขาให้ เมื่อหาเขาเจอแล้วก็จะให้เขานำลูกศิษย์มาที่เมืองนี้โดยทันที”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“อย่าลืมเรื่องเตาพลังวิญญาณแล้วกัน”

เหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ไม่ต้องเป็นห่วง หากว่าเพื่อนเก่าของนายสามารถรักษาลูกศิษย์ของเขาได้จริง อย่าว่าแต่เตาพลังวิญญาณเลย แม้ว่าจะเป็นของที่ล้ำค่ากว่านั้นเขาก็ยอมเสียอย่างแน่นอน”

หลังจากนั้น

ถังซิ่วและเหมี่ยวเหวินถังเองก็ได้พูดคุยกันก่อนที่เหมี่ยวเหวินถังจะจากไป ในสมองของถังซิ่วได้มีภาพของจี่ฉีเหม่ยปรากฏขึ้น เธอเป็นเผ่าพันธุ์ลุ่มหลงและสิ่งที่พวกเขาถนัดคือเวทย์มนต์ เขาคิดว่ามันจะต้องเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะขับพิษออกไป

วันนี้

เขาพูดกับเหมี่ยวเหวินถังเพื่อที่จะได้รับเตาพลังวิญญาณเพราะตอนนี้เขามีหินแยกมิติแล้วและต้องการที่จะสร้างแหวนมิติแต่ก็ยังไม่ได้เริ่มเสียทีเพราะเขายังขาดเตาพลังวิญญาณ

“บอสค่ะ คุณ........”

ฉีหนานที่ยืนอยู่ข้างๆถังซิ่วเองก็ได้ถามออกมา

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“ช่างเถอะ เรื่องการบริหารก็ให้เธอจัดการแล้วกัน ฉันต้องรีบกลับแล้ว”

ฉีหนานเองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ให้ฉันไปส่งคุณไหมค่ะ ?”

ถังซิ่วลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าแล้วพูดว่า

“งั้นช่วยไปส่งฉันกลับหน่อยแล้วกัน แม้ว่าหลายๆวันนี้จะไม่ค่อยมีเรื่องอะไรก็ตามแต่ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัย”

ฉีหนานเองก็ได้ยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะพูดออกมาอย่างมีความสุขว่า

“บอสค่ะ ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมคุณถึงต้องเรียน ? จากสถานะของคุณแล้วอย่าว่าแต่เป็นนักศึกษาเลย คุณสามารถสร้างมหาวิทยาลัยของตัวเองเลยก็ได้”

ถังซิ่วได้ฝืนยิ้มออกมาก่อนที่จะตอบกลับไปว่า

“จริงๆแล้วฉันไม่ได้มีความสนใจที่จะเรียนเลยแม้แต่น้อยทว่ามันเป็นความต้องการของแม่ฉันและฉันเองก็ไม่อยากทำให้เธอผิดหวัง อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอะไรเพราะความรู้มากมายเองก็สามารถทำประโยชน์ให้ตัวเองเยอะแยะ”

ฉีหนานได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“บอสค่ะ คุณไม่เหมือนกับเด็กหนุ่มแต่เหมือนกับนักวิชาการเลยค่ะ”

ถังซิ่วอดหัวเราะออกมาไม่ได้ก่อนที่จะเดินไปพูดไป จากนั้นเขาก็ออกจากห้องอาหารร้อยงานฉลองแล้วไปถึงรถซูเปอร์คาร์ Lamborghini สีดำที่ลานจอดรถ

“รถนี่ใช้ได้หนิ”

ถังซิ่วชอบรูปร่างของรถนี้เป็นอย่างมากและอดไม่ได้ที่จะชื่นชมออกมา

ฉีหนานเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“หากว่าคุณชอบก็สามารถเอามันไปได้ทุกเมื่อเลยค่ะหรือว่าจะให้ฉันซื้อคันใหม่ให้คุณดี”

ถังซิ่วได้โบกมือของเขาพร้อมกับพูดว่า

“ช่างมันเถอะ แม้ว่าฉันจะชอบรถคันนี้ก็ตามแต่ที่บ้านฉันเองก็มีจอดอยู่มากมายยิ่งไปกว่านั้นที่เมืองนี้เองก็มีกฎการจราจร แม้ว่าจะขับรถหรูๆไปก็ยังต้องทำตามกฎหมายอยู่ดี ? มันเป็นการเสียเงินเปล่าชัดๆ”

ฉีหนานเองก็ได้ปิดปากของเธอพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“บอสค่ะ ดูเหมือนว่าคุณจะไม่รู้ว่าลูกหลานคนรวยของเมืองนี้จะชอบแข่งรถกันแม้ว่ากฎหมายการขับรถของที่นี่จะเคร่งครัดเป็นอย่างมากแต่ตรงช่วงถนนไฮเวย์ตรงเมืองชางซี่นั้นมีการแข่งรถกัน วันนี้เองก็เป็นวันที่1กันยายนซึ่งต้องมีการแข่งขันที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยความตกตะลึงว่า

“การแข่งรถกันบนไฮเวย์มันเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆไม่ใช่หรอ ? ยิ่งไปกว่านั้นตำรวจทางหลวง ?”

ฉีหนานเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“หากพูดกันตามหนักแล้วพวกเขาไม่ให้แข่งรถกันแต่ภายใต้ผู้มีอำนาจเองก็ได้สั่งให้พวกเขาทำเป็นมองไม่เห็นและจัดการแข่งขันขึ้น คนที่สามารถไปแข่งรถที่นั่นได้เป็นคนรวยเกือบทั้งหมดและถึงแม้จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นก็จะมีคนจัดการให้เอง”

ถังซิ่วได้ถามออกมาด้วยความลังเลว่า

“มันน่าตื่นตาตื่นใจขนาดนั้นเลย ? แล้วมันเริ่มเวลาเดียวกันตลอดหรือเปล่า”

ฉีหนานเองก็ได้พูดออกมาว่า

“มันตื่นตาตื่นใจมากเลยค่ะ ฉันเองก็ได้ไปแข่งอยู่ที่นั่นบ่อยๆและรถนี่ก็ได้มาจากเงินที่ชนะมา ส่วนเรื่องเวลานั้นก็จะเริ่มที่เวลา5ทุ่มทุกครั้ง”

ถังซิ่วได้มองไปที่นาฬิกาพร้อมกับเห็นว่ายังเหลือเวลาอยู่ประมาณ1ชั่วโมงดังนั้นเขาจึงส่ายศีรษะแล้วพูดว่า

“แม้ว่าอยากจะเห็นมากก็ตามแต่ดูเหมือนว่าคงจะไปไม่ทัน ช่างมันเถอะ !”

ฉีหนานเองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“บอสค่ะ หากว่าคุณต้องการจะเล่นฉันก็สามารถโทรไปคุยกับมู่ซี่ให้เลื่อนเวลาออกไปได้ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็ติดหนี้บุญคุณครั้งใหญ่ฉันอยู่ หากว่าฉันโทรไปสั่งการก็รับรองได้เลยว่าเขาจะทำให้เราได้อย่างแน่นอน”

ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“มู่ซี่เป็นใครกัน ?”

ฉีหนานเองก็ได้พูดออกมาว่า

“เขาเป็นเจ้าถิ่นของเมืองนี้และมีอำนาจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการเมืองหรือธุรกิจก็มีผู้อาวุโสของตระกูลเขาปะปนอยู่ดังนั้นภายใต้การนำของเขาการแข่งขันรถนี้ก็เป็นไปได้ด้วยดีมากว่า6-7ปีแล้ว”

ถังซิ่วที่ได้ยินเช่นนั้นเองก็ได้พูดออกมาว่า

“งั้นเธอโทรไปหาเขาแล้วกัน”

“ไม่มีปัญหาค่ะ”

ฉีหนานเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

เมื่อพูดจบเธอก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรออกทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด