ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 296
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 298

Returning From The Immortal World - 297


.......................................................................................................................................................................................

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปพร้อมกับความโกรธที่ค่อยๆจางหายไปทีละน้อย เธอต้องการจะล้างแค้นให้ครอบครัวของเธอจนถูกความแค้นบดบัง

เมื่อทอมเรกกี้เห็นว่าคำพูดของตัวเองมีผลนั้นก็ได้พูดต่อว่า

“มิสเหว่ย การล้างแค้นนั้นต้องทำอยู่แล้วเพียงแค่คุณจะต้องสงบสติลงก่อนเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนที่กล้าจะฆ่าครอบครัวของคุณนั้นจะต้องมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน พวกเขาจะต้องมีวิธีที่โหดร้ายและทำทุกวิถีทางหากว่าคุณไปปะทะกับพวกเขาด้วยสภาพแบบนี้ผมก็รับรองได้เลยว่าคุณจะไม่ใช่แค่ไม่สามารถล้างแค้นได้แต่ก็จะต้องตายอย่างแน่นอน”

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้สงบสติของเธอลงก่อนที่จะคิดว่าคำพูดของทอมเรกกี้นั้นมีเหตุผลมาก เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เธอก็พยายามนึกว่าเธอได้ไปล่วงเกินใครจนถึงขั้นที่ว่าพวกเขาถึงกับต้องมาฆ่าล้างครอบครัวของเธอ

“นายออกไปก่อน ฉันต้องการสงบสติอารมณ์”

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้โบกมือก่อนที่เธอจะไปนั่งลงบนโซฟา

ทอมเรกกี้รู้สึกโล่งใจขึ้นก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“มิสเหว่ย คุณเป็นถึงผู้ช่วยชีวิตของผมดังนั้นหากว่าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไรผมก็จะช่วยอย่างสุดกำลังเพื่อตามหาคนที่ฆ่าครอบครัวของคุณ เมื่อถึงเวลาที่เราจะเข้าปะทะแล้วผมก็จะช่วยเหลือคุณอย่างแน่นอน”

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้เงยหน้าขึ้นมามองทอมเรกกี้ก่อนที่จะพยักหน้าแล้วพูดว่า

“ขอบคุณนะ ทอมเรกกี้”

ทอมเรกกี้เองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“มิสเหว่ย คุณเป็นคนที่มีค่าที่สุดในสายตาของผมดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องสุภาพไปหรอก คุณพักผ่อนเถอะเพราะผมต้องกลับไปหาคุณถังอีก ผมไม่มีทางรู้เรื่องของคุณได้เลยหากว่าเขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับผม”

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้โบกมือของเธอแล้วพูดว่า

“ไปสิ”

หลังจากที่ทอมเรกกี้กลับออกกไปแล้ว เหว่ยเหว่ยมี่ที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ได้ร้องไห้ออกมา น้ำตาของเธอท่วมใบหน้าพร้อมกับคิดถึงคนที่เธอได้ไปล่วงเกินและภาพของเหล่าครอบครัวของเธอที่ตายไป

ในที่สุดเธอก็สามารถนึกถึงผู้ต้องสงสัยได้บางคน เธอตัดสินใจว่าจะฆ่าพวกมันทุกคนพร้อมกับทำให้พวกมันหายไปจากโลกนี้

“คุณถัง ?”

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาของเธอ หลังจากนั้นเธอก็ได้ยืนขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าประตูเพราะเธอต้องไปพบกับถังซิ่วด้วยเหตุที่ว่าเขาเป็นคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่มากและสามารถเข้าใจได้ถึงเรื่องราวต่างๆมากมาย

เพราะว่าในกรณีที่เขาไม่ได้บอกทอมเรกกี้นั้นตัวเธอเองก็จะต้องตกอยู่ในอารมณ์โกรธพร้อมกับออกไปบ้าคลั่งอยู่ด้านนอกแล้ว

