ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 297
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 299

Returning From The Immortal World - 298


.......................................................................................................................................................................................

แสงจันทร์ได้สาดส่องลงมายังผิวน้ำพร้อมกับคลื่นที่เปล่งประกายยามค่ำคืน ร่างสองร่างได้ปรากฏขึ้นตรงชายหาด

“หากว่าเทียบกันเรื่องความเร็วแล้วฉันอ่อนด้อยกว่านาย”

ก่อนหน้านี้หวางหลุยนั้นดูถูกโม่อาเหวินมากแต่หลังจากที่เพิ่งแข่งเรื่องความเร็วกันนั้นก็ทำให้เขาต้องพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ จากความเร็วของโม่อาเหวินแล้วไม่ว่าเขาจะเร่งความเร็วหรือหยุดอยู่กับที่โม่อาเหวินเองก็ไม่ได้กั๊กพลังเอาไว้เลย

โม่อาเหวินเองก็ได้ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“ใช้พลังทั้งหมดที่นายมี อย่าทำให้ฉันหมดสนุกล่ะ”

หมดสนุก ?

ดวงตาของหวางหลุยเป็นประกายเย็นยะเยือก ก่อนหน้านี้เขาเองก็เคยพูดทำนี้กับถังซิ่วเหมือนกันแต่ตอนนี้ผู้คุ้มกันของถังซิ่วกลับใช้คำว่า หมดสนุกกับเขา

เขารู้สึกไม่สบอารมณ์มากๆ

ผลที่ตามมาจะต้องรุนแรงมากๆ

“ฉันจะชนะนายและทำให้นายยอมแพ้หลังจากนั้นก็จะไปสู้กับบอสของนายด้วย”

โม่อาเหวินเองก็ได้โบกมือของเขาก่อนที่จะพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“นายไม่มีคุณสมบัติพอที่จะสู้กับบอสของเราหรอก มาสิ ฉันจะทำให้เห็นเองด้วยกำลังของฉัน”

“ฮึ่ม.......”

หวางหลุยเองก็ได้พุ่งใส่โม่อาเหวินทันทีพร้อมกับสับไปที่คอของเขา ความเร็วของมือนั้นรวดเร็วจนทำให้เกิดเสียงกรีดร้องของสายลม

โม่อาเหวินเองก็ได้ใช้ปลายเท้าของเขาถอยออกไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหลบมือของหวางหลุย เขาได้กระโดดเตะสวนทันที เส้นแสงของลูกเตะนั้นรวดเร็วและต่อเนื่องจนทำให้ไม่สามารถแยกแยะได้ว่ามันเป็นของจริงหรือภาพลวงตา

“ปึ้ก ปึ้ก ปึ้ก ...”

การโจมตีของหวางหลุยนั้นไม่เป็นผลพร้อมกับถูกโจมตีด้วยลูกเตะอย่างไม่หยุดยั้ง พวกเขาเตะกันและกัน แข้งและแข้งได้ปะทะกันซึ่งส่งผลให้เกิดการสั่นสะเทือนและทำให้ท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามหวางหลุยเองก็รู้สึกเหมือนกับว่า ตัวเองเพิ่งจะเตะไปที่แผ่นเหล็กซึ่งแรงจากการปะทะกันนั้นทำให้เขารู้สึกปวดที่หน้าแข้งพร้อมกับทำให้เขาต้องถอยหลังกลับไป ท่าทางของโม่อาเหวินเองก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่กลิ่นอายที่เขาปลดปล่อยออกมาไม่ได้อ่อนลงเลย เขาได้เหวี่ยงลูกเตะที่เหมือนกับแส้ออกไปอีกครั้ง

ที่ชั้นสองของวิลล่า

ถังซิ่วกำลังยืนนิ่งพร้อมกอดอกเหมือนกับหอกที่ปักลงกับพื้นและกำลังจ้องมองไปที่การต่อสู้ของสองคนนั้นแต่ข้างๆของเขาเองก็มีเหว่ยเหว่ยมี่และเฒ่าอ้วนหลี่ซึ่งกำลังมองไปที่ชายหาดด้วยความรู้สึกตกตะลึง

เหว่ยเหว่ยมี่เองนั้นมีความรวดเร็วและแข็งแกร่งแต่กลับไม่รู้ว่าจะนำมาปรับใช้อย่างไร แม้ว่าโม่อาเหวินและหวางหลุยเองจะไม่สามารถเทียบเธอได้ในเรื่องนี้ทว่าท่วงท่าของพวกเขานั้นถูกขัดเกลามาเป็นอย่างดีซึ่งความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาทำให้เธอรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก

แม้กระทั่ง

เธอเองได้ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องไปขอเรียนวิชาต่อสู้กับพวกเขาเพื่อเพิ่มประสบการณ์ของตัวเอง

เฒ่าอ้วนหลี่เองก็รู้สึกตกตะลึงเพราะเขาเองก็เป็นคนที่มีความสามารถในด้านวิทยายุทธ แม้ว่าตอนนี้ร่างกายของเขาจะดูอ้วนและไม่สามารถเทียบกับสมัยเมื่อก่อนได้ทว่าตอนนี้เขาก็ยังสามารถจัดการอันธพาล3-5คนได้สบายๆ อย่างไรก็ตามการต่อสู้ตรงหน้านี้ได้เปิดโลกทัศน์ให้กับเขา

มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังดูหนังกำลังภายในก็ว่าได้

สำหรับเขาแล้วการต่อสู้ตรงหน้านี้เป็นเหมือนกับการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยายุทธซึ่งท่วงท่าของพวกเขาทำให้เขาถึงกับตกตะลึงและเขามั่นใจมากว่าเขาจะต้องถูกทุบตีจนหมอบหากจะต้องให้เขาไปสู้กับใครคนใดคนหนึ่ง

“ความสามารถด้านวิทยายุทธช่างกว้างขวางและล้ำลึก”

เฒ่าอ้วนหลี่ได้พูดออกมาก่อนที่จะถอนหายใจ

ถังซิ่วเองก็ได้หันหน้ามามองเขาก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“เฒ่าอ้วนหลี่ พลังของนายเองก็ไม่ใช่ย่อยนะ ! แม้ว่าจะอ้วนแต่คนธรรมดาเองก็ไม่ใช่คู่มือของนายไม่ใช่หรอ ? เป็นอะไรไป ? ไม่เคยเห็นผู้เชี่ยวชาญสู้กันมาก่อน ?”

เฒ่าอ้วนหลี่เองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะตอบกลับไปว่า

“เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก”

ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดต่อว่า

“เอาล่ะ มีผู้ฝึกวิทยายุทธมากมายในโลกใบนี้แต่ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงนั้นมีอยู่น้อยมาก การที่จะได้เห็นพวกเขาพร้อมกันสองคนหรือยิ่งเห็นพวกเขาสู้กันนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก อย่างไรก็ตามหลังจากที่นายดูแล้วคิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ?”

เฒ่าอ้วนหลี่เองก็ตอบกลับอย่างไม่ลังเลเลยว่า

“โม่อาเหวิน”

ถังซิ่วเองก็ได้ขมวดคิ้วก่อนที่จะพูดว่า

“ทำไมถึงคิดงั้น ?”

เฒ่าอ้วนหลี่ได้ชี้ไปที่พวกเขาแล้วพูดว่า

“แม้ว่าหวางหลุยจะแข็งแกร่งก็จริงแต่เขาสู้แบบลนลานแต่นายดูที่โม่อาเหวินสิ ทุกการโจมตีของเขานั้นสงบนิ่ง ไม่ช้าและไม่เร็วเกินไปแต่ทุกกระบวนท่ากลับทำให้หวางหลุยต้องก้าวถอยหลังไปก่อนที่จะหลบแล้วถึงจะโต้กลับได้”

ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะชื่นชมออกมาว่า

“ดูเหมือนว่าวิสัยทัศน์ของนายจะกว้างไกลนะ แม้ว่าหวางหลุยจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์แต่ว่ามันก็ไม่สามารถเทียบกับโม่อาเหวินได้ หากว่าไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างมากก็อีกแค่10กระบวนท่าก็จะทำให้เขาได้รับชัยชนะ”

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้ถามออกมาทันทีว่า

“ถังซิ่ว หากว่าฉันมีประสบการณ์ในการต่อสู้เท่าๆกับหวางหลุยแล้วนายคิดว่าฉันจะสามารถชนะโม่อาเหวินได้ไหม ?”

ถังซิ่วได้กรอกตามองบนก่อนที่จะพูดออกมาอย่างหงุดหงิดว่า

“หากว่าเธอมีประสบการณ์ต่อสู้มากเท่าเขาแล้วอย่าว่าแต่อาเหวินเลย ฉันเองก็ยังไม่สามารถสู้เธอได้ด้วยซ้ำ”

เฒ่าอ้วนหลี่ที่ไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของเหว่ยเหว่ยมี่นั้นก็คิดว่าถังซิ่วกำลังจีบเธออยู่จึงได้พูดหยอกล้อออกมาว่า

“น้องชายถังจะไปทำร้ายเธอได้อย่างไร เขาไม่ทำร้ายหญิงงามอยู่แล้วอย่างไรก็ตามนายมีความสามารถด้ายวิทยายุทธด้วยงั้นหรอ ? ยิ่งไปกว่านั้นคือแข็งแกร่ง ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

“มีนิดหน่อยถึงจะไม่กล้าพูดว่าไร้เทียมทานแต่การปกป้องตัวเองนั้นก็ไม่มีปัญหา”

เฒ่าอ้วนหลี่เองก็เพิ่งรู้จักกับถังซิ่วได้ไม่นานและพบว่าเขานั้นเป็นคนประเภทที่ไม่อยากโดดเด่น เขารู้สึกว่าทำพูดของถังซิ่วนั้นถ่อมตนเป็นอย่างมากเพราะความสามารถของเขามีมากกว่าผู้คุ้มกันก็แสดงให้เห็นว่าถังซิ่วแข็งแกร่งกว่าเขา

ที่ชายหาด

หวางหบุยกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสายฟ้าพร้อมกับปล่อยกระบวนท่าสังหารออกมาแต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าเขาจะใช้พลังมากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำอะไรโม่อาเหวินได้แม้แต่น้อย เขาสามารถรับรู้ได้ลางๆว่าตัวเองกำลังก้าวถอยหลังและโม่อาเหวินเองก็ไม่ได้ใช้สุดกำลังเลยด้วยซ้ำ

ใช่ !

เขาใช้ทุกอย่าง !

โม่อาเหวินยังกั๊กเอาไว้ !

ความรู้สึกนี้ทำให้เขาตกตะลึงและรันทดเป็นอย่างมาก

ระหว่างที่พวกเขากำลังแลกมือแลกเท้ากันอยู่นั้นหวางหลุยเองก็ได้หยุดเคลื่อนไหวพร้อมกับได้รับบาดเจ็บหลายจุด เขาได้เหวี่ยงหมัดออกไปด้วยความเร็วจนทำให้เกิดภาพติดตา

“บอสสั่งให้ฉันประลองกับนาย ไอ้ฉันเองก็คิดว่านายจะแข็งแกร่งเสียอีกทว่าฉันยังใช้พลังได้ไม่ถึง70%เลยด้วยซ้ำแต่นายกลับตกอยู่ในสภาพที่หมดหนทางขนาดนี้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้เราก็ควรจะรีบๆจบมันดีกว่า !”

หลังจากที่โม่อาเหวินและหวางหลุยแลกหมัดกันหลายสิบหวัดแล้วหวางหลุยเองก็ได้ก้าวถอยหลังไป ทันใดนั้นก็ได้มีหมัดรัวปะทะเข้าที่กลางหลังของเขาซึ่งทำให้กระดูกของเขาเคลื่อนที่ออกจากกัน ตอนนี้สภาพของหวางหลุยนั้นเป็นเหมือนใบไม้ที่กำลังร่วงโรยพร้อมกับเด้งไปอัดกับพื้นทรายที่ห่างออกไป7-8เมตร

“โคร๊ม.........”

เสียงกระแทกกับพื้นทราย ตอนนี้หวางหลุยที่มีท่าทางซีดเผือดนั้นได้ฝังอยู่ในกองทราย สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึงขณะที่มองไปยังโม่อาเหวินที่อยู่ห่างออกไป7-8เมตรซึ่งเขาไม่ได้ตามมา ตอนนี้ในหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกอย่างหนึ่ง

พ่ายแพ้ !

เขารู้ว่าตัวเขาเองพ่ายแพ้แบบหมดท่า

โม่อาเหวินนั้นแข็งแกร่งเกินไป เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา เขาเองก็เคยได้ประลองกับระดับผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยายุทธมามากมายและสามารถเอาชนะมาได้อย่างง่ายดายทุกครั้ง ด้านนอกเองเขาก็ได้พบกับราคานักมายปล้ำ ปรมาจารย์เทควอนโด้และยูโดซึ่งไม่มีใครที่สามารถชนะเขาได้เลย

ท้ายที่สุด........

เอากลับแพ้ให้กับผู้คุ้มกันเท่านั้น

“ฉันไม่เข้าใจเลย ด้วยความแข็งแกร่งของนายนั้นก็สามารถสร้างอาณาจักรของตัวเองได้สบายๆแต่ทำไมถึงมาทำงานเป็นผู้คุ้มกันล่ะ ?”

หวางหลุยเองก็ได้พูดออกมาอย่างช้าๆ

โม่อาเหวินได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“นายคิดว่าการเป็นผู้คุ้มกันมันไม่ดีงั้นหรอ ?”

คิ้วของหวางหลุยขมวดเข้าหากันก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“หากว่านายอยากจะทำอาชีพผู้คุ้มกันก็ไม่เป็นไร นายได้ค่าจ้างจากถังซิ่วเท่าไหร่ ฉันจะให้มากกว่าเขาถึง10เท่า”

โม่อาเหวินเองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะตอบกลับไปว่า

“สิ่งที่ฉันต้องการนั้นนายไม่สามารถมอบให้ฉันได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือฉันไม่ใช่ผู้คุ้มกันของบอสแต่เป็นลูกน้องของเขา หากว่าใครกล้าคิดไม่ซื่อกับเขาหรือว่าต่อให้ต้องแลกชีวิตตัวเองเพื่อบอสแล้วฉันก็ยอม ยิ่งไปกว่านั้นคือนายที่ไม่สามารถสู้ฉันได้ก็ไม่สามารถเป็นคู่มือของบอสฉันหรอก”

“อะไรน่ะ ?”

ท่าทางของหวางหลุยเองก็เปลี่ยนไปก่อนที่จะหายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ เขามองไปที่โม่อาเหวินก่อนที่จะถามออกมาว่า

“ความหมายของนายคือ....คือถังซิ่วแข็งแกร่งกว่านายอีกงั้นหรอ ?”

โม่อาเหวินได้ตอบกลับไปว่า

“แข็งแกร่งกว่าฉันไหมงั้นหรอ ? ต่อให้มีนายสัก10คนก็ไม่สามารถเป็นคู่มือให้เขาได้อยู่ดี”

เมื่อพูดจบเขาก็ได้หันหลังพร้อมกับเดินกลับไปทางวิลล่า

ท่าทางของหวางหลุยเองก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เจาจำได้ถึงทุกคำพูดที่ได้เอ่ยออกไปก่อนหน้านี้และท่าทางเหิมเกริมที่ตัวเองได้ปฏิบัติต่อถังซิ่วซึ่งทำให้เขารู้สึกละอายและอึดอัดเป็นอย่างมาก ใ

“กี่ปีมาแล้วนะที่เราไม่ได้แพ้และอับอายขนาดนี้ ?”

หวางหลุยเองก็ได้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นก่อนที่จะส่ายศีรษะของเขาแล้วเดินตามโม่อาเหวินกลับเข้าไปในวิลล่า แขนขวาของเขาหลุดจากข้อต่อซึ่งทำให้สูญเสียศักยภาพในการต่อสู้ไปแล้วดังนั้นเขาต้องรีบหาคนมาเคลื่อนมันกลับเข้าที่

ที่ตัววิลล่า

พวกเขาเองก็ได้รู้ถึงผลการต่อสู้แล้วแต่ก็ไม่ได้มองหวางหลุยด้วยสายตาเหยียดหยามแม้แต่น้อย

มันไม่แปลก !

ต้องโทษที่โม่อาเหวินนั้นแข็งแกร่งเกินไป

ในหมู่พวกเขามีแต่ถังซิ่วเท่านั้นที่รู้สึกรันทดเป็นอย่างมากเพราะก่อนหน้านี้เขาคิดว่าหวางหลุยจะพอมีความแข็งแกร่งเท่าๆกับโม่อาเหวินและสามารถเป็นคู่ฝึกให้เขาได้แต่โม่อาเหวินกลับไม่จำเป็นต้องพยายามก็สามารถเอาชนะได้ ความแข็งแกร่งของโม่อาเหวินนั้นสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดและทำให้หวางหลุยไม่ใช่คู่มือของเขาในทันที

ดังนั้น การประลองในครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลดีอะไรกับอาเหวินเลยแม้แต่น้อย

“บอส !”

โม่อาเหวินเองก็ได้แสดงท่าทางเคารพเหมือนทุกครั้ง

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ทำได้ดีมาก น่าเสียดายที่มันไม่เป็นตามที่ฉันได้วางเอาไว้ อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของนายเพิ่มขึ้นมากและมันเป็นเรื่องที่ดี”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด