Returning From The Immortal World - 283
.......................................................................................................................................................................................
‘ผู้อ่อนแอคือเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง นี่คือกฎแห่งป่า’
ถังซิ่วที่ได้อยู่ในดินดินแห่งนิรันด์มากว่าหมื่นปีนั้นเข้าใจคำพูดเหล่านี้ดีแม้ว่าตอนนี้จะไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะ’ยอมสยบหรือจะสูญสิ้น ’ แต่หากว่า ’ไม่ล่วงเกินฉัน ฉันก็จะไม่ล่วงเกินพวกมันทว่าหากมันกล้าโจมตีฉัน ฉันก็ตะตอบโต้ ‘ คำพูดนี้คือสิ่งสำคัญ
เขาไม่ใช่คนที่ฆ่าโดยไร้ความรู้สึกแต่ว่าการฆ่าคนเหล่านี้นั้นเขาฆ่าโดยไร้ความสงสารแม้แต่น้อย อย่างแรกหากว่าเขาไม่ฆ่าพวกมันคนที่จะต้องตายก็ต้องเป็นเขา อย่างที่สองพวกเขาไม่ใช่พวกที่เป็นมิตรซึ่งแต่ละคนเองก็คงทำเรื่องชั่วร้ายมามากพร้อมกับเกราะป้องกันล่องหนซึ่งกฎหมายไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ ครั้งนี้เขาใช้ ‘ผู้คนชั่วร้ายก็มักจะพบกับคนที่ลับคมคนชั่วร้าย ‘
มีคำพูดอยู่ว่าการฆ่าคนชั่วหนึ่งคนนั้นสามารถช่วยชีวิตคนดีได้มากมาย
ถังซิ่วเองก็เข้าใจได้ถึงสิ่งเหล่านี้ดีและเขาเองก็เป็นคนมีมโนธรรม ชีวิตของเด็กสาวคนดีนั้นมีค่ามากกว่าคนชั่วร้ายเหล่านี้
อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ค้นพบบางสิ่งที่น่าสนใจมากเพราะเทียนหลี่และเฮาเหล่ที่ดูดีนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่กู่หยานเอ๋อเป็นคนฝึกมาด้วยตัวเอง
ทรัพยากรทางการเงิน!
เป็นรากฐานสำคัญของทุกขั้วอำนาจ
การที่กู่หยานเอ๋อฝากมันไว้กับพวกเธอนั้นก็แสดงให้เห็นว่าเธอเชื่อใจพวกเขามาก คนที่กู่หยานเอ๋อเชื่อใจนั้นถังซิ่วเองก็จะไม่ตั้งคำถามแม้แต่น้อย
“พวกเธอทั้งหมดทำได้ดี หลังจากนี้ก็ให้คนที่รับผิดชอบธุรกิจอสังหาฯและค้าของโบราณพร้อมกับพวกเธอไปหาจี่ฉีเหม่ยที่เกาะจิงเหมินแล้วบอกว่าให้เธอถ่ายถอดสิ่งที่สอนไปให้อาหวูและอาเหวินกับพวกเธอ”
ถังซิ่วเองก็ได้ยืนขึ้นจากเก้าอี้พร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“อะไรนะ ?”
ร่างกายของเฮาเหล่และเทียนหลี่เองก็ได้สั่นสะท้านพร้อมกับความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อ ความรู้สึกเหล่านี้ยังคงอยู่สักครู่ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกดีใจอย่างถึงที่สุด
ตื่นเต้น!
ดีใจ !
ความฝันที่ต้องการเทคนิคเหล่านี้ของพวกเธอได้เป็นจริงแล้ว !
ถังซิ่วเองก็ไม่ได้สนใจกับท่าทางของพวกเธอก่อนที่จะจุดบุหรี่ขึ้นพร้อมกับเดินไปที่พ่อลูกตระกูลดูที่กำลังหน้าซีดแล้วพูดออกมาว่า
“ในเมื่อนายต้องการที่จะรอแก้ปัญหา เอาล่ะตอนนี้จะเอาอย่างไร ?”
ริมฝีปากของดูชางซี่เองก็ได้บิดเบี้ยวไปมาก่อนที่จะตบหน้าลูกชายของเขาอย่างแรงแล้วตะโกนออกมาอย่างดังว่า
“คุกเข่าลงไปเดี๋ยวนี้ !”
ดูหยางเองก็รู้สึกตื่นตระหนกโดยทันทีพร้อมกับคุกเข่าลงต่อหน้าถังซิ่ว
ดูชางซี่เองก็ได้ปาดเหงื่อที่หน้าผากของเขาก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นว่า
“เธอสกุลถังใช่ไหม ? ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินดาราคนนั้นเรียกออกมา บอสถัง ลูกของผมผิดไปแล้วแต่ขอร้องว่าได้โปรดไว้ชีวิตของเขาส่วนเรื่องหุ้นของบริษัทนั้นผมไม่สามารถให้คุณได้เพราะมันยากมากที่จะจัดการ เอางี้เป็นไง ผมจะให้เงินคุณ2พันล้านเพื่อแทนคำขอโทษ”
“3พันล้านแล้วไสหัวออกไปซะ”
ดูชางซี่เองก็รู้สึกโล่งใจทันทีที่เรื่องนี้สามารถแก้ได้ด้วยเงินตรายิ่งไปกว่านั้นคือเขาเองมีสินทรัพย์กว่าหมื่นล้าน แม้ว่า3พันล้านจะเป็นตัวเลขที่มากมายทว่าเขาเองก็ยังสามารถทนไหว มันไม่สามารถเทียบได้กับหุ้น49% ที่เจียงเทียนป้าและเฉินเจียนเย่ต้องจ่ายไป
“บอสถัง คุณพอจะให้เวลาผมหน่อยได้ไหม ? แม้ว่าผมจะสามารถหาเงินมาได้3พันล้านก็ตามแต่หากว่าเวลามันกระชั้นชิดเกินไปก็ไม่สามารถทำได้”
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า
“3วัน ฉันให้เวลา3วันเท่านั้น”
“3วันก็พอแล้ว”
ดูชางซี่เองก็ได้รีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
ถังซิ่วเองก็ได้โบกมือของเขาแล้วพูดว่า
“เอาล่ะ นายสามารถไปได้แล้วอย่าลืมว่าอย่าให้ลูกของนายทำเสียเรื่องอีกล่ะ”
ดูชางซี่เองก็ได้ตอบตกลงอย่างรวดเร็วว่า
“หลังจากกลับไปแล้วผมจะสั่งสอนเขาอย่างดีและไม่ให้ไปทำเรื่องชั่วร้ายหรือล่วงเกินใครอีก”
ถังซิ่วมองไปที่ดูชางซี่ที่เดินออกไปพร้อมกับลูกน้องและลูกของเขาด้วยใบหน้าที่หวาดผวาแล้วพูดออกมาว่า
“ทิ้งอาวุธไว้ที่นี่”
“ได้ !”
ชายเหล่านั้นเองไม่ได้รอการตัดสินใจจากดูชางซี่แม้แต่น้อย พวกเขาได้ทิ้งอาวุธเอาไว้ ใยสายตาของพวกเขานั้นถังซิ่วคือเทพเจ้าแห่งความตายที่ฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมและไร้ความเมตตา หากว่าไม่ทำตามความต้องการของเขาก็เป็นไปได้ยากที่จะเดินออกไปนอกห้องอาหารนี้ได้
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที
ถังซิ่วเองก็ได้นำสองพี่น้องโม่ออกไปจากห้องอาหารนี้พร้อมกับกลับไปที่ที่พักของเขาเพื่อจะไปยังเกาะเก้ามังกรในวันพรุ่งนี้ดังนั้นเขาจะต้องกลับไปพักผ่อนเยอะๆ
หลี่จูเหลินและเกอเจิ้งเต่ากำลังนั่งดื่มชากัน
“บอส !!!!”
เลขาฯที่ได้มีท่าทางแปลกๆเองก็ได้รีบเดินมาหาหลี่จูเหลิน
คิ้วของหลี่จูเหลินเองก็ได้ยกขึ้นก่อนที่จะถามออกมาว่า
“เรื่องการสืบสวนเป็นอย่างไรบ้าง ?”
เลขาฯได้ตอบกลับไปว่า
“ตอนนี้เรายังไม่สามารถรู้ถึงสถานะของถังซิ่วได้แต่เราได้ติดต่อไปยังเครือข่ายที่จังหวัดชวงฉิงแล้วและน่าจะได้ข้อมูลกลับมาในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามมีเรื่องเกิดขึ้นที่ห้องอาหารร้อยงานฉลอง ถังซิ่วกับเจียงหยู เฉินเฟย์ ดูหยางและรวมไปถึงฉีชางซิงนั้นได้มีข้อบาดหมางกัน”
“ก่อนการประมูลนั้นถังซิ่วได้ส่งให้ผู้จัดการร้านอาหารหลี่เทียนไปจับตัวเจียงหยูและเฉินเฟย์ไป หลังจากนั้นเจียงเทียนป้า เฉินเจียนเย่และดูชางซี่เองก็ได้ตรงไปที่ห้องอาหารพร้อมกับคนประมาณ 1-2ร้อยคน หลังจากนั้นถังซิ่วก็ได้ตามไปที่นั่น”
หลี่จูเหลินเองก็ได้หรี่ตาลงพร้อมกับถามออกมาว่า
“แล้วผลลัพธ์ล่ะเป็นอย่างไร ?”
เลขาฯเองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“เจียงเทียนป้า เจียงหยู เฉินเจียนเย่ และเฉินเฟย์เองก็ได้กลับออกมาจากห้องอาหารก่อนพร้อมกับบาดแผลที่ร่างกายแต่ผู้คนที่เขานำเข้าไปก่อนหน้านี้ไม่มีใครออกมาแม้แต่คนเดียวหลังจากนั้นดูชางซี่และดูหยางพร้อมกับคนของเขาก็ได้เดินออกมาทีหลังแต่เมื่อออกมาด้านนอกแล้วเขาก็ทุบตีลูกชาของเราอย่างไร้ความปราณี”
คิ้วของหลี่จูเหลินขมวดเข้าหากันก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ความคือคือคนของเจียงเทียนป้าและเฉินเจียนเย่ ?”
เลขาฯเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“ตายหมด”
“อะไรนะ ?”
หลี่จูเหลินและเกอเจิ้งเต่าเองก็ได้ยืนขึ้นด้วยความรู้สึกตกตะลึง
ตายหมด ?
1-2ร้อยคนที่เข้าไปนั้นก็มีแค่คนของดูชางซี่เท่านั้นที่กลับออกมา หมายความว่าข้างในนั้นมีคนตายกว่าร้อยคนงั้นหรอ ?
“ก๊อก ก๊อก ......”
ประตูได้ถูกเพราะพร้อมกับชายวัยกลางคนที่ได้วิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าที่ลนลานพร้อมกับพูดอย่างรวดเร็วว่า
“บอส คนที่เราส่งไปสังเกตการณ์ที่ห้องอาหารนั่นไม่สามารถติดต่อได้อีกแล้วอย่างไรก็ตามก่อนที่สายจะขาดไปนั้นเขาได้พูดออกมาสองคำ”
หลี่จูเหลินเองก็ได้ถามออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า
“เขาพูดว่าอะไร ?”
“ช่วยด้วย !”
ชายวัยกลางคนเองก็ได้ตอบกลับไป
หลี่จูเหลินนั้นได้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นก่อนที่จะส่ายศีรษะ
“ก่อนหน้านี้ก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าเราจะทำเรื่องผิดพลาดซ้ำสอง ดูเหมือนว่าฉันจะต้องออกหน้าอีกแล้วสิ”
เกอเจิ้งเต่าที่ได้สติจากอาการตกตะลึงนั้นก็ได้ถามออกมาทันทีว่า
“ลุงหลี่ ความหมายของลุงคือการที่จะไปขอร้องให้ถังซิ่วปล่อยคนเหล่านั้น ?”
หลี่จูเหลินเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“นอกจากวิธีนี้แล้วจะมีวิธีไหนอีก ? แม้จะเป็นบอสกู่เองก็ยังไม่ค่อยสั่งให้ฆ่าคนนัก แต่ว่า........เห้อ ฉันจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ !”
เกอเจิ้งเต่าเองก็ได้พูดออกมาทันทีว่า
“ลุงหลี่ เราไปด้วยกันเถอะ”
หลี่จูเหลินเองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ฉันจะไปคนเดียว ! การที่เธอจะไปด้วยนั้นมันไม่ดีเท่าไหร่ ไปหาที่อยู่ของถังซิ่วมาสิ”
เลขาฯเองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“ที่อยู่ของเขาคือถนนเขวียนฉุยหมายเลข13”
หลี่จูเหลินเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะนำเลขาฯพร้อมกับผู้คุ้มกันอีกสองคนออกไปแต่ใกล้ๆพวกเขาเองก็ได้มีรถหลายคันกำลังตามหลังพวกเขาอย่างเงียบๆ
ถนนเขวียนฉุยหมายเลข13
หลังจากที่ถังซิ่วกลับมาแล้วก็ได้อาบน้ำพร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างสบายใจ ขณะที่เขากำลังจะเริ่มบ่มเพาะพลังนั้นก็ได้มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“มีเรื่องอะไรงั้นหรอ ?”
ถังซิ่วได้เปิดประตูออกมาพร้อมกับถาม
โม่อาเหวินเองก็ได้พูดออกมาด้วยความเคารพว่า
“บอสครับ หลี่จูเหลินได้มาเยี่ยม”
ถังซิ่วเองก็ได้หรี่ตาลงพร้อมกับเข้าใจได้ทันทีว่าเขามาที่นี่ทำไมอย่างไรก็ตามสถานะของหลี่จูเหลินนั้นแตกต่าง แม้ว่าเขาจะไม่สนใจเรื่องความมั่งคั่งนักแต่ก็ยังพยักหน้าแล้วพูดว่า
“ให้พวกเขาไปรอที่ห้องนั่งเล่นแล้วฉันจะตามไป”
“ครับ !”
โม่อาเหวินเองก็ได้ปฏิบัติตามพร้อมกับหันหลังแล้วเดินจากไป
ถังซิ่วเองก็กำลังคิดอะไรบางอย่างก่อนที่จะใส่รองเท้าพร้อมเดินออกจากห้องไป การที่จะปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะอย่างไรก็ตามก็ได้มีเสียงปืนดังขึ้นมากมายและมันจะต้องเรียกความสนใจจากคนรอบๆได้มากมายจนถึงขั้นที่แจ้งตำรวจทว่าหลี่จูเหลินนั้นบริหารเกาะแห่งนี้มาเกือบทั้งชีวิตซึ่งเขาจะต้องมีเส้นสายอยู่แน่นอน หากว่าเขาต้องการที่จะช่วยชีวิตลูกน้องตัวเองก็คงจะรู้ดีว่าต้องทำอะไร
ถังซิ่วได้เดินออกไปที่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับสั่งให้คนไปชงชา
“น้องชายถัง สวัสดี”
หลี่จูเหลินที่เพิ่งนั่งนั้นได้เห็นถังซิ่วที่กำลังเดินเข้ามาก็ยิ้มออกมาทันที
ถังซิ่วเอกง็ได้ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“ดูเหมือนว่าเราจะมีชะตาร่วมกันจริงๆ ผ่านไปไม่นานก็ได้พบกันถึงสองครั้ง”
หลี่จูเหลินเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“ใช่แล้ว เรามีชะตาร่วมกันอย่างมาก ไม่ใช่แค่กับเธอเท่านั้นแต่รวมไปถึงคนที่ห้องอาหารร้อยงานฉลองด้วย ก่อนหน้านี้ฉันได้ส่งคนไปมากมายที่เกาะจิงเหมินเพื่อสืบหาข้อมูลของห้องอาหารของเธอทว่าพวกเขาทั้งหมดก็ถูกจับตัวไปเป็นทาสขุดเหมืองอยู่ที่แอฟริกาหลายเดือน”
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า
“รู้เรื่องในวันนี้ด้วยงั้นหรอ ?”
หลี่จูเหลินเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“ได้ยินมาแล้วดังนั้นถึงได้มาที่นี่เพื่อที่จะถามน้องชายถังว่าต้องการความช่วยเหลืออะไรไหมเพราะฉันพอมีเส้นสายอยู่ในวงการบ้าง”
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ดูเหมือนว่าผู้เฒ่าหลี่คงจะรู้อยู่แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ช่วยจัดการเรื่องของผมด้วยแล้วกัน ! เอาล่ะ เรามาดื่มกันเถอะ”
หลี่จูเหลินเองก็ได้มองไปที่ลูกน้องที่นำชามาเสิร์ฟนั้น หลังจากที่เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ได้พูดออกมาว่า
“น้องชายถัง ลูกน้องของฉัน......”
ถังซิ่วเองก็ได้โบกมือขัดเขาพร้อมกับพูดว่า
“มาดื่มชากันก่อนอย่าเพิ่งเร่งรีบ ผมเชื่อว่าหลังจากที่คุณกลับไปที่บ้านแล้วก็จะพบกับพวกเขา”
หลี่จูเหลินเองก็มีความสุขเป็นอย่างมาก เขาเข้าใจได้ถึงคำพูดนี้ดีพร้อมกับพูดว่า
“หากจะให้พูดตรงๆนะน้องชายถัง จนถึงตอนนี้ฉันเองก็ยังติดหนี้บุญคุณห้องอาหารร้อยงานฉลองอยู่ ฉันไม่ได้เจอบอสกู่มากว่า20ปีแล้ว เธอเป็นอย่างไรบ้าง ?”