ตอนที่แล้วReturning From The Immortal World - 267
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปReturning From The Immortal World - 269

Returning From The Immortal World - 268


.......................................................................................................................................................................................

บ้านหลักตระกูลถัง , เมืองหลวง

ถังเกาเชิงเองก็ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการต้อนรับหมอที่โด่งดังต่างๆแต่ก็ต้องส่งพวกเขากลับไปด้วยใบหน้าที่ผิดหวังนั่นรวมไปถึงหมอที่มีชื่อเสียงอย่างเฉินเทียนเหอ

ที่ลานบ้านของตระกูลถัง

เฉินซีซ่งและหลงเจิ้งหยูได้มองไปที่ใบหน้ากระวนกระวายของคนตระกูลถังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา หลังจากที่พวกเขามาถึงแล้วก็ได้เข้าใจถึงสถานการณ์ของที่นี่พร้อมกับรู้ว่าถังซิ่วเป็นผู้สืบเชื้อสายของตระกูลถัง

ณ ตอนนี้

ซูหลิงหยุนได้ตื่นขึ้นจากการหมดสติพร้อมกับเดินเคียงข้างมากับถังหยุนดี่ด้วยใบหน้าที่กระวนกระวาย เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ขอให้ลูกชายรักษาสามีของเธอ หากว่าเธอไม่ขอให้เขารักษา ลูกของเธอก็จะยังคงอยู่ดีแต่สามีก็จะยังคงไม่ได้สติทว่าเขาก็ยังมีชีวิตอยู่

“แจ้งข่าวออกไปให้ทั่ว ใครก็ตามที่สามารถรักษาหลานของฉันได้จะมีเงินรางวัล1พันล้านหยวน”

ถังเกาเชิงเองก็ได้ขยี้ก้นบุหรี่พร้อมกับตะโกนอออกไปอย่างดัง

ผู้คนตระกูลถังที่อยู่ตรงลานบ้านเองก็ถึงกับตาค้าง พวกเขาไม่สามารถขัดขืนคำสั่งของถังเกาเชิงได้และคิดในใจแล้วว่าต่อให้ต้องเลือกระหว่างเงินพันล้านกับถังซิ่วพวกเขาก็จะขอเลือกถังซิ่วอยู่ดี

หน้าประตูทางเข้าลานบ้าน

รถยนต์ที่กู่เสี่ยวเสวี่ยและโอหยางลูลู่นั่งมานั้นได้ถูกสกัดเอาไว้โดยทหารที่ติดอาวุธ4คน

“เราเป็นเพื่อนของถังซิ่ว เปิดทางให้เราเดี๋ยวนี้”

โอหยางลูลู่ที่ยืนอยู่หน้าทหารเหล่านั้นก็ได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

“ต้องขออภัยด้วยแต่หากไม่มีคำสั่งของผู้เฒ่าก็ไม่สามารถปล่อยให้ใครเข้าไปได้”

ทหารเหล่านั้นเองก็ได้ส่ายศีรษะขณะที่พูดออกมา

โอหยางลูลู่เองก็ได้พูดออกมาว่า

“รีบๆไปรายงานสิว่าเราเป็นเพื่อนของถังซิ่วและต้องการมาหาเขา”

แววตาของกู่เสี่ยวเสวี่ยได้เป็นประกายแห่งความเย็นยะเยือก เธอไม่ต้องการที่จะเสียเวลาและไม่สนใจทหารเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ เธอได้เคลื่อนไหวพร้อมกับปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าทหารเหล่านั้นก่อนที่จะใช้ด้ามมีดตบไปจนพวกเขาสลบ

“ไอ้ระยำ !”

ทหารอีกสองคนนั้นก็มีการตอบสนองที่ไวมากและเมื่อเห็นว่ากู่เสี่ยวเสวี่ยได้ลงมือพวกเขาก็เปิดฉากยิงทันทีแต่เธอก็หลบได้ด้วยความเร็วดั่งสายฟ้าก่อนที่จะทำให้พวกเขาสลบเช่นกัน

“ศัตรูบุก !”

ทหารที่อยู่ตรงทางเข้าก็ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปทันที่พร้อมกับรีบวิ่งมาเอาปืนจ่อกู่เสี่ยวเสวี่ยและโอหยางลูลู่ไว้

อย่างไรก็ตาม

พวกเขายังอยู่ห่างออกไปถึงหลายเมตรแต่ก็รู้สึกเหมือนถูกทุบเข้าพร้อมกับหมดสติทันที เสียงตะโกนของพวกเขานั้นได้แจ้งเตือนหน่วยรักษาความปลอดภัยที่อยู่รอบๆโดยทันที ผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นเหล่าหน่วยรักษาความปลอดภัยก็ได้มารวมกันตรงนี้

“ไสหัวไปซะ !”

กู่เสี่ยวๆเองก็ได้พลิกฝ่ามือของเธอพร้อมกับดาบสั้นที่ปรากฏขึ้นในมือก่อนที่จะเริ่มเร่งฝีเท้าพร้อมทิ้งภาพติดตาเอาไว้ ดาบเหล่านี้ได้ฟาดฟันไปที่ข้อมือของเหล่ายามรักษาความปลอดภัยแล้วอาวุธของพวกเขาเองก็ถูกชิงไปโดยกู่เสี่ยวเสวี่ย

“เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ....”

เสียงปืนได้ดังขึ้นหลายนัด

ที่ลานบ้านภายใน

ท่าทางของถังเกาเชิงก็เปลี่ยนไปพร้อมๆกับคนอื่นๆภายใจตระกูล พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะมีคนกล้าสร้างปัญหาขึ้นในตระกูลของพวกเขาและหน่วยรักษาความปลอดภัยถึงกับต้องใช้อาวุธปืน

“หยุนเป็ง ออกไปดูสิ”

ถังเกาเชิงที่ท่าทางหม่นหมองนั้นก็ได้ตะโกนออกไปทันที

ถังหยุนเป็งก็ได้ปฏิบัติตามพร้อมกับรีบวิ่งออกไปข้างนอกทันที เมื่อเขามาถึงหน้าทางเข้าแล้วก็เห็นทหารลอยมาจากทางนั้นพร้อมกับตกลงมากระแทกกับพื้นปูน

“ฉันคือถังหยุนเป็ง เธอเป็นใคร ?”

กุ่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่เธอจะหายตัวไปทันทีพร้อมกับปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขาแล้วใช้มือที่เรียวบางคว้าไปที่คอของเขาก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ฉันไม่สนว่านายเป็นใคร นำฉันไปพบกับอาจารย์ปู่เดี๋ยวนี้ไม่งั้นตาย”

ถังหยุนเป็งที่กำลังถูกบีบคออยู่นั้นถึงกับแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมาเพราะเด็กสาวคนนี้อยู่ห่างจากเขาถึง20เมตรแต่ในชั่วพริบตากลับสามารถมาอยู่ตรงหน้าเขาได้ มันเหมือนกับการ........วาปในหนังก็ว่าได้

“เธอ.......อาจารย์ปู่ของเธอเป็นใคร ?”

คิ้วของกู่เสี่ยวเสวี่ยขมวดเข้าหากันก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

“ถังซิ่ว !”

ถังหยุนเป็งเองก็รู้สึกได้ว่าแรงบีบของเธอลดลงจึงได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ถังซิ่วคืออาจารย์ปู่ของเธอ ? ฉันจะพาเธอไปหาเขาทันที”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะปล่อยถังหยุนเป็งไป เธอได้หันไปพูดกับโอหยางลูลู่ที่กำลังวิ่งมาว่า

“เราไปกันเถอะ พวกเขาทำอะไรเธอไม่ได้หรอก”

“ดี !”

โอหยางลูลู่เองก็เห็นกู่เสี่ยวเสวี่ยลงมือเป็นครั้งแรก ความเร็วที่เหมือนดั่งสายฟ้าและลงมืออย่างโหดเหี้ยมนั้นทำให้เธอรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก เธอรู้ดีว่ากู่เสี่ยวเสวี่ยนั้นแข็งแกร่งแต่ไม่เคยคิดว่าจะมากขนาดนี้

นี่..............

ดูเหมือนกับว่าเธอเป็นดั่งยอดนักสู้วิทยายุทธ

“ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ....”

เสียงฝีเท้าที่กำลังใกล้เข้ามาพร้อมกับทหารติดอาวุธหนักหลายคนกำลังหันปากกระบอกปืนไปทางโอหยางลูลู่และกู่เสี่ยวเสวี่ยทันที

ถังหยุนเป็งเองก็ได้ตะโกนออกมาอย่างดังว่า

“อย่าได้เปิดฉากยิงเป็นอันขาด”

หัวหน้าหน่วยเองก็ได้วิ่งมาตรงหน้าของถังหยุนเป็งก่อนที่จะทำความเคารพแล้วพูดออกมาว่า

“ท่านผู้อาวุโส เราไม่รอบคอบและปล่อยให้พวกเขาเข้ามาที่นี่ได้ โปรดลงโทษด้วย !”

ถังหยุนเป็งเองก็ได้รับรู้ถึงความน่ากลัวของกู่เสี่ยวเสวี่ยแล้ว แม้ว่าจะมีคนมากมายหันปากกระบอกปืนไปที่เธอแต่เขาเองก็ยังไม่รู้สึกได้ถึงความปลอดภัยแม้แต่น้อย เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาด้วยเสียงต่ำว่า

“พวกนายออกไปก่อนและไปประจำตำแหน่งตามเดิม พวกเธอทั้งสองคนตามฉันมา”

ไม่นานหลังจากนั้น

กู่เสี่ยวเสวี่ยและโอหยางลูลู่เองก็ได้มาถึงที่ลานบ้านพร้อมกับถังหยุนเป็ง

“โอหยางลูลู่ ? เธอมานี่ได้ไง ?”

หลังจากที่หลงเจิ้งหยูเห็นเธอแล้วจึงได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจ

ใบหน้าของโอหยางลูลู่เองก็ได้แสดงออกถึงความกังวลก่อนที่เธอจะถามออกมาทันทีว่า

“หลงเจิ้งหยู ถังซิ่วล่ะ ? ได้ยินว่าเขาได้รับบาดเจ็บ เขาเป็นอะไรมากไหม ? แล้วเขาอยู่ที่ไหน ?”

หลงเจิ้งหยูเองก็ได้มองไปที่ใบหน้ากระจนกระวายของเธอก่อนที่จะหันหน้าไปหาถังเกาเชิงแล้วพูดออกมาอย่างขมขื่นว่า

“ยังคงไม่ได้สติและไม่พ้นขีดอันตราย”

คิ้วของถังเกาเชิงได้ขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อได้เห็นสองสาวพร้อมกับมองไปที่ถังหยุนเป็งแล้วถามออกมาว่า

“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น ?”

ถังหยุนเป็งเองก็ได้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นก่อนที่จะมองไปที่กู่เสี่ยวเสวี่ยแล้วพูดว่า

“เป็นพวกเขาที่บุกเข้ามาและทำร้ายหน่วยรักษาความปลอดภัยไปหลายคน”

อะไรนะ ?

ในพริบตานั้น

ถังเกาเชิงเองก็คิดว่าหูของตัวเองมีปัญหาพร้อมกับคนอื่นๆที่อยู่ที่ลานเองก็มองไปที่กันและกันอย่างว่างเปล่าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เด็กสาวสองคนที่ดูเหมือนกันเด็กนักเรียน ?

บุกเข้ามา ?

ทำร้ายหน่วยรักษาความปลอดภัย ?

อำเล่นใช่ไหม?

ดูรูปร่างของพวกเธอสิแล้วจะไปทำร้ายหน่วยรักษาความปลอดภัยได้อย่างไรกัน ? ต้องรู้ก่อนนะว่าพวกเขาติดอาวุธและก่อนหน้านี้เองก็ได้มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นชุด

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้มองไปที่พวกเขาอย่างไม่แยแสก่อนที่จะพูดออกมาด้วยเสียงเย็นชาว่า

“บอกฉันมาว่าท่านอาจารย์ปู่อยู่ที่ไหน ?”

อาจารย์ปู่ ?

ผู้คนในตระกูลเองก็มีท่าทางเปลี่ยนไปพร้อมกับความประหลาดใจที่เพิ่มมากขึ้น

เฉินซีซ่งแงก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“เธอเป็นใคร ? ฉันชื่อเฉินซีซ่งเป็นลูกศิษย์ของถังซิ่ว”

คิ้วของกู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็คลายออกพร้อมกับมองเขาด้วยท่าทางเคารพแล้วป้องมือขึ้นก่อนที่เธอจะพูดว่า

“สวัสดีค่ะ อาจารย์ลุง”

เฉินซีซ่งเองก็ได้ถามออกมาด้วยความสับสนว่า

“อาจารย์ของเธอคือ ?”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดว่า

“หากว่าท่านอาจารย์ปู่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับท่าน หนูเองก็ไม่สามารถพูดได้ค่ะ ท่านอาจารย์ปู่อยู่ที่ไหน ? หนูต้องไปตรวจดูสภาพของเขา”

เฉินซีซ่งเองก็ได้หันหน้าไปมองที่ถังเกาเชิงทันที

แม้ว่าถังเกาเชิงเองก็ยังไม่รู้ว่าทำไมเฉินซีซ่งถึงได้บูชาถังซิ่วเป็นอาจารย์หรือว่ากู่เสี่ยวๆไปเป็นศิษย์หลานได้อย่างไรแต่เขาเองก็ยังพูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า

“ถังซิ่วอยู่ในห้องโถง ฉันจะพาเธอไปเองส่วนคนที่เหลือให้รออยู่ด้านนอก”

โอหยางลูลู่เองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ฉันจะไปด้วย”

ถังเกาเชิงเองก็ได้มองไปที่ตาของเธอก่อนที่จะพยักหน้า

ณ ตอนนี้

ถังเกาเชิงได้พาโอหยางลูลู่และกู่เสี่ยวเสวี่ยมาที่ห้องของถังซิ่วและเมื่อหญิงทั้งสองเห็นถังซิ่วที่กำลังนอนหมดสติอยู่นั้นโอหยางลูลู่ได้ทิ้งตัวลงไปข้างๆเขาแล้วตะโกนออกมาอย่างดังว่า

“ถังซิ่ว นายตื่นนะ !”

“อย่าได้ตะโกนเลย มันไม่ได้ช่วยอะไรหรอก !”

ถังเกาเชิงเองก็ได้แต่ส่ายหัวขณะที่ระงับความรู้สึกเศร้าเอาไว้ในหัวใจ

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้จับไปที่ข้อมือของถังซิ่ว หลังจากผ่านไป30วินาทีแล้วท่าทางของเธอก็เปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับพูดออกมาว่า

“จิตวิญญาณถูกใช้ไปจนหมด พลังใจเองก็เหลือน้อยเต็มทีส่วนพลังชีวิตก็ไหลออกไปเรื่อยๆ”

ดวงตาของถังเกาเชิงเองก็เปล่งประกายก่อนที่จะถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“คุณหนู คุณมีความรู้ด้านการแพทย์ด้วย ?”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ทุกคนออกไปและอย่าให้ใครเข้ามารบกวนฉัน จำไว้ว่าหากฉันยังไม่ออกไปเองก็ห้ามใครเข้ามาเด็ดขาด”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นถังเกาเชิงเองก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ดี ดี ดี เราจะออกไปทันที”

โอหยางลูลู่เองก็ได้พูดออกมาว่า

“เสวี่ย เธอรักษาถังซิ่วได้งั้นหรอ ?”

กู่เสี่ยวเสวี่ยเองก็ได้พูดออกมาอย่างสงบว่า

“ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร”

โอหยางลูลู่เองก็ได้แสดงออกถึงความประหลาดใจก่อนที่จะรีบออกไปพร้อมกับถังเกาเชิง

นอกประตูห้อง

ถังเกาเชิงเองก็ได้ตะโกนออกมาว่า

“ทุกคนฟัง หากไม่ได้รับอนุญาตจากฉันก็ห้ามใครเข้าใกล้ห้องนั้นเด็ดขาด สาวน้อยคนนั้นกำลังรักษาหลานชายฉันอยู่”

“รักษาได้ ?”

ซูหลิงหยุนที่นั่งอยู่นั้นได้ถามออกมาด้วยความกระวนกระวายทันที

ถังเกาเชิงเองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ฉันเองก็ไม่รู้แต่เธอน่าจะพอมีวิธี”

ซูหลิงหยุนเองก็กำมือแน่นพร้อมกับร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เธอพยายามภาวนาต่อพระเจ้าหากว่าลูกชายของเธอสามารถฟื้นขึ้นมาได้นั้นเธอยินดีที่จะขอแลกชีวิตกับเขา

ทันใดนั้น

สายตาของเธอได้ตกลงไปที่โอหยางลูลู่ก่อนที่จะถามออกมาว่า

“คุณหนูมีความเกี่ยวข้องยังไงกับลูกชายฉันหรอ ?”

ลูกชาย ?

โอหยางลูลู่เองก็รู้ได้ถึงสถานะของซูหลิงหยุนทันทีก่อนที่หน้าของเธอจะแดงขึ้นพร้อมกับรีบโค้งคำนับแล้วพูดว่า

“สวัสดีค่ะคุณป้า ! หนู......หนูเป็นเพื่อนของถังซิ่ว เราสนิทกันมาก”

ซูหลิงหยุนเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะมองไปที่เธออย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า

“ขอบคุณที่เดินทางมาด้วยตัวเองนะ ถือว่าเป็นโชคดีของลูกชายฉันเลยที่สามารถมีเพื่อนดีๆแบบเธอได้”

ซูหลิงหยุนเองนั้นไม่เข้าใจแต่ผู้คนรอบๆข้างเองก็ได้มองไปที่โอหยางลูลู่แบบแปลกๆ เหมือนกับว่าเมื่อกี้นี้เธอได้แสดงท่าทางเหมือนลูกสะใภ้ไม่มีผิด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด