ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 312
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 313

Returning From The Immortal World - 312.5


.......................................................................................................................................................................................

มนุษย์ล้วนมีความโลภเป็นของตัวเอง แม้ว่าจะมีสถานสูงส่งแค่ไหนแต่ก็เพื่อได้รับผลประโยชน์น้อยนิดก็ยังเลือกรับเงินใต้โต๊ะ

โม่อาเหวินเองก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า

“โบเหลียนดุนคนนี้เป็นคนที่โลภมาก เขาหวังตัวเองจะสามารถอมเงินไว้ที่ตัวเองให้หมด หลังจากที่หักเงินส่วนแบ่งจากการซื้อขายพร้อมกับเงินอีก20ล้านก็น่าจะรวมๆกันไม่ต่ำกว่า50ล้าน แถมเขาเองยังเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทอีกด้วย ถึงแม้ว่ามันจะไม่เยอะแต่ก็ยังถือเป็นเงินอยู่ดี”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ดูเหมือนว่าการขายอาวุธยุทโธปกรณ์นั้นจะสามารถทำเงินได้ดีเลยสินะ”

โม่อาเหวินเองก็ได้พูดออกมาว่า

“บอสครับ หากว่าคุณต้องการจะทำธุรกิจด้านนี้เราก็สามารถตัดนายหน้าทิ้งพร้อมกับเข้าไปแทนที่ได้เลยครับ”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดว่า

“ช่างมัน ฉันไม่มีความสนใจทำธุรกิจแบบนี้เท่าไหร่ สิ่งที่ฉันต้องการคือเปิดธนาคาร รอให้ฉันรวยก่อนเถอะ ฉันจะเปิดธนาคารของตระกูลฉันเอง”

โม่อาเหวินเองก็ได้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

ไม่ว่าถังซิ่วจะตัดสินใจอย่างไรเขาก็จะสนับสนุนอย่างแน่นอนเพราะในสายตาเขาถังซิ่วเป็นเหมือนตัวตนที่สูงส่งเหมือนกับเทพเจ้าในใจของคน ตั้งแต่ที่เขาสามารถเรียนเทคนิคบ่มเพาะพร้อมกับเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองได้ในเวลาสั้นๆ

ณ ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนไหนที่เป็นคู่มือของเขาที่ห้องอาหารร้อยงานฉลองก็ไม่สามารถสู้เขาได้อย่างแน่นอน

เช้าวันรุ่งขึ้น โบเหลียนดุนเองก็ได้นำผู้คุ้มกันกลับไปที่บริษัทของเขาเพื่อยืนยันค่าประกัน450ล้านหยวน

ถังซิ่วเองก็ได้กลับไปยังเกาะเก้ามังกรหลังจากที่แยกกับโบเหลียนดุนแล้ว

ทุกๆวันนี้เขาเอาแต่บ่มเพาะพลังและสามารถตัดผ่านไปยังระดับกลางของขั้นเสริมสร้างเลือดเนื้อได้แล้ว เหลืออีกแค่ก้าวเดียวก็จะสามารถไปถึงระดับสูงสุดของขั้นนี้

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ

เพียงแค่ครู่เดียวก็เหลือเวลาแค่1อาทิตย์ก่อนที่จะเปิดเรียน

ถังซิ่วที่กำลังยืนอยู่บนคฤหาสน์และกำลังส่องกล้องไปทางคนงานมากมายพร้อมกับสิ่งก่อสร้างลานบินก็ได้ถอนหายใจออกมา : รวยแล้วจะทำอะไรก็ง่ายจริงๆ

ด้วยการที่เขาทุ่มเงินลงไปก้อนใหญ่จึงทำให้การก่อสร้างเริ่มขึ้นอย่างไว หลงเจิ้งหยูเองก็ไม่รู้ไปขุดหาทีมก่อสร้างมาจากไหนซึ่งมีจำนวนกว่าพันคนแต่ทอมเรกกี้เองก็มีทีมก่อสร้างชั้นดีหลายร้อยคนจากเกาะไซปันเช่นกัน การดำเนินงานเองก็เป็นไปได้ด้วยดี เครื่องจักรต่างๆถูกซื้อมามากมาย

“หากเป็นไปตามความเร็วระดับนี้ก็น่าจะสร้างลานบินเสร็จภายใน2เดือน”

ถังซิ่วได้วางกล้องส่องทางไกลลงพร้อมกับได้ยินเสียงเรียกของใครบางคน เขาได้หันกลับไปมองที่ตัวคฤหาสน์และพบว่าหยีเหลียนหยานกำลังยืนอยู่ที่ลานกว้าง เขาได้เดินไปหาเธอแล้วถามว่า

“มีเรื่องอะไรงั้นหรอ ?”

หยีเหลียนหยานเองก็ได้พูดออกมาด้วยความไม่เต็มใจว่า

“ฉันต้องกลับไปที่บ้านเกิดแล้วเพราะมหาวิทยาลัยเองก็ใกล้จะเปิดแล้ว หากว่าฉันไม่กลับไปก็จะไม่สามารถฝึกทหารได้” (ผญ ที่จีนเรียน ร.ด. ด้วย ? )

คิ้วของถังซิ่วเองก็ได้ยกตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะพูดหลังจากที่คิดสักครู่ว่า

“ฉันเองก็คิดว่าจะกลับอยู่เหมือนกัน หากว่าเธอรอได้ก็รอไปอีก3วันแล้วกันหลังจากนั้นเราก็กลับด้วยกัน ฉันสามารถไปส่งเธอระหว่างทางได้นะ”

หยีเหลียนหยานเองก็พยักหน้าซ้ำๆด้วยรอยยิ้ม

เธอได้อยู่บนเกาะนี้มากว่า1เดือนแล้วและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกน้องทุกคนของถังซิ่วยิ่งไปกว่านั้นคือนอกจากเรื่องที่เธอซักผ้าและทำอาหารแล้วเธอก็ว่างเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งเขตก่อสร้างเองเธอก็ไปเที่ยวเล่นอยู่บ่อยๆเพราะเธอเองสนิทกับพวกเขาหลายคน

เธอชอบที่นี่

หากว่าไม่ติดเรื่องเรียนและกลัวพ่อแม่จะดุด่า เธอก็อยากจะอยู่ที่นี่ตลอดไป ใช้ชีวิตที่สุขสบายแบบนี้

“พี่ชายถัง หลังจากนี้ฉันมาที่นี่อีกได้ไหม ?”

หยีเหลียนหยานเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะถามออกมา

ถังซิ่วก็ส่ายศีรษะของเขาก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ไม่ได้ ที่มันครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอที่จะได้อยู่บนเกาะนี้ หลังจากที่แห่งนี้ถูกสร้างเสร็จก็จะไม่ให้คนภายนอกเข้าอีกแล้ว ยกเว้น.......”

หยีเหลียนหยานเองก็ได้ถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ยกเว้นอะไร ?”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ยกเว้นว่าเธอจะตกลงเซ็นสัญญาและทำงานที่นี่ เธอจะทำงานให้ฉันตลอดชีวิตไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถมาที่นี่ได้อีกต่อไป”

เซ็นสัญญา ?

ริมฝีปากของหยีเหลียนหยานเองก็กระตุกก่อนที่จะพูดออกมาว่า

"นายเป็นคนที่ขูดรีดจริงๆ ฉันต้องการสิทธิมนุษยชนนะ"

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ที่นี่ฉันเป็นใหญ่ที่สุด”

หยีเหลียนหยานเองก็ได้แสยะออกมาก่อนที่จะเดินเข้าไปทางคฤหาสน์ก่อนที่จะตะโกนออกมาอย่างดังว่า

“ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก ฉันจะไม่ทำอาหารเช้าให้นายแล้ว”

ถังซิ่วเองก็แสดงรอยยิ้มที่มีความสุขออกมา เขารู้สึกโปรดปรานเธอเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะดูเหมือนหญิงสาวสมัยใหม่แต่ก็เชื่อฟังและขยันขันแข็ง หลังจากที่อยู่กับเธอมา1เดือนนี้ก็สามารถเข้าใจได้ถึงนิสัยของเธอทันที

เป็นคนเปิดกว้าง !

กล้าหาญ !

มีความสามารถ !

เขาเองก็หวังว่าเธอจะสามารถอยู่ที่เกาะนี้ได้เช่นกัน หลังจากที่มู่ขวินปิงกลับมาดูแลที่นี่แล้วเธอก็จะได้มีผู้ช่วย

กลับเข้าไปในคฤหาสน์ ถังซิ่วก็พบว่าหยีเหลียนหยานได้ทำอาหารไว้ก่อนแล้วแต่คนอื่นๆเองก็ยุ่งอยู่กับงานที่ได้รับมอบหมายจึงทำให้มีแค่เธอและถังซิ่วเท่านั้นที่นั่งทานอาหารด้วยกัน

“เรามาคุยกันหน่อยเป็นไง ?”

เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วถังซิ่วเองก็ได้เงยหน้าขึ้นมาถามเธอ

หยีเหลียนหยานเองก็ได้พูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ว่า

“อะไรอีกล่ะ ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“หากว่าเธอต้องการหลังจากที่เรียนจบแล้วก็สามารถทำงานให้ฉันได้เลย ไม่ต้องห่วง การเป็นคนของฉันนั้นได้รับเงินเดือนดีกว่าด้านนอกอย่างแน่นอน”

หยีเหลียนหยานเองก็ได้กรอกตาของบนก่อนที่จะโอดโอยออกมาว่า

“หญิงสาวคนนี้ไม่ได้กำลังขาดเงิน หากว่านายสามารถให้เงินเดือนรายปีได้ฉันเองก็อาจจะขอคิดดูก่อน”

ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ฉันจะให้เงินรายปีเธอปีละ3แสนในระยะเวลา3ปี หากว่าใน3ปีนี้เธอทำงานได้ดีมากเงินเดือนของเธอก็จะเพิ่มเป็นเท่าตัวยิ่งไปกว่านั้นหากว่าเธอสามารถทำงานได้เกิน5ปีและตกลงว่าจะทำงานให้ฉันตลอดชีวิต ฉันก็จะให้ของขวัญล้ำค่าแก่เธอ”

3แสน

กลายเป็น....6แสน

แม้ว่าเธอจะรู้ว่าถังซิ่วรวยแต่ก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะให้ค่าจ้างเธอมากมายขนาดนั้น ต้องรู้ก่อนว่าภายในประเทศนี้ไม่มีบริษัทไหนที่ให้เงินเดือนมากขนาดนี้เลย

“ของขวัญอะไรงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ตอนนี้เธอยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรู้”

หยีเหลียนหยานเองก็ได้พูดออกมาว่า

“การดูแลที่นายว่ามานั้นดีมากแต่ว่าฉันยังต้องเรียนมหาวิทยาลัยอีกตั้ง4ปี ช่างมันเถอะ เมื่อถึงตอนนั้นค่อยคุยกันอีกครั้ง”

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าพร้อมพูดว่า

“ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เธอเก็บไปคิดก่อนแล้วกัน เมื่อคิดได้แล้วก็ค่อยมาคุยกับฉัน”

หยีเหลียนหยานเองก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“หากว่าฉันตกลงเลยนายจะสามารถให้เงินรายปีของปีนี้ก่อนได้ไหม ?”

ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดว่า

“ไม่มีทาง มันเป็นไปไม่ได้ หากว่าเธอต้องการเงินจริงๆและยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำงานกับฉันไปตลอดชีวิตไหมก็สามารถมาทำงานที่นี่ชั่วคราวได้ เงินเดือนคือ1หมื่น”

หยีเหลียนหยานเองก็ได้พูดออกมาอย่างกะฟัดกะเฟียดว่า

“บอสถัง บอสถัง ดูเหมือนว่านายจะเป็นเทพของการขูดรีดเลยนะ เอาล่ะฉันอิ่มแล้วหน้าที่ล้างจานและเก็บโต๊ะก็ยกให้เป็นหน้าที่ของนายแล้วกัน”

ถังซิ่วได้แต่ส่ายหัวก่อนที่จะล้างจานทั้งหมดพร้อมเก็บโต๊ะ โม่อาเหวินเองก็ได้มาปรากฏตัวอยู่ข้างๆเขาพร้อมกับพูดว่า

“บอสครับ หลันเถากลับมาแล้วและนำคนติดตามมาด้วยมากมาย”

คิ้วของถังซิ่วได้ยกตัวขึ้นก่อนที่จะถามกลับไปด้วยความประหลาดใจว่า

“กี่คน ?”

โม่อาเหวินเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“30ครับไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น”

ถังซิ่วเองก็ได้เช็ดมือของเขาพร้อมกับพูดว่า

“ไปกันเถอะ เราไปดูกันหน่อย”

หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที

ถังซิ่วเองก็ได้เห็นว่าหลันเถากำลังรออยู่ที่ลานด้านนอกคฤหาสน์และชายรูปร่างกำยำยืนเรียงกันสามแถว พวกเขาไว้ผมเกรียนพร้อมกับสวมเสื้อผ้าทหารและใบหน้าที่เคร่งขรึม

“บอสครับ !”

หลันเถาเองก็ได้เรียกออกมาด้วยความเคารพ

ถังซิ่วได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า

“พวกเขาคือทหารปลดประจำการที่นายเคยพูดถึงงั้นหรอ ?”

หลันเถาเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ใช่ครับ ผมต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อหาตัวพวกเขา ผมเองก็ไม่ใช่คู่มือของใครบางคนในหมู่พวกเขา หากว่าบอสต้องการให้พวกเขาอยู่ที่นี่ก็คงต้องแสดงความสามารถนิดหน่อย”

ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาก่อนที่จะเองไปที่ใบหน้าหาเรื่องของคนเหล่านี้พร้อมกับโบกมือให้หลันเถากลับมายืนข้างๆเขา

หลังจากนั้น

เขาได้มองไปยังชายทั้ง30คนพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“หลังจากที่เห็นฉันแล้วก็คงคิดว่าฉันไม่มีคุณสมบัติพอจะเป็นบอสของพวกนายใช่ไหม ?”

“ใช่ !”

ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้พูดออกมา

ถังซิ่วได้ปรบมือดังพร้อมกับชื่นชมว่า

“เสียงดังฟังชัดยิ่งไปกว่านั้นคือการก้าวเดินอย่างมั่นคง หากว่าฝึกดีๆก็จะสามารถเป็นลูกน้องชั้นดีได้เลย ในเมื่อพวกนายไม่สามารถยอมรับได้แล้วทำไมถึงได้ตามหลันเถามาล่ะ ?”

“รายงาน !”

ชายรูปร่างผอมบางก็ได้ตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“ที่นี่ไม่ใช่กองทัพและพวกนายเองก็ไม่ใช่ทหารแล้วดังนั้นไม่จำเป็นต้องตะโกนรายงานแล้ว ว่ามาสิ อยากจะพูดอะไร ?”

ชานรูปร่างกำยำเองก็ได้พูดออกมาอย่างดังว่า

“พวกเรามาที่นี่ก็เพราะสงสัยเท่านั้นว่าทำไมหลันเถาที่โด่งดังถึงได้ไปทำงานให้คนอื่น เรามีความสงสัยในตัวคุณว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนกันเชียว หากว่าคุณไม่สามารถทำให้เราพอใจได้เราก็จะกลับทันที”

ถังซิ่วมองไปที่คนอื่นๆก่อนที่จะถามออกมาว่า

“คิดเหมือนกันใช่ไหม ?”

“ใช่ !~”

ชายอีก29คนเองก็ได้ตอบเป็นเสียงเดียวกัน

ถังซิ่วได้ยกนิ้วโป้งขึ้นมาชื่นชมว่า

“ดีมาก ในเมื่อเป็นเช่นนั้นฉันก็จะเล่นกับพวกนายเสียหน่อย มาสิ ฉันจะสู้กับพวกนายทั้ง30คนเอง”

ชายรูปร่างกำยำเองก็ได้แสนะออกมาพร้อมกับพูดว่า

“คุณมันเหิมเกริมเกินไป ไม่จำเป็นต้องถึง30คนหรอก แค่ฉันคนเดียวก็สามารถทุบตีให้คุณหมอบอยู่กับพื้นแล้ว”

เมื่อพูดจบเขาก็เดินออกมาจากฝูงชนทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด