Returning From The Immortal World - 306
.......................................................................................................................................................................................
ในห้องโถงแห่งนี้มีผู้คนอยู่มากกว่า100 ขณะที่เวลาได้คืบคลานไปก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกหมดหวังเพิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ มีคนอยู่น้อยนิดในหมู่พวกเขาที่รู้ถึงการดำรงอยู่ของเกาะเก้ามังกรแห่งนี้ บรรยากาศแปลกๆ โจรสลัดที่โหดร้าย เสียงปืนที่ดังไม่หยุดหย่อน มันเป็นเหมือนคำสาปที่ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดผวา
ที่มุมๆหนึ่ง
หยีเหลียนหยานกำลังถูกมัดมืออยู่ด้านหลังได้ตัดเชือกของเธอไว้ก่อนแล้วแต่เธอก็ยังไม่ขยับไปไหนและยังคงอยู่ในท่าเดิม มือที่กำลังกำมีดปอกผลไม้ของเธอนั้นยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อยๆ
เธอชอบทะเลมากๆ
ดังนั้นเธอถึงได้ออกมาจากเซี่ยงไฮ้เพื่อพักผ่อนในช่วงวันหยุดที่เกาะหนานเหนียว เธอไปที่นั่นเพื่อที่จะชมทิวทัศน์ที่สวยงามและมีแค่โรงแรมของเธอเท่านั้นที่หันหน้าไปทางทะเล
แต่น่าเสียดาย
เธออยู่ที่เกาะหนานเหนียวกว่าครึ่งเดือนและกำลังจะย้ายไปยังที่อื่นแต่กลับถูกจับเป็นตัวประกันโดยกลุ่มโจรสลัดพวกนี้ โชคดีที่เธออยู่ในตระกูลที่ทุกๆรุ่นจะได้รับการถ่ายถอดวิธีรับมือการถูกจับเป็นตัวประกันเอาไว้ดังนั้นเธอจึงอาศัยช่วงเวลาที่พวกโจรสลัดเผลอแล้วจึงเปลี่ยนแปลงใบหน้าตัวเองให้ดูน่าเกลียดทันที
จริงๆแล้วเธอเป็นหญิงสาวที่สวยงามคนหนึ่งแต่ตอนนี้กลับดูน่าเกลียดแบบทนรับไม่ได้ดังนั้นมันเป็นเหตุให้เธอรอดพ้นการถูกข่มขืนจากกลุ่มโจรสลัดพวกนี้
“ทุกๆคนหาทางหน่อย หากว่ามีคนที่สามารถปลดเชือกนี้ออกได้เราก็สามารถหนีไปได้”
โอชิมะคาวาซากิเองก็ได้พูดออกมาทันทีหลังจากที่เขาทนไม่ไหว
หลังจากผ่านไป30วินาที
ไม่มีใครตอบอะไรหรือแม้แต่ลุกขึ้น
หยีเหลียนหยานเองก็ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปเพราะเธอไม่รู้ว่าด้านนอกนั้นจะมีโจรสลัดอยู่หรือเปล่า หากว่ามันยังมีอยู่และเธอเป็นคนแรกที่ปลดเชือก เธอจะต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน
จะทำอย่างไรดี ?
“ฉันยอมที่จะต้องเสียสละแม้ว่าจะเป็นคนแรกที่ออกไปแต่ก็ยังดีกว่านั่งรอความตายอยู่ที่นี่”
ความแน่วแน่ได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอก่อนที่จะปลดเชือกออกแล้วยืนขึ้นทันที
“เปรี้ยง....”
เสียงปืนได้ดังขึ้นอีกครั้ง
ท่าทางของเธอได้เปลี่ยนไปครั้งใหญ่ เธอสามารถตัดสินได้ว่ามีใครบางคนได้ยิงล๊อคที่ประตูและในพริบตานั้นเธอก็นั่งลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับหยิบเชือกมาพรางตาไว้ทันที
หลังจากนั้น
ประตูห้องโถงก็ได้ถูกพังเข้ามาพร้อมกับชายรูปร่างกำยำที่ถือปืนกลเบากำลังวิ่งเข้ามา หลังจากที่พวกเขาเห็นสภาพด้านในแล้วก็ได้หันปากกระบอกปืนไปที่ทุกคนทันที
“บอสครับ ตัวประกันอยู่ที่นี่”
ชายคนหนึ่งได้หันหน้ากลับไปพร้อมกับตะโกนออกไปทางประตู
ถังซิ่วได้เดินเข้ามาที่ประตูพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆด้วยความรู้สึกโกรธ ตัวประกันส่วนใหญ่ในที่นี้ล้วนแต่เป็นผู้หญิงทั้งหมดและทุกๆคนเองก็มีร่องรอยของการโดนข่มขืน
ที่มุมๆหนึ่ง
ดวงตาของหยีเหลียนหยานได้เป็นประกายพร้อมกับความรู้สึกที่มีความสุขอย่างมาก เพราะภาษาที่พวกเขาใช้พูดกันนั้นไม่ใช่อังกฤษหรือญี่ปุ่นแต่เป็นภาษาจีน
จีน ?
คนจีน ?
ลมหายใจของเธอถี่ขึ้นเรื่อยๆก่อนที่จะยืนขึ้นแล้วตะโกนออกมาว่า
“ฉันเป็นคนจีน คุณก็ด้วยงั้นหรอ ?”
ถังซิ่วเองก็ได้มองไปที่ใบหน้าที่น่าเกลียดของเธอและพบว่าเสื้อผ้าของเธอนั้นยังอยู่ดีจึงได้เดินไปที่เธอแล้วพูดว่า
“ใช่แล้วพวกเราเป็นคนจีน ไม่คิดเลยว่าจะมีคนบ้านเดียวกันที่โจรสลัดพวกนี้จับมา เธอมีชื่อว่าอะไร ?”
“หยีเหลียนหยาน”
ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า
“แล้วไปโดนพวกมันจับมาได้อย่างไร ?”
หยีเหลียนหยานเองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“ฉันเพิ่งได้รับวันหยุดจากการสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยจึงได้มาเที่ยวที่นี่และสุดท้ายก็ถูกจับมาพร้อมกับพวกเขา”
ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“โชคของเธอไม่ค่อยดีนักแต่ก็ยังไม่ถือว่าแย่ เอาล่ะ ดีใจด้วย เธอเป็นอิสระแล้ว”
ชายรูปร่างกำยำทั้งหมดเองก็ได้ลดปืนลงพร้อมกับช่วยกันแก้มัดให้คนอื่นๆ หลังจากที่ทุกคนยืนขึ้นแล้วโอชิมะคาวาซากิเองก็ได้เดินมาที่ถังซิ่วด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้นและพูดออกมาอย่างนอบน้อมว่า
“สวัสดี ผมโอชิมะคาวาซากิ ขอบคุณที่ช่วยพวกเรา คุณเป็นวีรบุรุษและเราจะไม่มีวันลืมบุญคุณนี้เลย”
คิ้วของถังซิ่วได้ขมวดเข้าหากันก่อนที่จะถามออกมาว่า
“คนญี่ปุ่นงั้นหรอ ?”
โอชิมะคาวาซากิเองก็ได้โค้งคำนับพร้อมกับตอบว่า
“ครับ”
ถังซิ่วได้พูดขึ้นว่า
“พวกคุณพักผ่อนก่อนแล้วกัน หลังจากที่พระอาทิตย์ขึ้นแล้วผมจะให้คนไปส่งพวกคุณกลับยิ่งไปกว่านั้นผมหวังว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องเหล่านี้ออกไป”
โอชิมะคาวาซากิเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ท่านผู้น่านับถือ เราควรจะป่าวประกาศความเป็นวีรบุรุษของคุณออกไปสิเพราะไม่ใช่แค่คุณจะไล่เหล่าโจรสลัดพวกนั้นออกไปแล้วยังจะช่วยเหลือชีวิตพวกเราเอาไว้อีก”
ถังซิ่วได้มองไปอย่างไม่แยแสก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“เราไม่ได้เป็นวีรบุรุษและไม่ได้ช่วยเหลือพวกคุณ เกาะแห่งนี้เป็นของผมและเป็นถิ่นของผม การที่พวกโจรสลัดเหล่านี้มายึดถิ่นผมไปก็ต้องไล่พวกมันออกไปเป็นธรรมดา การช่วยเหลือพวกคุณนั้นเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นคือหากว่าเรื่องเหล่านี้ถูกแพร่งพรายออกไปแล้วจะสร้างปัญหาให้ผมมากๆ”
เหล่าผู้คนที่ถูกช่วยเอาไว้กว่า100คนก็ได้มองไปที่กันและกันอย่างงงงวย พวกเขาไม่รู้ว่าปัญหาที่ถังซิ่วพูดถึงคืออะไรกันแต่อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนที่ช่วยพวกเขาไว้ดังนั้นพวกเขาก็ไม่อยากจะนำปัญหาไปให้แก่ถังซิ่ว สุดท้ายแล้วพวกเขาเลยเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อไป
แน่นอนว่าผู้หญิงหลายคนเองก็จะต้องตกลงกับคำร้องของถังซิ่วอย่างแน่นอนเพราะพวกเธอเองก็ถูกปู้ยี้ปู้ยำโดยเหล่าโจรสลัดเหล่านี้และคงไม่มีใครอยากให้เรื่องนี้ทำให้ชื่อเสียงของตัวเองเสียหาย
ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า
“เอาล่ะ เพื่อความปลอดภัยก็ขอให้อยู่ที่นี่ไปก่อนเพราะยังมีโจรสลัดบางคนที่หนีไปได้และผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าพวกมันจะกลับมาซุ่มโจมตีเพื่อล้างแค้นให้พรรคพวกไหม เมื่อเราสามารถรับประกันได้ว่าเหล่าโจรสลัดพวกนี้ได้จากไปหมดแล้วพวกคุณก็สามารถออกไปจากที่นี่ได้”
“ได้......”
“ขอบคุณ.......”
“........”
ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมกับหันหลังกลับไป แต่ก่อนที่เขากำลังจะเดินออกไปนั้นหยีเหลียนหยานเองก็ได้วิ่งมาเกาะแขนของถังซิ่วเอาไว้พร้อมกับพูดพลางส่ายศีรษะว่า
“ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ฉันขอไปกับนายได้ไหม ?”
ถังซิ่วได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่า
“เธอเป็นคนจีนคนเดียวของที่นี่ ?”
หยีเหลียนหยานเองก็ได้พยักหน้าแล้วพูดว่า
“ใช่แล้ว มีแค่ฉันเท่านั้น”
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“งั้นก็ออกมาสิแต่หวังว่าฉากรอบนอกจะไม่ทำให้เธอกลัวนะ”
เดินออกจากห้องโถง
ถังซิ่วก็ได้สั่งลูกน้องคนอื่นๆว่า
“รวบรวมศพของพวกโจรสลัดซะและรอให้หลันเถากลับมา”
“ครับผม!”
เมื่อชายเหล่านั้นได้ยินคำพูดของถังซิ่วก็ได้แยกย้ายกันไปทันที
หลังจากผ่านไป30นาที
หลันเถา พี่น้องโม่และคนอื่นๆเองก็ได้กลับมาพร้อมกับศพอีก6 ศพ หลังจากที่พวกเขาโยนพวกมันลงไปบนพื้นแล้วก็พูดออกมาอย่างสุภาพว่า
“บอสครับ เราไล่ฆ่าพวกมันได้เพียง6คนเท่านั้น ยังมีบางคนที่หนีรอดไปได้และหลังจากที่เราไล่ตามไปก็พบว่าพวกมันได้หนีไปทางเรือครับ”
ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า
“ในเมื่อมันหนีไปแล้วก็ถือว่าโชคของมันยังดี เอาล่ะจัดการรวบรวมศพทั้งหมดแล้วเผามันซะ เราจะจัดการเรื่องของคฤหาสน์กัน”
“ครับผม !”
หลันเถาเองก็ได้ปฏิบัติตามโดยทันที
ถังซิ่วได้มองไปที่โม่อาเหวินแล้วพูดว่า
“หลังจากที่ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วก็ให้นำตัวประกันกลับไปส่งที่เกาะหนานเหนียวด้วยแล้วกัน หลังจากที่ไปส่งพวกเขาแล้วก็เตือนพวกเขาอีกครั้งว่าอย่าได้แพร่งพรายเรื่องของเกาะนี้ออกไปโดยเด็ดขาด”
“ครับผม”
โม่อาเหวินเองก็ได้พยักหน้าทันที
หลังจากที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดในยามค่ำคืน โจรสลัดกว่า200คนได้เหลือรอดออกไปเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ชัยชนะนี้ทำให้ถังซิ่วรู้สึกพึงพอใจอย่างมากและลูกน้องของเขาเองก็ไม่ได้มีใครเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว
อย่างไรก็ตาม การปะทะกันของพวกเขาได้สร้างความเสียหายให้กับตัวคฤหาสน์ไม่น้อยเลยทีเดียวทว่ายังไงถังซิ่วก็จะจัดการที่นี่ใหม่หมดอยู่แล้วเขาจึงไม่ได้ใส่ใจมากเท่าไหร่นัก เขาได้เดินไปรอบๆคฤหาสน์พร้อมกับโม่อาหวูก่อนที่จะเดินกลับไปยังลานด้านหน้า
หยีเหลียนหยานที่เดินตามหลังถังซิ่วอยู่ตลอดเวลานั้นก็ต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างอยู่นานแล้วแต่เมื่อเธอเห็นท่าทางกระตือรือร้นของถังซิ่วแล้วก็ได้แต่ยับยั้งความความคิดเหล่านี้ไว้ในใจ
ณ ตอนนี้
เธออดไม่ได้ที่จะถามออกมาว่า
“พี่ชายถัง เกาะนี้เป็นของนายจริงๆหรอ ?”
ถังซิ่วได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า
“ใช่แล้ว”
หยีเหลียนหยานเองก็ได้ถามอีกครั้งว่า
“พี่ชายเป็นใครกันแน่ ? ทำไมถึงได้มาซื้อเกาะที่โดดเดียวอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิกแบบนี้ ? เท่าที่ฉันรู้มาคือแม้จะมาจากเกาะหนานเหนียวก็ตามแต่ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันแถมหากว่าไม่มีการนำทางที่แน่นอนก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาถึงเกาะแห่งนี้”
ถังซิ่วได้ถามออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“เธอเคยได้อ่านหนังสือดอกท้อแห่งฤดูใบไม้ผลิไหม ?”
ดวงตาของหยีเหลียนหยานเองก็เบิกกว้างก่อนที่เธอจะพูดออกมาด้วยความตกตะลึงว่า
“เคยอ่าน มันเป็นหนังสือเรียนของเด็กประถม ความหมายของนายคือ .......นายจะสร้างสรวงสวรรค์ที่นี่ ?”
ถังซิ่วได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า
“ใช่แล้ว ฉันจะสร้างสรวงสวรรค์ที่นี่”
ริมฝีปากของหยีเหลียนหยานกระตุกหลายครั้งก่อนที่จะถามออกมาด้วยใบหน้าที่แปลกประหลาดว่า
“คนรวยแบบนายนี่มีงานอดิเรกที่แปลกประหลาดจริงๆ อย่างไรก็ตามทำไมลูกน้องของนายถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น ? พวกเขาฆ่าโจรสลัดพวกนั้นโดยไม่กระพริบตาด้วยซ้ำ มีแค่ไม่กี่คนใน200ที่หนีรอดไปได้ก็แสดงว่าลูกน้องของนายได้ฆ่าคนไปกว่า200แล้วใช่ไหม ? พวกเขาจะแข็งแกร่งเกินไปหรือเปล่า ?”
ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“เรื่องนี้ฉันคงไม่สามารถตอบเธอได้แต่ฉันสามารถบอกบางอย่างกับเธอได้”
“บอกอะไรงั้นหรอ ?”
หยีเหลียนหยานเองก็ได้ถามออกมาอย่างสงสัย
ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“พยายามทำตัวให้เหมือนคนโง่เข้าไว้ การที่พยายามทำตัวเป็นคนฉลาดและขุดหาต้นตอของแต่ละปัญหาก็เหมือนกับแมวที่จะตายเพราะความสงสัยของตัวมันเอง ชะตากรรมของเธอจะไม่จบลงด้วยดีอย่างแน่นอน”
หยีเหลียนหยานเองก็ได้ชะงักไปพร้อมกับก้มหัวและไม่พูดอะไรอีกเลย
ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาจางๆก่อนที่จะมองไปที่หลันเถาข้างๆแล้วพูดออกมาว่า
“ให้เวลานาย10วันเพื่อยืนยันว่าบนเกาะแห่งนี้ไม่มีโจรสลัดอีกแล้วยิ่งไปกว่านั้นคือใน10วันนี้ฉันจะวาดพิมพ์เขียวของเกาะนี้ขึ้นเพื่อจะไปติดต่อบริษัทก่อสร้างเมื่อเรากลับไป”
หลันเถาเองก็ได้พูดขึ้นว่า
“บอสครับ ผมคิดว่าที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว ทำไมถึงจะต้องสร้างใหม่ ?”