ที่วิลล่าริมหาด

ถังซิ่วและครอบครัวของเฒ่าอ้วนหลี่ที่กำลังสนทนากันอยู่ก็ได้พบว่าทอมเรกกี้ได้เดินกลับมาแล้วพร้อมกับบอกว่าเหว่ยเหว่ยมี่นั้นไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิดคือเธอเองก็กลับมาที่นี่เช่นกัน

“ดูเหมือนว่าเธอจะต่อต้านกับความรู้สึกแค้นได้สินะ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า

“คุณถัง หลังจากที่ฉันล้างแค้นได้แล้วจะต้องมอบของขวัญสุดพิเศษให้คุณอย่างแน่นอน”

ถังซิ่วได้โบกมือของเขาก่อนที่จะพูดว่า

“ไม่จำเป็น”

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อพร้อมกับเดินไปทางบันใดทันทีเพราะเธอไม่มีอารมณ์จะเข้าร่วมสังสรรค์อีกแล้วแต่ว่าเธอเองยังจำได้ว่ายังมีการพนันของผู้แข็งแกร่งที่กำลังจะถึงอยู่ มันเป็นการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญ

ดังนั้น !

เธอจะต้องจดจำ !

เธอจะต้องแข็งแกร่ง !

ยามที่เธอแข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถล้างแค้นให้กับครอบครัวและปกป้องคนที่เธอรักได้

การเลี้ยงอาหารค่ำก็ได้จบลง

ทอมเรกกี้ก็ได้บอกลาไปพร้อมกับเฒ่าอ้วนหลี่ที่ได้พาครอบครัวกลับไปส่งที่ห้องแล้วรีบตามกลับมาที่นี่เพราะเขารู้ดีว่ามันจะมีการแข่งขันเกิดขึ้นระหว่างหวางหลุยและลูกน้องของถังซิ่ว

ที่ชั้นสอง

ถังซิ่ว เหว่ยเหว่ยมี่และเฒ่าอ้วนหลี่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะกลมพร้อมกับดื่มชาขณะที่นั่งรอเวลา โม่อาเหวินและโม่อาหวูนั้นกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านหลังพร้อมกับกำลังบ่มเพาะพลัง

“เมื่อไหร่ไอ้เด็กนั่นจะมา ?”

เฒ่าอ้วนหลี่เองก็ได้รอมากว่า1ชั่วโมงด้วยใบหน้าที่ทนไม่ไหวแล้ว

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“หากพูดกันตามตรงคือเรานัดกันไว้ตอนเที่ยงคืนนะ ตอนนี้ยังแค่11.30เท่านั้น ยังเหลืออีกตั้ง30นาที เพราะงั้นอดทนไปก่อน !”

เฒ่าอ้วนหลี่เองก็ได้โอดโอยออกมาว่า

“ฉันอยากจะให้มันเริ่มไวๆแล้วจะได้ไปดูนายเข้าโปรแกรม”

“โปรแกรม ?”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“โปรแกรมอะไรงั้นหรอ?”

เฒ่าอ้วนหลี่เองก็ได้พูดออกมาว่า

“อย่าบอกนะว่านายลืมไปแล้ว ? โปรแกรม.........”

คำพูดของเขาหยุดชะงักทันทีก่อนที่จะมองไปที่เหว่ยเหว่ยมี่ก่อนที่เขาจะเห็นว่าเธอไม่ได้สนใจบทสนทนาของเขากับถังซิ่วแม้แต่น้อย เขามองไปที่ถังซิ่วด้วยท่าทางประมาณว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะที่จะคุยต่อหน้าผู้หญิง

ถังซิ่วเองก็ได้ขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนที่จะนึกสิ่งต่างๆแล้วหัวเราะออกมาว่า

“อ่อ ที่นายอยากจะบอกคือโปรแกรมนั้นใช่ไหม ? ไอ้ที่มันชื่อเสียงทำนองของ7เทพสินะ ? ใช่ๆ ชื่อนี้แหละ เฒ่าอ้วนหลี่ นายให้ฉันมานั่งเดาอยู่ตั้งนานแล้วเมื่อไหร่จะบอกสักทีว่ามันคือโปรแกรมอะไรกัน”

เฒ่าอ้วนหลี่เองก็ได้พูดออกมาอย่างร่าเริงว่า

“น้องถัง โปรแกรมนี้มันไม่สามารถอธิบายได้ หลังจากที่น้องชายได้ผ่านมันมาแล้วก็จะรู้เอง ! อ๊า น่าเสียดายที่ฉันแก่แล้วจึงไม่สามารถทนได้นานไม่เช่นนั้นก็คงจะไปเข้ากับนาย”

“มันต้องออกกำลังกายเยอะงั้นหรอ ?”

ถังซิ่วได้ถามออกมาด้วยความประหลาดใจ

เฒ่าอ้วนหลี่เองก็ได้ตอบอย่างมั่งใจว่า

“เยอะมาก ! เยอะขนาดที่คนธรรมดาไม่สามารถทนไหวแน่นอน”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“จริงๆแล้วฉันไม่ใช่คนธรรมดาดังนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

ณ ตอนนี้

โม่อาเหวินที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านหลังนั้นก็ได้ลุกขึ้นพร้อมกับมองไปที่บันใดก่อนที่จะเห็นว่าชายคนหนึ่งได้เดินเข้ามาพร้อมกับผู้คุ้มกันอีกสองคน เขาได้พูดออกมาว่า

“บอสครับ แขกได้มาถึงแล้ว”

ถังซิ่วเองก็ได้มองไปทางบันใดก่อนที่จะเห็นว่าหวางหลุยกำลังสูบบุหรี่พร้อมกับเดินมาทางพวกเขา

“โย่ น้องชายถังนี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆที่สามารถทำให้หญิงนักพนันคนนี้ตกหลุมรัก ?”

หวางหลุยเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“อย่าได้พูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง เหว่ยเหว่ยมี่เป็นเพื่อนของฉันเท่านั้น นายก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าวันนี้มีนัดประลองกับลูกน้องของฉันแต่กลับเสียเหงื่อจากการอึ้บผู้หญิงไปไม่น้อยเลยสินะ ?”

หวางหลุยเองก็ได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า

“รู้ได้อย่างไรกัน ?”

ถังซิ่วได้พูดออกมาอย่างเรียบง่ายว่า

“ดูเหมือนว่าพละกำลังของนายจะไม่ค่อยปกตินักเพราะมันน้อยกว่าช่วงก่อนหน้านี้มาก หากว่านายไม่ได้ถูกแวมไพร์ในตำนานดูดเลือดมาก็คงจะเสียไปให้กับการอึ้บผู้หญิงนั่นแหละ”

หวางหลุยเองก็ได้ยกนิ้มขึ้นมาชื่นชมว่า

“น้องถังนี้สุดยอดเลยจริงๆที่สามารถเข้าใจได้ถึงสภาพร่างกายของฉัน ฉันคิดว่าการเล่นกับลูกน้องของนายมันไม่น่าสนใจเท่าเล่นกับนายเลย หรือว่าเรามาลองกันไหม ?”

ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“หากว่านายสามารถชนะลูกน้องของฉันได้ก็จะมีคุณสมบัติพอที่จะเล่นกับฉันอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเริ่มการประลองนั้นฉันจะให้เวลานาย2ชั่วโมงเพื่อฟื้นฟูพละกำลัง”

หวางหลุยเองก็ได้โบกมือก่อนที่จะพูดว่า

“ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องพักหรอก”

ถังซิ่วได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“งั้นมาดื่มชากัน ! กว่าจะถึงเวลาที่เรานัดกันไว้ก็เหลืออีกตั้ง30นาที หลังจาก30นาทีนี้เราไปประลองกันที่หาดดีไหม ?”

หวางหลุยเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“เอางั้นก็ได้”

หลังจากที่นั่งแล้ว

หวางหลุยเองก็ได้สำรวจท่าทางของถังซิ่วก่อนที่จะถามออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“น้องชายถัง ฉันรู้แค่ชื่อของนายเท่านั้นแต่กลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนายเลยแม้แต่น้อย ฉันได้เคยเห็นหน้าตาของเหล่ารุ่นเยาว์แห่งตระกูลใหญ่ๆมาบ้างอย่างเช่นรูปภาพหรือชื่อแต่ว่า........ฉันยังไม่เคยได้ยินชื่อของนาย”

ถังซิ่วได้ยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดว่า

“ฉันเป็นแค่คนไม่สำคัญเท่านั้น ไม่มีค่าควรให้พูดถึงหรอก”

หวางหลุยเองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“คนที่สามารถจ้างผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งแบบนี้ได้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาๆอย่างแน่นอน ลองพูดมาสิบางทีฉันอาจจะพอรู้จักเรื่องของนายอยู่บ้าง”

ถังซิ่วได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“จริงๆแล้วฉันเป็นแค่นักศึกษาเท่านั้น อ่อ ยิ่งไปกว่านั้นคืออีกครึ่งหนึ่งก็เป็นหมอด้วยนะ ฉันทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลจีนเมืองสตาร์ซิตี้”

นักศึกษา ?

หมอ ?

หวางหลุยไม่เชื่อคำพูดของถังซิ่วตั้งแต่แรกเพราะหลังจากที่เขาออกจากห้องพนันไปแล้วก็ได้ส่งคนไปสืบเบื้องหลังทั้งหมดของถังซิ่วทันที แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้เครือข่ายภายในประเทศแต่ก็ได้รู้มาว่าถังซิ่วได้ชนะเงินรางวัลไปถึง1พันล้านหยวน มันมากกว่าเงินรางวับทั้งหมดที่เขาได้รับมาในวันนั้นเสียอีก

อย่างไรก็ตาม

การที่ชนะเงินรางวัลมาได้1พันล้านแต่กลับยังอยู่รอดมาได้ถึงตอนนี้นั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างแน่นอน

“น้องชายถัง นายมัน อ๊า ! ดูเหมือนว่าเฒ่าอ้วนหลี่จะไม่ได้บอกสถานะของฉันไปใช่ไหม ? ฉันถามสถานะของนายแต่นายกลับปกปิด นี่มันใช่ไม่ได้เลยนะ”

หวางหลุยเองก็ได้นั่งไขว้ขาก่อนที่จะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ

ถังซิ่วได้ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดออกมาว่า

“ฉันไม่ได้โกหกนะ ฉันกำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยจริงๆและเป็นหมอด้วย หากว่าไม่เชื่อก็ส่งคนไปสืบได้เลยอย่างไนก็ตามฉันต่อต้านคนที่มาสืบเรื่องของฉันมากและรับรองได้ว่าคนที่สืบเองก็จะต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างแน่นอน”

หวางหลุยเองก็ได้หัวเราะออกมาหลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง

“ในเมื่อน้องชายถังไม่ต้องการที่จะพูดงั้นฉันก็จะไม่บังคับอีกต่อไป ! หลังจากที่กลับไปแล้วฉันจะเชิญนายมาทานอาหารที่ห้องอาหารมานชูฮั่นที่บ้านเกิดฉัน”

ถังซิ่วเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องที่เขาพูดแม้แต่น้อย เขามองไปที่โม่อาเหวินก่อนที่จะพูดว่า

“ใช้พลังทั้งหมดที่นายมี อย่าได้ประมาทและผิดพลาด”

โม่อาเหวินเองก็ได้มองไปที่หวางหลุยก่อนที่จะสามารถรับรู้ได้ว่าเขาเป็นคนที่มีประสบการณ์ด้านการต่อสู้ซึ่งทำให้สภาพอารมณ์ของเขาเปลี่ยนไป

คำพูดของถังซิ่วนั้นทำให้เขาระวังตัวดังนั้นเขารู้ได้ทันทีว่าตัวเองกำลังอยู่ตรงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการฝึกอารมณ์

เวลาผ่านไป

ถังซิ่วได้ยืนขึ้นพร้อมกับพูดออกมาช้าๆว่า

“ถึงเวลาแล้ว โม่อาเหวิน นายกับคุณหวางไปเจอกันที่ชายหาด อย่าได้ทำให้ฉันผิดหวัง”

“รับรองว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังครับ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด