ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 295
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 297

Returning From The Immortal World - 296


.......................................................................................................................................................................................

ถังซิ่วก็ได้มีสีหน้าที่สับสนทันทีเมื่อได้ยินคำถามของเธอก่อนที่จะถามออกมาว่า

“ทำไม ?”

เหว่ยเหว่ยมี่ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“เพราะฉันรวยไงล่ะ !”

ถังซิ่วได้นิ่งค้างไปก่อนที่จะกรอกตามองบนทันที เขาเองก็รู้สึกสงสัยท่าทางของปฏิบัติของทอมเรกกี้ที่มีต่อเธอเช่นกัน ที่แท้มันก็เป็นเพราะในหัวใจของทอมเรกกี้ เหว่ยเหว่ยมี่นั้นเป็นคนมั่งคั่ง

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“แน่นอนว่ามันไม่ใช่เพราะฉันรวยอย่างเดียวหรอกนะแต่เพราะฉันได้ช่วยชีวิตเขาไว้ด้วย ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้เขาได้ไปล่วงเกินคนมีอำนาจเข้าและฉันเองก็ได้ช่วยจัดการแก้ปัญหาให้เขาดังนั้นต่อหน้าฉันเขาถึงได้มีท่าทางที่เคารพแบบนั้นไงล่ะ”

ถังซิ่วเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“แล้วทำไมไม่พูดตั้งแต่แรกล่ะ ตอนแรกฉันก็เผลอคิดว่าเธอเป็นแค่แหล่งทำเงินของเขาเสียอีก”

เหว่ยเหว่ยมี่ได้แสยะออกมาก่อนที่จะพูดว่า

“ฉันรู้ว่าที่ประเทศของนายมีคำพูดอยู่คำหนึ่งที่เรียกว่าใช้เงิหน้าเงินซึ่งฉันไม่ใช่คนแบบนั้น และบอกได้เลยว่ามันต้องได้รับคำยินยอมจากฉันก่อนที่จะได้เงินไป ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้หวังเลยว่าจะได้เงินไปจากฉันแม้แต่หยวนเดียว”

ถังซิ่วเองก็ได้ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า

“ฉันเองก็อยากจะรู้จริงๆว่าเธอมีเงินเยอะงั้นหรอ ? เธอสอนสูตรลับในการทำเงินให้ฉันบ้างสิ”

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้พูดออกมาอย่างไม่สนใจว่า

“สอนอะไรล่ะ ! หากว่าใครกล้ามาหาเรื่องนายก็แค่ชกมันแล้วเรียกค่าเสียหายเท่านั้น ฉันเองก็จัดการกับพวกธุรกิจมืดเพื่อหาเงินเช่นกัน ใครกล้าหาเรื่องก็จัดการมันซะแล้วเรียกค่าเสียหายกลับมาเยอะๆ !”

ริมฝีปากของถังซิ่วได้กระตุกก่อนที่จะมองไปที่เธอด้วยท่าทางแปลกๆเพราะเขารู้ดีว่าเธอไม่ได้มีความสามารถด้านการต่อสู้นักแต่กลับไปล่วงเกินพลังด้านมืดไว้มากมาย การที่เธอยังสามารถมีชีวิตได้อยู่นั้นถือเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์จริงๆ

อย่างไรก็ตาม !

ถังซิ่วเองก็คิดว่าการใช้วิธีแบบนั้นก็ดีเหมือนกันเพราะมันหาเงินได้เร็วมาก ยกตัวอย่างเช่นคนที่มาล่วงเกินเขาที่เกาะฮ่องกงทั้งสี่คนนั้น ผลประโยชน์ที่เขาได้กลับมามันเกินหมื่นล้านไปแล้วใช่ไหม ?

เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้

ถังซิ่วได้ส่ายหัวเล็กน้อยก่อนที่จะทิ้งความคิดนี้ไป

ปีนี้แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งมากแต่การที่เขาล่วงเกินธุรกิจมืดมากๆพวกเขาอาจจะรวมพลังกันเพื่อเอาคืนเขาได้ แม้ว่าเขาจะสามารถฆ่าได้ฝูงนึงหรือสองฝูงแต่แล้วถ้าเป็น100-200ฝูงล่ะ ?

ยิ่งไปกว่านั้น

ตัวเองก็ยังมีเพื่อนและครอบครัวอยู่ หากว่าพวกมันเล็งเป้าหมายมาที่เขานั้นก็ไม่เป็นไรแต่หากว่ามันเล็งไปที่คนรู้จักและคนที่เขาเป็นห่วงนั้นจะสร้างปัญหาให้อย่างมาก

“เหว่ยเหว่ยมี่ ฉันขอแนะนำอะไรเธออย่าง ที่หลังอย่าได้ทำเรื่องแบบนั้นอีกในเมื่อเธอเป็นคนที่ร่ำรวยอยู่แล้วก็สามารถลงทุนในธุรกิจได้หลายอย่าง เงินที่ใช้จ่ายได้ก็เป็นเงินที่สุจริต หากว่าเอาแต่ล่วงเกินพวกธุรกิจมืดมากๆพวกเขาจะต้องโกรธจัดแน่นอน พวกเขาจะต้องล้างแค้นเธอรวมไปถึงครอบครัวเองเธอ เธอปกป้องตัวเองได้แล้วคิดว่าตัวเองปกป้องครอบครัวได้งั้นหรอ ?”

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้หยุดการก้าวเดินก่อนที่เธอจะอ้าปากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ถังซิ่วเองก็รู้สึกได้ว่าเธอมีท่าทางเปลี่ยนไปจึงได้พูดออกมาด้วยความสงสัยว่า

“เธอเป็นอะไร ?”

เหว่ยเหว่ยมี่ไม่ได้ตอบเขากลับไปแต่ดวงตาของเธอนั้นมีแต่ความว่างเปล่าพร้อมกับยืนแข็งทื่อเหมือนว่าวิญญาณได้หลุดออกจากร่างไปแล้ว แสงจันทร์ได้สาดส่องลงทั่วทั้งผมสีบลอนด์ของเธอซึ่งมันดูสง่างามเป็นอย่างมาก

“จิตสังหาร ?”

ท่าทางของถังซิ่วได้เปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับสัมผัสได้ถึงจิตสังหารลางๆที่ถูกปล่อยออกมาจากตัวเธอ

ท้ายที่สุด

เธอก็ได้ทำหน้าเคร่งขรึมก่อนที่จะมองไปที่ถังซิ่วอย่างยากลำบากแล้วพูดออกมาว่า

“ในที่สุดฉันก็เข้าใจว่าทำไม 7 ปีก่อนพ่อของฉันถึงได้ตายด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์และทำไมเมื่อ5ปีก่อนแม่ของฉันถึงได้ถึงได้ถูกไฟช๊อตตายที่อ่างอาบน้ำ ฉันเข้าในแล้วว่าทำไมเมื่อ3ปีก่อนน้องชายของฉันถึงได้ตายอยู่ในห้องที่บ้านถล่มลงมา ลุงของฉันที่ถูกบังคับให้ต้องฆ่าตัวตาย.........”

ถังซิ่วเองก็ได้จ้องมองอย่างนิ่งค้างก่อนที่จะถามออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่า

“เธอสงสัยว่าพวกมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหม ? มันมีคนคอยบงการงั้นหรอ ?”

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้กำหมัดแน่นก่อนที่จิตสังหารของเธอจะหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ เธอพูดออกมาด้วยความโกรธว่า

“มันจะต้องเป็นการล้างแค้นอย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นครอบครัวทั้งหมดของฉันจะตายได้อย่างไร แม้แต่คุณยายที่เป็นญาติห่างๆเองก็ถูกก้อนหินที่ลอยมาจากไหนไม่รู้กระแทกจนเสียชีวิตขณะที่เธอเดินออกไปจ่ายตลาด”

“ไม่น่าจะเป็นอย่างอื่นไปได้แล้ว !”

ถังซิ่วเองก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้ใส่รองเท้าอย่างรอดเร็วก่อนที่เธอจะวิ่งไปที่ห่างไกล

ถังซิ่วได้ถามออกมาอย่างดังว่า

“แล้วเธอจะวิ่งไปไหน !!!! ?”

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้ตอบกลับมาอย่างดังว่า

“ฉันจะไปฆ่าพวกมัน ! ไม่ว่ามันจะเป็นใครฉันก็จะทำให้มันต้องชดใช้อย่างสาสม !!”

คิ้วของถังซิ่วขมวดเข้าหากัน เขาเองต้องการที่จะเตือนเธอเท่านั้นแต่ไม่คิดเลยว่าจะสามารถทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่ามีคนอยู่เบื้องหลังการตายของครอบครัวเธอแต่ต้องการสืบหาคนทีฆ่าพวกเขา แต่หลังจากที่เขาคำนวณความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอแล้วเขาก็ได้แต่ยอมแพ้ที่จะไปห้ามเธอ

เขาเพิ่งจะพบกันวันนี้เท่านั้น

แม้ว่าจะจบลงด้วยการจูบกันก็ตามแต่ก็ยังไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแม้แต่น้อย

“ปล่อยเธอไปแล้วกัน ! ฉันได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะค้นพบคนที่ฆ่าครอบครัวของเธอได้และหวังว่าเธอจะมีชีวิตรอด”

ถังซิ่วได้ถอนหายใจออกมาก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในวิลล่า

ด้านใน

ทอมเรกกี้เองก็กำลังถือแก้วซึ่งถูกบรรจุไปด้วยไวน์แดงพร้อมกับพูดคุยอยู่กลับเฒ่าอ้วนหลี่ ข้างหลังก็มีโม่อาเหวินที่ตื่นขึ้นจากการบ่มเพาะพร้อมกับกำลังถือเค้กและขนนไปนั่งทาน

“คุณถัง มิสเหว่ยล่ะ ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“มีเรื่องเร่งด่วนนิดหน่อยเธอจึงได้กลับไปแล้ว”

ทอมเรกกี้เองก็ได้ตอบกลับมาด้วยความสับสนว่า

“มิสเหว่ยกลับไปแล้วงั้นหรอ ? กลับไปที่ห้องพัก ? .......”

ถังซิ่วตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“ตอนนี้น่าจะกำลังกลับไปที่ห้องพักของเธอ อย่างไรก็ตามเธอน่าจะออกไปจากโรงแรมเร็วๆนี้”

ทอมเรกกี้เองก็ได้ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า

“คุณถัง ดูเหมือนว่าคุณจะรู้ว่าทำไมมิสเหว่ยถึงได้จากไปใช่ไหม ? คุณบอกฉันหน่อยสิ”

ถังซิ่วเองก็คิดว่าการบอกทอมเรกกี้ไปก็คงจะไม่เป็นไรเพราะอย่างไรก็ตามเธอเป็นถึงคนที่เคยช่วยชีวิตทอมเรกกี้เอาไว้ หากว่าเขาบอกว่าเธอนั้นใช้อารมณ์หลังจากที่รู้ว่าครอบครัวของตัวเองตายโดยไม่ใช่อุบัติเหตุแต่กลับตายโดยถูกฆาตกรรม ? หากว่าทอมเรกกี้ไปช่วยเธอก็น่าจะมีประโยชน์ต่อเธอบ้าง

“เธอไปล้างแค้น! เธอคิดว่าครอบครัวของเธอนั้นถูกฆาตกรรม”

ทอมเรกกี้เองก็ได้ชะงักไปก่อนที่จะพูดว่า

“ฉันรู้ว่ามิสเหว่ยนั้นแข็งแกร่งมาก ฉันเห็นเธอทุบตีคนปางตายมากับตาดังนั้นเธอจะต้องสามารถค้างแค้นให้กับครอบครัวเธอได้อย่างแน่นอน”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“อะไรก็ไม่แน่นอน ถึงฉันจะไม่รู้จักเธอดีเท่าไหร่แต่ตอนนี้เธอกำลังสับสนและมีโอกาสสูงมากที่เธอจะถูกฆ่าตาย”

ท่าทางของทอมเรกกี้เองก็เปลี่ยนไปเพราะเขารู้ดีว่าหากว่าสูญเสียตัวตนไปนั้นจะทำให้เธอไม่มีความรอบคอบและในการรบนั้นจำเป็นต้องมีความฉลาดและจิตใจที่มั่นคง หากว่ามีใครที่ลงมือกับเธอตอนนี้ก็อาจจะถูกฆ่าได้ง่ายๆ!

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ !

ทอมเรกกี้ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“คุณถัง ก่อนหน้านี้คิดว่าจะทานอาหารค่ำเป็นเพื่อนกับคุณแต่ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ดังนั้นหากว่าคุณไม่ว่าอะไรฉันขอตัวไปดูเธอหน่อยนะ”

ถังซิ่วได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า

“ไปสิ”

ทองเรกกี้เองก็ได้วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

ถังซิ่วได้มองไปที่โม่อาเหวินที่กำลังยัดอาหารลงไปในท้องเหมือนหมาป่าที่หิวโหยพร้อมกับถามด้วยความประหลาดใจว่า

“นายเหมือนกันผีตายอยากเลยนะ ? ตั้งแต่กลับมานี่ฉันก็เห็นนายนั่งกินไม่หยุดเลย ?”

เมื่อโม่อาเหวินกลืนอาหารทั้งหมดแล้วก็ได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า

“บอสครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมหลังจากที่เปิดตามาแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองสามารถตัดผ่านไปอีกขั้นและรู้สึกหิวเป็นอย่างมาก ผมคิดว่าตอนนี้ผมสามารถกินวัวได้ทั้งตัวเลยด้วยซ้ำ”

ถังซิ่วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า

“ก่อนหน้านี้กับตอนนี้เป็นอย่างไร ?”

โม่อาเหวินเองก็ได้พูดออกมาด้วยความมั่นใจว่า

“อย่างน้อย50 % หากว่าให้เวลาผมอีก2วันก็สามารถแข็งแกร่งกว่าเดิมได้1เท่า”

“ดีแล้ว !”

ถังซิ่วได้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

ที่โรงแรม

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้พังประตูห้องเข้าไปด้วยความโกรธพร้อมรีบเก็บของใส่กระเป๋าเอาไว้ แม้ว่าในตอนนี้เธอจะไม่รู้ว่าใครกันที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แต่ว่าเธอเชื่อว่าตัวเองจะต้องหามันพบอย่างแน่นอน เธอจะฆ่ามันเพื่อล้างแค้น !

“ไม่ว่ามันจะเป็นใครฉันก็จะต้องทำให้มันตาย !”

เหว่ยเหว่ยมี่ได้ยัดเสื้อผ้าของเธอเข้าไปในกระเป๋าก่อนที่จะคำรามออกมา

“ก๊อก ก๊อก ......”

ประตูห้องได้มีเสียงเคาะดังขึ้นพร้อมกับเสียงของทอมเรกกี้ที่หน้าประตู

“มิสเหว่ยเหว่ยมี่ ผมทอมเรกกี้เอง ผมมีเรื่องที่ต้องการจะคุยกับคุณ”

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้มาที่หน้าประตูและหลังจากที่เธอเปิดมันออกแล้วก็พูดออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นเหมือนน้ำแข็งว่า

“มาทำไม ? มีอะไรจะพูด ?”

ทอมเรกกี้เองก็ได้พูดออกมาอย่างสุภาพว่า

“ก่อนหน้านี้คุณถังได้บอกเรื่องของคุณกับผมและคุณเองก็เป็นผู้ช่วยชีวิตผมดังนั้นผมคิดว่าคุณควรเชื่อฟังคำพูดบางอย่างของผมเกี่ยวกับการไปล้างแค้นของคุณ”

“ว่ามา !”

เหว่ยเหว่ยมี่ได้ตอบกลับด้วยเสียงทุ้มต่ำ

ทอมเรกกี้เองก็ได้พูดออกมาว่า

“ที่ประเทศจีนเองมีคำพูดหนึ่งว่า สำหรับลูกผู้ชายแล้วการล้างแค้น10ปีก็ยังไม่สาย ตอนนี้คุณก็น่าจะยังไม่รู้ว่าศัตรูของคุณเป็นใครดังนั้นก็ไม่น่าจะรู้ว่าจะไปแก้แค้นกับใครดี ผมคิดว่าสิ่งแรกที่คุณควรจะทำคือการหาข้อมูลและเบื้องหลังทั้งหมดของคนเหล่านั้นแล้วค่อยวางแผนล้างแค้น”

“ฉันรอไม่ได้ !”

เหว่ยเหว่ยมี่เองก็ได้คำรามออกมาด้วยความโกรธ

ทอมเรกกี้เองก็ถึงกับถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า

“มิสเหว่ยเหว่ยมี่ ก่อนหน้านี้ผมเองก็ไม่เชื่อว่าสิ่งที่คุณถังบอกว่าคุณนั้นได้ถูกความแค้นบดบังเพราะผมคิดว่าคุณเป็นดังเทพธิดาที่ชาญฉลาดแต่ตอนนี้ผมเชื่อเขาแล้ว คุณในตอนนี้กำลังสับสนด้วยความแค้นและความเกลียดชังพร้อมกับกำลังจะทำเรื่องบ้าๆ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด