ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 285
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 287

Returning From The Immortal World - 286


.......................................................................................................................................................................................

รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเทียนหลี่ก่อนที่เธอจะถามออกมาว่า

“เป็นอะไรไป คิดว่ามันไม่ดีงั้นหรอ ? หรือจะพูดว่าบอสโหดเหี้ยมเกินไป ?”

เฮาเหล่เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“ดีแล้วแหละที่โหดเหี้ยม ไม่กี่ปีมานี้นั้นบอสใหญ่เองก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาเลยแม้แต่น้อยพร้อมกับให้บอสน้อยเป็นคนดูแลเรื่องต่างๆ เธอเองก็น่าจะรู้ถึงนิสัยของบอสน้อยดี เธอไม่สนใจเรื่องชื่อเสียงหรือสมบัติแม้แต่น้อย เธอทำแค่ธุรกิจที่จำเป็นพร้อมกับส่งงานทั้งหมดมาให้พวกเรา ฉันเองก็รู้สึกกังวลมากๆว่าหากยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปการบริหารห้องอาหารร้อยงานฉลองของเราจะต้องได้รับผลกระทบแน่ๆแต่ตอนนี้ฉันไม่กลัวอะไรอีกแล้ว !”

เทียนหลี่เองก็ได้พยักหน้าแล้วพูดว่า

“ฉันเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน ฉันว่าฉันพอใจกับบอสคนใหม่มากๆและเชื่อว่าภายใต้การนำของเขาแล้วห้องอาหารของเราจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน”

เฮาเหล่เองก็ได้ยิ้มก่อนที่จะมองไปรอบๆ หลังจากพบว่าไม่มีใครแล้วจึงพูดออกมาด้วยเสียงกระซิบว่า

“อย่าบอกนะว่าเธอไม่สงสัยบอสคนใหม่ของเราบ้าง ?”

เทียนหลี่เองก็ได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“สงสัยมากๆเลยล่ะ”

เฮาเหล่เองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ใช่สิ เขาดูลึกลับมากๆ อยู่ดีๆก็โผล่มาแล้วเป็นบอสของเราเลย แม้ว่าเขาจะยังเด็กอยู่มากทว่าเราเองก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใครและฉันเชื่อว่าเขาเป็นคนที่มาจากที่แห่งเดียวกับบอสใหญ่”

เทียนหลี่เองก็ได้ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“อย่าบอกนะว่าเธอรู้งั้นหรอว่าบอสใหญ่มาจากที่ไหน ?”

เฮาเหล่เองก็ได้ส่ายศีรษะแล้วพูดออกมาว่า

“ไม่รู้”

เทียนหลี่ได้พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า

“ไม่ว่าบอสจะมาจากที่ไหนก็ตามเราแค่จำไว้ว่าชีวิตนี้เป็นสิ่งที่บอสใหญ่ได้มอบให้ ตราบเท่าที่มันเป็นคำสั่งของบอสใหญ่แล้วเราก็จะต้องทำมันโดยไม่มีข้อแม้ อีกเรื่องนึงคือแม้ว่าบอสใหม่ของเราจะดูเหมือนเป็นมิตรทว่าภายในของเขานั้นคือคนที่โหดเหี้ยมและไร้ความปราณีดังนั้นเราจะต้องให้ความเคารพแก่เขา”

เฮาเหล่เองก็ได้พูดออกมาว่า

“แน่นอนอยู่แล้ว ในเมื่อบอสอุส่าให้โอกาสนั้นกับเรา ต่อให้เขาสั่งให้ฉันไปตายฉันก็จะไม่กระพริบตาเลยแม้แต่น้อย และยิ่งไปกว่านั้น..........”

คำพูดของเธอยังไม่สิ้นสุดเพราะมีชายรูปร่างกำยำคนหนึ่งได้เดินเข้ามาให้ห้องนี้

“ผู้จัดการครับ นายใหญ่ของบริษัทฉี ฉีเฉินชางได้นำลูกชายของเขามาที่นี่และกำลังรออยู่ด้านนอกครับ”

ชายรูปร่างกำนำเองก็ได้พูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ

คิ้วของเทียนหลี่เองก็ได้ยกตัวขึ้นก่อนที่จะแสยะออกมาว่า

“พวกมันสองพ่อลูกมาที่นี่ทำไมกัน ? มันพาคนอื่นมาด้วยหรือเปล่า ?”

“ไม่ครับ !”

เทียนหลี่เองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“ดูเหมือนว่ามันจะได้ยินข่าวแล้วสินะ ให้พวกมันเข้ามา !”

“ครับผม!”

ชายรูปร่างกำยำเองก็ได้ปฏิบัติตามพร้อมหันหลังกลับออกไป

เฮาเหล่ได้ยักไหล่ของเธอก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“เรื่องนี้ก็ปล่อยให้เธอจัดการแล้วกัน! ฉันจะกลับไปพักผ่อนแล้วเพราะทางฝั่งของฉันเองก็มีเรื่องที่ต้องจัดการเช่นกัน หลังจากวันมะรืนเราก็จะกลับไปที่ศูนย์หลักที่เกาะจิงเหมินเพื่อรับโอกาสนั้น ฉันตื่นเต้นจริงๆเลยล่ะ !”

เทียนหลี่เองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“บอสจะกลับไปในวันพรุ่งนี้ เราจะกลับกันวันมะรืนแล้วกัน”

หลังจากนั้นสองนาที

เทียนหลี่เองก็ได้มองไปที่ฉีเฉินชางและฉีชางซิงด้วยท่าทางไม่แยแสแม้แต่น้อย

“หัวหน้าเทียน !”

ฉีเฉินชางได้มองไปที่เธอก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มฝืนๆ

เทียนหลี่เองก็ได้พูดออกมาว่า

“มีเรื่องอะไรงั้นหรอ ?”

ฉีเฉินชางเองก็ได้ดึงสมุดเช็คออกมาจากหน้าอกของเขาก่อนที่จะส่งให้เทียนหลี่แล้วพูดว่า

“หัวหน้าเทียน ฉันได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แล้วและนี่คือเงิน1พันล้านสำหรับเป็นการขอโทษห้องอาหารร้อยงานฉลองแห่งนี้”

เทียนหลี่เองก็ยังไม่ได้รับเช็คมาแต่กลับถามไปว่า

“ใครบอกนายกัน ?”

ฮีเฉินชางเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ดูชางซี่เป็นคนบอกว่าให้ผมซื้อข่าวจากเขาในราคา1พันล้าน”

คิ้วของเทียนหลี่ได้ยกตัวขึ้นก่อนที่เธอจะแสยะออกมาว่า

“เจ้าดูชางซี่คนนั้นมันใช่ได้หนิ ในเมื่อนายใช้เงินตั้งมากมายเพื่อซื้อข่าวแล้วคิดว่าห้องอาหารของเราจะสนใจเงินแค่พันล้านงั้นหรอ ?”

ฉีเฉินชางเองก็ได้พูดออกมาอย่างขมขื่นว่า

“หัวหน้าเทียน ตอนนี้ผมไม่สามารถใช้เงินได้มากนักเพราะเมื่อครู่เองก็ได้ให้เงินกับดูชางซี่ไปถึง500ล้านแล้ว ครึ่งนึงของเงิน1พันล้านนี้ผมก็ได้ไปขอยืมมาจากเพื่อนคนอื่น ผมไม่เหมือนกันบริษัทเจียง บริษัทอสังหาฯหรือโรงบ่มไวน์ดูกังที่สามารถใช้เงินได้มากมายขนาดนั้นในเวลาอันสั้นๆ นี่เป็นขีดจำกัดของผมแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเทียนหลี่จึงได้หยิบเช็คของเขาไปแล้วพูดว่า

“เรื่องนี้จบลงแล้ว นายออกไปได้แล้ว”

ฉีเฉินชางเองก็ได้รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากก่อนที่จะพูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ผมจะไม่รบกวนคุณอีกแล้ว ขอตัวก่อน”

“อย่าเพิ่งไป !”

ทันใดนั้นเทียนหลี่เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มทันทีว่า

“หลังจากที่กลับไปแล้วอย่าลืมไปบอกดูชางซี่ด้วยว่าการได้เงิน1พันล้านไปนั้นมันไม่ค่อยจะปกติเสียเท่าไหร่”

ท่าทางของฉีเฉินชางเองก็เปลี่ยนไปพร้อมกับเข้าใจความหมายของเธอทันทีก่อนที่เขาจะตอบกลับไปว่า

“ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะบอกเขาให้อย่างแน่นอน”

ออกจากห้องอาหารร้อยงานฉลอง

หลังจากที่กลับขึ้นไปบนรถแล้วฉีเฉินชางเองก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนที่จะโทรไปหาดูชางซี่ หลังจากที่อีกฝ่ายรับสายแล้วเขาก็พูดออกมาทันทีว่า

“เพื่อนดู ขอบคุณสำหรับข่าวที่นำมาให้ ฉันได้จัดการกับเรื่องนี้แล้วอย่างไรก็ตามฉันมีข้อความที่ทางผู้จัดการห้องอาหารร้อยงานฉลองเทียนหลี่ฝากมาถึง”

“ว่าอย่างไร ?”

ดูชางซี่เองก็ได้รีบถามออกมาอย่างรวดเร็ว

ฉีเฉินชางเองก็ได้พูดออกมาว่า

“เธอบอกว่าอย่าได้เก็บทุกอย่างไว้กับตัวเอง”

เก็บทุกอย่างไว้กับตัวเอง ?

ดูชางซี่ที่ยังไม่ได้นอนนั้นก็มีท่าทางน่าเกลียดเป็นอย่างมากก่อนที่จะเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดออกมาว่า

“ฉันรู้ว่าฉันควรจะทำอะไร”

“เอาล่ะ ลาก่อน !”

การสนทนาของพวกเขาก็ได้จบลงพร้อมกับฉีเฉาชางได้เก็บโทรศัพท์ของเขาไปก่อนที่จะมองไปที่ลูกชายของเขา หากว่าฉีชางซิงไม่ใช่ลูกชายล่ะก็ เขาเองก็อยากจะบีบคอมันให้ตายจริง แค่ช่วงเย็นกลับต้องเสียเงินไปถึง2 พันล้าน

2 พันล้าน !!!!

แม้ว่าสินทรัพย์ของบริษัทของเขาจะมีมากแต่การที่ใช้เงิน2พันล้านในทันทีนั้นต้องมีผลกระทบอย่างแน่นอน !

“พ่อครับ ผมผิดไปแล้วและผมรับประกันได้เลยว่าจะไม่สร้างปัญหาอีกแล้ว”

ฉีชางซิงเองก็เข้าใจอารมณ์ของพ่อตัวเองดีจึงได้พูดออกมาอย่างรวดเร็ว

ฉีเฉินชางนั้นรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก

ซื้อบทเรียน ! หากว่าบทเรียนนี้สามารถทำให้ลูกชายของเขาตั้งใจทำงานได้ก็ยังโอเค

แต่อย่างไรก็ตาม !

ราคามันสูงเกินไป !

เช้าวันรุ่งขึ้น

ถังซิ่วได้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล เมื่อวานนี้เขาได้บ่มเพาะพลังไปถึง4ชั่วโมงก่อนที่จะเข้านอน หากว่าเอาระดับพลังของเขาเป็นหลักแล้วล่ะก็ เขาจะไม่มีปัญหาเลยถ้าไม่นอน10-15วันแต่อย่างไรก็ตามเขาเองก็ยังเลือกที่จะนอนวันละนิดเพื่อฟื้นฟูจิตวิญญาณของเขา

อาบน้ำ !

เมื่อเขาเดินออกมาที่หน้าประตูพร้อมกับลงไปที่ชั้นหนึ่งแล้วก็พบว่าเทียนหลี่ได้มารออยู่ก่อนแล้ว

“บอสค่ะ !”

เทียนหลี่ได้ยืนขึ้นจากโซฟาพร้อมกับเรียกออกมาด้วยความเคารพ

ถังซิ่วเองก็ได้ถามออกไปว่า

“เรื่องเมื่อวานเป็นอย่างไรบ้าง ? มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้างไหม ?”

เทียนหลี่เองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“เรียบร้อยหมดแล้วค่ะ เมื่อวานนี้หลี่จูเหลินได้โทรมาหาฉันพร้อมกับบอกว่าจะไม่มีปัญหาอะไรแม้แต่น้อยหากว่าพวกของเจียนเทียนป้าไม่ปริปาก”

ถังซิ่วเองก็ได้แสยะออกมาว่า

“มันจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อพวกมันเหนื่อยที่จะมีชีวิตต่อเท่านั้น ทานอาหารเช้ามาหรือยัง ?”

เทียนหลี่ได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดออกมาว่า

“ยังเลยค่ะ”

ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า

“งั้นมากินด้วยกันสิ ! หลังจากกินเสร็จแล้วฉันต้องนั่งเครื่องไปต่างประเทศอีก”

เทียนหลี่เองก็ได้ตอบตกลงพร้อมกับทานอาหารเช้าด้วยกันกับถังซิ่ว

คนรับใช้ในวิลล่าหลังนี้มีอยู่มากมายและเมื่อเห็นว่าถังซิ่วและเทียนหลี่ได้นั่งที่โต๊ะอาหารแล้วพวกเขาก็ได้ยกอาหารมากมายมาเสิร์ฟทันที

“บอสค่ะ เมื่อวานนี้หลังจากที่คุณกลับไปแล้วฉีเฉินชางเองก็ได้พาลูกชายของเขามาหาเราที่ห้องอาหารพร้อมกับเอาเงินมาให้จำนวน1พันล้านหยวนเพื่อแทนคำขอโทษ”

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า

“เงินที่พวกเขาเอามาให้นั้นเธอก็เอาไปให้กู่เสี่ยวเสวี่ยที่อยู่เกาะจิงเหมินซะ ! ฉันยังมีเรื่องให้ต้องจัดการอีกมากมายดังนั้นจึงไม่มีเวลาว่างมาบริหารห้องอาหารนี้ หลังจากนี้แล้วกัน หากว่าเธอยังไม่สามารถแก้ได้ก็ค่อยติดต่อมาหาฉัน”

เทียนหลี่เองก็พูดออกมาด้วยความตกตะลึงว่า

“บอส คุณจะไม่จัดการบริหารห้องอาหารร้อยงานฉลองของเรางั้นหรอค่ะ ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ฉันเป็นแค่นักศึกษาที่เพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเท่านั้น การสอบเข้าก็ถือว่าพอใช้ได้ที่สามารถได้คะแนนสูงสุดในวิชาวิทยาศาสตร์และฉันเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นดวงตาของเทียนหลี่เองก็แทบจะถลนออกมา เธอไม่คิดเลยว่าถังซิ่วจะเป็นแค่เด็กที่เพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมเท่านั้น ไม่คิดว่าเขาจะสามารถได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

“บอสค่ะ คุณคิดว่ามันจำเป็นจริงๆหรอที่ต้องเรียนมหาวิทยาลัย?”

เทียนหลี่เองก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมา

ถังซิ่วก็ได้ฝืนยิ้มก่อนที่จะตอบกลับไปว่า

“ฉันเองก็คิดว่ามันไม่จำเป็นหรอกแต่แม่ของฉันคิดแบบนั้น ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอคือการที่ฉันสามารถสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าได้ เพื่อเธอแล้วฉันถึงจำเป็นต้องเรียนไงล่ะ”

ประกายแสงในตาของเทียนหลี่เองก็ได้หายไปก่อนที่จะก้มหัวแล้วถามออกมาว่า

“บอสค่ะ ฉันขอถามคำถามบางอย่างกับคุณได้ไหม ? หากว่าคุณไม่อยากจะตอบก็ไม่เป็นไร”

ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“ถามมาสิ อย่าได้ทำท่าทางระมัดระวังแบบนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน ให้ทำมันกับศัตรูที่ฉันจะฆ่าได้แต่ไม่ควรแสดงท่าทางแบบนั้นกับพวกเดียวกัน”

เทียนหลี่เองก็ได้ถามออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“บอสค่ะ เราได้ถูกเลี้ยงดูมาโดยบอสใหญ่ตั้งแต่ยังเล็ก หากว่าไม่มีบอสใหญ่แล้วก็คงไม่มีพวกเราในวันนี้ซึ่งในอดีตนั้นเธอเองก็มักจะทำทุกหนทางเพื่อหาคนๆหนึ่งที่ชื่อถังซิ่ว ดังนั้นฉันจึงคิดว่านั่นเป็นคุณใช่ไหม ?”

ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า

“ใช่ ฉันเอง !”

เทียนหลี่เองก็ได้ถามออกมาว่า

“ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับบอสใหญ่คือ.........”

ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“หยานเอ๋อเป็นลูกศิษย์ของฉัน”

“อะไรนะ ?”

ทันใดนั้นความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อก็ได้ผุดขึ้นมาเต็มใบหน้าของเทียนหลี่โดยทันที

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า

“เรื่องบางอย่างเธอยังไม่สมควรที่จะรับรู้ หากว่าวันใดวันหนึ่งที่เธอไปที่โลกอื่นกับฉันแล้วเธอก็จะรู้เอง”

โลกอื่น ?

เทียนหลี่เองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยความรู้สึกตกตะลึงพร้อมกับปากของเธอที่หยุดสั่นไม่ได้เพราะเธอไม่คิดเลยว่านอกจากโลกแล้วยังมีโลกอื่นอีก

“............บอสค่ะ โลกอื่นที่คุณพูดถึงนั้นอยู่ที่ไหนกัน ?”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาอย่างสงบว่า

“เธอยังไม่จำเป็นต้องรู้หรอก เมื่อระดับพลังของเธอไปถึงเขตแดนแห่งนิรันด์เมื่อไหร่แล้วฉันจะบอกเธอเอง เอาล่ะจบช่วงคำถามแต่เพียงเท่านี้ ห้ามแพร่งพรายเรืองที่ฉันพูดกับเธอออกไปโดยเด็ดขาด”

“เข้าใจแล้วค่ะ”

เทียนหลี่เองก็ได้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเคารพ

ถังซิ่วได้โบกมือของเขาเมื่อส่งสัญญาณให้เธอทานอาหารต่อ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด